ตอนที่ 581

เป็นเพราะว่าเขาไม่รู้จริงของปาณี เด็กสมาร์ทก็เลยแนะนำเธอ

ด้วยชื่อที่เธอใช้ในโลกโซเชียล พอได้ยินชื่อแอนเดรีย ทัตธน ชะงักไปชั่วครู่ และหันไปมองที่

ปาณี

สำหรับนายทัดธน นอกเหนือจากที่ปาณีเคยพูดไว้แล้วนั้น เขา ยังมีสถานะอื่นอีกด้วย เขาเป็นอาของเวกัส และเป็นน้องชายของ นพรุจ

ในขณะเดียวกัน บริษัท เอ็มก็ถือเป็นบริษัทย่อยภายใต้การ ดำเนินงานของบริษัทยูจี ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนจำกัด

เพราะว่าก่อนหน้านั้น มีข่าวลือแพร่สะบัด ในโลกโซเชียลว่าแอ นเดรียออกมาแฉ นลิน มีสุวรรณ์ แล้วยังแฉเรื่องชู้สาวของชลธี อีก บริษัท เอ็มก็ได้รับผลกระทบไปไม่น้อย

เมื่อไม่กี่วันก่อน ทางบอร์ดบริหารบริษัทก็พากันพูดถึงเรื่องนี้ ไม่หยุดหย่อน เรื่องส่วนตัวของพ่อลูกบ้านมีสุวรรณ์ลามมาถึง บริษัท ทำให้คณะกรรมการบอร์ดบริหารรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่าง มาก

ต่อมาได้ยินว่า ทั้งๆที่รู้ว่าผิดแต่ชลธีก็ยังจะทำ เขาพาผลิดา เข้ามาอยู่ในบ้านมีสุวรรณ์ด้วย ซึ่งทัตธนก็เป็นคนเข้ามาจัดการ เรื่องนี้
ในวันหยุดสุดสัปดาห์ผลตาก็ได้ถูกพาตัวไปทำแท้ง สําหรับชลธีแล้ว ทัตธนถือว่าเป็นคนที่พูดจาอะไรก็มักจะมีน้ำ หนักเสมอ

และจากที่ธามนิธิได้ปะติดปะต่อเรื่องราวดูแล้วนั้น ถ้าหาก ไม่ใช่ทัดบนแล้วล่ะก็ ป่านนี้บริษัทบีเอ็มจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้

จนถึงตอนนี้ ข่าวคราวบนโลกโซเชียลเรื่องที่ชลธีไปมีชู้กับคน อื่น มันได้ผ่านช่วงที่เรียกว่าอื้อฉาวจนกลายเป็นประเด็นร้อนแรง ไปแล้ว ทุกวันนี้คนเริ่มพูดถึงเรื่องนี้น้อยลงๆ นั่นก็เป็นผลมา จากการใช้เส้นสายของเขาทั้งนั้น

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ ได้ยินมาว่า แอนเดรียนั้นเป็นผู้ชาย แต่ที่จริงแล้วกลับกลายเป็นผู้หญิงซะ ได้ ?

ปาณีมองไปที่ทัตธน เธอพูดกับเขาด้วยท่าที่ค่อนข้างประหม่า

“สวัสดีค่ะ ”

หลังจากที่มีข่าวเรื่องชลธีออกมา ปาณีถึงได้รู้ว่าที่แท้บริษัท เอ็มก็เป็นของบ้านมีสุวรรณ์นี่เอง

และเพิ่งได้รู้ว่าบ้านมีสุวรรณ์นั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน รวมไปถึง สถานะของเธอกับธามนิธิเองก็มีความแตกต่างกันมาก แต่เธอก็รู้ว่าทัดธนนั้นไม่เหมือนกับนลิน มีสุวรรณ์ อย่างน้อยๆ สิ่งที่เขาทำลงไป ก็เพื่อธุรกิจของเขา
ทัตธนมองมาที่ปาณี เขารู้ดีว่าเธอเป็นใคร-ภรรยาของเขา มมิชิ ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าอดีตภรรยาถึงจะถูก

เมื่อตอนที่สามนิธิแต่งงาน เขาก็ได้ให้คนจัดการเรื่องขอ งงานแต่ง แต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้มาร่วมงาน และในตอนท้ายก็เห็น ในรูปที่คนอื่นๆแชร์กัน

ทัดธนยื่นมือออกไปอย่างสุภาพ และพูดกับปาณี ” สวัสดีครับ ได้ยินชื่อเสียงของคุณมานาน ยินดีที่ได้พบนะครับ

เขาเป็นผู้ชายวัยสามสิบกว่าๆ นิ้วมือเรียวยาว มองดูสะอาด สอ้าน ท่าทางสุภาพสำรวม และดูภูมิฐาน

ตัวจริงเขาดูดีมีสง่ามากกว่าที่เคยเห็นในทีวี

ถูกเขายกย่องชื่นชมเอาแบบนี้ ยิ่งทำให้ปาณีทำตัวไม่ถูก – ฉันเองค่ะ เมื่อนานมาแล้วฉันเคยดูคุณทัตธนกล่าวสุนทรพจน์ ออกทีวีด้วยค่ะ”

เมื่อเปรียบเทียบกับนพรุจที่ไม่เคยปรากฏตัวต่อสาธารณะแล้ว ทัดธนก็จัดอยู่ในระดับแนวหน้าที่มักจะโลดแล่นปรากฏตัวอยู่ ตามหน้าจอทีวี รวมไปการเป็นบุคคลสำคัญที่มักจะขึ้นหน้าหนึ่ง นิตยสารรายสัปดาห์อีกด้วย

และยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นเบอร์หนึ่งของท่านประธาน ที่ เป็นขวัญใจสาวๆ และมีสาวๆอยากจะแต่งงานด้วยมากที่สุด

อย่างนั้นเหรอ ? แล้วผมพูดอะไรไปบ้างนะ ? ” ท่าทางของ ทัตธน ดูไม่มีท่าทีวางมาดหรืออวดเบ่งแต่อย่างใด แต่ตัวเขาเองก็จัดเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นที่จับตามองในอันดับต้นๆของ ประเทศ ทำให้ผู้คนต่างก็เคารพยำเกรง

ปาณีตอบเขาว่า “คุณพูดว่า เมื่อคนเราอยากได้สิ่งใด ก็ต้อง กล้าคิดกล้าหา ถ้าหากสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ตัวเองไม่กล้าแม้แต่จะคิด ก็คงไม่มีใครเอามาวางประเคนไว้ให้ตรงหน้าหรอก และเพราะ คุณนี่เอง ถึงทำให้ได้ฉันรู้ว่าอะไรคือกฎแห่งแรงดึงดูด ”

” อย่างนั้น ? ทัตธนหัวเราะชอบใจ ” ดูแล้ว คุณน่าจะเป็นคน ที่ชอบนำความรู้และประสบการณ์จริงมาเขียนเป็นเรื่องราวสินะ ”

” ใช่แล้วค่ะ ” ปาณีพูดต่อไป ” คำพูดเหล่านั้นของคุณ มี อิทธิพลต่อฉันมากเลยค่ะ ”

เมื่อตอนที่เธออยู่ ม.3 ซึ่งเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อของเธอนั้น คำ พูดของทัดธนเปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์ที่เข้าไปปลูกฝัง บ่มเพาะ อยู่ในจิตใจของเธอนับตั้งแต่นั้นมา

ในบางครั้งที่เธอรู้สึกว่าชีวิตท้อแท้ไม่รู้จะไปต่อทางไหน แต่ เมื่อนึกถึงคำพูดของเขา มันทำให้เธอมีแรงบันดาลใจที่จะก้าวต่อ ไปอีกครั้ง

มิเช่นนั้น เมื่ออยู่ภายใต้อิทธิพลความคิดของฝนสิริ ปาณีก็ไม่รู้ ว่าเธอจะเลือกทางเดินชีวิตในแบบไหนไปแล้ว