ตอนที่ 583
” ถ้าอย่างนั้น มีอะไรที่คุณปาณีพอจะทําเป็นบ้างล่ะคะ ? ” นลิน ทําเป็นมองหน้าปา ด้วยความสงสัย
ปากก็พูดเหมือนจะสงสัย แต่ที่จริง ก็ตั้งใจที่จะเย้ยหยันใส่ ปาณี ว่าอะไรๆเธอก็คงทำไม่เป็นทั้งนั้น แต่กลับทำตัวเพ้อฝันคิด อยากจะอยู่กับธามนิธิ
เธอมีสิทธิ์อะไรถึงกล้าคิดแบบนั้น ?
ปาณีนิ่งเงียบไม่ตอบโต้ได้แต่มองหน้านลินอย่างเงียบๆ เธอรู้ดีว่า ไม่สามารถเอาตัวเธอเองไปเปรียบเทียบกับคน อย่างนลิน มีสุวรรณ์ได้
สมัยก่อน นลิน มีสุวรรณ์ก็เคยได้รับสมญานามมาตลอดว่า เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในเมืองชยุต
นลินหัวเราะออกมาเบาๆ : “แหม่ ถ้าทำให้คุณปาณีรู้สึก
ประหม่าแบบนี้ ถ้างั้นก็ถือว่าเมื่อสักครู่นี้ดิฉันไม่ได้พูดอะไรออก
ไปก็แล้วกันนะคะ ! ”
เธอก็แค่อยากจะให้ปาณีได้รู้ตัวเองว่า เธอกับธามนิธินะแตก ต่างกันขนาดไหน จะได้ไม่ต้องมาปรากฏกายอยู่เคียงข้างสามนิธิ
อย่างไรก็ตาม เมื่อปาณีได้ยินประโยคนั้นของนลิน มีสุวรรณ์เธอก็เลยลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ ถ้าหากคุณนลิน มีสุวรรณ์อยาก ฟังมากขนาดนี้แล้วฉันปฏิเสธ ก็คงจะผิดแปลกมนุษย์มนาทั่วไป เกินไปหน่อย จริงมั้ยคะ ? ”
นลินยืนตัวแข็งทื่อ นั่นหมายความว่า ปาณีตอบตกลงอย่างนั้น หรือ ?
ยังไม่ทันรอให้นลินได้เอ่ยปากพูดอะไรต่อ ปาณีก็เดินไปถึง เปียโนและนั่งลงตรงนั้นเรียบร้อย
ธามนิธิก็ได้เห็นฉากนี้แล้วด้วยเช่นกัน สายตาเขาจดจ้องไปที่ ปาณี
นลินก็มองจ้องไปที่เธอ และไม่เชื่อว่าปาณีจะเล่นเปียโนได้ จริงๆ
เพราะก่อนหน้านี้เธอก็รู้เรื่องของปาณีอย่างชัดเจนมาโดย
ตลอด
และไม่มีวันเชื่อว่า ผู้หญิงอย่างปาณีจะเล่นเปียโนเป็นจริงๆ
ในวินาทีนั้น ทุกคนก็ได้เห็นปาณีบรรจงวางนิ้วเรียวยาวของ เธอลงบนคีย์บอร์ดเปียโน จากนั้นก็เริ่มบรรเลงด้วยความสงบ สุขุมเยือกเย็น
ชั้นบนของสวนจตุจักร ยังมีเปียโนที่ธามนิธิเคยซื้อให้เธอตั้ง วางไว้อยู่ ทุกๆสัปดาห์จะมีครูมาสอนเปียโนให้แก่เธอ และธา มนิธิเองก็มักจะสอนเธออยู่บ่อยๆ ด้วย
แต่หลังจากที่เธอหย่ากับธามนิธิแล้ว ปาณีก็ไม่ได้เล่นเปียโนอีกเลย
ปาณีคิดถึงไม่เลยว่า นลินคิดว่าจะใช้เรื่องเปียโนเพื่อทำให้
เธอต้องรู้สึกลำบากใจแบบนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อน ปาณีคงจะเสร็จกับดักของนลินแน่ๆ แต่ทว่า ตอน นลินดูจะคิดมากไปจริงๆ
ปากกลับไม่คิดว่าตัวเธอเองคู่ควรกับคำสบประมาทเย้ยหยัน ของนลินเอาซะเลย
เธอไม่ได้ไร้พรสวรรค์ซะหน่อย เธอแค่ไม่มีโอกาสก็เท่านั้นเอง
ถ้าหากเธอมีโอกาสได้ร่าเรียน เธอก็อาจจะไม่ได้แย่กว่าคน อื่นๆซะด้วยซ้ำ
หากแต่เพียงเพราะว่า เธอไม่ได้เกิดมาเยี่ยงคุณหนูตระกูลมีสุ วรรณ์ ที่เกิดมาพร้อมกับทุกสิ่งที่เพียบพร้อม ทำให้เธอต้องมา โดนดูถูกเหยียดหยามอย่างนั้นหรือ ?
ยิ่งนลินทำแบบนี้กับเธอ กลับทำให้เธอรู้สึกขบขันมากขึ้นไป อีก
เมื่อบทเพลงแรกบรรเลงจบไป ปาณีจึงลุกขึ้นยืนแล้วเดินไป ทางนลินที่อยู่ข้างๆ ก่อนจะยิ้มออกมาเบาๆ ” คุณนลินพอ ใจแล้วรึยังคะ ? ”
นลินทําหน้าเหวอ ” นี่เธอเล่นเปียโนเป็นด้วยเหรอ ? ปาณีพูดพลางเลิกคิ้ว ” นี่ก็เป็นเพลงในสิทธิบัตรของคุณนลินด้วย ไชยคะ ? ”
นลินตอบไปว่า ” เมื่อก่อนเธอเล่นไม่เป็น ”
ปาณีไม่รู้ว่านลินไปได้ยินที่ไหนมา แต่เมื่อก่อนเธอก็เล่นไม่เป็น จริงๆ
ปาณีเปลี่ยนการแสดงท่าทางเป็นสีหน้าอันเคร่งขรึม ” ใช่ค่ะ เมื่อก่อนฉันก็เล่นไม่เป็นหรอกค่ะ ฐานะของบ้านฉันไม่ดีพอที่จะ ส่งให้ฉันไปเรียน และแม่ของฉันก็ไม่มีปัญญาที่จะซื้อเปียโนให้ ฉันหรอกค่ะ เพราะแม่ฉันไม่มีเงิน สำหรับครอบครัวของฉันแล้ว การได้มีข้าวกิน ได้เรียนหนังสือ แค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้วล่ะค่ะ แต่ ว่าอะไรที่แต่ก่อนฉันทำไม่เป็น ฉันก็ค่อยๆศึกษาเรียนรู้ไปในภาย หลังได้นี่คะ ไม่เห็นมันจะน่าละอายตรงไหน ? จริงมั้ยคะ คุณทัด
พูดจบ ปาณีก็หันไปมองที่ทัดธน
ถ้าหากจะเปรียบว่านลิน มีสุวรรณ์ คือดอกกุหลาบในสวนหรูที่ งามพริ้งพราย ปาณีก็คงคล้ายกับเป็นดอกหญ้าป่า ที่ผลิดอกเบ่ง บานในฤดูใบไม้ผลิ
หญิงสาวที่มองดูแสนจะบอบบาง แต่กลับไม่ย่อท้อที่จะฟันฝ่า อุปสรรค
ยิ่งทำให้ผู้คนอยากจะปกป้องทะนุถนอมเธอ : ” อืม ไม่มีใคร ที่เก่งมาตั้งแต่เกิดหรอก ต้องเกิดมาแล้วถึงค่อยทำสิ่งนั้นได้ คน เราก็ต้องมีการศึกษาเรียนรู้ ต้องอยู่ไปจนแก่เฒ่า คุณปาณิสติ ปัญญาช่างเฉียบคม ”
เมื่อสักครู่ตอนที่ได้เห็นปาณีถูกนลินรังแกอยู่นั้น ทัดชนก็รู้สึก แอบเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน เพราะนอื่นต้องรู้อยู่แก่ใจดีอยู่แล้วว่า ปาเล่นเปียโนไม่เป็น ถึงได้พยายามเอาเรื่องนั้นมาจี้จุดเธอ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ