ตอนที่ 590
” ยุ่งๆอยู่กับทีมของแกไง ? ” นพรุจขมวดคิ้ว ท่าทางเหมือนไม่ ค่อยพอใจ เวทสรับอาหารเข้ามาจากป้าแม่บ้าน ก่อนจะนั่งกินอย่าง
เงียบๆ
นพรุจเป็นคนค่อนข้างเข้มงวด เมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อ เวทสเลยมี ท่าทีนั่งสงบ
แต่ในวิภาแม่ของเขามีท่าทีที่อ่อนโยน ” เรื่องทีมฝึกก็ไม่ เห็นจะเป็นอะไร ถ้าลูกชอบที่จะทำ ก็ให้ลูกทำไปเถอะ ”
” ปลายปีนี้ก็จะอายุยี่สิบแล้ว วันๆเอาแต่เล่นเกม คนอย่างแก
จะมีผู้หญิงที่ไหนอยากจะมาแต่งงานด้วยหะ ? ”
“เวทีสนิ่งเงียบ
เขาอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปที่พ่อตัวเอง ใจก็คิดว่านี่พ่อฉัน จริงๆ ใช่รึเปล่า ?
คำพูดไหนที่จะทำให้เขารู้สึกแย่ พ่อเป็นต้องขุดมาพูดให้เขา
เจ็บช้ำน้ำใจ
นพรุจพูดอีกว่า : ” น้าชายแกเค้าแนะนำว่า อยากจะส่งแกไป เรียนเมืองนอก พ่อกับแม่มาคิดๆดูแล้ว ก็เห็นด้วยกับน้าแกนะ ”
ไปเมืองนอก ……
คำแนะนำของน้าอย่างนั้น
เวสเข้าใจในทันทีว่า ตามพิธีจงใจอยากจะให้เขาไปซะให้
พ้นๆ
คำพูดที่น่าพูดต่อหน้าเขาเมื่อคืนนี้ มันเห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าธา มนิธิตั้งใจให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ
“ผมไม่อยากไป ” เวสปฏิเสธพ่อกับแม่เขา
” เรื่องนี้พ่อกับแม่ตัดสินใจแล้ว เกิดเป็นผู้ชาย แม้แต่เรื่อง อารมณ์ความรู้สึกของตัวเองแท้ๆยังจัดการมันไม่ได้ ถ้าลำพังตัว แกเองยังแก้ปัญหาไม่ได้ล่ะก็ พวกฉันจะช่วยแกเอง ”
ให้เขาไปจากตรงนี้ซะ ยังจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
ถ้าขึ้นเขายังอยู่ตรงนี้ต่อไป วันๆได้แต่เฝ้าดูปาณี ก็ไม่รู้ว่าวัน หนึ่งเขาอาจจะลุกขึ้นมาอะไรบ้าๆก็ได้
เรื่องระหว่างเขากับปาณี พ่อกับแม่ของเขาก็รู้ดี เพียงแค่พวก เขาไม่พูดและยังแกล้งทำเป็นว่าไม่รู้ก็เท่านั้นเอง
แต่ถึงแม้ว่าปาณีจะหย่ากับธามนิธิไปแล้ว พวกเขาก็ไม่มีทาง ยอมให้เวทสได้อยู่กับปาณีอย่างแน่นอน และยิ่งไม่หวังให้ ลูกชายของพวกเขายังมีความหวังลมๆแรงๆแบบนี้ต่อไปด้วย
” เวทัส ” น้ามุงกำลังตากผ้าอยู่ ก็เห็นเวทสเดินเข้ามาหา หลังจากปาณีกับธามนิธิหย่าจากกัน เวทัสก็ไม่เคยกลับมาที่นี่อีกเลย
พวกเขาไม่รู้เลยว่าปาณีกับธามนิธิพากันกลับมาที่นี่อยู่บ่อยๆ แต่สำหรับเรื่องนี้แล้ว คนนอกกลับมองว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเป็น ความลับ ไม่ค่อยมีใครได้รับรู้
เวทยพูดว่า “ผมมาหาน้าชายผม ”
เวทสเดินผ่านเข้าประตูมา จึงได้เห็นปาณีนั่งขัดสมาธิอยู่บน โซฟา กําลังพูดอยู่กับธามนิธิ : “คุณต้องนั่งถอยไปข้างหลัง หน่อย แบบนี้ฉันวาดไม่ค่อยถนัด ”
เมื่อภรรยาต้องการแบบนั้น ธามนิธิจึงค่อยๆกระเถิบตัวไป ข้างๆ อย่างว่าง่าย
เวทัสที่ยืนอยู่ตรงประตูกำลังมองดูสองคนนั้น ใจเขาเหมือน
ถูกหนามแหลมกำลังทิ่มแทงอย่างเจ็บปวด
เพื่อปาณี เขาต้องทุกข์ทรมานใจขนาดนี้ แต่เธอกลับมีความ สุขอยู่กับน้าชายของเขา โดยที่ไม่มีเขาอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ เมื่อมาคิดดูแล้ว ตัวเขาช่างดูน่าสมเพชเวทนาอะไรขนาดนี้ ปาณีหันมาเห็นเวทีส เธอชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหันไปส่ง สายตาให้ธามนิธิ
ยามนิธิหันมามองที่เวทัส ” นั่งก่อนสิ ”
เวทีสนั่งลง ปาณีเห็นว่าทั้งสองคงจะมีเรื่องที่ต้องคุยกัน ถ้า อย่างนั้น ฉันขอตัวไปทำธุระก่อนนะคะ ”
ปาณีเดินจากไป ไม่อยากรบกวนการสนทนาของเขาสองคน
ทีแรกเวทัสก็คิดจะมาที่นี่เพื่อมาคุยกับธามนิธิ ว่าทำไมต้องให้ เขาไปอยู่เมืองนอก แต่พอได้เห็นปาณี เขาก็เอ่ยปากขึ้นว่า : ” ผมมาหาคุณ ”
” เมื่อได้ยินที่เขาพูด เธอรีบหันไปมองที่ยามนิธิแวบ หนึ่ง
ด้วยความที่กลัวว่าเขาจะไม่สบอารมณ์กับเรื่องนี้
ปาณีไม่รู้ว่าเวทัสคิดจะทำอะไรอีก จึงได้แต่มองที่เขาและพูด ว่า ” ถ้างั้นคุณก็พูดตรงนี้เลยก็ได้ค่ะ ! ”
ถ้าหากว่าตอนนี้เธอทำท่าทางประหม่า มันก็อาจจะมองได้ว่า
เธอกับเวทัสนั้นมีลับลมคมนัยต่อกัน
“ผมต้องไปเมืองนอกละ น้าชายผมเค้าต้องการอย่างนั้น ” เวทัสพูดพลางมองไปที่ปาณี ก่อนจะแสยะยิ้มออกมา ” น้าผมเขา กลัวว่าผมจะมาแย่งคุณไปจากเขา ก็เลยจัดแจงให้ผมไปอยู่เมือง นอก ”
นี่มันเหมือนเป็นการฟ้องรึเปล่านะ ? ธามนิธินั่งอยู่ข้างๆ ในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำที่ติดกระดุมจนตรึงเปร์ ยะ ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกปลง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ