ตอนที่ 896 ลังเล
ตะวันใกล้จะลาลับขอบฟ้า ขณะที่ธามนิธิตัดสินใจปฏิเสธนัด เลี้ยงอาหารมื้อค่ำของวันนี้ ตอนนั้นแสงไฟตามท้องถนนก็เริ่ม ระยิบระยับส่องสว่างไสวไปทั่วเมืองแล้ว
เขานั่งอยู่ในรถ มองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง และคิดในใจ ว่าตัวเขาเองไม่เคยรู้สึกรีบอยากกลับบ้านขนาดนี้มาก่อนเลย
ครั้งหนึ่งในอดีต เขาเคยให้นิยามของคำว่า ” บ้าน ” เอาไว้ว่า บ้านคือที่สำหรับกินข้าวและเอาไว้พักผ่อนเพียงเท่านั้น แต่หลัง จากที่มีปาณีเข้ามาอยู่ในชีวิตของเขา ทุกๆวันเขาได้แต่เฝ้ารอที่ จะได้กลับบ้านขอแค่เพียงได้กลับไปเห็นหน้าเธอ แค่นั้นเขาก็มี ความสุขมากแล้ว
” ไวยาตย์ ขับรถวนไปที่ร้านเบเกอรี่ที่ชื่อ Garden Bakery หน่อย ! ” ธามนิธินึกขึ้นมาได้ว่าปาณโปรดปรานเค้กร้านนี้มาก จึงสั่งให้ไวยาตขับวนไปซื้อสักหน่อย
ไวยาตย์เหลือบไปมองเจ้านายแวบหนึ่งก็รู้ใจเขาทันที เขาได้ แต่แอบอมยิ้มอยู่เงียบๆ
เมื่อธามนิธิกลับมาถึงบ้านก็ต้องแปลกใจว่าบ้านนั้นมืดสนิท ท่ามกลางความตกตะลึง ธามนิธิรีบวิ่งเข้าบ้านไปทันทีโดยไม่ทัน ได้พูดจาใดๆกับไวยาตย์
เมื่อได้เห็นเจ้านายของเขาวิ่งพรวดออกไปแบบนั้น ไวยาตย์เอามือขยี้ปลายจมูกตัวเองพร้อมกับบ่นพึมพำ ” ฉันชักจะเริ่ม อิจฉาชีวิตของท่านประธานธามนิธิขึ้นมาแล้ว ! ก่อนนี้ ไม่ใช่ว่า อยากจะครองตัวเป็นโสดหรือยังไงกันนะเรา ? ”
คิดไปคิดมา ไวยาตย์ที่หลังๆมานี้ไม่ค่อยได้ไปไนท์คลับบ่อย นัก ตัดสินใจเลี้ยวรถกลับก่อนจะมุ่งหน้าตรงไปยังคลับที่มีชื่อ เสียงที่สุดของเมืองชยุต ในทันที
“ปาณี ! ฉันกลับมาแล้ว ! ” ทันทีที่ธามนิธิเข้าไปในบ้าน ก็ รีบร้องตะโกนหาปาณี แต่กลับไม่มีเสียงใดๆตอบรับกลับมา
เขาวางกล่องเค้กลงก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นบน จากนั้น จึงได้เห็นแสงไฟที่ส่องแสงสลัวๆจากในห้องนอน ธามนิธิรู้สึก โล่งใจ ก่อนจะค่อยๆเดินไปที่ข้างเตียง
ได้เห็นว่า กำลังนอนหลับฝันหวานอยู่บนเตียง โดยที่มือของ เธอยังคงวางนิ่งอยู่บนท้องน้อยๆ ภาพของหญิงสาวที่กำลังนอน หลับตาพริ้มอยู่ในห้วงนิทรา ทำให้แววตาของสามนิธิพลันอ่อน โยนขึ้นมาในทันใด
ภายใต้ท้องอันแบนเรียบนั้น คือหน่อเนื้อเชื้อไขของเขาและ เธอ ที่กำลังจะได้ก่อกำเนิดเข้ามาเติมเต็มในชีวิตของพวกเขาใน อีกไม่นานหลังจากนี้ จะว่าไปแล้ว ธามนิธิก็เฝ้ารอคอยอย่างใจ จดใจจ่อว่า ในท้องของเธอจะเป็นเจ้าหญิงหรือเจ้าชายองค์น้อยๆ กันแน่ แต่ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย เขาก็พร้อมที่จะทะนุถนอม มอบความรัก และเฝ้าฟูมฟักเลี้ยงดูพวกเขาไปจนเติบโต
เพราะหัวใจดวงน้อยๆดวงนี้ ถือเป็นโซ่ทองคล้องใจ และยังเป็นพยานแห่งสำหรับเขาทั้งอีกด้วย
ชายหนุ่ม โลมไล้ตามเส้นผมของเธอ ก่อนจะสังเกตได้ว่า ขนยาวหนาราวปีกนกของเธอกำลังกระพริบๆตื่นนอน
” คุณกลับมาแล้วเหรอคะ “ทันทีที่ลืมตาได้เห็นตาแสนอ่อนโยนกำลังมองมาตื่นถูกดึงเข้ามาอ้อมกอดอันแสนอบอุ่น
เมื่อเห็นลูกแมวน้อยจอมขี้เกียจกำลังซุกตัวอ้อนอยู่แขน ทําเอารามนิธิจิตใจอ่อนระทวยจนแทบจะละลาย แล้วอ ยู่เขาก็นึกเค้กอยู่ล่างขึ้นมาได้ เขาส่งให้เธอพลาง พูดอารมณ์ดี ” ยังไม่ได้กินข้าวให้เธอแน่ะ ”
พูดจบเขาก้มลงไปช่วยใส่รองเท้าให้เธอ ก่อนจะประคองเธอ เดินลงข้างล่าง
” อะไรอ่ะ? ธามนิธิ ก็อดจะหัวเราะออกมาไม่ได้
“ชูววววว ! ความลับน่ะ ” ธามนิธิดูท่าทางอารมณ์แต่ พูดจาเหมือนลับลมคมใน
ปาณีเดินไปหัวเราะไปขณะเดินตามเขาเข้าไปในห้องครัว พอตาพลันเหลือบไปเห็นกล่องเขียนว่า Garden ร้องดีใจ ” สตรอ เบอร์รี่เค้ก ของโปรดของฉันใช่มั้ยคะ ”
” เจ้าแมวจอมตะกละ | จมูกไวเชียวนะเรา ! ” เขาบีบปลาย จมูกของเธอเบาๆ พร้อมทั้งส่งยิ้มให้เธอ ” ฉันล่ะไม่รู้จะทำยังไง กับเธอ รีบกินเถอะ ”
ปาณีแกะกล่องเค้กออกโดยแทบจะไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ใดๆ จากนั้นก็จ้างเค้กเข้าปากกินตุ้ยๆๆ เพราะตั้งแต่ช่วงบ่าย หลังจากที่ถูกเวทัสกวนประสาท เธอก็นอนหลับปุ๋ยไปทั้งๆที่ยังไม่ ได้กินอาหารเย็น
เมื่อได้เห็นเธอกินอย่างเอร็ดอร่อย ธามนิธิก็มองไปยิ้มไป แถม ยังคอยเช็ดปาก เปื้อนครีมเนยให้เธออยู่ตลอด
จนเมื่อเธอกินอย่างอิ่มหนำเปรมปรีดิ์พร้อมกับวางซ้อมลงนั้น เธอก็สะดุ้งตกใจที่พบว่าเธอสวาปามเค้กทั้งก้อนเข้าไปจนหมด เกลี้ยง ” โอ๊ย ตายแล้ว !
เกิดอะไรขึ้น ! ” ธามนิธิที่กำลังเก็บจานเก็บร้อมอยู่ พอได้ 11 ยินที่เธอร้องก็ไม่สนใจสิ่งที่อยู่ในมืออีกแล้ว เขาพุ่งตัวออกมา จากในครัวอย่างรวดเร็ว แล้วรีบคว้ามือเธอมาดู ” เกิดอะไรขึ้น ปาณี ? ”
ปาณีส่ายหน้าอย่างอายๆ ก่อนจะพูดเสียงอ่อย ” ฉันก็แค่รู้สึก ว่า ตัวเองน่ะกินเยอะเกินไปแล้ว ! ”
เมื่อธามนิธิได้ยินที่เธอพูดก็ถึงกับถอนหายใจออกมาเบาๆ ด้วยความโล่งใจ ก่อนจะหันไปปลอบใจเธอว่า ” ไม่เป็นไรหรอก ช่วงท้องเธอต้องได้รับสารอาหารที่เพียงพอ เพื่อที่ลูกในท้องจะ ได้แข็งแรงนะ ”
แต่ถึงแม้ว่าธามนิธิจะปลอบใจเธอยังไง เธอก็ยังรู้สึกกังวลใจ อยู่ดี” คุณอยากให้ฉันกลายเป็นผู้หญิงอ้วนเผละหรือยังไงกัน คะ ? ถ้าเป็นแบบนั้น ฉันคงไม่มีหน้าออกไปพบเจอผู้คนแน่ๆ ”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ในสายตาของฉันเธอสวยที่สุดเสมอ ” ธา มนิธิกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลึก
แต่ไหนแต่ไร ปาณีไม่เคยได้ยินธามนิธิพูดคำหวานแบบนี้มา ก่อน ทำให้เธอถึงกับนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง และด้วยท่าทางชะงักงัน ของปาณีทำให้ธามนิธิรู้สึกเขินอาย เพราะเขาไม่เคยพูดจา หวานๆเยินยอเธอแบบนี้มาก่อน
ธามนิธิได้ทีเลยรีบเดินหน้าหยอดคำหวานใส่ปาณีเป็นการ ใหญ่ ” ปาณี เธอน่ะสวยมากอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องไปลด ความอ้วนอะไรเลย หุ่นเธอตอนนี้ก็กำลังดูดีแล้วนะ ชีวิตที่ดีมัน ต้องมาพร้อมกับสุขภาพที่แข็งแรง เราจะได้มีพลังที่จะก้าวไปถึง เป้าหมายในชีวิตของเราไง ”
คุณอา …… ” ปาณีมองหน้าคุณอาด้วยความตื้นตันใจ แต่ เมื่อเห็นแวบหนึ่งของธามนิธิที่ดูคล้ายกับเวทัสหลานชายของเขา ทำให้เธอนึกถึงเหตุกาณ์เมื่อตอนช่วงบ่ายขึ้นมา ปาณีรู้สึกลังเล ไม่รู้ว่าจะคุยเรื่องนี้กับคุณอาอย่างไรดี ” เอ่อ คุณอาคะ ฉัน
ทันใดนั้น มือถือของธามนิธิก็ดังขึ้น เขาหันไปทำท่าทาง โบกมือให้ปาณีก่อนจะลุกขึ้นเดินไปที่ริมหน้าต่าง พร้อมกับรับ สายโทรศัพท์
เมื่อมองดูเบื้องหลังของร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงนั้น ปาณีรู้สึกละล้าละลังจะบอกคุณอาเรื่องที่เวทสล่วงเกินเธอวันเพราะ เกรงว่าจะกระทบความสัมพันธ์น้าหลานของพวกเขา ไหนจะน วิภาที่จะต้องเป็นคนกลางสำหรับเรื่องนี้ อาจทำให้เธอต้อง ลําบากใจเป็นได้
แล้วคุณแม่ของธามนิธิผู้หญิง ใจง่ายปล้อนหรือเปล่า ? ถ้าเป็นนั้นขึ้นมา เธอ กับอาอาจจะถึงคราวที่ต้องหย่าขาดจากกันจริงมั้ย ?
เมื่อนึกถึงความเศร้าโศกเสียใจหลังจากได้ยินหย่าในคราวนั้น ปาณีไม่จะอีกเป็นแน่
ตั้งแต่วันต้องแยกจากคุณอาในวันนั้น ทำให้รู้ใจตัวเอ แล้วว่าเธอรักธามนิธิมากแค่ไหน มันไม่เกี่ยวกับข้อตก ลงการแต่งงานจอมปลอมนั้นแล้ว บัดนี้สิ่งปาณีต้องการ ก็ คือการอยู่เคียงข้างเขาในระหว่างพวกเขาทั้งสองคน จนกลายเป็นความผูกพันอันแข็งแรง และเปี่ยมไปด้วยความสุข
ช่วงเวลาแบบเป็นที่ก่อนปาณีแม้แต่จะกล้าฝัน แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับดูเหมือนกลายเป็นจริงดั่งเธอเคยเอาแล้วใยถึงคิดจะทำลายความฝันอันสวยงามมือของเธอเองล่ะ
หลังจากกำลังนั่งหน้ามึนใจลอยอยู่ตรงนั้น เขาร้องเรียกเบาปาณี ? ปาณี เธอกำลังคิดอะไรอยู่น่ะ ? ”
ทว่าปาณียังคงนั่งเหม่อลอยนิ่งเงียบ ไม่ไหวติง
ธามนิธิยิ้มพลางสายหัวเบาๆ ก่อนจะจุมพิตไปบนหน้าผากของ เธอหนึ่งที จากนั้นปาณีก็เหมือนจะได้สติกลับคืนมาอีกครั้ง ธา มนิธิหัวเราะออกมาเบาๆ ” ยัยตัวแสบ ! ที่แท้ก็กำลังรอให้ฉัน ปลุกเธอด้วยจูบอย่างนั้นเหรอ ? หรือว่า เธอกำลังคิดถึงฉันอยู่ ใช่มั้ยล่ะ ? ”
ใบหน้าของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เธอไม่คิดว่าคุณอา จะพูดแบบนี้ขึ้นมา ในยามหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้
แต่เพราะความหวาดหวั่นกังวลใจเมื่อสักครู่ ทำให้ปาณีไม่มี อารมณ์ที่จะพูดอะไรต่อไป เลยยกมือขึ้นมาขยี้ตาตัวเองเบาๆ พร้อมกับพูดเสียงแผ่ว ” ฉันเหนื่อยแล้วอ่ะค่ะ อยากกลับขึ้นห้อง แล้ว ”
ธามนิธิได้ยินดังนั้นก็รีบลุกขึ้นไปประคองเธอเดินขึ้นไปข้างบน แต่เมื่อเดินไปได้ครู่หนึ่งเขาก็หยุดกึก ปาณีหันไปมองเขา อย่างไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
” เออจริงสิ วันนี้คุณแม่ไม่กลับมาแล้ว เดี๋ยวฉันไปล็อคประตู ก่อน เธอรออยู่ตรงนี้นะ ” พูดจบธามนิธิรีบเดินตรงไปที่ประตู ทันที
แต่จังหวะนั้น ธามนิธิบังเอิญเหลือบไปเห็นกล่องของขวัญวา งอยู่แถวประตู เขาเลยถามขึ้นมาด้วยความสงสัย ” ปาณี ช่วงบ่ายมีแขกมาที่บ้านด้วยเหรอ ?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ