My Girl ภรรยาตัวน้อยของผม

ตอนที่818



ตอนที่818

ปาณีมุ่งหน้ากลับไปยังหอพักก่อน เธอเปิดประตูเข้าไปและมอง เห็นทนากำลังนั่งอยู่คนเดียวที่นั่น

ปาณีไม่ได้สนใจเธอแต่อย่างใด เธอทำแค่เพียงมุ่งตรงไปยัง ชั้นหนังสือของตัวเองและพลิกหาหนังสือที่ต้องใช้ในคาบเรียน วันนี้

สําหรับทีนาร์ ปาณีรู้สึกว่าตนเองทําตัวใจกว้างและมีคุณธรรม อย่างที่สุดแล้ว โดยเฉพาะเมื่อนาร์นั้นทำเรื่องเลวร้ายกับตนเอง ไปตั้งมากมาย เธอก็ไม่ได้แก้แค้นเอาคืนแต่อย่างใด จัดว่ามี เมตตาแล้ว

ตอนที่เธอกำลังหาหนังสืออยู่ จู่ๆที่นาร์ก็เข้ามายืนอยู่ด้าน หลังของเธอ ปาณีที่หยิบหนังสือเสร็จและเตรียมจะออกจากห้อง ไปหันมาเจอเธอยืนขวางอยู่ด้านหลังก็ตกอกตกใจขึ้นมา

“อุ้ย!”ปาณีใจหล่นไปยังตาตุ่ม ก่อนจะเอ่ยจากช่วยไม่ได้ “ที นาร์ จู่ๆมายืนอยู่ข้างหลังฉันแบบนี้ทำไม ตกใจแทบแย่!”

ทีนาร์มองดูปาณีด้วยสีหน้าย่ำแย่ ทันใดนั้นเธอก็คุกเขาลงกับ

พื้น ปาณีถึงกับได้ยินเสียง “ตับ” ดังขึ้นมา

ปาณีรีบร้อนดึงเธอขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยเสียงดัง “ทีนาร์ นี่เธอ กำลังทำอะไร? ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ!”

ทีนาร์ส่ายหัว และยังคงก้มหน้าต่อไปอย่างดื้อดึง เธอเอ่ยเสียงสะอื้น “ปาณี ฉันรู้ตัวว่าตนเองทัพผิดไปแล้ว ฉันไม่ควรจะพูดคำพู ดร้ายๆพวกนั้นกับเธอเลย เป็นเพราะอาจารย์นลิน เธอตั้งใจจะ พูดแบบนั้น ทำให้ฉันเข้าใจผิดว่าเธอเป็นเมียน้อย ฉันรู้แล้วจริงๆ ว่าตัวเองทำผิดไปแล้ว ปาณี เธอเป็นคนดี เธอรู้ว่าสถานการณ์ที่ บ้านฉันเป็นยังไง ฉันไม่สามารถไม่ทำงานได้…..

มองดูคนตรงหน้า ทีนาร์ที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น ทำเอาปา อดใจอ่อนขึ้นมาไม่ได้

ทีนาร์ก็เหมือนกับตนเอง ในเมื่อก่อน เกิดในครอบครัวคน ธรรมดาทั่วไป ไม่ได้เหมือนอย่างครอบครัวติรยา ในเมื่อก่อน ดัง นั้นเธอจึงต้องอาศัยความขยันของตัวเองถึงสอบเข้ามาในมหา ลัยชยุตได้ สอบเข้ามหาลัยก็เพื่อภายภาคหน้าจะได้มีงานการที่ ดีๆ ในเมืองใหญ่เมืองนี้

แต่ใครจะคาดคิดว่าเธอนั้นแหละที่เป็นคนกลบหลุมฝังตัวเอง ถูกบริษัททั้งหมดในเมืองชยุตจัดรายชื่อเข้าบัญชีดำ หลังจากนี้ ต่อให้อยากอยู่เมืองชยุตต่อไป ก็ยากที่จะทำได้อีก

คิดถึงตรงนี้ ปาณีก็มองทีนาร์ด้วยสายตาเห็นอกเห็นใจ และ ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา

ทีนาร์นิ่งไปชั่วครู่ หลังจากนั้นก็ยกมือของตนขึ้นมา ก่อนจะตบ ลงบนหน้าตัวเองอย่างแรง

เสียงเพี้ยะ ดังขึ้น ใบหน้าของเธอก็ปรากฏเป็นรอยมือแดง ขึ้นมา

ปาณีตกใจจนอ้าปากค้าง มองเห็นทนาร์ยกมือขึ้นมาอีกครั้งและตบลงไปยังแก้มอีกข้างของเธอ

ปารีบหยุดเธอเอาไว้แต่กลับต้องเผชิญกับอารมณ์อันบ้าคลั่ง

ของทนา อย่างทุลักทุเล ในที่สุดปาณีไม่สนใจเธออีกต่อไป เธอเอ่ยเสียงต่ำ “ถ้าเธอ เหยียดหยามตัวเองแบบนี้ คนอื่นไม่รู้สึกเห็นใจเธอขึ้นมาหรอ ใน

เมื่อสุดท้ายแล้ว คนที่ทำลายชีวิตของเธอก็คือตัวเธอเอง!”

ทั้งร่างของทีนาร์ทรุดลงไปพิงอยู่กับพื้นห้อง มองดูแผ่นหลัง ของปาณีที่ไม่แม้แต่จะหันมามองเธอ อดไม่ได้ที่จะตะคอกออกมา “เธอจะไปรู้อะไร? เดินทีเธอก็ไม่เคยจะเข้าใจสถานการณ์ของฉัน อยู่แต่แรก! ตอนนี้เธอสบายแล้ว มีสามีที่ร่ำรวย อีกทั้งยังมี บรรดาพวกผู้ชายที่คอยช่วยเหลือเธออย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ แต่ ฉันหล่ะ? ตอนนี้แม้กระทั่งคุณสมบัติที่จะอยู่ต่อในเมืองชยุตหลัง เรียนจบยังไม่มี แน่นอนว่าเธอไม่รู้สึกรู้สาอะไร เพราะเธอนั้นมีทุก อย่างหมดแล้ว!”

เดิมทีปาณีนั้นกำลังจะก้าวออกจากหอไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่พอได้ยินเข้า เธอก็หยุดฝีเท้าลง

เธอหันหน้ามาอย่างเย็นชา มองดูนาร์ที่กำลังเอนอยู่กับพื้น ด้วยท่าทางเจ็บปวด ปาณีเอ่ยพูดเสียงดัง “ทุกอย่างที่ฉันครอบ ครองอยู่ในวันนี้ ล้วนเป็นเพราะฉันสมควรได้มันมา ยังจำได้ไหม ว่าตอนที่สามีฉันนั่งอยู่บนรถเข็น เธอเย้ยหยันฉันไว้ยังไง? แต่ที่ ผ่านมาฉันไม่เคยจะเก็บมันมาใส่ใจ นั่นก็เพราะฉันเชื่อมั่น เชื่อว่า ต่อให้สามีฉันจะต้องนั่งบนรถเข็นไปตลอดชีวิต ฉันก็จะไม่ทิ้งเขาไปไหน! อ้อยังมี คนเราจะมีเพื่อนแท้ต้องหัดมีความจริงใจ คนที่ ชอบเอาแต่พึ่งพาคนอื่นแบบเธอ ช่างน่าทุเรศเสียจริง!

พูดจบ ปาณีก็เดินออกจากหอพักไปโดยไม่แม้แต่จะหันหลังมา มองอีก

ในหอพัก เหลือแค่เพียงที่นาร์ที่กำลังเอนพิงอยู่กับพื้นห้องด้วย

น้ำตานองเต็มสองหน้าคนเดียวเท่านั้น…..

เป็นเพราะการก่อกวนของทนาร์ ทำให้ปามาถึงห้องเรียน สาย

ไม่มีทางเลือก เธอทำได้แค่ทำหน้าตนเองให้หนาและเอ่ยเสียง ดัง “รายงานตัวค่ะ!”

ภายหลังอาจารย์ก็ยังคงสั่งสอนเธอไปยกหนึ่ง ทำเอาปา

รู้สึกเสียใจไม่น้อย แต่เธอก็ไม่ได้เถียงอะไรออกมา ในเมื่อตัวเธอ

นั้นมาสายจริงๆ

มองดูห้องเรียนที่มีคนนั่งจนเต็มแล้ว ปาณีเดินอีกไม่กี่ก้าว ก็

มองเห็นโมรีที่กำลังโบกมือไปมาอยู่

เธอรีบเดินเข้าไปและนั่งลงข้างๆ โมรี

โมรีเอ่ยถามเสียงเบา “ทำไมเธอถึงมาสายเนี่ย?”

ปาณีแค่เอ่ยขึ้นมาหนึ่งประโยค “พูดจากับทีนาร์ไปนิดหน่อย” พูดจบ โมรีก็ชะงักไป และไม่ได้ถามอะไรอีก ทั้งสองเปลี่ยนมา ตั้งใจฟังอาจารย์สอบแทน
หลังเลิกเรียน โมรีเตรียมตัวจะกลับไปพร้อมกับปาณี แต่กลับ ถูกชยรพเรียกเอาไว้เสียก่อน “โต มานี่หน่อย ฉันมีเรื่องอยาก คุยกับเธอ!!!

โมรีลังเลไม่ได้เดินไป แต่กลับถูกปาณีดันตัวออกไปหาเขา

โมรีแกล้งทำท่าที่ดุร้ายใส่ปาณี แต่เธอกลับหัวเราะขึ้นมา และ เอ่ยขึ้นอย่างขี้เล่น “ฉันไม่ทำตัวเป็นแบตสำรองแล้วนะ ชยรพ ฉัน ส่งคืนโมรีของนายให้แล้วนะ!”

ชยรพยิ้มรับอย่างหน้าหนา “ยังคงเป็นปาณีที่ใส่ใจ ปาณีหัวเราะและเดินออกไป

โมรีเท้าเบาๆก่อนจะเอ่ยถามเสียงเบา “นายมาหาฉัน ทำไม? ฉันยังอยากจะถามเรื่องที่ปาณีมาสายกับเธออยู่นะ?”

ชยรพมองโมรีด้วยท่าที่เขินอายเล็กน้อย เขาเปิดปากเตรียม

พูด แต่กลับไม่มีเสียงใดๆออกมา

โมรีเงยหน้าขึ้นมามองเขา นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นชยรพทำตัว ขี้เกรงใจขึ้นมา!

ชยรพนิ่งคิด ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้งและเอ่ยขึ้น มา “เอ่อคือ พ่อแม่ของฉันอยากเลี้ยงข้าวเธอวันนี้ เธอพอจะมี เวลาไหม?”

โมรีตะลึงไปเล็กน้อย หลังจากนั้นก็เผชิญหน้ากับสายตา จริงจังของชยรพ ก่อนจะหยักหน้าเล็กๆอย่างเขินอาย “ทำไม กะทันหันแบบนี้หล่ะ? นาย บอกเรื่องของพวกเราให้คุณลุงคุณป้ารู้แล้วหรือ?”

ชยรพพยักหน้า “พูดขึ้นมานะ พ่อแม่ของฉันอยากมาเจอเธอ ด้วยตาของท่านเอง ไม่รู้ว่าเธอจะสะดวกรึเปล่า?”

มองดูชยรพที่กำลังตื่นเต้นจนมือไม้ถูกันไปมา ก้นบึ้งในใจ ของโมรีก็เต็มไปด้วยความหวาน หลังจากทุลักทุเลกันอยู่ครู หนึ่ง โมรีก็เอ่ยเสียงเบาขึ้นมา ถ้าอย่างนั้น ฉันต้องเตรียมตัวอะไร ไหม?”

ชยรพมองเธอด้วยใบหน้าสดใสขึ้นมาทันใด “เธอไม่ต้องเตรี ยมตัวอะไรทั้งนั้น มีฉันอยู่ทั้งคน แค่เธอมาปรากฏตัวก็พอแล้ว!” พูดจบก็จูงมือโมรีไว้ และพาเธอออกไปข้างนอก

โมรีถูกเขาดึงตัวไปอย่างไม่ทันจะได้มีปฏิกิริยาตอบสนอง จึง ทำได้แค่ด้านหนึ่งเดินไปด้านหนึ่งเอ่ยถาม “นายจะพาฉันไป ไหน?”

ชยรพยิ้มอย่างลึกลับ

เห็นดังนั้น โมรีก็ไม่ได้ถามเขาขึ้นมาอีก

มาถึงด้านนอกมหาลัย ชยรพพาโมมายังร้านขายเสื้อผ้าผู้ หญิง มองลอดผ่านกระจกของร้านเข้าไปและมองเห็นเสื้อผ้าใน นั้นมากมาย โมรีก็เข้าใจขึ้นมาว่าที่แท้ชยรพต้องการพาเธอมาที่

ชยรพชี้เข้าไปด้านในและเอ่ย “ไปเลือกสักชุดเถอะ ฉันซื้อให้เธอ!”
โมรีสายหน้า “ฉันไม่เอา!”

ชยรพร้อมูลนขึ้นมา คิดอยากจะพูดอะไร แต่กลับถูกมือของ โมรีอุดปากไว้เสียก่อน

โมรีหัวเราะเสียงหวาน “ฉันไม่อยากให้นายซื้อให้ฉันซื้อ

เอง!”

มองเห็นชยรพยังคงอยากพูดอะไรออกมา โมรีจึงเอ่ยขึ้นอย่าง หนักแน่น “ถ้าหากนายแย่งฉันจ่ายเงินละก็ ฉันจะไม่ไปเจอพ่อแม่ นายแล้ว!”

พนิ่งคิด ก่อนจะเอ่ย “ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นฉันเข้าไปช่วยเลือก เป็นเพื่อนเธอ แบบนี้โอเคไหม?”

โมรีหัวเราะและจับมือเขาเอาไว้ ก่อนที่ทั้งคู่ จะเดินเข้าไปใน ร้านอย่างหวานชื่น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ