ตอนที่834หงุดหงิด
เมื่อกลับมาถึงบ้านรามอินค่อยๆวางเจ้าหมูน้อยลงบนเตียง
จังหวะที่กำลังคิดจะลุกไปจัดการเตรียมผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ด หน้าให้เธออยู่นั้นไม่ทันได้ตั้งตัวก็เหมือนมีอะไรบางอย่างหนักๆ มาทําให้เขาขยับตัวไปไหนไม่ได้ ที่แท้ก็ยัยตัวแสบที่เมาแอ๋คอพับคออ่อนกำลังเอามือโอบรอบ
คอเขาไว้ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนขยับยังไงเธอก็ไม่ยอมปล่อยมือ
ธามนิธิหมดสิ้นหนทางจึงหันไปเขย่าๆหัวของเธอ : “ปาณีตื่น ตื่น! ”
ปาณีหันมารวบกอดหัวของธามนิธิก่อนจะนอนหลับต่อไปใน
ท่านั้น
ช่างน่าสงสารท่านประธานธามนิธิของเรายิ่งนักที่จู่ๆ ก็กลาย เป็นหมอนข้างไปเสียได้อยากจะขยับลุกหนีก็เกรงว่าพละกำลัง ของเขาจะทําให้เธอต้องเจ็บตัว
ธามนิธิพูดเสียงด้วยนิ่งทุ่ม “ปาณีเธอจงใจใช่มั้ยเธอ แกล้งใช่รึเปล่า?
แต่สิ่งที่ตอบสนองกลับมามีเพียงเสียงลมหายใจที่ฟังดูเป็น จังหวะสม่ำเสมอเพียงเท่านั้น
จะทำอย่างไรได้! คืนนี้ก็คงต้องอยู่ในสภาพนี้ธามนิธิได้แต่ กลายเป็นหมอนข้างให้เธอนอนกอดไปตลอดทั้งคืน
เช้าตรู่วันถัดมาปาณีกำลังงัวเงี่ยสะลึมสะลือขยับตัวตื่นเพราะ ว่าหิว แต่แล้วก็ต้องตกใจสะดุ้งโหยง เพราะดันไปคลำเจอ ร่างใหญ่ๆที่นอนอยู่ข้างๆเธอนั่นเอง
เมื่อได้เห็นคุณอาที่นอนบิดตัวอยู่ท่านั้น โดยมีตัวเธอเองนอน ทับอยู่บนตัวเขาอีกทีเล่นเอาปาณีตกใจอย่างแรง!
เธอรีบลนลานลุกขึ้นมานั่งนิ่งจากนั้นเธอก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้น มาได้จึงค่อยๆกระดึ๊บๆลงมาจากตัวของคุณอาแต่ทว่าขาเธอดัน เผลอไปสะกิดคุณอาเข้าธามนิธิโดนปลุกให้ตื่นจนได้
ทันทีที่ธามนิธิลืมตาขึ้นมาภาพที่เห็นก็คือปาณีที่กำลังนั่งทำ หน้าสำนึกผิดอยู่ตรงนั้นเขาขยับตัวลุกขึ้นมาก่อนจะหันมาถาม เธอ : “ตื่นแล้วเหรอ? ปวดหัวหรือเปล่า?
ปาณีส่ายหัวยิกๆ
ธามนิธิก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อจากนั้นเมื่อลงจากเตียงได้เขาก็เดิน เข้าไปล้างหน้าแปรงฟันทันที
ปาณีครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะสวมรองเท้าแตะแล้วเดินไปที่ ห้องอาบน้ำเธอยืนลังเลอยู่หน้าประตูว่าจะถามเขาดีไหมว่าเมื่อ คืนนี้มันเกิดอะไรขึ้นแต่ก็ไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหนดี
ราวกับคนในห้องอาบน้ำจะอ่านใจเธอได้อย่างนั้นแหละ! ธา มนิธิทำธุระเสร็จก็เดินออกมาและพูดกับเธอว่า : “เมื่อคืนเธอดื่ม หนักไปหน่อยฉันก็เลยพาเธอกลับมาก่อนน่ะแล้วเธอก็ดันล็อคหัว ฉันไว้ฉันก็กลัวว่าจะทำให้เธอตื่นก็เลยนอนมันทั้งท่านั้นน่ะแห ละ! ”
ปาณีเลียริมฝีปากอันแห้งผากของเธอก่อนจะพูดเสียง อ่อย “เอ่อคุณอาฉันคงไม่ได้เมาไวน์แล้วรั่วใช่มั้ยคะ? แล้ว ศักยภาพในการดื่มไวน์ของฉันเป็นยังไงบ้าง?
ธามนิธิหันไปเหลือบมองที่เธอแวบหนึ่งก่อนจะส่ายหัวไปมา จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ปาณีได้เห็นดังนั้นก็ถึงกับร้องโฮออกมา “ฮืออออ! นี่ ศักยภาพในการดื่มของฉันมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ? แต่ว่าคุณ อาฉันคงไม่ได้ทำให้คุณอาขายหน้าต่อหน้าเพื่อนๆ ใช่มั้ยคะ? ที่ ว่าเมาแล้วรั่วมันคงเป็นอย่างนั้นจริงๆสินะ! ไม่ได้ๆต่อไปฉันจะ ไม่ดื่มอีกเด็ดขาด!
เมื่อได้ยินปาณียืนบน งงๆก็ทำเอาธามนิธิที่กำลังยืนหัน หลังให้เธออยู่ในตอนนี้หัวเราะจนตัวโยกเลยทีเดียวก็เพราะว่า มันตลกมากเลยนะ
ปาณีซึ่งกำลังจมอยู่ในความเศร้าโศกและอับอายไม่ทันได้ สังเกตอาการของธามนิธิเลยสักนิดเพราะถ้าเธอเห็นป่านนี้ก็ คงจะโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปแล้ว
ธามนิธิหันมาพูดปลอบใจเธอ” “ไม่เป็นไรหรอกน่าคราวหน้า ระวังๆหน่อยก็พอ”
พูดจบก็ได้ยินเสียงของไวยาตย์ดังแว่วขึ้นมาจากชั้นล่างพอดี เขาจึงหันไปพูดกับเธอ” “ฉันไปทำงานก่อนนะเธอก็ไปล้างหน้า ล้างตาได้แล้ว”
หลังจากนั้นชายหนุ่มในชุดสูทสีเทาก็เดินลงข้างล่างไป
ปาณีไม่เดินตามเขาลงไปข้างล่างเพราะเมื่อเธอนึกถึง เหตุการณ์เมื่อคืนที่เธอไปทำน่าเกลียดปล่อยไก่เอาไว้ไวยาตย์ ต้องได้เห็นด้วยแน่ๆ! ไฉนเลยเธอจะกล้าลงไปเจอหน้าเขาล่ะ
ไวยาตย์เห็นธามนิธิดูท่าทางกระปรี้กระเปร่าเดินลงมาจากชั้น บนแต่ไร้เงาของปา เขาก็งงๆไปเล็กน้อยเลยถามเขาไป ว่า “แล้วปาณีล่ะครับ? ยังไม่ตื่นอีกเหรอครับ? ”
ธามนิธิสายหัวไปมาอย่างอารมณ์ดี “เปล่าตื่นแล้วกำลังล้าง หน้าล้างตาอยู่น่ะ”
ไวยาตย์มองเขาด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
เขาเตรียมรถไว้รอเจ้านายเรียบร้อยแล้ว ในขณะที่ธามนิธิ กำลังเดินถือกล่องอาหารเช้าเดินมาที่รถ
ส่วนปาณีที่ยังซุ่มอยู่ชั้นบนเมื่อได้ยินเสียงสตาร์ทรถเธอก็ยัง ไม่กล้าลงไปข้างล่างได้แต่แอบแง้มๆผ้าม่านมองดูสองหนุ่มจน เมื่อได้เห็นรถค่อยๆเคลื่อนตัวอออกไปจากบ้านเธอถึงจะโล่งใจ ปาณีค่อยๆเอามือลูบๆไปที่แก้มอันอุ่นร้อนของเธอเบาๆก่อนจะ พูดย้ำเตือนกับตัวเองอีกครั้ง คราวหน้าไม่อนุญาตให้ดื่มอีก แล้วนะ!
หลังจากลงโทษตัวเองเสร็จเรียบร้อยปาณีก็ค่อยๆเดินลงมาที่
ชั้นล่าง
น้ามุงส่งยิ้มทักทายให้ปาณี : “อรุณสวัสดิ์ปาณีวันนี้น้าเตรี ยมแซนวิชเอาไว้ให้น่ะรีบมากินเร็ว”
ปาณียิ้มให้เธอพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ จากนั้นจึงเดินไปที่โต๊ะ อาหาร
น้าล่ามุงเดินถือจานใส่แซนวิชมาวางให้ปาณีถ้าเป็นปกติของ ปาณีในตอนเช้าเธอจะต้องรีบกระวีกระวาดกินมื้อเช้าแล้วแต่วัน
นี้เธอกลับใช้ส้อมค่อยๆกดแซนวิชเข้าปากค่อยๆเดี๋ยวค่อยๆ
กลืน!
น้ามุงมองหน้าเธอด้วยความประหลาดใจก่อนจะถามด้วย ความเป็นห่วง : “ปาณีวันนี้เป็นอะไรหรือเปล่า? แซนวิชนั่นไม่ อร่อยเหรอ? ”
ปาณีค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะสบตาเข้ากับแววตาที่เต็ม ไปด้วยความสงสัยของน้ามุงแล้วปาณีก็รีบก้มหน้ากลับลง ไป : “เปล่าค่ะอร่อยมากเลยค่ะก็แค่วันนี้หนูไม่ค่อยหิว! 11
น้าลงพยักหน้าให้เธอแต่เล้วเธอก็พลันได้เห็นใบหน้าอัน แดงก่ำของปาณีจึงอดใจไม่ไหวที่จะถามออกมาด้วยความเป็น ห่วง : “ปาณีหน้าเธอทำไมมันแดงๆ มีไข้หรือเปล่า?
ปาณียกมือขึ้นมาลูบๆที่แก้มของตัวเองก่อนจะรีบส่ายหัวไป มา : “เปล่าค่ะหนูก็แค่กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยหน้าแดงๆ เลือดฝาดแบบนี้หนูจะเป็นก็ตอนที่หนูรู้สึกโมโหอะค่ะ!”
พูดจบปาณีก็รีบหลบตาจากน้ามุงทันทีก่อนจะถือแซนวิช เดินไปที่ประตู น้ามุงคะวันนี้หนูมีธุระหนูไปก่อนนะคะ!
ยังไม่ทันรอให้น้ามุงแสดงปฏิกิริยาตอบรับปาณีก็รีบวิ่งปรู๊ด ไปที่ประตูแล้ว
น้าล่ามุงได้แต่มองด้านหลังไวๆของเธอด้วยความงุนงงจาก
นั้นก็บ่นพึมพำๆกับตัวเอง หรือว่าปาณีกับธามนิธิจะทะเลาะ
กัน? ไม่ได้การละฉันต้องรีบไปรายงานให้คุณนายทราบจะ ปล่อยให้ทะเลาะกันแบบนี้ไม่ได้” พูดจบน้ามงก็ถอดผ้ากันเปื้อนออกจากนั้นจึงรีบเดินออก
จากบ้านไป
ปาณีที่กำลังก้มหน้าก้มตาเดินอยู่บนถนนเมื่อนึกไปถึงเมื่อสัก ครู่นี้ที่เกือบจะโดนน้ามุงจับได้ว่าเมื่อคืนเธอไปแอบเมาเหล้า มาหน้าของเธอจู่ๆก็ร้อนผ่าวๆขึ้นมาทันที
“หวังว่าน้ามุงคงจะดูไม่ออกหรอกนะถ้าไม่อย่างนั้นฉันคงจะ ต้องอับอายจนแทบอยากจะเอาหน้าไปซุกในมหาสมุทรแปซิฟิก แน่ๆ! “ปาณีพูดบ่นอยู่กับตัวเอง
ขณะที่เดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่นั้นจู่ๆก็มีรองเท้าคู่หนึ่งมา ยืนขวางเธอเอาไว้เธอสะดุดกึกแต่ก็ไม่เงยหน้าขึ้นไปมองจากนั้น จึงขยับหลบมาข้างๆ
แต่ทว่าไม่ว่าเธอจะขยับไปซ้ายฝั่งนั้นก็ขยับซ้ายตามเธอพอ เธอขยับไปทางขวาฝั่งนั้นก็ตามไปทางขวาด้วย
ปาณีเงยหน้าขึ้นด้วยความโกรธมองจ้องเขม็งไปหาคนๆ นั้น : “นี่คุณคิดจะทำอะไรกันแน่? ฉัน…..รัส? ”
จำรัสมองหน้าปาณีด้วยท่าทางสะใจก่อนจะพูดด้วยท่าทางไม่ สะทกสะท้าน : “ปาณีหวัดดีตอนเช้า! รู้สึกเป็นเกียรติที่เธอยัง จําฉันได้! ”
ปาณีมองกรอกตาบน ใส่เขาก่อนจะพูดไป
หนึ่ง “ประสาท! ”
พูดจบเธอก็ขยับหลบไปข้างๆก่อนจะรีบเดินออกไปในทันที
จำรัสยืนงงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะวิ่งตามเธอไปปากก็พูดใส่ เธอ” “ปาณีเธอนี่มันสุดยอดจริงๆ! เธอเป็นคนแรกที่กล้าด่าฉัน ซึ่งๆหน้าแบบนี้! แต่ฉันก็ไม่เห็นจะจำได้เลยว่าฉันไปทำอะไร ขัดใจเธอไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่! ครั้งแรกที่เราเจอกันเธอก็เล่น เหยียบเท้าฉันอย่างแรงฉันก็เป็นคนใจกว้างไม่คิดถือโทษโกรธ เคืองเธอแต่เหมือนเธอจะยิ่งได้ใจยังคิดที่จะเหยียบจมูกขึ้นหน้า ฉันอีก! ”
ปาณีหยุดเดินก่อนจะหันไปมองหน้าจอมวายร้ายอย่างจำรัส จากนั้นจึงฝืนยิ้มพูดกับเขาไปว่า “ที่แท้คุณก็ยังจำฝังใจอยู่กับ ไอ้เรื่องที่ฉันไปเหยียบเท้าคุณสินะ? ถ้างั้นฉันก็ขอโทษละกันท่าน ประธานจำรัสฉันไม่สมควรที่จะไปเหยียบเท้าอันสูงส่งหาที่เปรียบ มิได้ของคุณฉันต้องขอโทษคุณจากใจจริง! ไม่ทราบว่าตอนนี้ ฉันไปได้แล้วหรือยัง? 11
จำรัสยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น
ปาณีที่ก่อนหน้านี้อารมณ์ก็ไม่ค่อยจะดีอยู่แล้วกลับมาเจอ จำรัสกวนประสาทเข้าให้อีกทำให้เธอในตอนนี้อารมณ์ช่างอุ่นมัว สุดๆเหมือนความรู้สึกมันกำลังจมดิ่งลงไปในก้นเหวยังไงยังงั้น
ถ้าหากเป็นคนปกติที่มีวิสัยทัศน์ที่ดีแล้วล่ะก็ป่านนี้ก็คงจะรู้ หลบรู้หลีกแยกย้ายจากกันไปด้วยดีแล้ว
แต่น่าเสียดายที่คนอย่างจํารัสไม่ได้เป็นแบบนั้นจํารัสเป็นผู้ที่ ไม่เคยเห็นแก่หน้าใครเพราะโดยทั่วไปแล้วก็มักจะมีแต่คนอื่นที่ ต้องเห็นแก่หน้าเขา
จำรัสเดินขึ้นมายืนอยู่เบื้องหน้าของปาณีก่อนจะพูดกับเธอ ด้วยท่าทางอันเย่อหยิ่ง “ฉันอนุญาตให้เธอไปแล้วอย่างนั้นเห รอ? ค่าขอโทษจากเธอมันไม่มีความจริงใจเลยสักนิดเธอคิดว่า ฉันจะยอมรับได้อย่างนั้น? ”
อยู่ๆปาณีหยุดเดินก้มหน้านิ่งกำปั้นทั้งสองของเธอกแน่นใน ขณะที่ยืนฟังจำรัสบ่นพึมพำอยู่คนเดียว
“ปาณีเธอมีสิทธิ์อะไรที่จู่ๆนึกจะปฏิเสธก็ปฏิเสธความร่วมมือ กับบริษัทของฉันเอาง่ายๆ! เธอรู้มั้ยว่าพวกฉัน…..”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ