ตอนที่626
เธอจ้องมองทัตธน รู้สึกช็อกอยู่บ้าง คน ช็อกด้วยเช่นกัน ก็คือธีระที่อยู่ด้านข้างอีกคน
ทัตธนดูเหมือนว่าจะรู้สึกตัวถึงการสูญเสียความควบคุมของ ตนเอง จึงหัวเราะขึ้นมา “อาจเป็นเพราะอ่านเรื่องคุณปาณีแล้ว รู้สึกว่าบนนั้นมีเงาของเธอสะท้อนอยู่มากมาย จึงอยากเอ่ยเรื่อง พวกนี้กับคุณปาณีขึ้นมา
เดิมที ทัตธนรู้สึกเห็นใจเวกัสเป็นอย่างมาก และยืนอยู่ฝั่งของ เวทัล
เขาเคยแทบอยากมาหาปาณีเพื่อพูดคุย เอ่ยปากแทนเวทส แต่หลังจากอ่านหนังสือของเธอ ความคิดกลับแปรเปลี่ยนเป็น
เช่นนี้
คาดหวังให้เธอกับธามนิธิได้อยู่ด้วยกัน
อาจเป็นเพราะอยากจะเติมเต็มจิตใจของตัวเอง ที่ต้องมา สํานึกเสียใจที่ไม่ได้ลงเอยกับคนคนนั้น
ปาณีถูกเสียงหัวเราะของเขาดึกสติกลับมา และเอ่ยขึ้น “อันที่ จริงวันนี้ที่ฉันมาหาคุณ ก็เพราะมีเรื่องที่จะบอกพูดกับคุณ
“งั้นหรือ?” ดธนเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย
ปาณีพยักหน้า “มีคนๆนึงที่รอคอยคุณมาอยู่ตลอด หวังว่าคุณจะไปหาเธอ ฉันไม่รู้ว่าเธอใช่คนๆนั้นของคุณใหม่ เพียงแต่ตอนนี้
เธอกำลังป่วย เธอชื่อของคุณไม่ได้ แต่ว่าเธอเห็นรูปคุณบน อินเตอร์เน็ตและเก็บมันไว้ในโทรศัพท์มาโดยตลอด
“คําพูดของปาณี ท่าอาคิ้วของทัตธรขมวดขึ้นมาอย่าง
ช้าๆ
ปามองดูเขาและเอ่ยต่อ “เธอชื่อพลอย ยังมี เธอเป็นคนบ้าน วิสิทธิ์เวช”
ตอนที่ปา เอ่ยชื่อนี้ออกมา ดวงดาของทัตธรก็แสดงถึงความ ตกใจขึ้นมา
เห็นที พวกเขารู้จักกัน
ปาณีนั้นเดิมทีคิดมาตลอดว่าจะเข้าไปยุ่งเรื่องนี้ดีหรือไม่ อาจเป็นเพราะดวงตาของทัดธนที่กระตุ้นเธอ จึงทำให้เธอ ตัดสินใจที่จะเอ่ยเรื่องนี้ออกมา
ถ้าหากพูดว่า เรื่องที่น่าเศร้าอันดับแรกของโลกก็คือการไม่มี ข้าวกิน ถ้าอย่างนั้น เรื่องน่าเศร้าเรื่องที่สองก็คงจะเป็นคนรักกัน แต่กลับไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้
อาจเป็นเพราะระยะนี้เธอมีความรู้สึกขึ้นมากับธามนิธิอย่าง ช้าๆ ยิ่งนานวันยิ่งอยากรักษาความสัมพันธ์นี้กับเขาเอาไว้ ดังนั้น เธอจึงมีความคิดเช่นนี้ขึ้นมา
ฟ้ามืดสนิท ปาณียืนอยู่สะพานลอย จ้องดูรถราที่ขับไปมา และ คิดถึงปฏิกิริยาตอบสนองของทัตธนขึ้นมา
หลังจากฟังเรื่องที่เธอเอ่ย ทัตธนก็ไม่ได้พูดอะไรขึ้นอีก มากมาย หลังจากนั้น
ปาเก็ไม่รู้เช่นกันว่าเขากำลังคิดอะไร แต่ถึงยังไง คำพูดที่เธอ ควรส่งไปถึงกึ่งแล้วเรียบร้อย
รถคันสีดำถูกจอดลงที่ข้างถนน ถามนิธิเปิดประตูและเดินลง มาจากรถ เห็นชัดว่าเธอยืนอยู่บนที่สูงกว่า แต่เขากลับมองหา เธอได้ภายในพริบตา
ตอนที่สบสายตาเข้ากับเขา ใบหน้าของปาณีก็แสดงรอยยิ้ม อันแสนน่ามองขึ้นมา
เธอหัวรองเท้าส้นสูงเดินลงมาจากสะพายลอยทีละสองสาม ก้าว ก่อนจะวิ่งลงจากสะพานลอยและไปยังตรงหน้าเขา ก่อนจะ เอ่ยขึ้นอย่างเขินอายอยู่บ้าง “คุณอา
แค่เห็นหน้าชามนิธิ ดวงตาของปาณีก็มีประกายวิบวับ ดูคล้าย แฟนคลับตัวยงก็มิปาน
วันนี้ธีระมีธุระรีบร้อนเล็กน้อย ปาณีจึงให้เขากลับไปก่อน และ โทรศัพท์ให้ธามนิธิมารับเธอ
หลังจากนั้นคุณอาก็มาจริงๆ
ธามนิยจ้องมองเท้าอันเปลือยเปล่าของเธอ คิ้วขมวดขึ้นมา ท่าทางอันเย็นชาของเขากับท่าที่อ่อนหวานน่ารักของเธอดูขัดกัน อย่างเห็นได้ชัด “ทําไมไม่สวมรองเท้าก็เดินลงมาแล้ว? เกิดบาด เจ็บที่เท้าขึ้นมาจะทำยังไง?
บนถนนใหญ่อะไรก็มีทั้งนั้น ยากที่จะหลีกเลี่ยงพวกเศษแก้ว อะไรพวกนี้ได้ ปาเอย “เจ็บเท้า วันนี้สวมส้นสูงมาทั้งวันแล้ว เหนื่อยแทบ
แต่เป็นเพราะต้องไปคุยเรื่องาน เธอจึงต้องใส่ชุดสุภาพ ขนาด ชุดสูททำงานเธอยังใส่ไปด้วย
ธามนิธินั้นถือลงเท้าที่เธอเคยใส่ทิ้งไว้ในรถตั้งแต่คราวที่แล้ว ลงมาด้วยตั้งแต่ลงมาจากรถ ก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ “ยก เท้าขึ้น
ไวยาตย์ยืนอยู่ด้านหนึ่ง มองเห็นคุณธามนิธิที่ปกติออกจะ ทำตัวอยู่สูงเสียดฟ้าปานนั้น กลับคุกเข่าลงตรงหน้าปาณีและ ช่วยเธอใส่รองเท้า ในใจก็รู้สึกช็อกอย่างที่ไม่มีอะไรมาเทียบได้
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ