ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีไหน ก็ต้องปลุกเธอให้ตื่น
ในยามนี้ ปาณียังคงนอนฝันหวาน จูบที่แสน อบอุ่น ประทับลงบนริมฝีปากเธอ เขาโอบกอดเธอ ความหาความหวานในปากของเธออย่างดูดดื่ม
สักพักหนึ่ง ปาณีก็เบิ่งตาโพลง เพิ่งจะรู้ตัวว่า ธามนิธิปลุกเธอให้ตีนโดยการจูบเธอ
คุณอาชอบใช้วิธีแบบนี้ทำให้เธอลุกจากเตียง นอน ดูเขาสนุกกับมันมาก
ปาณีมองเขาด้วยตาที่ยังพร่ามัว ยื่นแขนออก ไปโอบกอดเขาอย่างรักใคร่ ซบหน้าลงบนหน้าอก เขา เสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายของเขา ให้ความรู้สึกสบายยิ่ง นัก
ธามนิธิกอดเธอไว้ รู้สึกอยากได้การสัมผัส จากเธอมากกว่านี้
แต่เวลาไม่อ่านวยเอาเสียเลย
เขาพูดว่า “ยังไม่ลุกจากเตียงอีก?”
“กี่โมงแล้วคะ?” ปาณียังคงหลับตา รู้สึกอยาก นอนต่ออีกหน่อย
ธามนิธิบอกเวลาแก่เธอ มองเด็กสาวที่อยู่ใน อ้อมกอด ลูบไล้ไปตามผมอ่อนนุ่มของเธอ “เที่ยงนี้ ทานข้าวกับฉันไหม?”
ปาณีเงียบไปสักพักจึงตอบว่า “ไม่ได้ค่ะ คุณ ยุ่งขนาดนั้น จะลําบากคุณเปล่าๆ
“ไม่เป็นไร” ธามนิธิบอก “ถึงตอนนั้นฉันจะให้ คนขับรถมารับเธอ”
นอกจากวันหยุดสุดสัปดาห์แล้ว พวกเขาไม่ เคยได้ทานข้าวกลางวันด้วยกันเลย บางครั้งแม้แต่ มื้อเย็นก็ยังต้องแยกกันทาน
เขางานยุ่ง เธอก็งานยุ่งเช่นกัน
กลายเป็นคู่สามีภรรยาที่ไม่สามารถหาเวลา อยู่ใกล้ชิดกันได้
ทว่า ถ้ามีเวลาแล้วล่ะก็ ธามนิธิก็จะทุ่มเทเวลา ทั้งหมดให้กับสุดที่รักของเขา
ปาณีตอบว่า “ก็ได้ค่ะ”
ธามนิธิช่วยหยิบเสื้อผ้าให้ปาณี
“ยกแขนขึ้น” ปาณีได้ยินที่ธามนิธิบอก ก็ยก แขนขึ้นอย่างว่าง่าย ทําให้เขาถอดชุดนอนของเธอ ออกได้โดยง่าย
พอถอดชุดนอนออกแล้ว บนร่างเธอก็เหลือแต่ กางเกงในเพียงตัวเดียว
ปาณีรู้สึกหนาวหน่อยๆ ท่าตาโต มองไปที่ธา มนิธิอย่างป้องกันตัว
ธามนิธิมองเห็นสายตาของเธอ ก็รู้ว่าเธอกำลัง คิดอะไรอยู่ จึงยื่นเสื้อผ้าไปให้ “แค่ช่วยเธอเปลี่ยน เสื้อผ้าเท่านั้น มองฉันแบบนี้หมายความว่าอะไร?
“…..” ปาณีเห็นเขายีนเสื้อชั้นในมาให้ ก็รู้สึก อาย ความง่วงนอนหายไปทันที “ฉัน… เองได้ ฉันเปลี่ยน
เธอไม่ใช่เด็กเล็กๆสักหน่อย แม้ว่าจะเป็นสามี ภรรยากัน แต่ถ้าจะให้เขาช่วยเธอใส่เสื้อผ้าละก็ เธอ ยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าอาย
เธอหยิบชั้นในมา เข้าไปสวมอยู่ใต้ผ้าห่ม ขณะ วางคา ที่เธอสวมชั้นใน ธามนิธิก็มองเธอไม่
ร่างกายเธอที่อยู่ใต้ผ้าห่ม ไม่มีทางที่ธามนิธิจะ มองเห็นแน่ แต่ปาณีเหมือนรู้สึกว่า เขาสามารถเห็น เธอได้อย่างทะลุทะลวง
เธอรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมา “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ
“ฉันไม่เห็นอะไรสักหน่อย” ธามนิธิตอบท หน้าตาใสซื่อ
มีเมียขี้อายทํายังไงดีนะ?
รออยู่เฉยๆแบบนี้ ชักทนไม่ไหวแล้วสิ ! ปาณีพูดว่า “คุณก็อย่ามองมาที่ฉันสิ”
เขาเห็นเธอก้มหน้าลง ไม่กล้ามองหน้าเขา ก็ หัวเราะอย่างขำๆ “อายกระทั่งกับสามีตัวเอง? มีตรง ไหนของเธอบ้างที่ฉันไม่เคยเห็น?”
“ถ้าคุณพูดอีกฉันจะไม่ยุ่งกับคุณจริงด้วย” เธอหาเสียงขู่เขา แต่ไม่น่ากลัวสักนิด ธามนิธิหัวเราะ “ได้ ไม่พูดก็ได้” เธอช่าง อายเหลือเกิน
ทุกครั้งที่เห็นเธอเป็นแบบนี้ เขาจะรู้สึกสนุก
มาก
รามาธิลุกขึ้นยืน พูดว่า “บๆใส่เสื้อผ้าเร็วเข้า
เถอะ”
จากนั้นเขาก็เดินเข้าห้องน้ำไป
ปาณีนั่งลงบนเตียง มองตามหลังเขาไป ไม่ผิด แน่ เขาเดินเข้าไปจริงๆ !
เดินได้เหมือนคนปกติทั่วไป…เดินเข้าไปจริง ด้วย!
ช่วง ธามนิธิมักแอบถือโอกาสตอนปาณีเผลอ ทําแบบนี้เสมอ แต่พอเวลาผ่านไป เขากลับลืมเรื่องนี้ เสียเอง
แต่ว่าถ้าสามารถเดินได้แล้ว ใครที่ไหนจะทน นั่งอยู่บนรถเข็นทั้งวันได้?
เขายืนอยู่หน้ากระจก ถือแปรงสีฟันของปาณี บีบยาสีฟันลงบนแปรงให้เธอ ได้ยินเสียงปาณีพูดว่า “คุณเดินได้แล้วหรือคะ?”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ