ตอนที่821คําเตือน
ธามนิธิมองดูสาวน้อยที่กำลังซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนด้วยความรัก ใคร่เอ็นดูสายตาที่เขามองเธอช่างอ่อนโยนและนุ่มนวลชายหนุ่ม ก้มลงจุมพิตเธอเบาๆแต่ใครจะคิดเล่าว่าจู่ๆปาณีจะยื่นมือไปโอบ รอบคอเขาความร้อนรุ่มในตัวชายหนุ่มกลับพลุ่งพล่านขึ้นมาใน ทันทีทันใด!
หลังจากไฟราคะถูกจุดให้ลุกโชนโชติช่วงบทรักอันร้อนแรง สุดสิ้นลงอีกครั้ง ในขณะที่สองคนพากันนอนแผ่หลาอยู่บนเตียง นั้นปาณีทั้งเหนื่อยและอ่อนล้าจนยกแขนไม่ขึ้นแล้ว
เมื่อได้เห็นสายตาของหญิงสาวที่ประหนึ่งมองเขาเป็นดั่ง “ศัตรู ตัวฉกาจ”ธามนิธิจึงพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบอย่าง ใจเย็น: “ใครใช้ให้เธอยั่วฉันล่ะ? ”
ปาณีพยายามจะยันตัวลุกขึ้นด้วยความโมโหแต่เอวบางๆของ เธอกลับอ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงจนลุกไม่ไหวเลยต้องนอนแหม่มอยู่ อย่างนั้นแถมยังพูดขู่ใส่เขาอีก: “คุณอาอ่ะเดี๋ยวฉันก็หนีออก จากบ้านซะเลย!
กลับกลายเป็นว่าการเรียกร้องความสนใจจากธามนิธิสำเร็จ ลงอีกครั้ง
หญิงสาวทำท่ายืดคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจก่อนจะหัวเราะออก มา: “คุณอาพวกเรามาทำบทบัญญัติสามประการกันดีมั้ยคะ? แล้วฉันก็จะไม่หนีออกจากบ้านละ
ธามนิธิยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะเดินตรงมาหาเธอมือของเขา ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของเธอปาณีเตรียมการรับมือเขาไว้แล้ว เธอค่อยๆหดตัวเดินถอยไปด้านหลัง
ทว่าร่างกายของเธอทำไมมันถึงได้อ่อนยวบยาบไปหมดแบบ นี้ทำอย่างไรก็หนีไม่พ้นฝ่ามือของเขาไปได้
ในที่สุดเธอก็ตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาหญิงสาวขบฟันเบาๆ ยอมรับชะตากรรมที่เธอมิอาจหนีพ้นชายหนุ่มบรรจงลูบไล้ เล้าโลมไปทั่วร่างกายของเธอด้วยความอิ่มเอมใจเธอทำได้เพียง ส่งเสียงออดอ้อนวิงวอน: “คุณอาขาหนูผิดไปแล้วค่ะ!
ธามนิธิมองดูเธอพร้อมกับรอยยิ้มที่เย็นเยียบจากนั้นเสียงทุ้ม จึงเอื้อนเอ่ยออกมา: “เมื่อกี้ยังเห็นอวดเก่งอยู่เลยไม่ใช่เห รอ? แถมยังฉันอีกด้วยว่าจะหนีออกจากบ้าน? ถ้าอย่างนั้นก็ คงมีทางเดียวที่จะป้องกันไม่ให้เธอทำแบบนั้นได้ฉันคงต้อง ทําให้เธอหมดแรงแบบนี้ทุกๆวันซะแล้วเธอจะได้หนีไปไหนไม่ ได้! ”
พูดจบเขาก็โน้มตัวลงประทับจูบไปที่ปากเล็กๆอันเจื้อยแจ้ว ของเธอ!
วันรุ่งขึ้นหลังจากธามนิธิตื่นขึ้นมาอาบน้ำอาบท่าเสร็จก็ได้เห็น ปาณีที่กำลังนอนหลับพริ้มอย่างมีความสุขเขายื่นหน้าเข้าไปจูบ อรุณสวัสดิ์เธอไปหนึ่งที่ก่อนจะเดินลงไปชั้นล่างและออกไป ทํางานตามปกติ
กว่าปาณีจะถูกแสงอาทิตย์ที่สาดส่องปลุกเธอจนตื่นขึ้นมาฟ้าก็ สว่างโร่แล้วเมื่อหันไปมองเวลาบนนาฬิกาปลุกเธอก็ถึงกับร้อง จี้ดว้ายออกมา”อ่าาาาา”
จากนั้นจึงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและรีบวิ่งลงไปข้างล่างในทันที
พี่มาวันมองเห็นปาณีที่กำลังลุกลี้ลุกลนวิ่งลงมาด้านล่างก็อด ขำออกมาไม่ได้ “ปาณีใจเย็นๆมากินข้าวเช้าก่อนจะ
ปาณีรีบวิ่งไปที่ประตูก่อนจะหันมาพูดขอโทษกับพี่มาวัน: “ยัง ก่อนค่ะพี่มาวันหนูกำลังจะไปเรียนสายแล้วค่ะ! เอาวางไว้ก่อน นะคะพอหนูเรียนเสร็จจะกลับมากินค่ะ!
เห็นท่าทางร้อนรนของปาณีที่รีบพุ่งไปที่ประตูทำเอาพี่มาวันถึง กับยิ้มพลางสายหัวเบาๆ : “เป็นวัยรุ่นก็ดีแบบนี้อ่ะเนาะ
จู่ๆก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้พี่มาวันรีบกดโทรศัพท์ไปหาแม่ ของธามนิธิ: “คุณแม่คะอยากจะบอกว่าธามนิธิกับปาณีน่ะสวีท หวานแหววกันมากเลยค่ะ……..
ทางฝั่งของหญิงสาวที่เหมือนจะวิ่งสี่คูณร้อยเมตรมาไม่มีผิด ทุลักทุเลหอบสังขารมาถึงโรงเรียนจนได้เธอมาถึงห้องเรียนก่อน ออดโรงเรียนจะดังเพียงเสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น
โมรีเห็นปาณีเดินเข้ามาก็รีบโบกมือให้เธอ
ปาณีเดินเข้าไปหาโมรีก่อนจะตัวอ่อนฟุบนาบลงไปบนโต๊ะ อย่างอ่อนระโหยโรยแรง
เมื่อได้เห็นโมรีที่พยายามฝืนยิ้มออกมาปาณีถึงได้นึกเรื่องเหตุการณ์เมื่อคืนขึ้นมาได้ก่อนจะเอ่ยปากถามเธอ” “เอ่อ โมรี.………
แต่ทว่ายังไม่ทันได้พูดจบก็ถูกเสียงออดเข้าชั้นเรียนมา ขัดจังหวะไว้พอดีปาณีก็เลยค่อยๆหันกลับไปมองที่กระดานดำ
เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนปาณีตั้งใจอยากจะออกไปพร้อมกับโม
แต่สุดท้าย โมรีกลับหายไปแล้ว
ปาณีไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรได้แต่บนมกับตัวเอง “ฉันก็แค่ อยากจะปลอบใจเธอก็เท่านั้นเอง
เมื่อโมรีไม่อยู่แล้วเธอจึงเดินไปตามถนนในโรงเรียนซึ่งเต็มไป ด้วยต้นไม้ร่มรื่นสองข้างทางเพียงลำพังคนเดียวจังหวะที่กำลัง ยืนเอาเท้าเขี่ยๆ ใบไม้อย่างเซ็งๆอยู่นั้นเท้าที่สวมด้วยรองเท้า หนังคู่หนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ
ปาณีไม่ได้คิดอะไรมากเธอจึงขยับหลบไปข้างๆ ให้พ้นทางแต่ ฝ่ายนั้นกลับดูเหมือนจงใจจะตามเธอเพราะไม่ว่าเธอจะขยับไป ทางไหนฝ่ายนั้นก็ขยับตามไปด้วย
ทันใดนั้นปาณีก็รู้สึกโกรธขึ้นมาจึงเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของ รองเท้าคู่นั้น : “นี่คิดจะทำอะไรอ่ะ? ……….. ”
บาร์นี่มองหน้าปาณีด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความดูหมิ่น เหยียดหยาม : “ปาณียังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอว่าฉันคิดจะทำ อะไร? ถามตัวเธอเองดีกว่ามั้ยผู้หญิงที่แต่งงานมีสามีแล้วแบบ เธอยังจะคิดไปยุ่มย่ามกับนกันต์อีกทำไม? เธอคิดจะยั่วยวนเขา ใช่มั้ย? ”
ปาณีได้ยินดังนั้นก็โมโหขึ้นมาทันที “เธอพูดอะไรของเธอ? ฉันเนี่ยนะยั่วยวนนภันต์
บาร์นี่มองจ้องปาณีตาเขม็งด้วยสายตาดูถูกเหยียด หยาม : “ในที่สุดก็ยอมรับแล้วล่ะสิ? ก็อย่างที่ฉันบอกไงมันไม่ แปลกหรอกที่ผู้หญิงแบบเธอน่ะจะทำเรื่องไร้ยางอายแบบนี้ ได้!
สีหน้าของปาณีค่อยๆเปลี่ยนเป็นเย็นชาเธอจงใจที่จะแกล้งพูด หลอกเธอต่อไป: “ฉันกับนกันต์จะเป็นยังไงมันก็เป็นเรื่องของ พวกฉันแล้วเธอมาเกี่ยวอะไรด้วย? ”
บาร์นี่โมโหเดือดดาลขึ้นมาทันทีก่อนจะตะโกนออกมา ว่า “มันต้องเกี่ยวกับฉันสิ! เพราะฉันคือแฟนของนภันต์ใครๆ เค้าก็รู้กันทั้งนั้นจะให้ฉันทนดูนภันต์ต้องมาถูกผู้หญิงเลวๆอย่าง เธอเข้ามาฉกฉวยโอกาสแบบนี้ได้ยังไง? ”
ปาณีออกอาการขาจนหยุดไม่อยู่” “ทำไมฉันถึงไม่รู้เลยว่า นภันต์มีแฟนแล้ว? ”
บาร์นี่ทำท่าเชิดคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจก่อนจะพูดกับ ปาณี : “มันก็แน่นอนอยู่แล้วสิเธอเป็นอะไรกับเขาล่ะทำไมเขา ต้องมาคอยรายงานเธอทุกเรื่องด้วย? ฉันคบกับเขามาปีกว่า แล้วฉันขอบอกเธอไว้ตรงนี้เลยว่าอย่าคิดที่จะมายุ่มย่ามกับ นภันต์เด็ดขาดจะบอกให้รู้เอาไว้ว่านภันต์เขารักฉันมาก! 11
เมื่อได้เห็นหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ากำลังพูดเองเออเองเป็น เป็นตะทำให้ปาณีนึกอยากจะฉีกหน้าเธอเสียจริงๆ แต่พอนึกๆไปถึงตอนที่ได้อยู่ต่อหน้านภันต์และพูดถึงความสัมพันธ์ฉันท์พี่สาว น้องชายของพวกเขาเชื่อได้ว่าสีหน้าของยัยบาร์นี่คงจะดูดีกว่านี้ แน่ๆ!
นึกมาถึงตรงนี้ปาณีก็ทำท่าถอนหายใจยาวออกมาอารมณ์ ของเธอค่อยๆผ่อนคลายลงก่อนจะพูดตบท้ายพร้อมกับเดินไป ข้างหน้าแบบไม่หันหลังกลับมามอง : “อ้อ? เธอก็คอยดูแฟน เธอเอาไว้ดีๆก็แล้วกัน!
บาร์นี่ได้ยินแบบนั้นก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงรีบเดินตามเธอไป ทันทีก่อนจะคว้าเสื้อของปาณีเอาไว้ได้แต่ปาณีกลับใช้สายตาอัน เย็นเยียบจ้องเขม็งไปที่เธอเพื่อปรามให้เธอหยุดผ่านไปชั่วขณะ หนึ่งบาร์นี่จึงพูดด้วยเสียงสั่นเครือว่า “ทางที่ดีเธอควรจะจําเอา ไว้! นภันต์เป็นของฉันและฉันจะไม่มีวันยอมให้ผู้หญิงหน้าด้าน ไร้ยางอายแบบเธอมายุ่มย่ามกับเขาเด็ดขาด! ”
สีหน้าของปาณีดูนิ่งลึกขึ้นมาทันที “ฉันก็อยากบอกเธอว่า เธอควรไปถามนภันต์ว่าเขาชอบเธอหรือเปล่าไม่ใช่ว่าถึงตอนนั้น กลายเป็นเธอคิดไปเองอยู่ฝ่ายเดียวแบบนั้นคงไม่สนุกแน่!
พูดจบปาณีก็ค่อยๆแกะมือที่จับเสื้อของเธอไว้ออกก่อนจะเดิน จากไปโดยไม่หันกลับมา
บาร์นี่มองดูปาณีที่เพิ่งจะโดนตัวเองด่าไปหยกๆแต่ยังทำหญิง ผยองอยู่ได้อีกบาร์นี่ยังไม่หยุดที่ตะโกนไล่หลังปาณี : “ปาณี คอยดูนะถ้าขืนเธอยังมายุ่มย่ามวุ่นวายกับนกันต์อีกล่ะก็เธอเจ อดีแน่!
ปาณีเดินสะบัดบ๊อบสวยๆ โดยไม่แยแสเธอเลยสักนิด
เธอไม่คิดจะหันหลังกลับไปมองเพราะไม่ต้องการที่จะเห็นหน้า ของบาร์นี่ที่อาจจะทำให้เธอกินข้าวไม่ลงได้เรื่องทั้งหมดนี้มันก็ เป็นเพราะนภันต์ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องพอนึกๆขึ้นมาปาณีก็รู้สึก โมโหขึ้นมาตงิดๆก่อนจะบ่นพึมพำกับตัวเอง “นายนภันต์คอย ดูเถอะ!
“ฮัดเช้ย! “ขณะที่นภันต์กำลังฝึกเล่นเกมอยู่นั้นจู่ๆก็จามขึ้น มาชยรพที่สภาพจิตใจยังไม่ค่อยเต็มร้อยก็กวาดตามองไปที่ นภันต์แวบหนึ่งก่อนจะถามเขาว่า “เป็นไรวะ? เป็นหวัดรึไง? ”
ชยรพเกาหัวตัวเองยิกๆก่อนจะพูดลอยๆขึ้นมา “ฉันก็ไม่รู้เห มือนกันว่ะสงสัยจะมีใครบ่นคิดถึงฉันล่ะมั้ง! ไม่มีอะไรหรอก
พอพูดจบเขาก็กลับไปจดจ่อกับการเล่มเกมต่อ
วันนี้ซยรพใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวสักเท่าไหร่เขามักจะเปิด เลื่อนๆดูมือถืออยู่บ่อยๆ ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้นที่โมรีทั้งโกรธทั้ง เสียใจจนหนีจากเขาไปเขาก็ไม่ได้เจอเธออีกเลยการที่โมรี พยายามจะหลบหน้าเขายิ่งทำให้จิตใจของชยรพเหมือนกำลังจม ดิ่งลงสู่ก้นเหวลึกลงไปเรื่อยๆ
ปาณีมองดูตารางเรียนของตัวเองช่วงบ่ายเธอไม่มีเรียนก็เลย ตัดสินใจที่จะไปหาส้มโอ
เธอหยิบมือถือออกมาโทรหาส้มโอ ส้มโอตอนนี้เธออยู่ ไหนอ่า? ”
“ปาณีเหรอ? ตอนนี้ฉันกำลังทำงานอยู่ที่ร้านกาแฟมีอะไรหรือ เปล่า? “ส้มโอมองดูโทรศัพท์ด้วยความสงสัย
ปาณีคิดๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนบอกเธอไปว่า “เธอรอฉันแป๊บนึง นะเดี๋ยวฉันจะไปหา
ส้มโอพยักหน้าก่อนจะวางสายไป
หลังจากนั้นไม่นานปาณีก็มาถึงที่ร้านกาแฟเธอโบกไม้โบกมือ ให้ส้มโอจากนั้นส้มโอจึงเดินเข้ามาหาเธอ “ไม่ทราบว่าคุณผู้ หญิงจะดื่มอะไรดีค่ะ? ”
ปาณีกำลังโดนเธอแกล้งหยอกเข้าให้แล้วเธอก็เลยเอานิ้วชี้ๆ ไปที่เครื่องดื่ม: “ลาเต้แล้วกันค่ะ”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ