ตอนที่823ปฏิเสธความร่วมมือทางธุรกิจ
ชายหนุ่มเลิกคิ้วและถอดหมวกของเขาออกก่อนจะเสียผมไปมา เมื่อไร้หมวกจึงเผยให้เห็นถึงใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา
ด้วยใบหน้าอันหล่อเหลาคมคายนี้พูดได้เลยว่าหากเขา ต้องการเข้าสู่วงการบันเทิงแล้วล่ะก็คงเข้าไปได้อย่างง่ายดาย เลยทีเดียวยิ่งได้ฟังเสียงกรี๊ดกร๊าดที่ดังแว่วมาจากทางฝั่งล็อบบี้ ของโรงแรมด้วยแล้วก็สามารถเดาได้เลยว่าชายหนุ่มผู้นี้หล่อ เหลาแค่ไหน!
แต่ในจำนวนสาวๆที่พากันกรี๊ดกร๊าดชายหนุ่มผู้นี้ไม่นับรวม ปาณีอย่างแน่นอน
หลังจากที่เธอแผดเสียง ใส่เขาเรียบร้อยก็หันมาง่วนกับการจัด กระดาษเอกสารที่ปลิวว่อนกระจุยกระจายเมื่อตอนที่โดนชนเมื่อ ครู่นี้ให้เข้าที่เข้าทาง
นับเป็นครั้งแรกที่โดนเพิกเฉยต่อรูปโฉมอันหล่อเหลาของตัว เองชายหนุ่มถึงกับนิ่งอึ้งตะลึงงันเขาพยายามจะเดินเข้าไปหา ปาณีแต่ก็ถูกธีระขวางเอาไว้เสียก่อน
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองธีระแล้วก็ทำเหมือนเขาไม่ได้อยู่ ในสายตาก่อนจะพูดแกมหัวเราะออกมาเบาๆ “โธ่อายุก็ยัง น้อยๆอยู่เลยที่ไหนได้มีเจ้าของซะแล้ว”
ปาณีได้ยินดังนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาจ้องเขม็งไปที่ชายหนุ่มก่อนจะหันไปพูดกับธีระเบาๆ “ธีระเราไปกันเถอะ! ”
เมื่อถูกทิ้งไว้โดยไม่แยแสชายหนุ่มก็รู้สึกไม่พอใจจังหวะที่ ลิฟต์กําลังจะปิดนั้นเขากลับเดินเข้าไปขวางประตูลิฟต์ไว้
ปาณีเงยหน้าขึ้นมองเขาจึงได้เห็นชายหนุ่มกำลังยืนพิงประตู ลิฟต์พร้อมกับส่งยิ้มที่คิดว่าหล่อนักหล่อหนามาให้เธอจากนั้น เขาก็พูดเสียงดังกังวาน : “คุณผู้หญิงสะดวก ให้เบอร์ติดต่อไว้ หน่อยมั้ยครับ? ”
ปาณีคาดไม่ถึงเลยว่า ในที่แบบนี้ยังจะโดนคนแปลกหน้ามา จู่โจมขอเบอร์เธอได้
ขณะที่กำลังคิดจะพูดอะไรสักอย่างก็เห็นสองสาวแฟนคลับวิ่ง กระดึ๊กระด๊าเข้ามาหาชายหนุ่มเธอจึงส่งยิ้มหวานไปให้เขาก่อน จะพูดว่า : “ขอโทษค่ะฉันไม่คุ้นเคยกับการพูดคุยกับคนแปลก หน้า!
พูดจบเธอก็เอื้อมมือไปกดปิดลิฟต์ที่แป้นปุ่มกดทว่าชายหนุ่ม ยั่งยืนขวางอยู่ตรงนั้นไม่ยอมขยับไปไหน
ปาณีเห็นสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าจึงเดินเข้าไปหาชายหนุ่ม พร้อมกับยิ้มให้เขารอยยิ้มอันบริสุทธิ์ผุดผ่องนั้นทำให้เขาถึงกับ ตะลึงไปไม่น้อย
แต่ทันใดนั้นความเจ็บปวดที่ฝ่าเท้าของเขาก็แผ่ซ่านจนทำให้ เขารู้สึกได้
ชายหนุ่มก้มลงไปมองที่เท้าของเขาด้วยความตกใจภาพที่ได้เห็นก็คือรองเท้ารุ่นLimitedEditionของเขาปรากฏเป็นรอย ขนาดเท้าใหญ่ประทับอยู่ด้านบนของรองเท้าคู่เก่งของชายหนุ่ม ซึ่งเจ้าของรอยเท้ายังคงยืนลอยหน้าลอยตาอยู่ตรงนั้น
หลังจากที่ชายหนุ่มดึงสติกลับคืนมาได้เขาก็สาดสายตาอันด เดือดจ้องเขม็งไปที่ปาณีก่อนจะยกมือขึ้นมาชี้ไปที่ เธอ” “เธอ……”
ปาณีเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่กำลังอยู่ในอาการโมโห เดือดดาลอย่างไม่แยแสเขาเลยสักนิดเธอกดปิดลิฟต์อีกครั้ง แถมยังทำท่าทำทางบอกให้เขาเอาเท้าหลบไป!
ชายหนุ่มรีบยกเท้าหลบในทันทีเขายืนอยู่ตรงนั้นจนหน้าของ ปาณีค่อยๆหายไปกับประตูลิฟต์ที่ปิดลง ในขณะที่ประตูลิฟต์ กำลังจะปิดสนิทนั้นเขาสาบานได้เลยว่าเขาเห็นปาณีทำท่า กระหยิ่มยิ้มย่องด้วยความสะใจ
ในจังหวะเดียวกันนั้นประตูลิฟต์ตัวถัดไปก็เปิดออกชายวัย กลางคนคนหนึ่งเดินออกมาจากลิฟต์เมื่อเขาได้เห็นชายหนุ่มจึง พูดเสียงทุ้มกับเขา “อยู่นี่เองเยี่ยมเลยคุณทัดธนแนะนำคนของ บริษัทแห่งหนึ่งเอาไว้ตอนนี้น่าจะใกล้ถึงแล้วนะพวกเราขึ้นไปกัน เถอะ! ”
ท่าทางของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาในทันทีก่อนจะ ถามกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก: “ทัดธนแนะนำมาอย่างนั้นเห รอ? ”
ชายวัยกลางคนพยักหน้าพลางยิ้มให้เขาก่อนจะหันไปกดลิฟต์ : “ใช่ครับคุณทัตธนเป็นคนติดต่อมาหาพวกเราเองเลยนะ ครับผมเองก็รู้สึกประหลาดใจมากยังจำตอนที่พวกเราคิดจะเปิด สาขาในเมืองชยุตได้ไหมครับคุณทัตธนก็ลงมือลงแรงไปไม่ใช่ น้อยก็เลย……
ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆ โดยไม่พูดอะไรแล้วก็เดินตรงเข้าไป ในลิฟต์
อีกฝั่งหนึ่งห้องเพรสซิเดนท์สูทอันหรูหราปาณีกับธีระถูกเชิญ ให้เข้ามาด้านในทั้งคู่อยู่ในอาการรักษาอากัปกิริยานั่งนิ่งหลัง ตรงอยู่บนโซฟารอให้ท่านประธานจำรัสปรากฏตัว
ทว่านาฬิกาก็ยังหมุนไปเรื่อยๆตุ๊กตอกตึกต๊อก…ปาณีและธีระ ทั้งคู่ต่างก็ไม่รู้ว่าตัวเองนั่งกันอยู่นานแค่ไหนจนพวกเขาเริ่มจะนั่ง กันต่อไปไม่ไหวจึงเตรียมที่จะลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจยืดเส้นยืดสาย สักหน่อย”คลิก”เสียงประตูห้องรับแขกถูกเปิดออก
ปาณีสูดลมหายใจเข้าลึกๆไปหนึ่งครั้งรอยยิ้มละมุนปรากฏอยู่ บนใบหน้าสวยหวานของเธอจากนั้นเธอจึงหันตัวกลับไปแสดง การทักทายอย่างสุภาพอ่อนน้อม : “สวัสดีค่ะท่านประธานจำรัส”
แต่ครั้นเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาก็ได้สบตาเข้ากับดวงตาคู่นั้นที่ กำลังเพ่งเล็งมาที่เธอจิตใจเธอไม่สงบอีกต่อไปปาณีควบคุมสติ เอาไว้ไม่อยู่เธอชี้ไปที่บุคคลที่กำลังยืนประจันหน้าด้วยความ ประหลาดใจ “ทำไมเป็นนาย
ธีระเองก็รู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกันเขามองชายหนุ่มที่ยืน อยู่ตรงหน้าด้วยท่าทางช็อคอย่างเห็นได้ชัด
ผู้ช่วยชญซ์ที่ยืนสังเกตการณ์อยู่ด้านหลังพูดพลางยิ้มๆด้วย ความสับสนงงงวย : “เอ่อไม่ทราบว่าทุกท่าน ในที่นี้รู้จักกันแล้ว เหรอครับ?
ธีระพยักหน้าเบาๆ ให้เขา: “เมื่อสักครู่นี้บังเอิญเจอท่าน ประธานจํารัสโดยบังเอิญในลิฟต์นะครับ!
ธีระพยายามให้เรื่องมันผ่านไปด้วยดีแต่ท่านประธานจํารัสซึ่ง ก็คือชายหนุ่มที่สวมหมวกเบสบอลคนนั้นกลับไม่คิดแบบนั้นเขา มองไปที่ปาณีที่กำลังก้มหน้าหลบสายตาเขาอยู่ด้วยสายตาที่ แฝงไปด้วยรอยยิ้มอันเยือกเย็นซึ่งดูไม่ค่อยพอใจเป็นอย่าง มาก : “เมื่อกี้นี้ก็เธอนี่เองที่เหยียบเท้าฉันเข้าอย่างแรง! แถมยัง ฝากรอยเท้าไว้บนรองเท้าฉันด้วย! 11
วินาทีนั้นปาณีนึกอยากจะเอาหัวโหม่งกำแพงให้ตายไปซะเลย
อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ตัวเองกลับไปล่วงเกินท่านประธาน จำรัสแห่งบริษัทซี.ซี.เอส.ซะได้แล้วเขาก็เป็นเป้าหมายของการ เจรจาทางธุรกิจที่สำคัญที่สุดของเธอในตอนนี้ด้วยทำเอาปาณี อยากจะตบหัวตัวเองหลายๆทีเสียให้ได้!
ยังไงซะความเข้าใจผิดมันก็เกิดขึ้นมาแล้วคนอย่างปาณีก็ ไม่ใช่คนที่ชอบหนีปัญหาซะด้วยปาณีเงยหน้าขึ้นก่อนจะหันไป ทางท่านประธานจำรัสเธอก้มหัวให้เขา “เรื่องที่ฉันเหยียบเท้า คุณเป็นความผิดของฉันเองค่ะ! แต่คุณก็เป็นคนที่เดินชนฉัน ก่อนแถมยังมายืนขวางลิฟต์อีกเพราะฉะนั้นคุณเองก็ควรจะ ขอโทษฉันด้วยเหมือนกัน!
จำรัสไม่รู้ว่าตัวเองหูฝาดไปหรือเปล่าเขาจึงพูดด้วยเสียงนุ่ม ลึก: “อะไรนะ? เมื่อเธอว่าอะไรนะ? เธอพูดอีกที ?
ปาณีเงยหน้าขึ้นอีกครั้งก่อนจะพูดช้าๆชัดๆทุกคำพูด “ฉัน ขอโทษคุณแล้วตอนนี้ถึงตาคุณขอโทษฉันบ้างแล้วค่ะ!
หนนี้จำรัสได้ยินชัดเจนเข้าใจแจ่มแจ้งทุกคำพูดเขามองไปที่ หญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าก่อนจะเตือนเธอด้วยน้ำเสียงที่เลือก เย็น: “คุณปาณีใช่มั้ย? ผมคิดว่าคุณควรจะรู้เอาไว้นะว่าที่คุณ ยืนอยู่ตอนนี้มันเป็นที่ของผมคุณมาหาผมก็เพื่อเจรจาธุรกิจแต่ คุณกลับมาขอให้ผมขอโทษคุณอย่างนั้น? ”
คำพูดของเขาไม่ได้ทำให้ปาณีรู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อยเธอพูด เสียงดังฟังชัด “เรื่องนี้มันก็ส่วนของเรื่องนี้ที่เรากำลังคุยกันอยู่ ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่อง โปรเจกต์ของงานแต่คุณต้องขอโทษฉันเรื่อง ที่คุณชนฉันต่างหากค่ะ!
ทันใดนั้นจำรัสก็ออกมาเขาหันหลังกลับไปโดยไม่หันมา มองเธออีก
ปาณีไม่สนใจสายตาของธีระที่พยายามส่งสายตาปรามเธอ เลยแม้แต่น้อยแต่ปาณีกลับเดินเข้าไปหาจำรัสเธอไปหยุดยืนอยู่ ตรงหน้าเขาก่อนจะพูดเสียงดังออกมา “ท่านประธานจำรัส ปฏิบัติต่อผู้อื่นแบบนี้น่ะเหรอคะ? ถ้าอย่างนั้นฉันก็คงต้อง ขอโทษด้วยที่ไม่สามารถร่วมงานกับบริษัทซี.ซี.เอส.ของคุณ ได้!
ทันทีที่พูดจบเธอก็หันไปพูดกับธีระที่กำลังยืนตะลึงงันอยู่ตรงนั้นด้วยเสียงที่ดังฟังชัด “ธีระพวกเราไปกันเถอะ! ”
ขณะที่ปาณีพูดอยู่นั้นเธอน่ะเดินไปถึงประตูแล้วเห็นธีระยังไม่ ขยับก็เลยตะโกนเรียกเขา : “ธีระไปได้แล้ว! 11
ธีระรีบเดินตามออกไปโดยไม่พูดไม่จาได้แต่เดินตามหลังเธอ ไปติดๆ
รอจนปาณีเดินลับสายตาไปจำรัสถึงได้ฟื้นคืนสติกลับมาเขา หันมาทางผู้ช่วยชญที่ก็ตกอยู่ในสภาพตะลึงงันไม่ต่างกันก่อน จะเอ่ยปากถามเขาด้วยน้ำเสียงนิ่งทุ้ม : “นี่ฉันเพิ่งโดนบริษัท เล็กๆปฏิเสธเอาอย่างนั้นเหรอ? ยังไม่ทันได้ตอบโต้อะไรเลยก็ โดนปฏิเสธแล้วอย่างงั้น?”
ชญ คิดๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มพลางตอบเขา: “จากที่ผมเห็น คิดว่าใช่ครับ!
จํารัสทิ้งตัวลงไปบนโซฟาแล้วก็หัวเราะส่ายหัวไปมา : “เออ ใช่จริงๆCEOบริษัทซี.ซี.เอส.ผู้สง่างามอย่างฉันเพิ่งจะถูกยัยเด็ก เมื่อวานซืนปฏิเสธที่จะร่วมธุรกิจอย่างนั้นรึ? ไม่ได้…ชญช์นายไป สืบมาเดี๋ยวนี้เลยว่ายัยเด็กเมื่อวานซืนคนนี้เป็นใครมาจากไหน ฉันอยากรู้จริงๆว่ายัยเด็กนี่ทำไมถึงได้กำเริบเสืบสานขนาดนี้! 11
ชญช์ยืนงงๆจากนั้นจึงพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ : “เอ่อท่านประธาน ครับคงไม่ถึงกับถือสาหาความกับผู้หญิงตัวเล็กๆหรอกนะ ครับ? ”
จํารัสมองเขาด้วยสายตาที่ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ยินแบบนั้นเขา เอามือมาที่ตัวเขาเองด้วยท่าทางบริสุทธิ์ไร้เดียงสา : “ตอนที่ฉันยืนอยู่ที่ประตูลิฟต์แล้วโดนเธอเมินเฉยใส่แบบนั้นก็ที่หนึ่ง แล้วมาตอนนี้เธอยังมาปฏิเสธที่จะร่วมงานกับบริษัท ซี.ซี.เอส.ของเราอีกแล้วนายจะไม่ให้ฉันโมโหอย่างนั้นรึ? นี่นาย
รับสินบนจากเธอหรือเปล่าเนี่ย? ”
ชญ รีบส่ายหัวทันที : “เปล่านะครับท่านประธานผมจะรีบไป สืบเดี๋ยวนี้แหละครับ! ”
จำรัสค่อยพอใจขึ้นมาหน่อยแล้วจู่ๆเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้เลย รีบตะโกนตามหลังชญ ไปติดๆ : “เอออีกอย่างนะยังมีบริษัทชน วิทของเธอนั่นด้วยสืบมาให้หมดเลยนะ! “
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ