ตอนที่827นโง่หรือบ้ากันแน่
ปาณีไม่เชื่อว่าเขาจะมาขอโทษเธอด้วยใจจริงเพราะเหตุการณ์ เมื่อคราวก่อนเธอจงใจเหยียบเท้าเขาอย่างแรงซึ่งนั่นเป็นการ กระทำที่ไร้ซึ่งความเกรงใจเป็นที่สุด
เขาควรจะมานี่เพื่อหาเรื่องเธอซะมากกว่า?
นึกมาถึงตรงนี้ปาณีก็กวาดสายตามองดูเขาด้วยท่าทีอันเป็น ชา
จํารัสซึ่งโตมาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีเคยโดนผู้หญิงคนไหนมอง เขาด้วยสายตาแบบนี้มาก่อนซึ่งดูเหมือนสายตาที่คอยระแวดระ วังเพื่อปกป้องตัวเองจากคนเลวยังไงยังงั้นท่าทางของปากทำให้ เขาถึงกับเลิกคิ้วเข้มๆอันหล่อเหลาของเขา “ปาณีเธอทำท่า ทางอะไรของเธอน่ะ?
ปาณีเหลือบมองไปที่จำรัสก่อนจะพูดด้วยเสียงนิ่ง เรียบ: “เชิญมากับฉัน”
หลังจากพูดจบเธอก็เดินสะบัดเชิดหันหลังกลับไปทันที จำรัสธที่ถูกปาณีแสดงกิริยาแบบนั้นใส่เขาชี้นิ้วไล่หลังเธอ ก่อนจะหันไปพูดกับชญ: “ดูท่าทางที่เธอแสดงใส่ฉัน? ” ชญชไม่ตอบเขาแต่ธีระกลับตบมือไปฉาดหนึ่งด้วยความ สะใจ : “แต่ผมว่าปาณีโคตรเจ๋งเลยอ่ะ!
เมื่อจำรัสได้เห็นท่าทางบ้าๆบอๆแบบนั้นสายตาก็หันมามองที่ ธีระแต่กลับควบคุมขาตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ก่อนจะพาขายาวๆ ของ ตัวเองเดินตามปาณีไป
ธีระเห็นดังนั้นก็พยายามจะเดินตามเข้าไปแต่ก็ถูกชญขวาง เอาไว้เสียก่อน : “เอ่อท่านประธาณธีระพวกเรามาคุยเรื่องความ ร่วมมือทางธุรกิจกันดีกว่าไหมครับ? ”
ธีระพูดตอบเขาด้วยท่าทางหงุดหงิด “เรื่องดีลไม่ใช่ว่า ยกเลิกไปแล้วเหรอ? เมื่อไม่ได้ดีลกันแล้วยังจะมาเสียเวลาคุย อะไรกันอีก?
เมื่อพูดจบเขาก็รีบวิ่งไปกลับขึ้นที่สำนักงานทันที
ชญยังพยายามที่จะรั้งเขาไว้โดยไม่สนใจท่าทางถมึงทึงของ เขาเลยแม้แต่น้อย “คุณกลัวว่าท่านประธานจำรัสจะจับคุณ ปาณีกินหรือยังไงกัน? 11
ธีระยังรู้สึกไม่วางใจอยู่ดีแต่ก็ไม่กระตือรือร้นที่จะวิ่งกลับขึ้นไป แบบเมื่อสักครู่นี้
ด้านในตึกปาณีกำลังยืนรอจำรัสอยู่ตรงบันได
จำรัสใช้เวลาครู่หนึ่งกว่าจะเดินไปถึงเขากัดฟันกรอดๆพูดกับ ปาณีด้วยความโมโห” “ปาณีเธอคิดว่าเธอแน่นักเหรอ! บริษัท ของเธอเล็กกระจ้อยร่อยแบบนี้ไม่รู้ว่าไปพาความกล้ามาจากไหน ถึงได้กล้ามาท้าทายใส่ฉันแบบนี้? เธอเชื่อมั้ยว่าฉันสามารถ ทำให้บริษัทของเธอพังพินาศย่อยยับได้ในชั่วพริบตา! ”
ปาณีได้ยินดังนั้นเธอกลับทำเสียงหัวเราะท้าทายออกมาอย่าง ดัง”เซอะ”แล้วก็ทำเป็นไม่แยแสจำรัสที่กำลังอยู่ในอารมณ์โมโห สุดขีดแถมยังตอบโต้เขาอย่างเจ็บแสบ” “อ่าวอย่างนั้นเหรอ? คุณคิดว่าตัวเองเป็นเทพเจ้ารึไง? ฉันจะบอกอะไรให้บริษัทของ ฉันจะพังพินาศก็หลังจากที่บริษัทของคุณมันพังไปก่อนต่าง หาก! ”
เมื่อจำรัสได้ยินที่เธอพูดก็ยืนอเป็นตอไม้ก่อนจะหันไปมอง
ปาณีแบบไม่เชื่อสายตาตัวเอง” “ปาณีเธอนี่มันโง่หรือบ้ากัน
แน่? บริษัทซี.ซี.เอส.ของฉันน่ะเธอรู้จักมั้ย? บริษัทฉันมีชื่อเสียง
โด่งดังไปทั่วโลกเธอคิดจะเอาบริษัทเล็กๆกระจอกๆของเธอมา
ต่อกรกับฉันอย่างนั้น? ”
ปาณีถึงกับหัวเราะออกมาแววตาเธอดูมุ่งมั่นและสุขุมนุ่ม ลึก: “สุภาษิตจีนที่ว่า “ผู้เฒ่าย้ายภูเขาน่ะเคยได้ยินมั้ย? คนเรา อ่ะถึงจะมีพรสรรค์ติดตัวมาแต่ถ้าไม่หมั่นฝึกฝนตนเองสักวันฝีมือ ก็จะค่อยๆหายไปคนที่มีวิริยะอุตสาหะเท่านั้นถึงจะอยู่รอดบริษัท ของฉันถึงแม้มันจะเล็กและเทียบไม่ได้กับบริษัทอันใหญ่โตของ คุณแต่ทั้งหมดนี้ฉันกับธีระค่อยๆร่วมกันสร้างมันขึ้นมาเพราะ ฉะนั้นฉันจะไม่มีวันปล่อยให้ใครหน้าไหนมาทำลายน้ำพักน้ำแรง ที่พวกฉันอุตส่าห์สร้างบริษัทนี้ขึ้นมาอย่างแน่นอน! บริษัท ซี.ซี.เอส.แล้วยังไงล่ะ? ฉันเชื่อมั่นในกฎแห่งธรรมชาติ! ”
จำรัสยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ตรงนั้นเขาสตั๊นท์ไปหลายวิ ปาณีขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดเมื่อได้เห็นอีกฝ่ายยืนนิ่งไร้การ ตอบสนองก็บ่นมาตบท้ายทันที : “ฉันไม่สนว่าคุณจะเป็นใครมาจากไหนมีตำแหน่งยศฐาบรรดาศักดิ์อะไรฉันรู้แต่ว่าฉันจะ ปกป้องบริษัทของฉันด้วยชีวิต!
พอพูดจบเธอก็เดินเชิดตรงไปที่ออฟฟิตเธอทันที
ทว่ากว่าจํารัสจะเรียกสติกลับมาได้หันไปอีกทีปาณีก็ไม่อยู่ตรง นั้นแล้ว
เมื่อชญช์กับธีระมาถึงก็เห็นจำรัสที่อยู่ในอาการเหมือนคนถูก รังแกอย่างหนักยืนอยู่ตรงนั้น โดยไร้เงาของปาณี
ธีระเป็นกังวลอย่างมากเขาหันไปบอกกับชญซ์ : “ผมขอตัวไป
หาท่านประธานปาณีก่อนครับเชิญพวกคุณตามสบาย!”
เมื่อเหลือเพียงสองหนุ่มคือท่านประธานจำรัสกับชญที่ยืนอยู่ ตรงทางขึ้นบันไดตรงนั้นจำรัสที่กำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งความ ตกใจปนๆกับความประหลาดใจแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อนหันไป ถามชญซ์ : “นายแน่ใจนะว่าที่นายสืบมาน่ะมันเป็นข้อมูลที่ถูก ต้องแล้ว? ปาณีเป็นผู้หญิงของธามนิธิอย่างนั้น? ”
ชญ พยักหน้าเขาแอบขมวดคิ้วเบาๆ “ทำไมล่ะครับ? ข้อมูลไม่ถูกต้องเหรอครับ? ”
จํารัสงยหน้ามองขึ้นไปที่ชั้นบนก่อนจะพูดเสียมทุ่ม ออก มา: “มิน่าเธอถึงได้ร้ายแบบนี้! ถึงแม้พวกเขาจะหย่ากัน
แล้วแต่ธามนิธิก็ยังคอยช่วยเธออยู่ตลอด! ช่างมันเถอะกลับกัน ได้แล้ว! ”
ทันทีที่พูดจบเขาก็รีบเดินๆไปที่ประตูโดยไม่หันหลังกลับไปมองอีกเขาเดินเร็วจนชญ์ช์ตามเขาไม่ทันเลยทีเดียว
ชญ วิ่งมาจนถึงข้างรถก็หอบแฮ่กๆๆเขาเห็นจำรัสไปนั่งคิด อะไรตามลำพังอยู่คนเดียวที่เบาะหลัง
อีกฝั่งหนึ่งธีระเองก็รีบวิ่งกลับขึ้นมาที่ออฟฟิตเห็นปาณีกำลัง นั่งทำงานยุ่งอยู่หน้าคอมก็ถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินเข้าไปคุยกับเธอพลางหัวเราะคิกคัก! “เป็นไง? คุย อะไรกับท่านประธานจำรัสบ้างล่ะ? ฉันเห็นหน้าเขาดูแย่มากเลย
นะ! ”
ปาณีไม่อยากพูดให้มากความก็เลยตอบเขาแบบผ่านๆไป ที: “ก็คุยกันถึงเรื่องเมื่อคราวก่อนน่ะ! เออธีระนายช่วยจัดการ เรื่องเชิญคุณทัดธนไปทานข้าวที่สิ! เขาอุตส่าห์ช่วยพวกเราเรื่อ งศีลธุรกิจถึงแม้ว่ามันจะไม่สำเร็จแต่เราก็ควรจะขอบคุณเขาที่มี นําใจกับเรา!
ธีระพินิจพิเคราะห์ท่าทางของเธอเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรที่ดูผิด ปกติเขาก็รู้สึกวางใจ: “อืมได้เดี๋ยวฉันจะจัดการให้
เมื่อธีระออกไปแล้วปาณีถึงจะละสายตาจากคอมพิวเตอร์เมื่อ นึกไปถึงคำพูดของจำรัสที่พูดข่มขู่ใส่เธอเมื่อสักครู่นี้มันทำให้ เธออยากจะกระทืบเท้าใส่เขาแรงๆอีกสักครั้ง!
ปาณีเคยอ่านเรื่องราวของเขาตอนที่เตรียมตัวคุยเรื่องดีลงา นทําให้ต้องจดจําเรื่องราวของคนๆนี้เข้าไปในรอยหยักของ สมองไม่มากก็น้อยเท่าที่รู้คือจำรัสเกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวยเป็น มหาเศรษฐีแต่ด้วยนิสัยเอาแต่ใจหยิ่งจองหองชอบดูถูกผู้หญิงทำไมถึงได้มาเปิดบริษัทด้านแฟชั่นอย่างบริษัทซี.ซี.เอส.ได้! ”
ปากบ่นพึมพำกับตัวเอง “คุณอาก็ไม่ได้ไม่เห็นจะมีนิสัย เลือดร้อนเจ้าอารมณ์เอาแต่ใจแบบนายจํารัสลูกคุณหนูคนนั้น เลยสักนิด! ”
เมื่อพูดถึงคุณอาก็เลยนึกขึ้นมาได้ว่าเขาไม่ได้ติดต่อเธอกลับ มาเป็นวันแล้วปาณีอดรนทนไม่ไหวตัดสินใจกดมือถือ โทรออก
ไปหาคุณอาทันที
ปลายทางรับสายอย่างรวดเร็วปาณีรีบพูดกับปลายสายด้วย ความตื่นเต้นดีใจ: “คุณอาขาคิดถึงคุณอาจังเลย! ”
ผ่านไปครู่หนึ่งก็ยังไม่มีเสียงใดๆตอบกลับมาปาณีขยับมือถือ มาส่องดูด้วยความสงสัยแล้วก็บ่นพึมพำๆ “ก็ถูกแล้วนี่ก็เบอร์ ของคุณอาถูกแล้วนี่นา”
จากนั้นไม่นานปลายสายก็มีเสียงตอบกลับมาแต่กลับเป็น เสียงของไวยาตย์ : “ปาณีท่านประธานธามนิธิกำลังประชุมอยู่ ไว้เธอค่อยโทรมาใหม่อีกทีนะ”
ปาณีทำจมูกย่นฟุดฟิดจากนั้นก็ได้ยินเสียงของไวยาตย์ที่ฟังดู รีบเร่งอยากจะวางสายเสียให้ได้เธอรีบเบรคเขาไว้: “เออเดี่ยว ก่อนไวยาตย์รอเดี๋ยวๆฉันอยากถามนายหน่อยว่าวันนี้คุณอาเค้า ยุ่งมากเลยเหรอ?
ทางฝั่งของไวยาตย์ก็พยักหน้าหงิกๆ: “มีเคสที่เมืองเมฆานิด หน่อยครับตั้งแต่ท่านประธานมาที่นี่ได้ครึ่งค่อนคืนก็ยังไม่ได้พัก เลยสักนาทีเดียวเขายังเคลียร์งานทางนี้ยังไม่เรียบร้อยนะครับ”
ปาณีได้ยินดังนั้นยิ่งขมวดหนักขึ้นกว่าเก่า”อ่ออย่างเหรออย่างช่วยเตือนให้คุณอาทานข้าวให้ตรง เวลาด้วยนะอย่า”
หลังจากวางปาณีทวีความเป็นห่วงธามนิธิมากไป อีก: ไม่รู้คุณเคสยากขึ้นแน่ไม่อย่างคุณอาไม่รีบออกตั้งแต่แต่”
ขณะที่เธอกำลังนึกเป็นห่วงคุณอาอยู่นั้นปาณีไม่ได้สังเกต เลยว่ามีคนยืนตรงประตูออฟเธอ
“ก๊อกก๊อกก๊อก! “ปาณีเห็นว่าเป็นจันวิภาปาณีเจอตัวเธอสักฉันโทรเธอโทรติดสายว่างตลอด! เลยมาเธอด้วยตัวเองแห ละ! ”
ปารีบลุกไปพาเธอเข้ามาด้าน”ทำไมถึงที่ได้ ล่ะคะวันฉันหยุดก็เลยเข้ามาทำงานบริษัทนะธุระอะไร หรือเปล่า?
จันวิภามองไปรอบเธอ เธอนี่มากเลยนะปาณีอายุเพิ่งจะแค่นี้ก็บริษัทเป็น ของตัวเองแล้วอ้อนช็อคโกแลตพี่เขยเธอเค้าเพิ่งกลับมาจาก ต่างประเทศเขาเลยซื้อมาฉันว่าเธอน่ะชอบเลยเอามาให้! ”
เมื่อได้เห็นของกินปาณีก็ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที “จริงเห รอคะ? ขอบคุณพี่มากเลยค่ะ! อ้อแล้วก็ต้องขอบคุณพี่เขยด้วย นะคะที่เวลาเจออะไรอร่อยๆมักจะนึกถึงฉันเสมอเลย!
จันวิภามองดูรอยยิ้มอันสดใสน่ารักของเธอจึงอดไม่ได้ที่จะ หัวเราะออกมาเบาๆ “เกรงใจอะไรกันจ๊ะคนกันเองทั้งนั้นอ้อจริง สิธามนิธิไปทํางานต่างเมืองเหรอ?”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ