My Girl ภรรยาตัวน้อยของผม

ตอนที่ 182



ตอนที่ 182

สินสอดทองหมั้นแถวบ้านพวกเขามักจะเป็น 68,000 หรือ 88,000 หยวน..

เรียกไป 100,000 หยวน เธอรู้สึกร้อนตัวเล็กน้อย จันวิภาลำบากใจเล็กน้อย “88,000 หยวน.” น้อยมากจริงๆ!

ถ้าหากให้คนอื่นรู้ว่าสินสอดของบ้านวิสิทธิ์เวช เพียงแค่ 88,000 หยวน ต้องขายหน้าขนาดไหนเนี่ย?

ฝนสิริเห็นท่าทางเช่นนี้ของจันวิภา ไม่ได้รอให้ เธอพูดจนจบ พูดแทรกขึ้นมาว่า “ก็ 88,000 หยวนนี้ แหละ ไม่มีอะไรต้องต่อรองกันอีก ถ้าหากพวกคุณไม่ เห็นด้วย ก็จะไม่ให้ลูกสาวของฉันแต่งงาน!”

หลังจากที่จันวิภาได้ยินคำพูดของฝนสิริ ก็อดไม่ ได้ที่จะมองธามนิธิแวบหนึ่ง

ก่อนหน้านี้เคยเจอกันครั้งหนึ่ง ทุกคนก็พอจะรู้ นิสัยใจคอของฝนสิริอยู่แล้ว รู้ว่าเธอเป็นคนโลภมาก ตอนที่จันวิภารู้ว่าตัวเองต้องไปคุยกับฝนสิริ ยังถึงขั้น รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเอาแค่ 88,000 หยวน

นี่. ดูถูกมากเกินไปหรือเปล่า?

แล้วหันไปมองท่าทางที่เด็ดเดี่ยวของฝนสิริอีก ครั้ง จันวิภารู้สึกจนปัญญาเช่นกัน
เธอเป็นคนที่มีมารยาท มีการการศึกษา หากให้ พูดความจริง เธอไม่เคยทะเลาะกับคนอื่นด้วยซ้ำ ย้อน คิดถึงความโอหังของฝนสิริแล้ว เธอกลัวเขาจริงๆ

เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการทะเลาะกับฝนสิริ จันวิภา จึงจำใจตอบตกลงไป “ได้ค่ะ งั้นก็ 88,000 หยวน”

เห็นจันวิภาตอบตกลงแล้ว สีหน้าของฝนสิริถึงจะ ดูดีขึ้นมา

ตั้ง 88,000 หยวนเชียวนะ!

ก่อนหน้านี้ตอนที่ลูกสาวข้างบ้านแต่งงาน ได้ สินสอดแค่ 68,000 หยวนเอง

เธอได้มากกว่าตั้ง 20,000 เลยนะ

ฝนสิริได้ใจมาก แต่ก็เก็บอาการของตัวเองไว้ พูด กับจันวิภาว่า “นอกจากสินสอด 88,000 หยวนแล้ว ยัง ต้องให้วิลล่าที่เมืองชลธีอีกหลังหนึ่ง”

เธอคิดว่า วิลล่าเยอะขนาดนี้ และเป็นของพี่เขย ธามนิธิทั้งหมด ขอหนึ่งหลังคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร

จันวิภาขมวดคิ้ว “วิลล่าที่เมืองชลธีไม่ได้ค่ะ”

“ทำไมล่ะคะ?” พอได้ยินจันวิภาตอบว่าไม่ได้ ฝน สิริก็รู้สึกไม่พอใจ “ถ้าไม่มีบ้าน อีกหน่อยถ้าพวกเขามีลูก แล้วลูกของพวกเขาจะไปอยู่ไหนล่ะ”

แต่สิ่งที่เธอคิดในใจคือ วิลล่าในเมืองชลธีใส่ชื่อ ของปาณีไว้ แล้วปาณีคงไม่กลับไปอยู่แน่นอน ถึงเวลา นั้น เธอก็สามารถเข้าไปอยู่ได้อย่างสบายใจ
ปาณีมองไปยังฝนสิริ “แม่.”

เธอรู้จักแม่ของตัวเองเป็นอย่างดี ทำไมจะดูไม่ ออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่?

นี่แม่เธอคิดเพื่อเธอที่ไหนกัน?

เพียงแต่หาข้ออ้างขอสิ่งที่ตัวเองอยากได้ทั้งนั้น

ฝนสิริมองไปยังปาณี “เธอไม่ต้องพูดอะไร”

เธอรู้สึกว่าปาณีมาขัดขวางเธอชัดๆ

จันวิภาอธิบายว่า “แม้ว่าครอบครัวเราจะเป็นคน บุกเบิกวิลล่าที่เมืองชลธีก็จริง แต่ว่าขายหมดไปตั้งนาน แล้วค่ะ”

พ่อของเวทัสเก่งมากในด้านการค้าขาย อสังหาริมทรัพย์ เป็นคนที่มีชื่อเสียงมากในประเทศคน หนึ่ง ก่อนหน้านี้ก็ขายเกือบหมดตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จ แล้ว

บ้านตัวเองก็เก็บไว้เพียงชุดเดียว ก็คือหลังที่ธา มนิธิไปอยู่ก่อนหน้านี้

ฝนสิริอยากได้วิลล่าตรงนั้น จันวิภาก็จนปัญญา

จริงๆ

ฝนสิริรู้สึกว่าเธอกำลังหาข้ออ้าง “วิลล่าเยอะ ขนาดนั้น ขายหมดได้ยังไงกัน? ลูกสาวของเราแต่งงาน แค่ครั้งเดียวในชีวิตนี้ ถ้าหากไม่มีบ้านเลยแม้แต่หลัง เดียว แบบนี้เข้าท่าหรอ?”

จันวิภาตอบว่า “พวกเราตั้งใจเตรียมเรือนหอไว้ให้ปาณีกับธามนิธิแล้วค่ะ อยู่ทางบ้านสวนริมน้ำ ที่ตรงนั้น สภาพแวดล้อมดีกว่าเมืองชลธีมากค่ะ.. คุณน้าคิดว่า ได้ไหมคะ?”

เพราะว่าวิลล่าที่เมืองชลธีไม่ได้อยู่ในเมือง ราคา จึงได้แค่นั้น บ้านสวนริมน้ำกลับเป็นหมู่บ้านที่ดีที่สุดใน เมืองชยุต นี่ต่างหากที่เป็นคฤหาสน์ของจริง

ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ใช่คนมีเงินทุกคนที่จะสามารถ ซื้อบ้านตรงนั้นได้ ต้องใช้เส้นสายถึงจะซื้อได้

แต่เดิมฝนสิริจะโมโหแล้ว แต่พอได้ยินจันวิภาพูด แบบนี้ สีหน้าของเธอก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ได้จ๊ะ ได้จะ”

เธอเข้าใจผิดไปเอง!

แม้เธอจะโง่ แต่ก็รู้ว่าบ้านในเมืองชยุตก็ต้องแพง กว่าบ้านในเมืองชลธีอยู่แล้ว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ