ตอนที่612
ธามนิธิเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมาโดยตลอด ในจุดนี้เป็น เรื่องที่ไม่ต้องกังขาเลย
ในสายตาของจอมพลนเทพ ปาณีฉลาดกว่านลิน มีสุวรรณ์
อยู่มากโข
ช่วงที่ธามนิธิยังดีๆอยู่ นลิน มีสุวรรณ์ ก็แค่คอยให้เขามาเอา อกเอาใจตัวเอง น่าเสียดาย ทำอะไรให้ตั้งมากมาย แล้วได้ ประโยชน์อะไรขึ้นมา ?
ผู้หญิงคนนั้นไม่ผ่านบททดสอบเลยสักข้อ
ไม่มีทางที่เธอจะได้อยู่กับธามนิธิอย่างแน่นอน
สำหรับปาณี เธอไม่เพียงแต่เป็นคนฉลาด อุปนิสัยใจคอก็ดี กว่านลิน มีสุวรรณ์เป็นไหนๆ ดังนั้นไม่ว่าจะมองอย่างไร ปากก็ ควรที่ธามนิธิจะรักและใช้ชีวิตอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต ไม่ใช่ผู้หญิง อย่างนลิน มีสุวรรณ์
ปาณีและธามนิธิอยู่พูดคุยกับจอมพลนเทพอยู่ราวๆครึ่ง ชั่วโมง ท่านจอมพลคุยกับธามนิธิเยอะมาก และยังถามเขาว่า อยากจะกลับเข้ามาในกองทัพหรือเปล่า ซึ่งเขาก็ได้แสดง เจตนารมณ์ของเขาเองไปแล้ว
ท่านจอมพลรู้ดีว่ามันไม่ง่ายเลยสำหรับเขา และก็ไม่ได้บังคับ
เมื่อออกมาจากห้องของท่านจอมพล ปาณีรู้สึกสบายใจขึ้น เยอะ แถมได้ดื่มซาจนรู้สึกสดชื่นขึ้นมาก
เธอกอดแขนเขา แล้วกระซิบพูดเบาๆว่า : ” ตอนที่ถูกท่านไม่ ตะเพิดออกมาตอนนั้น ฉันก็ยังคิดอยู่ว่า หรือบ้านลินจะพูดถูก คิดไม่ถึงว่าก็แค่เป็นความเข้าใจผิดไปเอง ”
จอมพลนรเทพไม่เพียงแต่ไม่รังเกียจเธอ แต่ยังยกย่องชื่นชม เธออีกด้วย
ธามนิธิยิ้มให้เธอ เขาดึงมือเธอมากุมไว้ ก่อนจะพูดว่า ” ตอน นี้คุณสบายใจแล้วใช่มั้ย ? บอกแล้วว่าปาณีของผมน่ะดีที่สุด แล้ว
คนรอบข้างเขาต่างก็รู้ว่าเธอเป็นคนดี เพียงแค่เธอยังขาด ความเชื่อมั่นก็เท่านั้นเอง
” ดีก็ดีค่ะ แต่ตอนนี้ฉันอยากไปห้องน้ำมากเลย ” เมื่อสักครู่นี้ เธอดื่มชาเข้าไปเยอะมาก ถ้ายังไม่ได้ออกมาข้างนอก เธอก็คงจะ ทนไม่ไหวแน่ๆ
ธามนิธิหัวเราะออกมา ” ปะลงไปข้างล่างกัน ”
ทันทีที่พวกเขาเดินลงมาถึงชั้นล่าง ก็เห็นนลินที่กำลังรอพวก
เขาอยู่
บ้านลินพูดกับธามนิธิด้วยท่าทางดูมีความสุขปน เย้ยหยัน
– ” ฉันบอกแล้วไงว่าอย่าพาเธอไปพบท่านจอมพล จอมพล นรเทพไม่มีทางที่จะชอบเธอหรอก แล้วตอนนี้เป็นยังไง ?
ปาเจ๊ไม่ได้ตอบโต้อะไรเธอ ได้แต่มองไปที่ถามนิธิ ดูจากท่าทางบ้านดินแล้ว ปาณีรู้สึกขี้เกียจที่จะต่อปากต่อคำ กับเธอ
เธอคิดเพียงแค่ว่าตัวเธอเองนั้นโชคดีแล้ว จอมพลนเทพท่าน ก็เป็นคนใจดีมีเมตตา และท่านก็ไม่ได้รังเกียจเธอด้วย
มาจนถึงขนาดนี้แล้ว บ้านดินก็ยังมีวายตามมาเย้ยหยันใส่เธอ
อีก
ธามนิธิมองดูนลินด้วยแววตานุ่มลึกเยือกเย็น
เขามองดูผู้หญิงไร้ยางอาย ได้ทีขี่แพะไล่คนนี้ ก่อนจะพูดกับ เธอว่า : ” แต่ไม่เข้าเรื่อง ”
นลินทําเป็นแข็งใจพูดต่อ : ” ก็เพราะว่าฉันเป็นห่วงคุณหรอก นะ ถ้าคุณไม่ฟังฉันแล้วคุณก็จะเสียใจ ปาณีก็ต้องทุกข์ทรมานใจ ไปด้วยแน่ๆ จริงมั้ย ? ธามนิธิ เธอไม่เหมาะสมกับคุณตั้งแต่แร กอยู่แล้ว อีกทั้งตอนนี้พวกคุณก็หย่ากันแล้วด้วย ยังจะอยู่ด้วย กันอีกทําไม ”
คำพูดคำจาที่เธอพูดออกมาช่างไม่น่าฟังเอาซะเลย แต่กระนั้น เธอก็ยังจะสร้างภาพเหมือนเป็นคนดีเสียอย่างนั้น
ปาป๊อดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชมผู้หญิงคนนี้
ไม่รู้ว่าเธอไปรวบรวมความกล้าหน้าด้านมาจากไหน ถึงได้มา ยืนพูดกับคุณอาของเธอแบบนี้ ?
ปานสุดจะทน จึงสวนกลับไปแบบเจ็บๆว่า ” ถ้าไม่ให้คุณอา อยู่กับฉัน จะให้เขาไปอยู่กับคุณไง ? คุณเคยท่าอะไรกับเขาเอา ไว้บ้างลืมแล้วหรือไง มาตอนนี้ทำเป็นอยากจะกลับมาอยู่กับเขา หน้าด้านไร้ยางอายจริงๆ ”
ปาณีพูดโพล่งออกไปแบบตรงๆ แต่ก็อย่างว่า เธอไม่จำเป็น ต้องมานั่งรักษาภาพพจน์อะไรอยู่แล้ว
เธออยากพูดอะไร เธอก็จะพูด !
และเธอก็คิดว่า ไม่มีคำไหนที่มันไม่จริง
นลินได้ฟังที่ปาณีพูดจบ มือเธอก็กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ สุดขีด จนอยากด่ากราดใส่ปาณี
แต่เมื่อคิดได้ว่าเธอคือนลิน มีสุวรรณ์ เป็นถึงคุณหนูแห่ง ตระกูลมีสุวรรณ์ ไม่ใช่คนหยาบคายต่ำต้อยเยี่ยงปาณี นลินจึง ทําได้แค่เพียงควบคุมสติอารมณ์ของตัวเองไว้
นลินชักจะเริ่มเกลียดสถานะและตัวตนของเธอเองมากขึ้นทุก
วัน
ถ้าหากเธอทำอะไรโดยไม่รู้จักยั้งคิดแล้วล่ะก็ ปาณีคงหมด สิทธิ์ที่จะพูดใส่เธอบ่าวๆแบบนี้แน่ๆ
แต่นั่นดันเป็นเพราะว่า เธอเป็นถึงคุณหนูแห่งตระกูลมีสุวรรณ์ เมื่ออยู่ในสถานที่แบบนี้ แล้วเธอเกิดไปโต้เถียงกับยัยเด็กปาขึ้นมา คนที่เสียก็คงเป็นตัวเธอเองอยู่วันยัน
นลินพูดยืนกรานขึงขังต่อไป : “ปาณี ฉันก็หวังดีกับเธอ หรอกนะ ถ้าเธอไม่ฟังที่ฉันพูด สุดท้ายแล้วคนที่เสียใจก็คือเธอ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ