My Girl ภรรยาตัวน้อยของผม

ตอนที่832งานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์



ตอนที่832งานเลี้ยงกาล่าดินเนอร์

ปาณีมองดูฝนสิริที่กำลังคุยโม้โอ้อวดด้วยความภาคภูมิใจก็เกิด อาการหัวเสียหน่อยๆกับพฤติกรรมของแม่ตัวเองเธอหันไป กระตุกแขนเสื้อของธามนิธิเบาๆ “พวกเราไปกันเถอะค่ะ

ธามนิธิเหลือบไปมองฝนสิริที่กำลังโชว์ออฟอวดลูกเขยกับ เหล่าเพื่อนบ้านแล้วจึงหันมาพยักหน้าให้ปาณีก่อนจะจูงมือเธอ เดินเข้าไปหาฝนสิริที่ถูกรายล้อมด้วยไปเพื่อนบ้าน

“แม่ครับพวกเราขอตัวก่อนนะครับไว้วันหน้าพวกเราจะมา เยี่ยมใหม่ครับ!

ฝนสิริชะงักงันก่อนจะบอกไปว่า “ไหนๆก็มาแล้วอยู่กินข้าว

ด้วยกันสักมื้อสิ! พ่อลูกคู่นั้นเขาพากันออกไปซื้อกับข้าวแล้วจะ

ไม่อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนเหรอ?

ธามนิธิยิ้มให้เธอพลางพูดปฏิเสธ “คงไม่ล่ะครับวันนี้ผมต้อง พาปาณีไปร่วมงานกาล่าดินเนอร์นะครับไว้วันหลังพวกเราค่อย มาลิ้มรสอาหารฝีมือของคุณแม่นะครับ!

หลังจากพูดจบพวกเขาก็หันไปพยักหน้าเบาๆ ให้บรรดาเพื่อน บ้านก่อนจะขึ้นรถขับออกไป

หลังจากพ้นลานหน้าบ้านออกมาปาณีถึงกับสูดหายใจเข้า ลึกๆแล้วก็พ่นลมหายใจออกมายาวๆ “น่าเบื่อหน่ายจริงๆฉัน ไม่รู้ว่าฉันทนมาได้ยังไงผ่านมากี่ปีๆ แม่ก็ยังเหมือนเดิม! ”
ธามนิธิไม่ได้พูดอะไรเขาหันไปมองที่ปาณีที่ดูท่าทาง เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัดเขาจึงบอกกับเธอว่า “ถ้า เหนื่อยก็รีบสักหน่อยเถอะเดี๋ยวถึงแล้วฉันจะปลุกเธอเอง H

“อืม”ปาณีตอบเสียงอ่อยก่อนจะค่อยๆหลับตาลง

ธามนิธิเห็นว่าเธอกำลังจะหลับเลยหันไปหมุนปรับฮีตเตอร์ให้ อุ่นขึ้นอีกหน่อยจากนั้นจึงหันไปตั้งใจจดจ่อกับการขับรถอย่าง เต็มที่

เมื่อรถหยุดปาณีก็ลืมตาตื่นขึ้นมาพอดีเธอค่อยๆ ปรือตา สะลึมสะลือมองออกไปด้านนอกทว่าภายนอกนั่นกลับสว่างไสว ไปด้วยแสงไฟนีออนดูละลานตาจนทำให้ตาเธอมันพร่ามัวไป หมด

“ที่นี่ที่ไหนคะ? “ปาณีพูดเสียงเอื่อยๆ

ธามนิธิพูดเสียงเบาตอบปาณีที่เหมือนจะยังไม่ตื่นดี : “ที่ฉัน บอกว่าจะพาเธอมาร่วมงานกาล่าดินเนอร์ไงที่นี่แหละ! ”

“ต๊ะ”ปาณีร้องอุทานออกมาจากนั้นก็รีบหันไปถามธามนิธิด้วย ท่าทางงุนงง : “อะไรนะคะ? ฉันคิดว่าคุณแกล้งบอกแม่ฉันเพราะ ไม่อยากจะอยู่ที่บ้านฉันต่อ! อีกอย่างฉันก็ไม่มีชุดที่เหมาะสมกับ งานนี้เลยค่ะขืนลงไปทั้งแบบนี้ฉันคงทำให้คุณเสียหน้าแย่

ธามนิธิเห็นปาณีท่าทางดูกังวลใจก็แอบขำออกมาเบาๆจาก นั้นก็ชี้มือไปทางเบาะหลังรถก่อนจะพูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง: “ฉัน เตรียมไว้หมดแล้วเธอแค่เอาชุดไปเปลี่ยนก็พอ! ”
ปาณีหันไปมองที่เบาะด้านหลังก็เห็นกล่องของขวัญสีเขียว อ่อนวางอยู่บนเบาะ เธอชายตามองออกไปนอกหน้าต่างดูรถที่วิ่งแล่นไปมาแล้วจู่ๆ

ปาณีก็เริ่มหน้าแดงด้วยความอาย : “เอิ่มแล้วจะให้ฉันไปเปลี่ยน ที่ไหนอ่ะคะ? ”

ธามนิธิเหลือบมองไปที่เบาะหลังแล้วก็หัวเราะออกมา: “ข้าง หลังนั่นไงที่มันกว้างพอ! วางใจเถอะฉันจะคอยเฝ้าระวังให้เอง จะไม่ให้ใครเห็นเธอเลย!

ปาณีค่อยๆขยับตัวมุดไปที่เบาะหลังอย่างไม่ค่อยเต็มใจนักแล้ วก็ยังรู้สึกลังเลว่าจะทำยังไงดี : “ฉันว่าฉันออกไปหาที่เปลี่ยน กว่า! ”

ธามนิธิกัมมองที่นาฬิกาข้อมือของเขาเสียงทุ้มต่ำก็ดังขึ้น มา: “ไม่มีเวลาแล้วอ่ะ! ตอนนี้ทุ่มหนึ่งแล้วงานเลี้ยงกาล่า ดินเนอร์จะเริ่มตอนทุ่มสิบนาที

ปาณีส่งเสียงโอดครวญออกมา “ฮือออออ…..เปลี่ยนตรงนี้

ก็ได้”

พูดจบเธอก็ถอดเสื้อนอกออกรีบเปลี่ยนชุดใหม่ทันที

เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาของธามนิธิที่มองลอดมามันทำให้การ เคลื่อนไหวของเธอช้าลงไปไม่น้อยถึงแม้ว่าทั้งคู่จะมีอะไรลึกซึ้ง ต่อกันมาจนนับครั้งไม่ถ้วนแต่ทว่าทุกๆครั้งเธอก็มักจะขอให้เขา ปิดไฟมาโดยตลอด
นี่เป็นครั้งแรกที่จะได้เห็นกันจะทำให้ใบหน้าของปาณีที่เพิ่ง จะถูกไออุ่นรินรดมาตลอดทางนั้นยิ่งทวีความแดง เห็นแล้วช่าง น่ารักน่าฟัดจริงๆ!

หลังจากที่ธามนิธิได้รับชมโชว์เปลื้องผ้าของภรรยาตัวเอง เสร็จเรียบร้อยก็ได้เห็นภรรยาของเขาอยู่ในชุดเดรสยาวสีเงิน ยวงแวววับเขาจดจ้องไปที่เธออย่างไม่ลดละสายตา

คิดไม่ถึงเลยว่าปาณีจะเหมาะกับชุดนี้มากขนาดนี้แต่เมื่อได้ เห็นแผ่นหลังเปลือยเปล่าอันโดดเด่นของเธอสามนิธิก็อยากจะ เปลี่ยนความคิดในทันที

ธามนิธิกัดฟันพูดเสียงต่ำออกมา”ไวยาตย์ไปเอาชุดอะไร มาเนี่ยทำไมเอาชุดที่มันโป๊ขนาดนี้มานะ? ฉันว่าฉันต้องอบรม เรื่องรสนิยมในการเลือกชุดให้เขาใหม่ซะแล้ว!

แต่ในทางกลับกันปาณีกลับรู้สึกชอบชุดนี้เอามากๆ “ฉันไม่ คิดอย่างนั้นนะคะฉันว่าชุดนี้น่ะสวยมากเลยค่ะ!

ธามนิธิไม่พูดอะไรมากเขาก้มลงมองที่นาฬิกาข้อมือถึงแม้ว่า เขาจะไม่ค่อยเต็มใจให้เธอใส่ชุดนี้สักเท่าไหร่แต่สุดท้ายก็ต้องจำ ใจจากนั้นจึงหันมาพูดกับปาณี : “ไปกันเถอะเราควรเข้าไปได้ แล้ว! ”

ทันทีที่พูดจบเขาก็ยื่นแขนออกมาให้เธอปาณีจับแขนเขาไว้ แล้วทั้งคู่ก็เดินควงกันเข้าไปในโรงแรมอันสวยงามหรูหรา

ทันทีที่ประตูห้องโถงถูกผลักเปิดออกผู้คนพากันหันหลังกลับ มามองที่พวกเขาภาพที่เห็นคือคู่หนุ่มสาวที่เหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยกชายก็หล่อหญิงก็สวย

ชายหนุ่มรูปหล่อเดินมาด้วยท่าทางสง่าผ่าเผยแต่สำหรับหญิง สาวนั้นดูเหมือนลูกนกแสนน่ารักน่าทะนุถนอมที่เดินซุกกายเคียง คู่กันมากับชายหนุ่มชุดกระโปรงสีเงินยวงสะบัดพริ้วไหวอ่อนนุ่ม เข้ารูปจนสัดส่วนโค้งเว้าถูกดึงออกมาให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แก่ ทุกสายตา

ชายหนุ่มรูปหล่อในชุดสูทสีดำบวกกับบุคลิกท่าทางองอาจ กล้าหาญดึงดูดเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ในงานอย่างไม่ขาดสาย

เจ้าภาพงานเลี้ยงกาลาดินเนอร์ในคืนนี้ส่งยิ้มให้ธามนิธิก่อน จะกล่าวทักทาย : “ท่านประธานธามนิธิต้องขออภัยด้วยนะครับ หากให้การต้อนรับไม่ทั่วถึงไม่ทราบท่านนี้คือ? ”

ธามนิธิยิ้มตอบด้วยความสุภาพนอบน้อม : “สวัสดีครับคุณ

ชัชชัย! นี่ปาณีคู่หมั้นของผมเองครับ

ปาณีส่งยิ้มให้ชายหัวล้านวัยกลางคนก่อนจะทักทายเขาอย่าง สุภาพอ่อนน้อม : สวัสดีค่ะคุณชัชชัย

คุณชัชชัยหัวเราะร่าด้วยความเบิกบานใจจากนั้นจึงหันไปพูด กับปาณี : “คุณปาณีเป็นผู้หญิงที่โชคดีมากเลยนะครับ! ท่าน ประธานธามนิธิของเราจัดว่ายืนหนึ่ง ในวงการของพวกเราเลยก็ ว่าได้ทั้งฉลาดมาดมั่นมีจิตใจโอบอ้อมอารีเจ้าเสน่ห์ที่สำคัญก็คือ จิตใจสะอาดทำดีไม่ประพฤติชั่ว 11

ปาณีได้ยินดังนั้นก็หันหน้าไปหาชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆแววตา พราวระยิบเป็นประกายด้วยความภูมิใจ: “ฉันก็คิดเช่นนั้นค่ะ!ฉันคิดเสมอว่าชาติที่แล้วฉันคงเคยอธิษฐานขอพรกับทางช้าง เผือกเอาไว้แน่ๆ!!

คุณชัชชัยทําหน้างงไปเล็กน้อยคิดไม่ถึงว่าปาณีจะตอบเขา

ธามนิธิมองปาณีด้วยสายตารักใคร่เอ็นดูอย่างสุดซึ้ง โดย เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้เห็นแววตาอันเป็นประกายของเธอที่คิดว่า คำพูดของคุณชัชชัยเป็นการยกย่องสรรเสริญเขายังไงยังงั้น

เมื่อได้เห็นท่าทางบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของปาณีก็รู้ได้เลยว่าเธอ คงไม่เข้าใจว่าคำพูดเหล่านั้นก็เป็นแค่คำพูดที่ใช้พูดกันตามมาร ยาทแต่คนที่ได้รับผลประโยชน์อย่างธามนิธิก็รู้สึกอบอุ่นหัว ใจและมีความสุขที่ได้ยินเธอพูดแบบนั้น!

หลังจากที่ปาณีทำให้คุณชัชชัยต้องตกใจไปเล็กน้อยเขาก็ยิ้ม และทำท่าทางเชื้อเชิญพวกเขาไปที่โต๊ะ: “ท่านประธานธามนิธิ คุณปาณีเชิญทางนี้ครับ!

ทันทีที่ปาณีนั่งลงตัวเธอก็พลันไปอยู่ในสายตาของใครบางคน ที่กำลังจ้องมองมายังเธอและสามนิธิที่นั่งอยู่ข้างๆเจ้าของสายตา นั้นจ้องมองด้วยแววตาเฉียบคมประดุจเหยี่ยวเลยก็ว่าได้

ปาณีก้มมองดูอาหารที่วางละลานตาอยู่บนโต๊ะสายตา เลื่อนลอยไปที่อาหารจานนั้นที่จานนี้ที! ทันใดนั้นธามนิธิ ตระหนักได้ถึงสายตาเฉียบคมที่กำลัง าลังจ้องมองมาทางพวกเขา และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองก็ได้พบกับใบหน้าหนึ่งที่เขาไม่คุ้น เคย

ทางฝั่งนั้นส่งยิ้มมองมาที่ธามนิธิพร้อมกับทำท่าทางยกแก้วให้เขาสามนิธินิ่งอึ้งไปเล็กน้อยแต่ก็ทำท่าทางยกแก้วให้ฝั่งนั้นกลับ ไป

เมื่อเขาก้มหน้าลงบนใบหน้าของธามนิธิก็ไม่มีแล้วซึ่งรอยยิ้ม เขาแอบคิดในใจว่า : “ทำไมรอยยิ้มของผู้ชายคนเมื่อสักครู่นี้ ถึงทำให้รู้สึกว่าไม่ได้มาอย่างเป็นมิตรเลย?

คิดมาถึงตรงนี้เขาเหลือบไปมองปาณีที่นั่งอยู่ข้างๆ ซึ่งสายตา กำลังจดจ้องไปที่จานอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะดูเหมือนเธอจะไม่ทัน ได้สังเกตเขาเลยด้วยซ้ำ

อยู่ๆธามนิธิก็ทําเป็นอยากอาหารขึ้นมาบ้างเขาดึงจานที่วาง อยู่ตรงหน้าปามาวางไว้ตรงหน้าเขาเอาดื้อๆและก็สำเร็จ ด้วยการกระทำนี้สามารถดึงดูดความสนใจจากปาณีจอมตะกละ ได้จริงๆ!

ปาณีเห็นคุณอาทำท่าทางเป็นเด็กๆก็อดไม่ได้ที่จะออก มา: “คุณอาทำอะไรคะเนี่ย? นี่มันเค้กของฉันนะ! ”

ธามนิธิเงยหน้าขึ้นมามองเธอก่อนจะกระซิบเตือนเธอ ว่า: “ปาณีที่นี่เป็นที่สาธารณะเธอต้องระวังผลกระทบที่อาจจะ ตามมาด้วยนะ!

ปาณีนั่งยึดตัวตรงขึ้นมาในทันทีแล้วความสวยสง่าก็สาดฉาย แววขึ้นมาในบัดดลเธอกวาดสายตามองไปรอบๆหลังจากที่เธอ ตระหนักได้ว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนมากมายเธอก็ไม่ กล้าที่จะทำตัวผ่อนคลายแบบก่อนหน้านั้นแล้ว
ปา ค่อยๆขยับตัวเข้าไปหาสามนิธิก่อนจะกระซิบ ถาม : “ทําไมมีแต่คนจ้องฉันล่ะคะ? ฉันเหมือนตัวประหลาดที่มี สามหัวหกแขนหรือไงคะ?

เมื่อได้ยินเธอกล่าวให้ร้ายตัวเองแบบนั้นยามนิธิก็มองจ้องเธอ ด้วยความไม่พอใจ” “เธอหุบปากเลยนะ! แล้วก็นี่เค้กของ เธอ! ”

พอปาณีได้เห็นเค้กเท่านั้นแหละเธอก็ลืมสิ่งที่เพิ่งพูดไปเมื่อ จนหมดสิ้นจากนั้นก็หยิบร้อมก้มหน้าก้มตากินเค้กของเธอต่อไป

ในจังหวะนั้นเองชายคนที่จ้องมองเขาเมื่อสักครู่นี้ก็ลุกเดิน เนิบๆเข้ามาหาเขาเขาส่งยิ้มและเอ่ยปากทักทายธามนิธิ “ยินดี ที่ได้รู้จักนะครับท่านประธานธามนิธิผมจำรัสครับ!

ธามนิธิอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะยื่นมือออกไปด้วยความสุภาพ

อ่อนน้อม : “ยินดีที่ได้รู้จักครับท่านประธานจำรัส! ”

แต่จำรัสกลับหันไปจ้องผู้หญิงที่กำลังตั้งอกตั้งใจกินเค้กอย่าง เมามันด้วยตาเขม็งก่อนจะพูดเสียงดังด้วยประโยคเดิม “ผม ชื่อจํารัส! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ