ตอนที่ 647
ตอนนี้เวทสมาเห็นจากแบบนี้ ชยพลนลานแทบตายอยู่แล้ว
โมรียนอยู่ด้านข้าง ไม่ได้พูดแก้ตัวอะไร ทำแค่เพียงมองดูเว สเท่านั้น
เวทัสพูดกับชนรพ “ไม่เป็นไร
เติมเขาก็ไม่เคยใส่ใจเรื่องนี้
เพียงแต่พอมาเห็นภาพนี้อย่างกะทันหัน ต่อให้เป็นเพื่อนที่ สนิทสนมที่สุด ก็ยังรู้สึกประดับประเด็ดที่ทำตัวเป็นก้างขวางคอ
อยู่บ้าง
โมจ้องมองดูแผ่นหลังของเวกัสที่เดินจากไป เธอรู้สึกว่า
จิตใจของตนเองนั้น เจ็บปวดเหมือนมีอะไรมาทิ่มแทง
ชยรพหันกลับมามองโมรี “โมรีเธอเป็นบ้าไปแล้วหรือไง?
นี่เป็นจูบแรกของเขานะ
เมื่อกี้เขายังไม่ทันได้ตั้งตัวว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ถูกโมกอดและจูบ เข้าให้…
ให้ตายเถอะ เขาเห็นเธอเป็นพี่ชายน้องชาย แต่เธอกลับจูบ เขา!
โมรีมองซยรพรอบหนึ่ง รู้สึกละอายใจอยู่บ้าง “ขอโทษ”
เธอไม่ได้อยากจะหลอกใช้เขา
เพียงแต่วันนี้ มองเห็นเวทัลจูบปาณี ก็รู้สึกมีแรงกระตุ้นขึ้นมา นิดหน่อย
เดิมทีเธอคิดว่า ตนเองนั้นตามเวทีสมานานขนาดนี้ เขามอง เห็นภาพแบบนี้เข้าก็ควรจะมีปฏิกิริยาตอบสนองบ้างเล็กน้อย แต่
กลับคิดไม่ถึงว่า แท้เขาไม่เคยใส่ใจมันเลยแม้แต่น้อย
ทำให้หยุดที่จะรู้สึกน่าหัวเราะไม่ได้ เดิมที่เคยคิดว่า อยู่เคียง ข้างเขามานานขนาดนี้ เขาก็ควรจะคิดอะไรกับเธอขึ้นมาบ้างสัก เล็กน้อย
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเธอนั้นเป็นแค่คนที่เดินผ่านทางจริงๆ ชยรพมองเห็นสีหน้าของปาดหดหู รู้ดีว่าเธอนั้นชอบเวทีสมา
โดยตลอด
ผู้ชายตัวโตอย่างเขา รู้ดีว่าไม่ควรไปทะเลาะถกเถียงกับเธอ แต่เรื่องจูบแรก
เพียงแต่……..
เขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยกับเธอสองสามประโยค “เธอก็รู้ว่าฉันกับ เวทัสนับถือกันเป็นพี่เป็นน้อง เรื่องของพวกเธอฉันไม่คิดจะเข้าไป ยุ่ง แต่เธอกลับลากฉันเข้าไปด้วยแบบนี้ เธอทำให้ฉันทำตัวไม่ ถูกเข้าใจไหม?”
ปกติแล้วเขาปฏิบัติกับโมรีดีอยู่ไม่น้อย ยังไงซะเธอก็เป็นผู้ หญิงเพียงคนเดียวในทีม
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขายินยอมมีเรื่องมีราวกับเวทัล เพราะเธอหรอกนะ!
เขานับถือเป็นพี่น้องกับเวทสมานานมากแล้ว ถึงขนาดที่ทั้ง สองสามารถใส่กางเกงตัวเดียวกันได้ โมรีท่าแบบนี้ แทบจะ ทำให้เขากลายเป็นคนประเภทบาปหนาไร้ยางอายไปแล้ว
เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะไปแย่งคนของพี่น้องลงหรอกนะ!
โมรีหัวเราะเยาะตนเอง ยังไงซะเขาก็ไม่สนใจหรอก” อยู่ข้างกายเขามานานขนาดนี้ บางครั้งเธอก็รู้ว่าตนเองเหนื่อย เกินไปแล้ว
ชยรพรู้สึกว่าพูดกับเธอไม่รู้เรื่องจึงเอ่ย “งั้นฉันกลับก่อนหล่ะ เขาเกรงว่าโม จะคิดไม่ตก แล้วทำอะไรกับเขาขึ้นมาอีก ชยรพรู้สึกว่าตนเองสมควรจะอยู่ห่างจากโมรีขึ้นมาหน่อย แบบนี้ถึงจะปลอดภัย
อยู่มายี่สิบปี เขาเป็นผู้ชายใสซื่อประเภทที่ขนาดมือของเด็กผู้ หญิงยังไม่เคยจะจับเลยสักครั้ง
เมื่อก่อน เขายังมีเป้าหมายอันเกิดขึ้นได้ยากอย่างปาณีอยู่ บ้าง ผลลัพธ์คือหลังจากที่เห็นธามนิธิ เขาก็แทบจะถูกฆ่าลงใน ทันใด ถึงขนาดที่ไม่กล้าแม้แต่จะคิดอะไรขึ้นมาอีก ดังนั้น ในด้าน ประสบการณ์เรื่องรักๆใคร่ๆของเขาจึงยังคงเป็นกระดาษขาวอัน ว่างเปล่าอยู่เช่นเดิม
อย่างไรก็ตามการจูบครั้งแรกของเขา กลับต้องมากลายเป็น เหยื่อในสายตาของคนอื่นเข้าให้
ปาณีเดินออกมาจากร้านอาหาร เป็นเวลากว่า ท้องฟ้าด้าน นอกจึงมีอยู่บ้าง ส่วนธามนิธินั้นลงมาจากรถเรียบร้อยแล้ว
เขาสามชุดสูทสีดำ กระดุมถูกติดอย่างประณีตเรียบร้อย แทบ จะคล้ายกับนายแบบก้าวลงมาจากปกนิตยสาร
เขาตัวสูงอย่างยิ่ง บนตัวเต็มไปด้วยความรู้สึกมั่งคง
ปาณีเอ่ย “คุณอา”
ธามนิธิเดินมาถึงตรงหน้าเธอและยื่นมือออกไปหา ในขณะที่ ปาณีก็ยื่นมือมาจับมือหนาไว้อย่างเป็นธรรมชาติ ก่อนจะนําเขา เข้าไปด้านใน
“ปาณีไม่ใช่ว่าหนีไปแล้วหรอกนะ? ปล่อยสามีเธอมาให้ยล โฉมหน่อยจะสึกหรอเข้าให้หรือไง”
“พวกเธออย่ามีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นเลย ไม่ใช่ว่า เธออยากจะแต่งให้กับสามีพิการนั้นสักหน่อย ได้ยินมาว่า ผู้ชาย คนนั้นยังค่อนข้างมีอายุอีกด้วย ดูท่าเธอคงจำเป็นต้องทำ
ด้านในห้องผู้คนยังคงถกเถียงกัน ปาณีจูงมือธามนิธิเข้ามา และทันในนั้นเองภายในห้องก็เงียบลงมาในทันทีทันใด
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ