ตอนที่828เปี่ยมไปด้วยความสุข
ปาณีพยักหน้าตอบเธอเบาๆ “เขาออกไปตั้งแต่กลางดึกแล้ว ค่ะหนูเองก็ไม่รู้คุณอาเพิ่งโทรมาบอกหนูเมื่อตอนเช้านี่เองค่ะ” จันวิภาชะงักไปเล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นวันนี้เธอก็มานอนที่
บ้านพี่นะเธอตัวคนเดียวอยู่ที่บ้านหลังนั้นพี่กะคุณแม่เป็นห่วง
นะ! ”
ปาณีคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ได้ค่ะคืนนี้หนูจะไปนอนที่นั่นค่ะ!
จันวิภายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ยื่นมือออกไปลูบหัวเธอเบาๆด้วย ความเอ็นดู: “ถ้าอย่างนั้นพี่ไม่รบกวนเวลาทำงานของเธอละนะ คืนนี้พี่จะรอเธอกลับไปกินข้าวเย็นนะจ๊ะ!
ปาณีส่งยิ้มให้เธอด้วยความรู้สึกเกรงใจอยู่หน่อยๆ จากนั้นจึง เดินไปส่งเธอที่ประตูก่อนจะโดนจันวิภาผลักตัวเธอเบาๆ ให้กลับ เข้าไปด้านใน: “พี่ไม่ได้เพิ่งมาที่นี่ครั้งแรกสักหน่อยเธอทำงาน ไปเถอะพี่กลับเองได้จ้ะ! คืนนี้ก็อย่าลึกมากนะไม่อย่างนั้นธา มนิธิได้บ่นพวกเราแน่ๆว่าดูแลเธอไม่ดี! ”
ปาก้มหน้าด้วยความเขินอาย : “ไม่หรอกค่า! เลิกงานแล้ว หนูจะรีบเข้าไปค่ะ! ”
เมื่อส่งจันวิภาเรียบร้อยปาณีก็กลับเข้าไปนั่งทำงานในออฟฟิต เธอมองไปที่กล่องนามะช็อกโกแลต ที่วางอยู่บนโต๊ะแววตาของ เธอนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยนนับตั้งแต่ที่เธอแต่งงานกับธาเธอเป็นอย่างมาโดยตลอดเธอได้บ้านเพราะเหตุนี้จึงทำให้รู้สึก ซาบซึ้งและตื้นตันใจเป็นที่สุด
เธอค่อยๆแกะช็อกโกแลตและหยิบมันใส่ปากไปใน หนึ่งช็อกโกแลตนิ่มเนียนนุ่มละลายในปากสัมผัสได้ถึงของช็อกโกแลตแท้รสชาติของช่างกลมกล่อมอะไรเยี่ยง
ก่อนเมื่อไปหนึ่งถึงกับรู้สึกเสียดายอาลัยอาวรณ์ขึ้นมา
หญิงสาวเก็บนามะช็อกโกแลตห่อไว้ตามเดิมแล้วเก็บในกระเป๋าของเธอในใจคิดว่า “กลับไปกินที่ บ้านเถอะรอให้คุณอากลับมาค่อยกินพร้อม
เมื่อได้กินนามะช็อกโกแลตไปหนึ่งปาณีรู้สึกว่าตัวเอง สดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาเยอะเลยจากนั้นเธอก็กลับไปตั้งหน้า ตั้งตาทํางานของเธอต่อไป
กว่าจะรู้ตัวอีกทีฟ้าก็มืดเสียแล้วปาณีเงยหน้าขึ้นมองออกความลืมดูเวลาเลย!
เมื่อก้มหน้ามองเวลาเป็นสอง ทุ่มกว่าแล้วปารีบเก็บของก่อนรีบวิ่งออกไป
เมื่อวิ่งมาถึงชั้นล่างความไม่ทันระวังก็ไปชนโครมเข้ากับ ธีระพอดี
ปาณีเอามือลูบๆไปที่หัวไหล่ที่รู้สึกเจ็บๆจากการโดนชน สายตาก็พลางมองไปที่ธีระที่กำลังยืนแยกเขี้ยวยิงฟันอยู่ตรง หน้าเธอเธอรีบขอโทษขอโพยเขาเป็นการใหญ่ “ธีระฉัน ขอโทษฉันเดินไม่ทันระวังเองน่ะไม่ได้มองไปข้างหน้าเลย
ธีระเอามือลูบๆคางตัวเองก่อนจะยิ้มแหยๆ ให้เธอ” “หน้า หล่อๆของฉันถ้าโดนเธอชนจนเสียโฉมล่ะก็เธอต้องจ่ายเงิน ชดเชยให้ฉันด้วยล่ะ!
ปาณีหัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นจึงก้มมองดูเวลา: “ฉันมีธุระ น่ะฉันไปก่อนนะ!
ทันทีที่พูดจบเธอก็พุ่งทะยานราวกับหายตัวได้ต่อหน้าต่อตา ของธีระ
ธีระได้แต่ยืนมองกล่องเค้กที่ตัวเองถืออยู่ในมือด้วยสายตา ละห้อยก่อนจะพูดกับตัวเอง : “ทีแรกก็กะว่าจะซื้อมาให้ปาณีกิน สักหน่อยตอนนี้ก็คงต้องกินเองสินะ! ”
เมื่อปาณีออกมาจากรถไฟฟ้าได้เธอก็รีบวิ่งตาลีตาเหลือกไปที่ บ้านวิสิทธิ์เวชในทันทึกว่าจะมาถึงห้องโถงในบ้านได้ก็เล่นเอา เธอเหนื่อยจนหอบแฮ่กๆ ในตอนนั้นคุณแม่กับพี่จันวิภากำลังนั่ง คุยกันอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขก
ปาณีเดินเข้าไปหาพวกเขาก่อนจะพูดไปหอบไป: “แม่พี่หนู หนูกลับมาดึกไปหน่อยค่ะ!
แม่ของธามนิธิเดินไปหยิบกระดาษทิชชูมาช่วยซับเหงื่อบน หน้าผากเธอจากนั้นจึงพูดกับเธอว่า “ดึกก็ดึกไม่เห็นเป็นไร เลยช่างใสซื่อจริงๆเลยเด็กคนนี้ครอบครัวเรากันเองทั้งนั้นจะกิน ข้าวกันเร็วหรือช้าสักหน่อยมันก็เหมือนๆกันนั่นแหละคราวหน้า ไม่ต้องรีบร้อนวิ่งไม่คิดชีวิตกลับมาแบบนี้นะรู้มั้ย? ”
ปาณีพยักหน้าส่งยิ้มเป็นการตอบรับ
จันวิภาก็ลุกขึ้นพูดกับปาณีด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า: “เอาเป็นว่า รีบไปล้างไม้ล้างมือก่อนดีกว่าน้ามุงเตรียมกับข้าวไว้เรียบร้อย แล้วเราจะได้กินข้าวกัน
ปาก้มลงมองดูเวลาด้วยท่าทางกระวนกระวายใจนี่มันก็ปา ไปสามทุ่มแล้วซึ่งเวลานี้เป็นเวลาที่คุณแม่ควรจะต้องกินข้าวเสร็จ ไปแล้วเรียบร้อยแต่ว่าวันนี้เพราะมัวแต่รอเธอก็เลยยังไม่ได้กิน ข้าวสักที
คิดมาถึงตอนนี้ปาณีที่กำลังกระวนกระวายใจตัดสินใจพูดกับ คุณแม่ : “คุณแม่คะคราวหน้าไม่ต้องรอหนูนะคะหนูเองก็เป็นคน กินอะไรง่ายๆคุณแม่ไม่ต้องแขวนท้องรอหนูก็ได้ค่ะทานกันก่อน ได้เลย! ”
แม่ของธามนิธิยิ้มพลางส่ายหัวเบาๆ “ไม่เห็นเป็นไรเลย ฉันอยู่บ้านทั้งวันไม่หิวเลยสักนิดคนแก่อ่ะนะก็ชอบเห็นลูกๆ หลานๆอยู่กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันยิ่งถ้าฉันได้เห็นเวลาเธอ กินข้าวท่าทางเอร็ดอร่อยฉันก็จะยิ่งกินได้เยอะขึ้นด้วยนะ!
จันวิภาเห็นปาณีมัวแต่รู้สึกผิดอยู่แบบนั้นก็หัวเราะออกมาๆ “เอาๆ ปาณีถ้าขืนยังอิ่งลีลาอยู่แบบนี้พี่คงเปลี่ยนจากกินอาหารมื้อค่ำไปเป็นกินอาหารมื้อดึกแทน แน่! แถมยังอ้วนด้วยนะดังเพื่อแก่หุ่นของสาวๆแบบ เรารีบไปล้างแล้วออกกินข้าว
ปาณีได้ยินดังนั้นก็วิ่งปรู๊ดไปล้างมือทันที
เห็นรีบวิ่งแบบนั้นแม่ธามเสียงตื่นตระหนก : ปาณีช้าหน่อยอย่า”
จากนั้นแม่หันมาเล่นงานจนโดยพูดตำหนิเธอ เบาๆ “เธอนี่เป็นพี่สาววิ่งล้มคะมาขึ้นจะยังไง? ”
ปาณีล้างมือเสร็จก็รีบเดินกลับออกมาก่อนจะเข้าไปประคอง พาคุณแม่ไปโต๊ะอาหาร
รีบเห็นว่าคุณแม่ลําเอียงขนาดสงสัยเลยว่าเป็น ลูกแท้ๆของแม่รึเปล่าแต่เธออ่ะต้องเป็นลูกแท้ๆของแม่แน่ๆ!
ปาณีหันตัวคุณ แม่! และจะเป็นนางฟ้าตัวน้อยๆของคุณแม่ไปชั่วชีวิตเลย
จันวิภาเห็นสองคนกำลังสวีทหวานแหววกันก็อดออกมาไม่ ได้เธอลงเริ่มแซวสองคนนั้นด้วยอาการหมั่นไส้ กลางระหว่างสองแล้วกัน ใช่ฉันมันแค่คนนอก! ”
ปารีบพูดปลอบเธอ : “พี่อ่ะอย่างพูดแบบนั้นสิคะ! พวกเรา ต้องช่วยกันดูแลคุณแม่พวกเราจะต้องเป็นนางฟ้าตัวน้อยๆของ คุณแม่! อีกอย่างหนูกับคุณอาก็ไม่ได้อยู่ที่นี่คอยดูแลปรนนิบัติ คุณแม่เหมือนเมื่อก่อนคุณแม่ก็ต้องการการดูแลจากพี่นะคะ!
เมื่อได้เห็นปาณีพูดด้วยท่าทางจริงจังขึงขังทั้งแม่และจันวิภา พากันสบตาก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ จากนั้นทั้งครอบครัวก็กิน ข้าวร่วมกันอย่างมีความสุข
“ปาณีลองชิมนี่สิแม่ตั้งใจให้น้ามุงทําให้เธอเป็นพิเศษเลย นะแม่ว่าเธอดูผอมไปแล้วผู้หญิงน่ะควรจะมีน้ำมีนวลสักหน่อยจะ ดีกว่า! “คุณแม่ตักเนื้อไก่ใส่ในชามของปาณี
“ปาณีเธอก็ต้องลองชิมนี่ด้วยอันนี้ก็อร่อย! “จันวิภาก็ตัก กับข้าวใส่ชามของเธอด้วย
เมื่อได้เห็นกับข้าวกองพะเนินอยู่ในชามของตัวเองปาณีก็เริ่ม ตั้งหน้าตั้งตากินด้วยความขมขื่นใจ” “อืมๆหนูกินทุกอย่างเลย ค่ะ! ”
คุณแม่เห็นปาณีที่กำลังกินอย่างเอร็ดอร่อยก็อดไม่ได้ที่จะถอน หายใจออกมา: “ไม่รู้เป็นยังไงเวลาแม่เห็นปาณีกินข้าวทีไรแม่ก็ รู้สึกมีความสุขทุกที! ไม่ได้ละแม่ว่าแม่อยากจะเติมข้าวอีก หน่อย! ”
จันวิภารีบหันไปพูดแหย่คุณแม่ : “แม่คะหนูว่าแม่น่าจะกิน น้อยๆหน่อยนะคะเดี๋ยวพ่อก็ไม่ปลื้มหรอกค่ะถ้าคุณแม่อ้วนเดี่ยว ก็ได้มานั่งลดน้ำหนักอีกหรอกค่ะคุณแม่
ปาณีที่กำลังเคี้ยวข้าวยๆถึงกับหยุดกินทันที
คุณแม่หันไปจ้องเขม็งใส่นวิภาก่อนจะหันไปพูดกับ ปาณี “ปาณีกินไปเถอะลูกพี่เค้าแค่แหย่เล่นน่ะ! แต่จะว่าไปธา มนิธิไม่มีทางรังเกียจหนูหรอกถ้าหนูอ้วน!
ปาณีค่อยๆวางตะเกียบลงอย่างช้าๆก่อนจะหันไปพูดกับคุณ แม่ด้วยหน้าตาอันเศร้าสร้อย : “ใครบอกล่ะคะเมื่อไม่กี่วันก่อน คุณอายังพูดเรื่องอ้วนกับหนูอยู่เลยคุณอาคงรังเกียจหนูแน่ๆถ้า หนูอ้วน! หนูคงกินเยอะมากไม่ได้แล้วล่ะค่ะ!
ทันใดนั้นเองคุณแม่ก็หันขวับไปทางจันวิภาก่อนจะตำหนิ เธอ : “เพราะเธอเลยเห็นมั้ยดูสิปาณีไม่ยอมกินแล้วเนี่ย!!
จนวิภารู้สึกกระอักกระอ่วนใจไม่น้อยที่เห็นปาณีเป็นแบบนั้น จึงบอกกับเธอว่า : “ปาณีเธอไม่อ้วนเลยสักนิด! กินเถอะไม่ เป็นไรหรอกไม่อย่างนั้นแม่จะต้องฆ่าฉันด้วยสายตาพิฆาตแน่ๆ เลย! ”
สุดท้ายแล้วปาณีก็ทนแรงเชียร์จากคุณแม่และจันวิภาไม่ไหว
กินเข้าไปซะพุงกาง!
ปาณีนั่งมองพุงกางๆของตัวเองด้วยแววตาละห้อยพูดเสีย งอ่อยๆ : “หนูจะลดน้ำหนัก! ไม่อย่างนั้นคุณอาก็จะเลิกรักหนู แล้วหนูจะไปร้องไห้ที่ไหนได้ล่ะคะ! ”
คุณแม่กับจันวิภาพร้อมใจกันตะโกนออกมา: “กล้าเหรอ! ” เห็นทั้งสองเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยหยอกเย้ากันสนุกสนานปาณีก็หัวเราะชอบใจก่อนจะเข้าไปสวมกอดพวกเธอทั้งคู่ “ขอบคุณ มากนะคะทั้งคุณแม่และคุณพี่ทุกคนดีกับหนูมากๆเลยค่ะ”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ