ตอนที่876 ของขวัญที่คาดไม่ถึง
ชยรพเตือนอย่างไม่วางใจอีกครั้ง “โมรี เธอห้ามบอกใครเกี่ยว กับเรื่องนี้เด็ดขาด เข้าใจไหม? ไม่งั้นฉันเละเป็นโจ๊กแน่!”
เมื่อเห็นว่าโมรีมองตัวเองอย่างงงงัน เขาก็พูดแทนเวทัสที่โทร หาเขาและค่ากำชับจากนภันต์ออกมาอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้
“ดังนั้น ตอนนี้ถ้าลุงธามนิธิหรือคนอื่นรู้ที่อยู่ของปาณี ฉันก็จะ หลายเป็นคนทรยศชื่อเสียงของฉัน นั่นคือความซื่อสัตย์และเชื่อ ถือได้ ทุกอย่างจะจบสิ้นลงเข้าใจไหม?”
เมื่อมองดูชยรพที่มีท่าทีจริงจัง โมรี่ก็หัวเราะออกมาอย่างช่วย ได้ แต่พอนึกถึงปาณี เธอก็ถอนหายใจออกมา “ปาณี เกือบจะถูก แทงทีนาร์แทง มาตอนนี้กับเกิดเรื่องขึ้นมาอีก ชีวิตของเธอทำไม ถึงทุกข์ทนขนาดนี้? เธอช่างน่าสงสารจริงๆ! ” 11
“อะไรนะ? เดี๋ยวนะ ใครถูกใครแทง? มันมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เมื่อไร ทำไมฉันถึงไม่รู้?” เมื่อชยรพได้ยินคำพูดของแฟนสาว เขาก็รียขัดจังหวะและเอ่ยถามอย่างใจจดใจจ่อ
โมรีขยี้หัวและเอ่ยคร่ำครวญ “เมื่อสองวันก่อน ตอนฉันกลับไป ที่หอพัก ฉันเห็นทนาร์รีบพุ่งเข้าไปหาปาณีพร้อมๆกับมีด โชคดีที่ เธอตกใจฉันกดถอยหลังกลับไปซะก่อน … แต่จนถึงตอนนี้ ฉัน ยังใจสั่นอยู่เลย! ทีนาร์หยุดเรียนไปแล้วเช่นกันเพราะเกิดเรื่องนี้ ! ตอนนี้ในฉันถูกทิ้งไว้ในหอพักตามลำพัง!”
ฝั่งชยรพพอฟังจบ ก็รู้สึกร้องไห้ไม่ออกขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยไปยัง โมรีที่เข้าใจว่าเขากล่าวโทษเธออยู่และเอ่ย “อย่าคร่ำครวญอีก เลย ตอนนี้พวกเราควรจะทำยังไงกันดี? ฉันไปหาปาดีไหม? ตอนนี้เธอต้องกำลังเสียใจอยู่แน่? ในเมื่อคุณอาที่เธอรักที่สุดขอ หย่ากับเธอ….”
ทันใดนั้นชยรพรู้สึกว่าหัวของเขาเหมือนจะระเบิดและตอนนี้ เขาไม่รู้แล้วว่าสมควรจะจัดการกับเรื่องที่ซับซ้อนนี้ยังไง
ในเวลานั้นเองเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เขายื่นมือถือไป ให้โมรีแทน “เธอช่วยฉันรับหน่อยสิ ถ้าหากบอกว่าหาฉัน ให้ บอกว่าฉันไม่อยู่”
โมรีมองเขาที่หลบหลีกสุดชีวิตอย่างขำขัน “เฮ้อ สวัสดีค่ะ ชย รพไม่อยู่ค่ะ…..
“ไม่อยู่? นั่นโมรีใช่ไหม? นี่ฉันเองเวทัส!”
“โมรี เธอฟังอยู่ไหม? โมรี?”
โมรีทำแค่ยืนโทรศัพท์ไปให้ชยรพ หลังจากนั้นจึงเดินหันหลัง ออกไป แต่ก่อนที่จะเดินจากไปเธอยังเอ่ยขึ้นมากับเขา “เป็นสาย ของเวทัส!”
ชยรพมองโมรีด้วยสายตาซับซ้อน ก่อนจะรับโทรศัพท์อย่าง เสียไม่ได้ “เวทัส ฉันพูด!”
“ตอนนี้ฉันอยู่ที่สนามบินชยุต ตอนมารับฉันหน่อย! อ้อใช่ห้ามให้คนที่บ้านฉันรู้หล่ะ เข้าใจไหม?”พูดจบ เวทัสก็วางสายไป ชยรพยังคงตะโกนใส่ไมโครโฟน “เฮ้ อะไรนะ เวทีสนายกลับ มาแล้วหรอ … ”
มองดูโทรศัพท์มือถือที่ถูกตัดสายไปและเดินไปที่ประตู โรงเรียนอย่างหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก “จริงเลย ทำไมทุก คนในครอบครัวนี้ต้องมาคอยรบกวนอยู่อย่างนี้?”
ในอพาร์ทเมนต์ของชยรพ เขามองดูพี่สาวของเขาที่ตื่นขึ้นมา ในตอนเช้าและอาเจียนอยู่นาน และกล่าวอย่างเศร้าใจว “พี่ พี่ โอเคจริงๆหรือ? ฉันว่าพี่ไปโรงพยาบาลดีกว่าไหม? หรือจะให้ แม่มา … ”
ปาณีทรุดตัวลงอย่างอ่อนแอบนพื้นห้องน้ำ และหันกลับมา อย่างอ่อนแอและพูดว่า “ไม่! อ้อใช่ นายห้ามบอกแม่เกี่ยวกับฉัน เด็ดขาด! ถ้านายบอก เราไม่ต้องเป็นพี่เป็นน้องกันอีกต่อไป… โอ้ก! ”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ ความรู้สึกอยากอาเจียนก็พุ่งขึ้นมาและเธอ ยังฝังตัวอยู่ในห้องน้ำอาเจียนและอาเจียนต่อไป
นภันต์ผู้ซึ่งเป็นทุกข์แทนพี่สาวของตน เดินออกไปเทน้ำอุ่นๆ แก้วหนึ่งและยื่นมันให้เธอ “นี่ ดื่มน้ำร้อนหน่อย เพื่อที่จะรู้สึกดี ขึ้น”
จากนั้นเธอจึงยึดตัวขึ้นอย่างไม่เต็มใจและดื่มน้ำอุ่นๆ และเธอ รู้สึกดีขึ้นไม่น้อย จากนั้นด้วยความช่วยเหลือจากน้อยชาย เธอ มานั่งที่ที่โซฟาและพูดกับนกันต์อย่างอ่อนแรงว่า “ฉันหิว ไปซื้อขนมปังและนมมาให้ฉันหน่อยสิ”
แต่นภันต์ไม่วางใจให้เธออยู่บ้านคนเดียว เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และถามด้วยเสียงเบาๆว่า “พี่ พี่อยู่บ้านคนเดียวได้ใช่ไหม ไม่งั้น ฉันจะขอให้คนอื่นไปซื้อให้ฉัน?”
ปาณีส่ายหัว ” ไม่ต้องหรอก นายไปเถอะ ฉันเหนื่อยแล้ว ฉัน
จะไปพักผ่อน”
ไม่มีทางเลือกอื่น นภันต์จึงได้แต่ออกไปข้างนอก พอคิดถึง ใบหน้าของพี่สาวที่ตอนนี้ซีดเซียวอย่างมาก ในใจก็รู้สึกเป็น กังวลอย่างมากและเอาแต่มองไปที่ชั้นบน “จริงๆเลย ไม่รู้ว่า สถานการณ์นี้จะเป็นไปอีกนานแค่ไหน? ฉันควรบอกแม่หรือไม่ นะ? ฉันคนเดียวจะรับมือได้ยังไง!
แต่เมื่อคิดถึงลักษณะที่ดื้อรั้นของพี่สาวเขาก็ล้มเลิกความคิด อีกครั้ง “อย่าเลยดีกว่า เกิดเธอโกรธขึ้นมา มันคงแย่กว่านี้แน่… ”
ปาณีพยายามเดินไปที่เตียง มือของเธอแตะที่ท้องซึ่งยังไม่ ป่องขึ้นมา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “เด็กดี จะ ต้องเป็นเด็กซุกซนแน่นอนเลยสินะ ถึงได้แกล้งแม่แบบนี้”
นึกถึงของขวัญชิ้นนี้ที่ได้มาโดยความประหลาดใจ เธอกอด ยิ้มขึ้นมาไม่ได้ เธอสัมผัสหน้าท้องเบา ๆ แล้วบ่นว่า “ลูกรัก ลูก เป็นของขวัญจากพระเจ้าถึงแม่! เดิมแม่คิดว่าตัวเองคงจะใช้ชีวิต ต่อไปไม่ไหวแล้ว แต่เป็นเพราะลูก แม่ถึงรู้สึกมีกำลังขึ้นมา แม่ กล้าที่จะเผชิญหน้ากับทั้งโลกใบนี้ ต้องขอบคุณลูกจริงๆ”
ความคิดของเธอกระจัดกระจายออกไป และอดนึกถึงในวันนั้น ที่เธอเห็นหนังสือหย่าตอนกลับไปที่บ้านขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
ในตอนนั้น เธอหมดหวังอย่างมากและนั่งอยู่คนเดียวบนโซฟา ที่เขาซื้อและเอาแต่มองดูบ้านอันอบอุ่นในอดีต เธอซึมเศร้าถึง ขีดสุด
กาลครั้งหนึ่ง เธอเคยถามรามนิธินับครั้งไม่ถ้วน “ลุงอา จะมี วันนั้นที่คุณไม่ต้องการฉันแล้วไหมคะ?”
เธอยังคงจํามันได้ดี ว่าเขาตอบเธอกลับมาว่า “นอกเสียจาก ว่าเธอจะไม่ต้องการฉันแล้ว ฉันไม่มีทางไปจากเธอ!”
แต่ในครั้งนี้ ไม่ทันรอให้ตนไม่ต้องการเขา เขาก็ไม่ต้องการ เธอเสียแล้ว สัญญาในอดีตเหล่านั้นทำให้เธอเจ็บปวด
เธอจําไม่ได้ว่าเธอออกจากบ้านได้อย่างไร เธอจำได้ว่าเดินบน ถนนด้วยความว่างเปล่า ในเวลานั้นเธอหมดหวังอย่างยิ่ง ถึงขั้น คิดถึงความตายเพื่อยุติชีวิตที่น่าสังเวชของเธอ
แต่ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกได้ชัดเจนถึงบางอย่างในท้องของเธอ ความรู้สึกลึกลับนั้นทำให้เธอหมอบลงด้วยความเจ็บปวดและนั่ง หมอบลงบนท้องถนน
ในตอนนั้นเธอถึงคิดได้ว่าเธอไม่ได้ตัวคนเดียว ในท้องของ เธอยังมีสายใจรักของพวกเขาอยู่ ในเมื่อคุณอาไม่รักเธอแล้ว แต่
เธอยังมีของขวัญที่เขามองให้เธออยู่ ของขวัญที่เธอคาดไม่ถึง ในวินาทีนั้น เธอลุกขึ้นมา ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเธอ ยังมีความเมตตาจากพระเข้าที่มองให้เธอหลงเหลืออยู่
ดังนั้นเธอจึงพยายามขึ้นไปบนรถแท็กซี่ แต่เธอไม่รู้ว่าจะไป ที่ไหน จะกลับไปที่เมืองชลธี เธอก็ไม่ต้องการเผชิญหน้ากับ ใบหน้าที่ขมขื่นของฝนสิริ เพราะถ้าฝนสิริรู้ว่าเธอท้อง เธอจะต้อง ไปสร้างปัญหาให้กับครอบครัวของคุณอาอย่างแน่นอน
แต่นอกเหนือจากเมืองชลธีและสวนจตุจักรแล้ว เธอไม่รู้อีก แล้วว่าตนสมควรไปที่ไหน
ดังนั้นเธอจึงนึกถึงนภันต์ขึ้นมาได้ เขาอยู่ในอพาร์ทเม้น ดังนั้น สมควรที่จะให้เธอพักอยู่ได้ช่วงหนึ่ง
คิดได้ดังนั้น เธอจึงไปที่ที่อยู่ของนภันต์ มองดูน้องชายของเธอ ที่กำลังประหลาดใจ และเปิดเผยกับเขาอย่างตรงไปตรงมา
หลังจากนั้น เธอจึงอาศัยอยู่ที่นี่ เป็นเวลานานกว่าสิบวันแล้ว และเธอก็ค่อยๆคุ้นเคยกับชีวิตหลังจากการหย่าแล้ว สิ่งที่ไม่ เหมือนเดิมก็คือเด็กน้อยในท้องของเธอกลับเอาแต่ก่อกวนเธอ อยู่ไม่หยุด!
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ