ตอนที่ 657
ไวยาตย์ส่งถุงเสื้อผ้าไปให้แก่ชามนิธิ ปาณีนั้นต้องการจะอยู่ข้าง คืนที่นี่ เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ก็น้อยชิ้นนัก ยามนิธิจึงโทรศัพท์บอก ให้ไวยาตย์เสื้อผ้ามาให้
ธามนิธิรับถุงเสื้อผ้าเอาไว้ “ลำบากนายแล้ว”
ไวยาตย์ยืนอยู่ด้านข้างเอ่ยถาม “คืนนี้ไม่กลับไปแล้วหรือ ครับ?”
“ปาณีอยู่เฝ้าค้างคืนที่นี่ ฉันอยู่เป็นเพื่อนเธอ” น้ำเสียงของธา มนิธิกดต่ำ เนื่องจากกลัวว่าปาณีจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้น
ไวยาตย์เอ่ย “ดึกขนาดนี้แล้ว คุณกลับไปก่อนดีกว่าครับ พรุ่ง
นี้ค่อยมาใหม่”
ถึงแม้ว่าตัวธามนิธิเองจะไม่ใส่ใจ แต่เขากลับทนเห็นธามนิธิ มาลำบากแบบนี้ไม่ไหว
ธามนิธิเอยอย่างหนักแน่น ไม่เป็นไร
ปาณีอยู่เฝ้าค้างคืนไม่ของเธอที่นี่ เธอยังไม่รู้สึกว่าลำบากอะไร ตนเองที่อยู่เป็นเพื่อนเธอที่นี่ถือว่ากระทำเรื่องที่สมควรแล้ว
ไวยาตย์รู้สึกไม่คุ้มค่าแทนเขา “แม่ของเธอเมื่อก่อนทำไม่ดีกับ คุณอย่างยิ่ง คุณก็รับมันมาได้ ตอนนี้เธอป่วย คุณก็ยังอุตส่าห์มา เฝ้าเธอถึงที่นี่ด้วยตนเองอีก
……..”ธามนิยมวดคิ้วขึ้น “นายกลับไปก่อนเถอะ
เห็นชัดว่าไม่อยากให้ไวยาตย์พูดถึงเรื่องไร้สาระพวกนี้กับคน ที่เขาเฝ้าคือปาณี ไม่ใช่ฝนสิริ
ไวยาตย์ถูกบอกปัดอย่างไร้เยื่อใย จึงยอมกลับไปแต่โดยดี
ปาณีนอนหลับไปสักพักและตื่นขึ้นมา ธามนิธิมหน้ามองดู เธอที่นั่งอยู่กับตัวของตนเอง “ตื่นแล้วหรือ?”
ปาณีลุกขึ้นมานั่ง รู้สึกปวดเมื่อไปทั้งตัว อยู่เฝ้าไข้ค้างคืนเป็น เรื่องที่ลำบากอย่างยิ่ง
ธามนิธิส่งชุดที่ไวยาตย์เอามาให้กับเธอ ปาณีรับถุงนั้นมา “ไว ยาตย์เพิ่งจะมาที่นี่หรอคะ?”
“อืม”
ปาณีด้านหนึ่งสวมเสื้อ ด้านหนึ่งเอ่ยกับธามนิธิ “ดึกมากแล้ว คุณรีบกลับไปเถอะค่ะ ฉันอยู่โรงพยาบาลคนเดียวได้
“ไม่เป็นไร”ธามนิธิเอ่ย “ฉันอยู่เป็นเพื่อนเธอ
เขาหยิบชุดคลุมออกมาจากถุงและคลุมลงบนตัวเธอ ไม่รู้ว่า เป็นเพราะคำพูดของเขา หรือเป็นเพราะเสื้อ ปาณีนั้นรู้สึกอบอุ่น ขึ้นมาเป็นกอง
เธอมองดูสามนิธิ “คุณเป็นแบบนี้ กลับไปไวยาตย์ต้องบ่นฉัน
เธอลําบากนิดหน่อยไม่เป็นไร ตั้งแต่เล็กเธอก็ซินเสียแล้ว แต่ธามนิธิ ในสายตาของไวยาตย์นั้นราวกับเป็นลูกรักก็มิปาน แม้แต่ความลำบากเพียงเล็กน้อยก็ไม่อยากให้เขาได้เผชิญ ธามนิธิหัวเราะ “เขากล้า!!
ตอนเช้า จิรเวชมาถึงตั้งแต่เช้าตรู่ ปาณีกับธามนิธิที่อยู่เฝ้ามา ทั้งคืนจึงออกมาจากโรงพยาบาล
ไวยาตย์มารับพวกเขา ปาณีนั้นนั่งลงข้างๆถามนิธิ และได้ยิน ไวยาตย์เอาแต่บ่นไม่หยุด “เมื่อคืนฉันพูดกับคุณธามนิธิอยู่ตั้ง นานสองนาน ว่าให้เขากลับไปพักผ่อน แต่เขาก็ไม่ฟัง ปาณีเธอก็ เหมือนกัน คนในบ้านของตนเอง ทำไมไม่ให้พวกเขามาอยู่เป็น เพื่อนแม่เธอ ทําไมต้องให้คุณสามนิธิของเรามาอยู่ด้วย?”
“.………ปาณีเหลือบมองธามนิธิรอบหนึ่ง รู้ดีอย่างยิ่งว่าเขาได้รับ ความลําบากไม่น้อย
ธามนิธิจับมือของเธอไว้และเอ่ยกับไวยาตย์ “หุบปาก” เลขานมาจากไหนกัน เขาไล่ออกได้ไหม?
ไวยาตย์หุบปากลงจริง แต่ท่าทีกับดูดึงดันอยู่บ้าง
ปาณีหัวเราะและเอ่ย “ครั้งหน้าไม่มีแล้ว ไวยาตย์นายโลก โมโหเถอะ”
บ้านของเธอมีอยู่แค่ไม่กี่คน ฝนสิรินั้นไม่กี่วันนี้จะต้องอยู่พักที่ โรงพยาบาล จึงไม่อาจให้พ่อของเธออยู่เฝ้าเพียงคนเดียวได้ เธอก็ต้องลงแรงด้วยช่วยกัน นี่เป็นเรื่องที่สมควรกระทำ
แต่ว่าเธอก็เข้าใจอารมณ์ของไวยาตย์ โดยเฉพาะแม่ของเธอที่ ยังคงปฏิบัติไม่ดีต่อถามนิธิเลยสักนิด
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ทั้งคู่ก็ทานอะไรเล็กน้อย ก่อนที่สามนิธิกับ ปาจะขึ้นไปพักผ่อนที่ชั้นบน
ธามนิธิถอดชุดออกและนอนลงบนเตียง เขาจ้องดูปาณีและ เอ่ย “คําพูดของไวยาตย์ เธออย่าเก็บมาใส่ใจ เขาก็เป็นคนแบบ นี้ พูดจาไม่น่าฟัง แต่จริงๆ แล้วไม่ได้คิดร้ายอะไร ก่อนหน้านี้ที่ฉัน และเธอหย่ากัน เขาก็รู้สึกว่าฉันทำผิดต่อเธออย่างยิ่ง และคิดจะ ลาออกเสียด้วยซ้ำ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ