เธอมองถามนิธิ ถามว่า “คุณหายดีแล้วหรือ
คะ?”
“ต้องพักฟื้นอีกสักระยะ” ธามนิธิตอบ แต่เรื่อง เดินไม่มีปัญหาแล้ว”
เขามองปาณีที่อยู่ในอ้อมกอด “ดีใจไหม?”
ปาณีกลอกตาไปมา ไม่มีอะไรที่ไม่น่าดีใจนี่ “ก็ ดีใจหรอกค่ะ แต่ว่า…คุณคงไม่ได้เพิ่งมาหายดีวันนี้ หรอกนะ?”
พอเห็นท่าทางของเขา คงจะรู้มานานแล้วว่า ตัวเองหายดีแล้ว แต่กลับ…ไม่ยอมบอกเธอสักนิด
เขาจะรู้บ้างไหมว่า สองวันก่อนเธอเคยตั้ง ความหวังว่า ถ้าคุณอาเดินได้เป็นปกติ คงจะดีไม่
น้อย ความคิดของเธอในตอนนั้น การที่ธามนิธิลุก
ขึ้นยืนได้ เป็นเหมือนความฝันที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ เลยในชีวิตนี้
แต่เขาล่ะ !
รู้อยู่ว่าตัวเองยืนได้แล้ว ยังมาเล่นละครอีก ธามนิธิมองที่เธอ ไม่ได้พูดอะไร ทําเป็นไม่รู้ไม่
ปาณีเห็นเขาแบบนี้แล้ว เลยพูดว่า “คุณนี่เลว
จริงๆ !”
“แล้ววันนี้เธอจะไปเรียนหรือเปล่า?” รามนิธิ มองเธอด้วยความรักใคร่
ถ้าหากเธอไม่ไปเรียน เขาก็เต็มใจจะอยู่ทําตา
หวานซึ่งเป็นเพื่อนเธอ
ปาณีตอบว่า “ไปค่ะ”
“งั้นสวมเสื้อผ้าซะ” เขาหยิบเสื้อผ้าของเธอมา ช่วยสมให้เธอ
ขณะที่ปาณีกำลังกลัดกระดุมเสื้อ สายตาก็ มองไปที่ธามนิธิ พูดวา “คุณเดินให้ฉันดูหน่อยสิคะ”
ธามนิธิมองเธอ ทําตามอย่างเสียไม่ได้ เพื่อให้ เธอสบายใจ แล้วลูบที่หัวของเธอ พูดว่า “ฉันหายดี แล้วจริงๆ ลุกขึ้นยืนได้แล้ว ต่อไปไม่ต้องใช้รถเข็น อีก เดินเองได้แล้ว”
เขารู้ว่า เธอยังไม่เชื่อสนิทดี
ยังไงก็ตามเรื่องทั้งหมดนี้ สำหรับเธอแล้ว มัน กระทันหันเกินไป…..
เขารู้สึกว่าท่าทางที่เธอแสดงออกมานั้นช่างน่า รักมาก
ปาณีจ้องมองไปที่ธามนิธิ สายตาเต็มไปด้วย ความไม่แน่ใจ
หลังจากสวมเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็ ลงจากเตียงไปแปรงฟัน แปรงฟันไปสักพัก ก็โผล่ หน้าจากประตูมาแอบมองเขา
ธามนิธิเห็นท่าทางของเธอแบบนี้ ถึงกับสาย หัว หันไปจัดการงานของตัวเองต่อ ทุกวันน้าลำมุงจะเตรียมอาหารเช้าไว้แต่เช้า
เช้าวันนี้ก็เช่นกัน
ปาณีจัดเตรียมของเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ สะพายกระเป๋าลงมาชั้นล่าง เข้าไปในห้องทานข้าว พูดทักทายน้าล่ามุง “อรุณสวัสดิ์ค่ะ น้าลำมุง”
น้าล่ามุงยิ้มทักทายตอบ “เมื่อคืนวานเห็นหนู บอกว่าอยากทานบะหมี่ น้าเลยทําให้ทาน ลองชมสิ
“ขอบคุณค่ะน้าล่ามุง” ปาณีนั่งลงที่เก้าอี้
ไม่ทันพูดจบ ธามนิธิก็เดินตามหลังเธอมา
น้าล่างเห็นเขายืนอยู่ เกือบนึกว่าเป็นไวยา ตย์ แต่พอมองดีๆ ก็พบว่ามีบางอย่างแปลกไป ทําไม เป็นธามนิธิล่ะ?
ปกติเขาจะนั่งบนรถเข็นออกมา แล้วนี่รถเข็น หายไปไหน นั่งนึกอยู่ครู่หนึ่งว่ามีอะไรที่แปลกไป
ธามนิธิเดินเข้ามาหาท่าเฉยๆ แล้วนั่งลงด้าน ข้างปาณี พูดอย่างรักใครว่า “ค่อยๆทานก็ได้”
“ฉันจะไปเรียนไม่ทันแล้วค่ะ”
น้าลำมุงยังคงยืนอึ้งอยู่ เห็นท่าทางสองคนคุย กันแบบนี้ เป็นท่าทางปกติเวลาที่ปาณีคุยกับธามนิธิ
พอถึงตรงนี้ถึงเพิ่งจะเข้าใจ คนที่อยู่ตรงหน้า
คือธามนิร”ธามนิธิ คุณ… ”
น้าลำมุงจ้องไปที่ธามนิธิ แม้แต่คำพูดก็แทบจะ ไม่มีเสียง
ธามนิธินั่งอยู่อีกด้าน ถามน้าลำมุงว่า “มีบะหมี่ ไหมครับ?
น้าล่างพยักหน้า “มี”
เธอเดินเข้าไปในห้องครัวด้วยตัวสั่นเทา ความ รู้สึกนี้เป็นอย่างเดียวกับปาณีในตอนนั้น ที่นึกว่าตัว เองกำลังฝันไป
จนกระทั่งเธอยกชามบะหมี่ที่เพิ่งทําเสร็จ ใหม่ๆ วางไว้ตรงหน้ารามนิธิ ถึงได้ถามขึ้นอย่างไม่ อยากเชื่อว่า “คุณยืนได้แล้วหรือ?”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ