My Girl ภรรยาตัวน้อยของผม

ตอนที่836เซอร์ไพรส์



ตอนที่836เซอร์ไพรส์

ปาณีมองหน้าเธอด้วยความสงสัย “ทำไมล่ะคะ? พี่ญาท่าน ประธานธามนิธิกำลังยุ่งอยู่เหรอคะ? ”

พี่ญาณีทำท่าจริงจังก่อนจะพูดกับปาณีด้วยน้ำเสียงที่แฝงไป ด้วยความจริงใจ: “ปาณีฉันรู้ว่าเธอยังตัดใจจากท่านประธาน ไม่ได้แต่ฉันคิดว่าพวกเธอน่ะหย่ากันแล้วการที่เธอมาหาเขาที่นี่ อีกฉันว่ามันดูไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่เธอคิดอย่างนั้นหรือเปล่า? 11

ปาณีรู้ว่าพี่ญาณีหวังดีต่อเธอ : “ฉันทราบดีค่ะแต่ว่าพี่ญาณีคะ ฉันมีธุระสำคัญเร่งด่วนจริงๆค่ะ จากนั้นเธอก็ส่งยิ้มให้พี่ญาณี

พี่ญาณีมองเธอด้วยสายตาที่ดูเหมือนกับกำลังตรวจสอบว่าสิ่ง

ที่เธอพูดมันจริงหรือไม่จริงกันแน่?

ปาณีมองเห็นไวยาตย์อยู่ไกลๆ เธอจึงตะโกนเรียกเขา: “ไวยา

แล้วเมื่อไวยาตย์เดินตรงมาทางเธอเธอก็หันไปพูดกับพี่ญาณี พร้อมกับส่งยิ้มให้ “พี่ญาณีลาก่อนนะคะ”

ไวยาตย์เดินมาถึงปาณีพอดีเขาส่งยิ้มให้เธอพลางพูด ทักทาย : “ปาณีมายังไงล่ะเนี่ย? ”

ปาณียิ้มไปอธิบายไป: “พอดีช่วงบ่ายไม่มีเรียนน่ะก็เลยอยาก มาหาท่านประธานธามนิธิฉันมีธุระนิดหน่อยน่ะค่ะ”
พญาเห็นปาณีที่กำลังพูดคุยหัวร่อต่อกระซิกกับไวยาตย์ก็ถึง กับส่ายหัวก่อนจะเดินกลับไปทำงานของเธอ

ไวยาตย์หันกลับไปมองปฏิกิริยาของพี่ญาณีก่อนจะหันไป หัวเราะกับปาณีที่ยืนอยู่ข้างๆ “ทำไมล่ะ? พี่ญาณีพยายามที่จะ โน้มน้าวเธออีกแล้วเหรอ? ”

ปาณีพยักหน้ายิ้มรับอย่างขมขื่น : “บนหน้าฉันมันเขียนเอาไว้ ชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอ?”

ไวยาตย์ได้แต่ยืนยิ้มไม่พูดไม่จา

ปาณีพยักหน้าอย่างคนสิ้นหวัง “เห้อเอาล่ะฉันยอมรับก็ได้ ญาณีเกือบจะโน้มน้าวฉันสำเร็จล่ะนะ สงสัยฉันคงต้องไปจาก คุณอาซะแล้วไม่อย่างนั้นเวลาเจอฉันก็ต้องพูดแบบนี้กับฉันอีก แต่ฉันน่ะเจ็บปวดจริงๆนะ!

ไวยาตย์ทำตาถลึงใส่จากนั้นจึงหันไปดูเธอ” “เธอพูดเบาๆ หน่อย ถ้าเกิดท่านประธานธามนิธิมาได้ยินเข้าฉันช่วยอะไรเธอ ไม่ได้นะ!

ปาณียังทําเป็นเล่นหัวเราะซุกซน : “ต๊ะ? ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะ ภาวนาให้คุณอาไม่ได้ยินก็แล้วกัน”

จู่ๆไวยาตย์ก็ทำท่าขยิบตาให้เธอแต่ปากลับไม่เข้าใจ ท่าทางที่เขาทำ : “ไวยาตย์เป็นอะไรอ่ะ? ทรายเข้าตาเหรอ? ไม่ น่าเป็นไปได้นะในสำนักงานแบบนี้จะมีทรายได้ยังไงกัน ! ”

ทันใดนั้น าเสียงสุขุมนุ่มลึกก็ดังขึ้น ใกล้ๆหูของปาณี : “ไม่อยากให้ฉันได้ยินอะไร ะ ? พวกเธอสองคนกำลังปิดบังอะไร ฉัน? ”

ปาณียืนทําหน้าจ๋อยก่อนจะเหลือบมองไวยาตย์แวบหนึ่งไวยา ตย์กระแอมไอเบาๆจากนั้นจึงพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเหมือนไม่มี อะไรเกิดขึ้น : “ท่านประธานธามนิธิผมยังต้องไปถ่ายเอกสาร เตรียมงานประชุมนะครับขอตัวก่อนนะครับ

ทันทีที่พูดจบไวยาตย์ก็เผ่นแน่บทันที

ปาณียืนมองค้อนใส่แผ่นหลังของไวยาตย์ที่เพิ่งเผ่นแนบไป ไวๆก่อนจะแอบทำปากขมุบขมิบด่าเขา “คนอะไรใจร้ายที่สุด”

ทว่าด้านหลังของเธอเป็นอะไรที่น่ากลัวกว่าและกำลังจะเข้า โจมตีเธอในอีกไม่กี่วินาทีบัดนี้ปาณีไม่ได้สนใจที่จะกราดเกรี้ยว ใส่ไวยาตย์อีกต่อไปแล้วเธอหันมาเผชิญหน้ากับธามนิธิก่อนจะ ส่งยิ้มให้เขาพลางทำท่าโบกมือทักทาย : “ไฮ! s ur pri

s e ! เซอร์ไพรส์มั้ยคะ?

ธามนิธิทำท่าซีเรียสใส่ปาณีจากนั้นจึงหมุนตัวเดินเงียบๆกลับ เข้าไปในห้องทํางาน

ปาณียังยืนนิ่งอยู่ตรงประตูไม่ยอมขยับไปไหน

จนในที่สุดธามนิธิก็ตะโกนออกมา: “ปาณียังอยากจะโดน ลงโทษให้ยืนอยู่หน้าประตูหรือยังไง? ”

ปาณียืนเลียริมฝีปากแผล็บๆก่อนจะยิ้มให้เขา: “ไม่มีทางที่ แต่เด็กดื้อเท่านั้นที่จะถูกลงโทษให้ยืนอยู่หน้าประตู! ”
อยากให้ฉันได้ยินอะไร ะ ? พวกเธอสองคนกำลังปิดบังอะไร ฉัน? ”

ปาณียืนทําหน้าจ๋อยก่อนจะเหลือบมองไวยาตย์แวบหนึ่งไวยา ตย์กระแอมไอเบาๆจากนั้นจึงพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเหมือนไม่มี อะไรเกิดขึ้น : “ท่านประธานธามนิธิผมยังต้องไปถ่ายเอกสาร เตรียมงานประชุมนะครับขอตัวก่อนนะครับ

ทันทีที่พูดจบไวยาตย์ก็เผ่นแน่บทันที

ปาณียืนมองค้อนใส่แผ่นหลังของไวยาตย์ที่เพิ่งเผ่นแนบไป ไวๆก่อนจะแอบทำปากขมุบขมิบด่าเขา “คนอะไรใจร้ายที่สุด”

ทว่าด้านหลังของเธอเป็นอะไรที่น่ากลัวกว่าและกำลังจะเข้า โจมตีเธอในอีกไม่กี่วินาทีบัดนี้ปาณีไม่ได้สนใจที่จะกราดเกรี้ยว ใส่ไวยาตย์อีกต่อไปแล้วเธอหันมาเผชิญหน้ากับธามนิธิก่อนจะ ส่งยิ้มให้เขาพลางทำท่าโบกมือทักทาย : “ไฮ! s ur pri

s e ! เซอร์ไพรส์มั้ยคะ?

ธามนิธิทำท่าซีเรียสใส่ปาณีจากนั้นจึงหมุนตัวเดินเงียบๆกลับ เข้าไปในห้องทํางาน

ปาณียังยืนนิ่งอยู่ตรงประตูไม่ยอมขยับไปไหน

จนในที่สุดธามนิธิก็ตะโกนออกมา: “ปาณียังอยากจะโดน ลงโทษให้ยืนอยู่หน้าประตูหรือยังไง? ”

ปาณียืนเลียริมฝีปากแผล็บๆก่อนจะยิ้มให้เขา: “ไม่มีทางที่ แต่เด็กดื้อเท่านั้นที่จะถูกลงโทษให้ยืนอยู่หน้าประตู! “เล็กๆที่บริษัทเล็กๆของฉันเขาก็คงไม่สามารถแสดงศักยภาพของ เขาได้เต็มที่จริงมั้ยคะ? ”

ธามนิธิมองดูปาณีที่ยืนอยู่ตรงหน้าสีหน้ายังคงสงบเยือกเย็น

เมื่อคิดไปถึงที่ว่าปาณีกับไวยาตย์ทั้งสองดูเหมือนจะพูดจา ภาษาเดียวกันก็ยิ่งทำให้ธามนิธิรู้สึกอึดอัดใจไม่น้อยถึงแม้ว่าจะ รู้อยู่เต็มอกว่าทั้งคู่ไม่มีอะไรในกอไผ่แต่เขาก็ไม่ชอบความรู้สึกที่ ปาณีผลักไสเขาออกมาเหมือนกับว่าเขาเป็นคนอื่น

ปาณีเงยหน้ามองคุณอาที่จนถึงบัดนี้ก็ยังทำหน้าแข็งกร้าว อย่างไม่ยอมลดละก่อนจะพูดด้วยเสียงเศร้าๆ “พอเลิกเรียนคน เค้าก็อดรนทนไม่ไหวอยากจะเห็นหน้าแต่สุดท้ายก็ถูกคุณอาถาม นั่นถามนี่เค้าอยู่ได้โคตรเสียใจเลยอะ! ฉันกลับก็ได้! ”

ธามนิธิเห็นดังนั้นก็กลับมาอ่อนโยนลงทันทีเขาส่งยิ้มให้หญิง สาวที่อยู่ในอ้อมแขนรู้ทั้งรู้ว่าเธอเสแสร้งแกล้งทำแต่เขาก็ทนไม่ ได้ที่จะเห็นสายตาอันเศร้าสลดของเธอ

“เอาล่ะฉันจะไม่ถามอะไรอีกแล้วถ้าเธอไม่อยากบอกก็ช่างมัน เถอะ”

ปาณีรู้สึกเหมือนได้รับอิสรภาพคุณอากลับไปนั่งลงที่เก้าอี้ตาม เดิมพลางพลิกเปิดอ่านเอกสารที่อยู่ในมือปาณีคิดไปคิดมาก็รู้สึก ว่าพูดดีกว่า : “ที่จริงก็ไม่ได้มีอะไรหรอกค่ะก็แค่พี่ญาณีเธอ เข้าใจผิดคิดว่าฉันยังคอยมากวนใจคุณอยู่เธอก็เลยพยายามที่ จะโน้มน้าวฉันให้เลิกยุ่งกับคุณ! แต่ว่าที่เป็นแบบนี้ก็เพราะเธอ ไม่รู้น่ะค่ะ!”
ธามนิธิขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “พี่ญาณี?

ปาณีพยักหน้าให้เขา” “อืม! แต่พี่ญาณีก็แค่หวังดีน่ะค่ะคุณ อย่าเข้าใจเธอผิดนะคะ เพราะว่าเรื่องที่เราไม่ได้หย่ากันก็ไม่มี ใครรู้ไม่ใช่เหรอคะ!

เมื่อได้เห็นว่าที่แท้ปาณีก็แค่พยายามจะปกป้องคนๆหนึ่งธา

มนิธิก็เลยไม่ทิ้งแล้วเขาก้มหน้านิ่งเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง

ปาณีท่าที่ประจบเอาใจธามนิธิ “คุณอากลางวันนี้อยากกิน อะไรคะ? พวกเราออกไปหาอะไรกินข้างนอกเถอะค่ะ”

ธามนิธิมองดูหญิงสาวที่ก่อนหน้านี้ยังทำท่าทางน่าสงสารอยู่ เลยไม่กี่วินาทีผ่านไปกลับกลายเป็นยัยแมวน้อยจอมตะกละไป เสียได้เขาเอานิ้วจิ้มที่ไปจมูกงอนๆของเธอด้วยความ เอ็นดู “ฉันอะไรก็ได้เธอเลือกเลยว่าอยากกินอะไร? ”

ปาณีนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง : “ไปกินชาบูกันเถอะเรียกไวยาตย์ไป ด้วยนะคะคนเยอะๆสนุกดี!

แต่เมื่อประโยคหลังนี้หลุดปากออกไปปาณีก็สังเกตเห็นได้ว่า คุณอาดูหน้าสลดอย่างเห็นได้ชัดกลับมาทำหน้านิ่งเย็นชาอีกแล้ว

ปาณียิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะแกล้งทำเป็นตัวสั่นงันงก: “หนาวจัง

เลยอ่ะ! ”

ธามนิธิรีบเดินเข้าไปหาเธอแล้วดึงตัวเธอเข้ามากอดไว้ใน อ้อมแขนพร้อมทั้งลูบๆถูๆแขนของเธอไปมาเพื่อสร้างความ อบอุ่น ให้เธอ : “บอกแล้วว่าให้ใส่เสื้อผ้าหนาๆหน่อยเธอก็ไม่ฟัง! ”

ปาณี หน้ายิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ในอ้อมกอดเขา “ฉันหนาวเพราะ ว่าใครบางคนแถวๆ ชอบปล่อยคลื่นความเย็นออกมาต่างหาก ล่ะคะ! ”

ธามนิธินิ่งที่อไปครู่ใหญ่เขาเพิ่งจะเข้าใจก็ตอนที่ได้เห็นรอย ยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าของปาณีนั่นเองจากนั้นเขาก็ปล่อยเธอด้วย ท่าทางหงุดหงิดใจแล้วก็กลับไปนั่งเงียบๆ

ปาณีหาได้แคร์เขาไม่เธอยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนจะรีบเปิด ประตูเดินออกไปทันทีอีกทั้งยังไม่ลืมที่จะตะโกนเรียกไวยาตย์ ด้วย: “ไวยาตย์ท่านประธานธามนิธิมีธุระจะคุยด้วย!

ธามนิธิมองดูกระต่ายน้อยที่กระดกระดวิ่งเผ่นแน่บออกไป ด้านนอกด้วยแววตารักใคร่เอ็นดูอย่างสุดซึ้งหลังจากบังเอิญไป สบตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของไวยาตย์เข้าธามนิธิก็รีบ เปลี่ยนสีหน้าทันทีเขาหันไปออกคำสั่งกับไวยาตย์: “ปากอยาก กินชาบูนายไปจัดการจองห้องไว้หน่อย 11

พูดจบธามนิธิก็หยิบเสื้อคลุมเดินตามออกไปข้างนอกทันที

ไวยาตย์มองตามแผ่นหลังของเจ้านายที่เพิ่งเดินจากไปก่อนจะ สายหัวเบาๆ จากนั้นจึงรีบเดินตามพวกเขาไปขาก็อ้าวปากก็ ตะโกนไปด้วย: “ท่านประธานธามนิธิรอผมด้วยครับผมยังต้อง ไปเอารถก่อนนะครับ!

เมื่อธามนิธิเดินออกจากบริษัทไปก็ได้เห็นปาณีกำลังยืนโต้ลม ทําคอหดอยู่ด้านนอก
เขารีบสาวเท้ายาวๆก้าวไปข้างหน้าจากนั้นก็ดึงตัวเธอให้มา ซุกอยู่ในอ้อมแขนปากก็ตะโกนบอกไวยาตย์ทั้งๆ ที่ไม่หันหลัง กลับไปมองเขาด้วยซ้ำ : “ไวยาตย์มัวแต่อืดอาด หยาดทําอะไร อยู่วะ? รถอยู่ไหน? รีบๆเอารถมาเร็วปาณีจะแข็งตายอยู่แล้ว”

ไวยาตย์ผู้บริสุทธิ์ไร้เดียงสาเมื่อได้เห็นท่าทางอันร้อนใจของ เจ้านายก็ไม่พูดพล่ามทำเพลงรีบขับรถเข้ามาจอดเทียบทันที


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ