ตอนที่837ตกตะลึง
ปารู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อยที่ได้ยินคุณอาพูดแบบนั้นเธอหันไป ยิ้มให้กับไวยาต จากนั้นจึงพูดกับธามนิธิว่า “คุณอาฉันไม่ หนาวสักนิด! อีกอย่างหนึ่งน้ำเสียงที่คุณอาพูดกับไวยาตย์มัน ฟังดูไม่ค่อยรื่นหูเลยนะคะ! ”
ธามนิธิก้มลงมองปาณีที่ซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนเขาและกำลัง เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขาพอดี
จากนั้นเขาก็ทำเสียง”เฮ้อออกมาเบาๆก่อนจะหันไปพูดกับไว ยาตย์: ขอโทษทีไวยาตย์น้ำเสียงฉันมันฟังดูแรงไปหน่อย!
ไวยาตย์มองหน้าธามนิธิอย่างตกตะลึงแล้วก็รีบส่ายหัวไปมา
อย่างงงๆ
ปาณีส่งยิ้มให้เขาพลางพูดว่า “ไวยาตย์นายก็ยกโทษให้คุณ อาด้วยนะ! เขามัวแต่เป็นห่วงฉันกลัวว่าฉันจะเป็นหวัดน่ะเขาถึง เป็นแบบนี้! โดยปกติแล้วคุณอาเป็นคนที่อ่อนโยนจะตาย! นายว่าจริงมั้ย? ‘
ไวยาย สายหัวยิกๆๆ “ท่านประธานธามนิธิดีกับผมเสมอ ครับ”
ปาณีได้ยินที่เขาพูดก็พยักหน้าเบาๆ “ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว เพราะฉะนั้นไวยาตย์นายก็อย่าถือสาเลยนะฉันจะคอยอบรมคุณ อาเขาเอง! ฉันจะไม่ปล่อยให้เขาทำแบบนี้กับนายอีกฉันสาบานเลย!
ไวยาตย์มองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าเธอเต็มเปี่ยมไป ด้วยความจริงใจใส อวินาทีนั้นไวยาตย์รู้สึกตื้นตันใจอย่างบอก ไม่ถูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาย้อนคิดไปถึงเมื่อสมัยก่อนที่เขา เคยแอบสงสัยว่าการที่ปาณีเข้ามาใกล้ชิดกับเจ้านายของเขาเธอ จะต้องมีจุดประสงค์อะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่แน่ๆไวยาตย์ก้ม หน้านิ่งด้วยความสำนึกผิด
ธามนิธิมองอาการของไวยาตย์ออกเขาจึงยิ้มออกมาพร้อมกับ จูงมือปาณีเดินขึ้นไปบนรถ “เอาล่ะๆเลิกแหย่เขาได้แล้วไวยา ตย์ยังต้องขับรถอีกนะพวกเราไปกันเถอะไหน ใครบอกว่าหิว จะแย่แล้ว? 11
ปาณีเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าท้องกำลังร้องจ๊อกก๊อกแล้วเธอมุดหน้า หนีด้วยความอับอายก่อนจะหันไปกระตุกแขนเสื้อของธา มนิธิ : “คุณอาเบาๆหน่อยสิคะ! เดี๋ยวไวยาตย์ก็ขาเอาหรอก!
ไวยาต แอบมองลอดมาทางกระจกมองหลังเห็นสองคนกำลัง นั่งกระหนุงกระหนึ่งอยู่ด้านหลังก็อดไม่ได้ที่จะพูดแซวพวก เขา: “พวกคุณก็คิดเสียว่าผมล่องหนอยู่ก็แล้วกันครับ!
ปาณีได้ยินดังนั้นก็ยิ่งมุดหน้าหนีเป็นพัลวัน ธามนิธิเองก็ถึงกับขำก๊ากออกมาเลยทีเดียว
ไม่นานนนักรถก็จอดนิ่ง
ไวยาตย์ลงมาจากรถได้เขารีบเดินตรงดิ่งเข้าไปในร้านชาบูทันที
โดยมีธามนิธิกับปาณีเดินตามเข้าไปทีหลัง
ปาณียกมือขึ้นมาจับที่ใบหน้าของตัวเองก่อนจะบ่นพึม พๆ: “ทำไมพวกคุณชอบหัวเราะฉันกันจังเลย? การที่ฉันชอบ กินมันตรงไหนมิทราบ? สำหรับฉันการกินคือสิ่งที่ทำให้มีความ สุขที่สุดในโลกใบนี้แล้วการกินคือหนึ่งเดียวเท่านั้นไม่ใช้คำว่า หนึ่งใน…….!
ธามนิธิยื่นมือไปบีบจมูกเธอเบาๆด้วยความเอ็นดูในตัว ปาณี : “ใช่สิในชีวิตของปาณีเรื่องกินจัดเป็น2ใน3ของชีวิต!
ปาณีเงยหน้าขึ้นมองตรงไปหาธามนิธิ : “คุณอาแล้ วอีก 1 ใน3หายไปไหนอ่ะคะ? ”
ธามนิธิทําเป็นแกล้งครุ่นคิดปากระวนกระวายรอคำตอบ จากเขารีบกระตุกแขนเสื้อเขายิกๆๆๆ ให้เขารีบเฉลย : “พูดเร็วๆ สิคะ? แล้วอีก 1 ใน3คืออะไรคะ? 11
ธามนิธิมองปาณีด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มก่อนจะเฉลย ให้เธอฟัง : “ที่เหลืออีก1ใน3ก็คือการนอนยังไงล่ะ! ” 11
ปาณีกระทืบเท้าไปมาเบาๆด้วยความหงุดหงิดใจ “คุณอา
พูดจา วอ่ะ!”
ธามนิธิยืนนิ่งเงียบไม่โต้ตอบจากนั้นจึงยื่นมือออกไปหาเธอ
ถึงแม้ว่าปาณีจะไม่โกรธคุณอาที่เอาเธอไปเปรียบเทียบกับหมู แต่ก็ยังไม่วายที่จะยื่นมือออกไปอีกทันใดนั้นมือของเธอก็ถูกฝ่ามือใหญ่ๆมาคว้าเอาไว้หญิงสาวรู้สึกถึงความอบอุ่นใกล้ชิดขึ้นมา ในทันที
ปาณีเงยหน้าขึ้นไปพูดกับธามนิธิว่า “คุณอาฉันก็แค่อยาก จะหาไออุ่นจากคุณอาสักหน่อยดูเหมือนว่าอารมณ์โกรธของคุณ อายังไม่หายไปเลยนะคะ
ธามนิธิหัวเราะออกมาก่อนจะชี้มือไปที่ร้านชาบูที่อยู่ไม่ไกล จากนั้นจึงบอกกับเธอว่า “ฉันจะเลี้ยงชาบูเธอเองน่าจะพอ ชดเชยกับความผิดได้อยู่ใช่มั้ย? ”
ถึงแม้ปาณีจะยังอยู่ไกลจากร้านแต่เธอกลับได้กลิ่นซาบูลอย ล่องมาแต่ไกลจนเธออดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ พร้อมๆกับกลิ่นชาบูนั่น! จากนั้นเธอก็พูดกับคุณอาว่า “หอม จังเลย! พวกเรารีบเข้าไปกันเถอะค่ะ!
เมื่อเดินเข้าไปในร้านปาณีก็พบว่าภายในร้านมันช่างคึกคัก อะไรเยี่ยงนี้
ก็แน่ล่ะสิเพราะช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลงแล้วผู้คนต่างก็ชอบกิน อะไรที่สร้างความอบอุ่นให้แก่ตัวเองกันทั้งนั้นดังนั้น ในฤดูกาลนี้ อาหารที่เป็นตัวเลือกอันดับแรกก็คงหนีไม่พ้นชาบูหม้อไฟแล้ว ล่ะ!
สมัยก่อนตอนที่ปาณีอยู่เมืองชลธีช่วงเวลาที่เธอชื่นชอบมาก ที่สุดก็คือช่วงตรุษจีนทุกคนในครอบครัวจะกลับมาเจอกันล้อมวง กินชาบูหม้อไฟด้วยกันถึงแม้ว่าจะไม่มีอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ให้ กินมากนักแต่เมื่อได้เห็นทุกคนในบ้านกินกันเอร็ดอร่อยทั้งเผ็ดทั้งชาอร่อยจนเหงื่อออกหัวช่างเป็นบรรยากาศอันแสนวิเศษที่ให้ ความรู้สึกที่แสนอบอุ่นเป็นที่สุด
ในความทรงจําของเธอชาบูหม้อไฟก็คือรสชาติของบ้าน นั่นเอง
แม้ว่าทุกครั้งฝนสิริจะตักเอาเนื้อสัตว์ที่มีอยู่อันน้อยนิดไปใส่ไว้ แต่ชามของนภันต์ทว่าขอเพียงแค่ได้กินผักนั่นก็เพียงพอที่จะ ทำให้ปาณีรู้สึกว่าฤดูหนาวนั้นช่างแสนอบอุ่น
“ปาณีเธอกำลังคิดอะไรอยู่นะ? “ธามนิธิเรียกเธอเบาๆตั้ง หลายครั้งแต่เธอก็ไม่ได้ยินแววตากลับเหม่อลอยไปจดจ้องอยู่ที่ หม้อไฟที่กำลังเดือดปุดๆ ทำเอาธามนิธิถึงกับพูดไม่ออกเลยที เดียว”ปาณีฉันรู้ว่าเธอหิวแล้วแต่เธอก็ไม่น่าทำท่าทางอยากจะ กินมากขนาดนั้นมันน่าอายจริงๆ!
ปาณีค่อยๆเผยอยิ้มที่สดใสออกมาโดยไม่สนใจสายตาของ ธามนิธิเลยก่อนจะพูดเสียงแหลม : “คุณอาฉันอยากกินชาบูหม้อ ไฟ! ”
ธามนิธิมองดูเธอที่กำลังอยู่ในท่าทางตื่นเต้นลิงโลดก็อดคิด ไม่ได้ว่าต่อให้พาเธอไปกินอาหารฝรั่งระดับมิชลินสตาร์เธอก็ คงจะไม่มีความสุขเท่านี้เป็นแน่
เขามองเธอด้วยแววตาที่อ่อนโยนก่อนจะหันไปตะโกนเรียก พนักงาน : “น้องๆสั่งอาหารหน่อยครับ
เมื่ออาหารเสิร์ฟขึ้นโต๊ะจนครบปาณีก็อยู่ในสภาพที่พร้อมรบ กับหม้อไฟเรียบร้อยแล้ว! เธอถอดเสื้อคลุมวางไว้พันแขนเสื้อข็มเพิ่มความทะมัดทะแมงท่าทางพร้อมสุขสุดๆ
ไวยาตย์ที่ตอนแรกยืนอยู่ข้างๆ ก็ถูกปาณีคะยั้นคะยอแกม บังคับให้นั่งลงกินด้วยกันกับพวกเขาเธอยื่นตะเกียบส่งให้ “อะ รับไป! ไวยาตย์เวลากินชาบูหม้อไฟมันต้องกินกันหลายๆคนจะ ได้คึกคักสนุกสนาน! ”
ถึงตอนนั้นไวยาตย์ก็นั่งลงกินอย่างไม่เกรงใจแต่เมื่อได้เห็น ปาณีตักผักตักเนื้อกินอย่างไม่หยุดหย่อนก็ทำให้เขาได้เห็นถึง ศักยภาพแห่งการทําลายล้างของปาณีเพิ่มขึ้นไปอีกสเต็ปหนึ่ง
แต่กลับกลายเป็นว่าตลอดการกินในวันนี้ธามนิธิแปรงร่าง กลายเป็นพนักงานเสิร์ฟให้ปาณีไปโดยปริยายไม่ว่าจะลวกผัก ลวกเนื้อไปจนถึงคอยตักของกินใส่ในถ้วยให้ดูเขาทำมันอย่างมี ความสุขเสียด้วย!
ส่วนปาณีก็เพลิดเพลินกับการกินมาก!
พอหันมาเจอไวยาตย์ที่กำลังทำท่าตกตะลึงเธอก็บอกให้เขา กับธามนิธิช่วยๆกันกิน : “พวกคุณก็กินกันตั้งเยอะตั้งแยะแบบ นี้ฉันคนเดียวจะกินหมดได้ยังไงเล่า! การกินทิ้งกินขว้างมันเป็น เรื่องที่น่าละอายมากนะจะบอกให้! เข้าใจหรือเปล่า? ”
พูดจบเธอก็คืบเนื้อมาชิ้นหนึ่งจิ้มลงไปในถ้วยน้ำจิ้มจากนั้นก็ ยัดเข้าไปในปากของธามนิธิเผลอพริบตาเดียวปากของธามนิธิก อัดแน่นไปด้วยเนื้อและผักจนแม้แต่จะพูดก็ยังพูดไม่ชัด
ปาณีเห็นท่าทางของคุณอาก็อดข้อกมาไม่ได้ “คุณอาดูคุณ อาตอนนี้ คุณอาตลกจังเลย! ไวยาตย์ดูสิดูสภาพคุณอาเหมือนกบเลยใช่มั้ย? ไม่ได้ๆฉันต้องถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก!
พูดจบปาณีก็หยิบมือถือหันไปถ่ายรูปสามนิธิ
แต่ใครกันจะคาดคิดทันทีที่แสงแฟลชสว่างวาบธามนิธิก็ลุก ขึ้นอย่างกระทันหันก่อนจะปิดมือถือของปาณีจนกระเด็น”เพล ง”วินาทีนั้น โทรศัพท์มือถือของปาณีก็ร่วงหล่นไปที่พื้นอย่างแรง
ปาณีตกตะลึงสุดขีดกระทั่งไวยาตย์ยังลืมเคี้ยวอาหารที่อยู่ใน ปากของเขาสายตาจับจ้องไปที่ธามนิธิด้วยความตกใจ
ธามนิธิทำเสียง” ย’ก่อนจะอ้วกเอาอาหารที่อยู่ในปากออก มาเมื่อสัมผัสได้ถึงท่าทางอันตกตะลึงของปาณีเขาก็ถึงกับยืนนิ่ง จากนั้นก็มองตามสายตาของปาณีไป โทรศัพท์มือถือรุ่นล่าสุดที่ เขาเพิ่งซื้อ ให้เธอตอนนี้กลับแตกเป็นเสี่ยงๆกระจัดกระจายอยู่บน
ในชั่ววินาทีบรรยากาศกลับตาลปัตรจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากบรรยากาศการกินชาบูที่คึกคักสนุกสนานกลับกลายเป็น ความเงียบเชียบ!
หลังจากนั้นไม่นานธามนิธิก็สบถเสียง”เฮ่อออกมาเขาหันไป
หาปาณี” “ปาณีฉัน……..
ปาณีไม่สนใจเลยสักนิดเธอเดินไปที่มุมห้องค่อยๆเก็บชิ้นส่วน โทรศัพท์มือถือที่แตกกระจุยกระจายเมื่อสักครู่ยังเป็นมือถือ สวยๆอยู่เลยมาตอนนี้จู่ๆก็กลับแตกออกเป็นเสี่ยงๆปาก้มหน้า นิ่งไม่พูดไม่จา
ไวยาตย์เดินเข้าไปช่วยเธอหยิบชิ้นส่วนหนึ่งที่กระเด็นไปตรง มุมห้องจากนั้นจึงตบไหล่เธอเบาๆ
ธามนิธิยืนอยู่ห่างออกไปด้วยท่าทางที่อึดอัดใจเป็นอย่างมาก เขาไม่กล้าแม้แต่จะเดินก้าวไปข้างหน้าเขากลัวที่จะได้เห็นปาณี บาดเจ็บรวมถึงสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ
เมื่อเวลาผ่านไปครู่หนึ่งปาณียังคงนั่งคุกเข่าก้มหน้าก้มตาอยู่ ตรงนั้น
ไวยาตย์ยืนนิ่งๆอยู่ข้างธามนิธิท่าทางดูวุ่นวายสับสนจนทำ อะไรไม่ถูก
สักครู่หนึ่งผ่านไปปา ค่อยๆยันกายให้ลุกขึ้นยืน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ