ตอนที่882เข้าใจผิดไปกันใหญ่
เมื่อได้สัมผัสถึงสายตาอันเย็นชาของปาณี ธามนิธิถึงกับนิ่งสงบ ลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะยืนนิ่งทำตัวลีบเล็กหน้าสลดอยู่ตรงนั้น
ในช่วงเวลานั้นเอง เขาไม่ใช่ธามนิธิคนก่อนที่เคย กระฉับกระเฉงมีชีวิตชีวาอีกแล้ว ทว่าชีวิตของธามนิธิในตอนนี้ กลับดูธรรมดาๆ จืดชืด ไร้ชีวิตชีวา และกลับกลายเป็นเพียง ผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่กลัวว่าจะต้องสูญเสียปาณีอันเป็นที่รัก ไป !
เมื่อได้เห็นปาณีส่งสายตาเย็นชาและท่าที่อันแข็งกร้าวมองมา ที่เขา จะว่าไปแล้วก็ยิ่งทำให้ธามนิธิรู้สึกเจ็บปวดหัวใจมากขึ้นไป อีก เพราะเขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
ระหว่างที่ธามนิธิกำลังครุ่นคิดวิตกจริตอยู่นั้น ปาณีก็หันไป ทางหมอชลิต เธอพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลอีกครั้ง ” คุณ หมอชลิต บอกฉันหน่อยได้ไหมคะว่า เขารู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าฉันตั้ง ท้อง ? ”
หญิงสาวพูดด้วยสายตาอ้อนวอน !
ชลิตหันไปมองที่ธามนิธิที่ยังคงยืนนิ่งอยู่ข้างๆ แววตาของเขา ในตอนนี้ไม่สามารถที่จะปิดบังอำพรางความเศร้าโศกเอาไว้ได้ และเมื่อมองไปที่อีกฝั่ง ซึ่งก็คือหญิงสาวที่กำลังแข็งกร้าวกับ ความจริงที่กำลังจะได้ฟัง ” หลังจากที่คุณหนีออกจากบ้าน ! ผม เองก็เพิ่งทราบข่าวว่าพวกคุณแยกทางกันแล้ว แต่ในตอนนั้นธามนิธิก็ออกตามหาคุณอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง
“พอแล้ว !” จู่ๆปาณีก็พูดสวนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันเยือก เย็น ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยึดกับคำพูดของหมอช ตอีกต่อไป ทันทีที่เธอตระหนักได้ว่าตัวเองเริ่มอารมณ์ไม่ดี เธอจึง เม้มริมฝีฝากแน่น ก่อนจะเดินดื่มๆตรงไปที่ประตู ” ขอโทษค่ะ หมอชลิต ฉันอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ ! 11
เมื่อพูดจบ เธอก็ค่อยๆเดินจากไปท่ามกลางสายตาของธา มนิธิ ที่มองตามไปอย่างเงียบๆ
ชลิตเห็นสีหน้าแววตาอันเศร้าโศกของธามนิธิ และปาณีที่ กำลังยืนบังคับตัวเองไม่ให้หลั่งน้ำตาออกมา เขารู้สึกหมด หนทางที่จะเยียวยาคนทั้งคู่แล้วจริงๆชลิตได้แต่ส่ายหัวไปมา อย่างจนปัญญา ก่อนจะเดินออกไป
ในออฟฟิต คงเหลือแต่เพียงธามนิธิคนเดียวเท่านั้น เขายังคง ยืนนิ่งครุ่นคิดอยู่ตรงนั้น ที่จริงแล้ว ตอนที่ปาณีเอ่ยปากถาม ประโยคนั้นออกมา ธามนิธิก็รู้ลางๆแล้วว่าเธอหมายถึงอะไร แต่ ตอนนั้นเขาก็คิดแค่ว่า มันคงไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโตอะไร เดี๋ยวก็ คงผ่านๆไป แต่กลับคิดไม่ถึงว่า ปาณีจะตอบสนองออกมาด้วย ท่าทางแบบนั้น
แต่พอคิดไปคิดมา หากย้อนนึกไปถึงตอนที่เอ่ยปากเรื่องหย่า กันแล้ว ทัศนคติของเขาเองก็เหมือนจะเปลี่ยนไปสัก 85 เปอร์เซ็นต์เห็นจะได้ ในทางกลับกันหากเป็นเขาเอง ก็คงต้อง รู้สึกลังเลสงสัยด้วยเหมือนกัน
แต่ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจยังไง ธามนิธิก็ได้แอบสาบานเอาไว้ แล้วว่า ” ปาณี ! ฉันจะไม่ยอมปล่อยเธอไปอีกแล้ว ! ไม่มีวัน เด็ดขาด ! ”
เมื่อนึกมาถึงตรงนี้ ธามนิธิก็ไม่รีรอที่จะรีบออกไปตามหาปา ฉันต้องทำให้เธอรู้ว่า ฉันยังคงรักเธอ รักเธอเสมอมา ! ” 11
หลังจากคิดได้แล้ว ธามนิธิก็รีบสาวเท้าออกจากห้องไปทันที
แต่หลังจากที่ตามหาจนทั่ว โรงพยาบาล เขาก็ยังไม่เห็นแม้แต่ เงาของเธอ ธามนิธิวิ่งหน้าตาตื่นด้วยความร้อนใจออกไปข้าง นอกตึกโรงพยาบาล วิ่งไปมือก็พลางกดโทรศัพท์ต่อสายหาไว ยาตย์ไป ” ไวยาตย์ รีบมานี่เลย ปาณีหายไปอีกแล้ว……
จังหวะที่เขากำลังตามหาตัวปาณีอยู่นั้น ก็พลันหันไปเห็นคนที่ กำลังตามหากำลังยืนใจลอยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเพียงลำพัง
เธอกำลังเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว เมื่อรู้ว่าเธอตั้งท้องคุณอา เลยเปลี่ยนความคิดของเขาในทันทีทันใด ที่บอกว่าไม่รู้สึกอะไร นั่นมันเป็นไปไม่ได้ การที่เธอได้มาเห็นทัศนคติของเขาอีกครั้ง มันเหมือนกับการถูกล้างสมองใหม่ ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าความ เข้าใจผิดระหว่างคนสองคน จะมลายหายไปจนหมดสิ้นแล้วเสีย อีก
” แต่ที่แท้ เมื่อเขารู้ว่าฉันตั้งท้อง ถึงได้พยายามฝืนใจที่จะ ยอมรับฉัน ! เขาไม่เคยคิดล้มเลิกความตั้งใจที่จะหย่าเลยสักนิด ! ในสายตาของเขา ฉันมันไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับเขา เลย ! ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าลูกในท้องของฉันแล้วล่ะก็ เขาก็คงไม่แม้แต่จะขายตามองฉันด้วยซ้ำ………… ปาณียิ่งคิด น้ำตาก็ยิ่ง ค่อยๆเอ่อล้นออกมา หญิงสาวกลั้นน้ำตาต่อไปอีกไม่ไหว เธอจึง ปล่อยโฮ ตะโกนตัดพ้อออกมา ” ทำไมนะ ? สวรรค์เบื้องบน ทำไมถึงได้ทำกับฉันแบบนี้ ? ถ้าหากเขาไม่ใช่คนที่สวรรค์ กําหนดมาให้ แล้วทำไมท่านต้องดลบันดาลให้ฉันต้องพบเจอกับ เขาด้วยล่ะ ? ถ้าท่านกำหนดให้ฉันได้เจอกับผู้ชายคนอื่น ฉันก็ คงไม่ต้องมานั่งทนทุกข์ทรมาน เสียใจอยู่แบบนี้ !
หลังจากระบายความเศร้าโศกกับฟ้าดินจนหมดสิ้น เธอก็ทรุด ตัวลงไปนั่งกองอยู่ที่พื้น
ความโศกเศร้าทุกข์ระทมใจ กำลังกัดกินบีบรัดหัวใจน้อยๆ ของปาณี ในตอนนั้นเอง ร่างกายของเธอกลับสิ้นไร้เรี่ยวแรง ก่อนจะคว้าเอาต้นไม้เอียงๆต้นหนึ่งเอาไว้ได้ ใบหน้าของเธอเต็ม เปี่ยมไปด้วยความโศกเศร้าอาดูร หญิงสาวบ่นพึมพำกับตัวเอง ใครก็ได้บอกฉันหน่อย ว่าฉันควรทำยังไงดี ? ฉันจะไปเผชิญ หน้ากับผู้ชายคนนั้นได้ยังไง ? แล้วต่อไปฉันจะบอกกับลูกฉันว่า ยังไง ? ” 11
ทันใดนั้น จู่ๆร่างกายของปาณีก็แข็งเกร็ง มือของเธอที่จับ ต้นไม้อยู่ก็แข็งทื่อไปด้วย เธอเริ่มรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันที เพราะเมื่อสักครู่นี้ เธอเพิ่งจะรู้สึกว่าขาเธอเป็นตะคริว !
ตอนนี้ปาณีรู้สึกหงุดหงิดและโมโหตัวเองมาก ทางดีๆมีไม่รู้จัก เดินไป ดันเดินมาที่ริมตลิ่งนี้ทำไมกัน ?
ถึงแม้ว่าเธอพยายามที่จะเดินกลับขึ้นไปบนฝั่ง และออกให้ห่างจากริมตลิ่งที่แสนอันตรายนี้ ทว่าตอนนี้ทั้งน่องและท้องของ เธอมันสั่นเกร็งไปหมด อาการหดเกร็งจากตะคริวมันทำให้เธอ หมดเรี่ยวหมดแรงที่จะขยับตัวเคลื่อนไหว ดังนั้นเธอจึงไม่กล้า ปล่อยมือจากต้นไม้ต้นนั้น แต่กลับจับมันเอาไว้แน่น จากนั้นพลัน สายตาของเธอก็สาดส่องขึ้นไปบนฝั่ง ด้วยหวังแต่เพียงว่าจะมี ใครสักคนเห็นเธอ และรีบเข้ามาช่วยเธอออกไปที่
ธามนิธิร้อนรนกระวนกระวายใจ เขาเที่ยวตามหาปาณีให้ทั่ว โรงพยาบาลไปหมด แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงหาตัวปาณีไม่พบ ชาย หนุ่มเริ่มออกอาการลุกลี้ลุกลน ในสมองเริ่มจินตนาการ มโนภาพเหตุการณ์ที่ดูน่ากลัวไปต่างๆนานา
ต้องไม่เป็นแบบนี้สิ ปาณีจะต้องไม่หายไปไหนอีก ! ฉัน ยอมรับในความผิดพลาดของตัวเองแล้ว เธอคงไม่ใจร้ายใจด ทิ้งฉันไปอีกหรอกนะ!
ในขณะนั้นเอง ธามนิธิก็พลันได้ยินเสียงหวีดร้องดังแว่วมา ” 11 แย่แล้วๆ มีคนจะกระโดดน้ำ ! พวกเราไปช่วยกันหน่อยเร็ว ! 11
และในระหว่างที่มีคนมากระจายข่าวอยู่นั้น เหล่ามหาชนก็พา กันเฮโลพุ่งตรงไปที่ริมฝั่งแม่น้ำในทันที
ธามนิธิตะลึงงันอยู่ชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นจึงหันกลับไป ก่อนจะ เดินอ้าวตามฝูงมหาชนพวกนั้นไปติดๆ ถึงแม้เขาเองจะไม่เชื่อ ว่าปาณีจะทำเรื่องโง่ๆแบบนั้นได้ แต่มันก็ไม่แน่ ถ้าเกิดไปถึงริม แม่น้ำแล้วดันเป็นเธอขึ้นมา ?
ธามนิธิรีบเดินดิ่งไปที่ริมแม่น้ำพร้อมกับมโนภาพเหล่านั้นในสมองของเขา เมื่อไปถึงริมแม่น้ำก็ได้เห็นก้อนตะคุ่มๆกำลังโหน จับต้นไม้อยู่ เขาถึงกับอึ้งตะลึงงัน เพราะไอ้ก้อนที่เห็นอยู่ตรงนั้น ก็คือปาณีนั่นเอง !
ชายชาติทหารอย่างธามนิธิ รีบพุ่งทะยานไปริมฝั่งแม่น้ำใน ทันที แต่เขาก็ต้องถูกรายล้อมไปด้วยฝูงมหาชนที่มายืนมุงกันอยู่ ตรงริมน้ำ คนเหล่านั้นกำลังมองไปที่อะไรสักอย่าง
เริ่มได้เห็นเงาตะคุ่มๆลางๆ ธามนิธิแหวกตัวสอดแทรกฝ่าฝูง ชนไปเรื่อยๆ ก็ได้เห็นเบื้องหลังที่คุ้นเคยของคนๆหนึ่ง เขารีบ ตะโกนเสียงดังอย่างไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนทั้งนั้น ” กรุณาหลีกทางหน่อยครับ ! หลีกทางหน่อย ! ”
การกระทำของเขา ทำให้ผู้คนที่มามุงดูเหตุการณ์พากันไม่สบ อารมณ์ เริ่มมีเสียงกรนดตำหนิติเตียนดังมาจากทุกทิศทาง อะไรของมันวะเนี่ย ? ให้มันรู้บ้างว่าใครมาก่อนมาหลังอ่ะ ?
“เฮ้ย อะไรวะ แกมาผลักฉันทำไมเนี่ย ? คิดว่าที่นี่เป็นที่ของ ตัวเองรึไง .……..
” อย่าเบียดสิ
เสียงบ่นด่าพึมพำดังมาจากทั่วสารทิศ ธามนิธิใช้ร่างกายอัน แข็งแกร่งกำยำของเขา พาตัวเองให้เบียดเสียดฝ่าเข้าไปจนพ้น ฝูงมหาชนจนได้ แล้วเขาก็ได้เห็นปาณีที่กำลังนั่งอยู่บนพื้น โดยมี ผู้ชายอีกคนหนึ่งกำลังก้มหน้าก้มตานวดคลึงน้องของเธออยู่ !
ธามนิธิยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้น
เพราะผู้ชายคนที่ว่า ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคนที่เขาเข้าใจผิด คิดว่าปาณีไปหลงรักจนหัวปักหัวป่า ศิวรรจน์ ! นี่คือ เหตุผลที่แท้จริง ที่ทำให้ธามนิธิตัดสินใจเซ็นต์หย่าในเอกสารข้อ ตกลง เพียงเพราะเขาอยากทำให้ปาณีมีความสุข
ธามนิธิยืนเงียบๆอยู่ตรงนั้น สายตาจดจ้องไปยังปาณีที่กำลัง ขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ช่างดู ราวกับว่าทั้งคู่เป็นคู่รักที่พลัดพรากไม่ได้เจอกันมานานแสนนาน ยังไงยังงั้นพอได้มาเจอกันก็ถึงกับซาบซึ้งตรึงใจกันสุดๆ !
ทางด้านของศิวรรจน์ ในขณะที่กำลังนวดคลึงน่องให้เธอ ก็มัก จะคอยเงยหน้าขึ้นมามองเธออยู่บ่อยๆ ด้วยสีหน้าท่าทางที่ดู จริงจัง จนทำให้ผู้คนที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ต่างพากันอิจฉาริษยา เป็นอย่างมาก
ผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้กับธามนิธิ ตะโกนออกมาว่า ” ทั้ง หล่อเหลา ! ทั้งอ่อนโยน ละเมียดละไม ! ดูสนิทสนมกันมาก เลยอ่ะ สงสัยจะเป็นแฟนกันแน่ๆ ! ”
เพื่อนอีกคนของผู้หญิงคนนั้น ก็พูดเสริมขึ้นมาว่า ” อาจจะเป็น คนที่บังเอิญเดินผ่านมาก็ได้นะเธอ!
ผู้หญิงที่พูดขึ้นมาคนแรก รีบตอบสวนกลับไป ” จะเป็นไปได้ ยังไงเล่า ? คนที่บังเอิญเดินผ่านมาจะมองเธอด้วยแววตาอ่อน โยนแบบนั้นได้ยังไง ? เธอลองคิดๆดูสิ …….”
เพื่อนของผู้หญิงคนนั้นกลับไม่พูดอะไรต่ออีก
ธามนิธิยืนนิ่งอึ้งเหมือนคนถูกสาป เขาไม่คิดเลยว่าศิวรรจน์จะ มาปรากฏตัวอยู่ข้างๆเธออีก อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกล อยู่ใกล้แค่ใต้ จมูกของเขานี่เอง ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้ธามนิธิเริ่มรู้สึกโกรธ เพราะเหมือนตัวเอง โดนหลอกเข้าให้แล้ว !
ได้เห็นสองคนนั้นกำลังคลอเคลียใกล้ชิดสนิทสนม ธามนิธิจึง อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกไป ” ปาณี ! เธอ ……. ”
ปาณีเงยหน้าขึ้นมองด้วยท่าทางอันเวิ้งว้างเลื่อนลอย ก่อนจะ สบตาเข้ากับคุณอาที่กำลังมองมาที่เธอด้วยความโกรธ…
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ