ตอนที่864 สั่งสอน
ธามนิธิสะยัดมือชมนาดออกอย่างแรง ก่อนจะเดินไปด้านหน้า ของปาณีและเชยคางเธอขึ้นมา มองดูใบหน้าของเธอที่มีรอบ ประทับฝ่ามือแดงฉ่า ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เย็นชาราวกับน้ำ แข็ง ก่อนจะหมุนตัวกลับไปและมองดูชมนาดด้วยสายตาเยียบ เย็น
ชมนาดถูกสายตาของเขาทำให้หวาดกลัวอย่างยิ่ง จากนั้นจึง มองเห็นว่าเขากำลังกำหมัดขึ้นมาแน่น เธอจึงร้องขึ้นมาทันใด “นั่น นั่นฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ฉันเข้าใจว่าปาณีหลงรักตรีวิทย์ ถึง ได้ทำตัวเกินไปแบบนี้ ปาณี ฉันเข้าใจผิดไปแล้ว เธอช่วยพูดกับ สามีเธอให้หน่อยได้ไหม?”
ปาณีถูกคุณอาที่กำลังโกรธจัดทำให้ตะลึงไป ผ่านไปชั่วครู่ถึง ได้เสียงเรียกของชมนาดเข้ามาดึงสติ เธอมองดูชมนาดที่กำลัง พยายามปกป้องตัวเองอยู่ ปาณีเอ่ยจวกเธออย่างโมโห “ฉันไป หลงรักตรีวิทย์ตอนไหนมิทราบ? ทั้งหมดเป็นเรื่องที่เธอกขึ้นมา นินทาฉันทั้งนั้น!”
พูดจบ เธอก็เอ่ยกับธามนิธิเสียงต่ำ “คุณอา พอเถอะค่ะ หลัง จากนี้เธอคงไม่กล้ามาหาเรื่องฉันอีกแล้ว…
ชมนาดรีบพยักหน้าอย่างสุดซึ้ง นึกไปถึงครั้งที่แล้วที่เธอโดน คนของผู้ชายคนนั้นตบหน้าขึ้นมา เธออกพูดเสียงต่ำขึ้นมาไม่ได้ “ครั้งที่แล้วฉันถูกตบจนต้องนอนอยู่ในโรงพยาบาลเกือบเดือนดังนั้น ยกโทษให้ฉันเถอะ ฉันรู้ตัวว่าผิดไปแล้ว!”
ธามนิธิได้ยินได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้น และมองไปยังปาณี ใช้ สายตาถามว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ปาณีนึกถึงท่าทางโหดเหี้ยมของเมธชนัน จึงเอ่ยเสียงเบา “ครั้งที่แล้วเธอใส่ร้ายว่าฉันตบเธอ! ผลลัพธ์คือเมธิชนันไปหาคุณ ป้าคนหนึ่งมาตบเธอเข้าจริงๆ ไปถึงโรพยาบาลแล้วสั่งสอนเธอ ไปยกหนึ่ง
ธามนิธิตลึงไป ก่อนจะนิ่งเงียบอย่างใช้ความคิด และเอ่ยเสียง เบา “นี่เป็นนิสัยของชนันอย่างแน่นอน!!
หลังจากนั้นจึงเอ่ยกับชมนาดเสียงเย็น “หลังจากนี้ถ้าฉันเห็น พวกเธอรังแกภรรยาฉันอีก! ฉันจะทำลายกฎไม่มีผู้หญิงลงไป ซะ!”
พูดจบเขาก็เห็บสายตาเย็นชากลับมา จากนั้นจึงหันไปมอง ปาณีที่อยู่ด้านข้างอย่างร้อนลนและเอ่ยตะโกนเสียงเบา “เธอ กล้ามาก! กล้ายอมให้ถูกคนตบตี แต่ไม่ร้องขอความช่วยเหลือ!
ปาณีเอ่ยต่อเถียงอย่างไม่เชื่อฟังขึ้นมาชั่วขณะ “ร้องขอความ ช่วยเหลือน่าอายจะตายไป! ยิ่งกว่านั้น ยังไงซะฉันก็คือผู้หญิง ของคุณ ธามนิธิ! ยังไงคุณก็ควรห้ามโมโหขนาดนี้?”
ธามนิธิที่เดิม โกรธจัด ถูกคำพูดของเธอทำให้อ่อนลงมา เขา มองรอยฟกช้ำที่ชัดเจนบนใบหน้าเธอด้วยความเจ็บปวด และพูด เอ่ยอย่างเกลียดชังว่า “จริงๆเลย เมื่อกี้ฉันควรตบเธอกลับไปสัก
ปาณีหัวเราะพรูดออกมา แต่ไม่ทันระวังจึงกระทบไปถูกมุม ปากจนความเจ็บปวดแผ่ซ่านขึ้นมา แต่ก็ยังคงยิ้มไปเอ่ยไป “พอ เถอะค่ะ! อย่าเป็นแบบนี้เลย! เธอไม่คู่ควรให้คุณลงมือหรอก! ยิ่ง ไปกว่านั้น ถ้าหากคุณลงมือฉันคงถูกนายพลนรเทพตำหนิ! นาย พลนรเทพจะต้องคิดว่าฉันเป็นคนสอนให้คุณทำเรื่องแย่ๆแน่
พูดถึงจอมพลนรเทพ ธามนิธิก็นิ่งคิด ก่อนจะพยักหน้า “พรุ่งนี้ เธอหยุดเรียน ไปปักกิ่งกับฉันดีกว่า”
เธอตามเขาไม่ทัน ผ่านไปชั่วครู่ถึงค่อยมีท่าที่ตอบสนองขึ้นมา “อะไรนะคะ?”
ธามนิธิหัวเราะและพูดใหม่อีกครั้ง “ฉันบอกว่าพรุ่งนี้ให้เธอ ไปปักกิ่งเป็นเพื่อนฉัน!”
ปาณีนิ่งคิดและพยักหน้า “ก็ได้ค่ะ ฉันก็อยากไปหาพลอย
เหมือนกัน!”
ธามนิธิหัวเราะก่อนจะกุมมือเธอไว้และเข้าไปดูหนังด้วยกัน หนังฉายเสร็จสิ้น ธามนิธิมองดูถึงน้ำตาข้างๆ ที่กำลังสูดน้ำมูก อยู่ แอบสงสัยขึ้นมาไม่ได้ว่าหนังที่ตนเองเลือก ที่แท้เป็นหนังรัก จริงหรือไม่
ปาณีกลับประทับใจจนนั่งอยู่ตรงนั้นและเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมา ไม่อยู่ “นางเองน่าสงสา! พระเอกสุดท้ายแล้วลืมเธอจนหมด สูญเสียความทรงจำ มันน่าเศร้าที่สุดท้ายแล้วคนที่จดจำเรื่อง ทั้งหมดได้มีแค่นางเอกคนเดียว! ”
ธามนิธิ “…”
ก่อนจะใช้แรงบังคับให้เธอที่กำลังปวดใจอยู่เดินออกจากโรง
ไปพร้อมๆกัน
มองดูขนมที่คนถือผ่านไปมา ไม่รอให้ปาณีอยากได้ เขาตรง ไปซื้อมาและยื่นไปให้เธอ ก่อนจะเห็นว่าคนที่เมื่อกี้เพิ่งจะเศร้า เสียใจอย่างยิ่ง จู่ๆก็ลืมตอนจบของหนังไปเสียหมดและรีบกิน ขนมอย่างรวดเร็ว “พลังของอาหารช่างแกร่งกล้าจริงๆ
ปาณียังไม่ทันได้ฟังชัดเจน “คุณอา พูดว่าอะไรนะคะ? ฉัน ได้ยินไม่ชัด”
ธามนิธิหัวเราะและช่วยเธอเช็ดซอสที่เลอะมุมปากออก และ เอ่ยกับเธออย่างยิ้มๆ “ฉันบอกว่า อาหารมีผลต่อเธอมากเสียยิ่ง กว่าฉันอีก”
ได้ฟังดังนั้น ปาณีจึงยื่นขนมที่เหลือไปให้เขา ก่อนจะเดินนำ หน้าเขาไปทันที ธามนิธิรีบเดินตามเธอไป เขามองดูเธอที่กำลัง งอน และเอ่ยขึ้นมาอย่างเกินจริง “กลิ่นหอมจัง เธออยากดื่มชา นมไหม?”
ปาณีได้กลิ่นชานมอันหอมหวนด้วยเช่นกัน แต่เมื่อกี้คุณอาเพิ่ง จะทำลายความมั่นใจของเธอลง เธอจึงเอ่ยปฏิเสธอย่างหนัก แน่น “ไม่เอา แล้วก็อย่ามาคุยกับฉันด้วย ฉันไม่สนใจคุณหรอก? ในเมื่อคุณเพิ่งจะทุบทำลายฉัน หึ!”
มองดูปาณีที่กำลังมีอารมณ์ ธามนิธิยิ้มอย่างเอาอกเอาใจ จากนั้นก็เดินตรงไปยังร้านชานมและซื้อมาหนึ่งแก้วก่อนจะยัดเข้าไปในมือของเธอ ก่อนจะเอ่ยอธิบายเสียงต่ำ “เมื่อกี้กลัวว่า เธอจะทานเยอะไป ไม่ดีต่อกระเพาะ
สีหน้าของปาณีแปรเปลี่ยนเป็นสดใสขึ้นมา ก่อนจะหัวเราะ และเอ่ยต่อว่า “จะเป็นไปได้ยังไงคะ
ได้ยินเช่นนี้ ธามนิธิเลยเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ใครกันที่ครั้งก่อนที่
ต้องเข้าโรงพยาบาล? ฉันหรือเปล่า?”
เธอโมโหขึ้นมาทันที “คุณอา คุณเลิกเติมเกลือลงบาดแผลสัก ทีได้ไหมคะ! ฉันไม่เป็นที่นิยมในสายตาคุณขนาดนั้นเลยหรือไง? จริงๆเลย!”
มองดูเธอที่ถูกตนเองแหย่จนโมโห ธามนิธิหัวเราะอย่างอบอุ่น อย่างยิ่ง ก่อจะกุมมือที่ว่างเปล่าของเธอเอาไว้และเอ่ยขึ้นมาด้วย รอยยิ้ม “ฉันแค่อยากใช้ชีวิตที่เหลือเดินไปกับเธอตลอดไป…
ดวงตาสองข้างของปาณีเป็นประกายขึ้นมา “ “คุณอา คุณ….” ธามนิธิไม่ได้เอ่ยอะไรต่อ และกุมมือเธอเดินไปอย่างเงียบๆ และคอยกันเธอเอาไว้จากคนที่เดินผ่านไปมา
เผชิญกับท่าที่ปกป้องใส่ใจจากเขาเช่นนี้ ปาณีรู้สึกซาบซึ้งจน อดเงยหน้าขึ้นไปแอบมองเขาอยู่บ่อยๆไม่ได้ ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่า เขาหล่ออย่างยิ่ง “คุณอา ทำไมคุณถึงหล่อขนาดนี้คะ? ฉันรู้สึก มองคุณยังไงก็มองไม่พอ!!
ธามนิธิกลับถลึงตาใส่เธอรอบหนึ่ง “ฉันยังจำได้ถึงสามีของ คนอื่นอีกมากมายๆ คล้ายๆกับดาวตก ฉันเทียบกับพวกเขาแล้วอยู่ตรงไหน ในใจเธอ?”
เธอเงยหน้าขึ้น มองดูคนที่คิ้วกำลังขมวดน้อยๆ ด้วยความหึง จากนั้นเธอก็เขย่งเท้าขึ้นและจูบเขาไปฟอดหนึ่ง ก่อนจะกอดชา นมและวิ่งออกไป!
ธามนิธิชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยเตือนเสียงดัง “ปาณี
หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ช้าๆหน่อย!
แต่เธอก็ยังคงมุ่งหน้าวิ่งต่อไปไม่หยุด ช่วยไม่ได้ เขาจึงจำเป็น ต้องวิ่งจาม ทั้งสองดูราวกับเด็กนักเรียบที่กำลังเล่นไล่จับ
เสียงยั่วยุของปาณีต่อธามนิธิสามารถได้ยินได้เป็นครั้งคราว แน่นอนว่ามันตามมาด้วยเสียงคำรามของธามนิธิอย่างขาด ไม่ได้ ดูยุ่งเหยิ่งแต่ก็ดูกลมกลืนอย่างยิ่ง
ยามดึกสี่ทุ่ม ทั้งคู่ถึงค่อยกลับมาถึงบ้าน มองดูในบ้านที่มืด สนิท ทั้งคู่จึงจูงมือกับเดินขึ้นไปชั้นบนอย่างเงียบๆ
ธามนิธิไม่ทันระวังจึงเตะเข้าถูกโต๊ะน้ำชาเข้าให้ และถูกปาณี
เข้ารอบหนึ่ง “คุณอา เบาหน่อยค่ะ แม่กำลังนอนอยู่
พูดจบ ช้าๆ ก็ทำตัวราวกับหัวขโมยและเดินย่องขึ้นไปชั้นบนอย่าง
เดิมธามนิธิไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ แต่ก็ทนความดื้อดึงของ ปาณีไม่ไหวและยิ่งไปกว่านั้นเขาจะต้องทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ จน กระทั่งทั้งคู่เกินเข้าไปในห้องนอน ทันใดนั้นเสียง “ปัง” ก็ดังขึ้น พร้อมๆกับไฟในห้องที่สว่างขึ้นมา
ฐิติพรเดินตรงมาหาพวกเขา “ทำไมกลับมาดึกขนาดนี้?
ปาณีอธิบายอย่างรู้สึกผิด “จ้องโทษหนูค่ะ อยากจะไปเดินดู ของ ในห้างสักหน่อย สุดท้ายคือมืดอีกแล้ว! แม่คะ หนูปลุกแม่ ตื่นรึเปล่า?”
ฐิติพรส่ายหน้า ก่อนจะกวักมือเรียกเธออย่างตื่นเต้น “ปาณีมานี่…
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ