ตอนที่ 364 ศัตรูหัวใจ (2)
กลางคืนเธอโทรหาเงินหมิ่นพูดถึงเรื่องที่จะกลับไปพบคนตระ กูลหลัน แม้ตอนนี้เธอจะเรียกคุณหญิงหลันถึงว่า “คุณแม่ แต่ ไม่ว่าอย่างไรเงินหมิ่นก็ยังเป็นมารดาของเธอดังที่ผ่านมา
ได้ยินเธอพูดเรื่องนี้เป็นหมื่นก็อดรู้สึกวูบโหวงในใจไม่ได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็คือลูกสาวแท้ๆ ของคุณหญิงหลันถึงกับ ไปชิง ง
“ไปสิ ในเมื่อเป็นคนในครอบครัวสักวันก็ต้องรู้จัก
เซี่ยซิงเฉินถอนหายใจทีหนึ่ง ยืนอยู่ตรงระเบียงแหงนหน้า มองฟ้าที่มืดสนิทนอกหน้าต่าง
“ตอนนี้อากาศหนาวแล้ว แม่ต้องใส่เสื้อหนาๆ นะ
“แม่รู้ ลูกก็เหมือนกัน”
“รอปีใหม่ลูกจะพาลูกกลับไปเยี่ยมแม่” เธอไม่กล้าบอก เรื่องของต้าไปเพราะกลัวเธอกังวลใจแล้วต้องเหนื่อยวิ่งอยู่สอง
ฝั่ง
“ปีใหม่นี้ไม่อยู่กับตระกูลไปหรือตระกูลหลันเหรอ?” เงินหมิ่นคิดเผื่อเธอเซี่ยซิงเฉินตอบ “ไปทั้งสองที่แหละค่ะ จะให้แม่อยู่คนเดียวตอนปีใหม่ที่เมืองเหลียงก็ไม่ได้
แค่คิดว่าอยู่อย่างโดดเดี่ยวก็รู้สึกไม่ดีแล้ว
เงินหมิ่นอยากให้เธอมาอยู่แล้วจึงไม่ได้พูดอะไร หากแต่ นึกถึงบางอย่างก็พูดขึ้น “สองวันก่อนพ่อของลูกจู่ๆ ก็มาหา
เซี่ยซิงเฉินไม่เอะใจสักนิด “ลูกดูออกแต่แรกแล้วว่าพ่อยัง มีเยื่อใยกับแม่อยู่ ตอนนี้เกิดเรื่องแบบนั้นกับหลี่หลิง บางที พ่ออาจจะยิ่งรู้สึกถึงช่วงเวลาดีๆ กับแม่มากขึ้นไปอีก
เงินหมิ่นถอนหายใจ “มารู้ตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร ผ่าน
ไปหลายสิบปี ทุกอย่างกลับไปเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว
แม้เงินหมิ่นจะเป็นคนอ่อนโยนแต่ก็มีนิสัยดื้อรั้น สมัยยัง สาวยังไม่เคยให้อภัยเซียกั่วเผิงแล้วอายุตอนนี้ก็ยังไม่มีทางพูด ถึงเรื่องให้อภัยอะไรอีก
วางสายเสร็จเซี่ยซิงเฉินก็นอนอยู่บนเตียง เกิดความไม่ สบายใจขึ้นเล็กน้อยเมื่อนึกถึงความสัมพันธ์ที่คลาดแคล้วไปตั้ง ยี่สิบกว่าปีของพ่อแม่ แล้วนึกถึงตัวเองกับไปเฉิงก็พลันอึดอัด ใจ เธอไม่รู้ว่าระหว่างพวกเขาจะมีวันเช่นนั้นหรือไม่…
อย่าว่ายี่สิบปีเลย แค่สองปีก็โหดร้ายมากๆ สำหรับคู่รักที่รักกันมาก
วันถัดมา
เลิกงานเซียซิงเฉินออกมาจากสำนักงานก็เห็นรถยนต์สีดำ คันหรูจอดรออยู่นอกประตู ภายใต้ลมหนาวที่พัดผ่านมา คุณ หญิงหลันถึงสวมเสื้อโค้ทยืนรออยู่นอกรถอย่างสง่า
เจ้าหน้าที่ประจำแต่ละฝ่ายที่กำลังออกจากพระราชวังไปย วี่ เมื่อเห็นคุณหญิงหลันถึงเข้าก็พากันเข้าไปทักทาย
“คุณหญิง ทำไมไม่ได้ข่าวว่าท่านกลับประเทศแล้ว
คุณหญิงอมยิ้มพลางโบกมือให้พวกเขา “กลับมาเพราะ ธุระส่วนตัว เป็นตารางงานเงียบๆ นะ”
“วันนี้ท่านมาที่นี่เพื่อเจอใครเหรอ?”
“อืม ฉันกำลังรอใครบางคนอยู่ พวกคุณก็ทำธุระของพวก คุณไปเถอะไม่ต้องสนใจฉัน
“คุณหญิงหลันถึงนี่นา!” เพื่อนร่วมงานข้างกายของเซียง
เฉินพูดขึ้นด้วยความตื่นตระหนก “เป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันเจอ
ตัวจริงน่ะ!”
“ผอมจริงๆ นะ! แค่ลมพัดก็เหมือนจะล้มเลย
“ได้ยินว่าสุขภาพคุณหญิงไม่ค่อยดีนัก มีโรคประจำตัว ตอนนี้มีชีวิตได้นานกี่ปีก็ได้เท่านั้น
เพื่อนร่วมงานต่างก็พูดเสียงเบา เซี่ยซิงเฉินกลับได้ยิน ชัดเจนซึ่งประโยคสุดท้ายนั่นทิ่มแทงให้ใจเธอเจ็บแปลบ เธอรู้ ว่าคนเหล่านี้ไม่พูดความเท็จหรอกเพราะคราวก่อนตนก็รู้เรื่อง อาการป่วยของเธอดีแล้ว เพียงแต่อดหันไปจ้องอีกฝ่ายแวบหนึ่งไม่ได้
เธอไม่ชอบประโยคนั้นมากๆ
สายตานั่นทำให้คนถูกมองรู้สึกแปลกใจจนถลึงตากลับไป เธอกลับไม่อยากยืดยื้อกับอีกฝ่ายอีกต่อไปเพียงแต่สับเท้าไว ขึ้น ไม่สนสายตาตกใจปนองของผู้คน กระทั่งเดินไปถึงข้างๆ คุณหญิงหลันถึง
ถอดผ้าพันคอของตนออกพันให้คุณหญิงอย่างเป็น ธรรมชาติ “หนาวขนาดนี้ทำไมแม่ถึงมาเองล่ะคะ?
บนคออุ่นวาบ พอเห็นลูกสาวคุณหญิงหลันถึงก็ไม่รู้สึ หนาวอีกแล้ว
กุมมือเธอไว้ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ “พอดี มาเดินเที่ยวเล่นแถวนี้สักหน่อย นึกถึงว่าลูกกำลังทำงานที่ สำนักงานเลยมารับลูก
“รีบขึ้นรถเถอะค่ะ ข้างนอกหนาว ยืนอีกสักพักต้องเป็น
หวัดแน่ๆ”
คุณหญิงหลันถึงรับคำและหยักหน้าให้คนข้างกายเล็ก น้อยก่อนจะก้าวขึ้นรถ สายตาผู้คนจดจ้องตัวเซียซิงเฉินด้วย ความตกใจปนคาดไม่ถึง ล้วนแต่กำลังคาดเดาถึงเรื่องของเธอ ทำไมพนักงานธรรมดาเพียงคนหนึ่งกลับได้รับความใส่ใจจาก คุณหญิงหลันถึงจนต้องมารับเธอด้วยตัวเอง?
เซี่ยซิงเฉินแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจสายตาของผู้คน ยิ้มให้พวกเขาก่อนจะก้มศีรษะเล็กน้อยถึงก้าวขึ้นรถตามไป
ตระกูลหลัน
รถยนต์กำลังเคลื่อนตัวไปทางตระกูลหลัน
คฤหาสน์ตระกูลหลันพอๆ กับบ้านใหญ่ พอดูออกว่าสามี ภรรยาหลันก็เป็นคนที่ชื่นชอบของเก่า
รถยนต์จอดเทียบหน้าคฤหาสน์ที่คนตระกูลหลั่นออกมารอ ต้อนรับตั้งนานแล้ว
หลันจั่นและภรรยายวินเสี่ยงยืนรอคอยอยู่ด้านนอกตั้ง นาน ทันทีที่รถยนต์เทียบจอด ยวนเสี่ยงก็เดินลงบันไดมา ต้อนรับ
หลันถึงลงรถก่อนเป็นคนแรก ยวนเสี่ยงยื่นศีรษะมอง
“กลับมาแล้วเหรอ?”
“อืม” หลันถึงหยักหน้าอย่างดีใจ ทั้งสองต่างก็รู้สึกยินดี
ปรีดา
ยวนเสี่ยงเอียงหัวก็เห็นเซียซิงเฉินเข้า เสี่ยชิงเฉินนั่งอยู่ ข้างในพลางก้มศีรษะให้ยนเสียงเล็กน้อย ยวนเสี่ยงเห็นเธอ จึงรีบเอ่ยชม “เธอเหมือนพี่นะ สวยจริงๆ เลย มา รีบออกมา เรารีบเข้าไปกันเถอะ ข้างนอกหนาวมากเลย
เซี่ยซิงเฉินเดินลงจากรถ หลันถึงกล่าว “เรียกคุณน้าสะใภ้ก็พอ”
เธอจึงเรียก “คุณน้าสะใภ้ ตามอย่างเชื่อฟัง
เพิ่งยืนข้างหลันถึงนิ่งๆ ก็ได้ยินเสียงเรียบนิ่งเสียงหนึ่งดัง ขึ้น “ทำไมเป็นเธอ?!”
ความจริงพอจะคาดเดาได้แล้ว
เซี่ยชิงเฉินสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่ก่อนจะก้มหน้า ทักทายเล็กน้อย “คุณหลับ
“ยังเรียกคุณหลันอีกเหรอ! ต้องเรียกคุณน้าต่างหาก” ย
วุ้นเสี่ยงตอบกลับ
หลันจนทำท่าเหมือนไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ก้าว เท้าลงบันไดอย่างไร เมื่อเข้าใกล้มากกว่าเดิมสายตาก็จ้องเซีย ซิงเฉินไม่หยุด ราวกับต้องการมองเธอให้ทะลุ เซียซิงเฉินรู้ว่า หนีวันนี้ไม่พ้นจึงเตรียมใจมาก่อนหน้าแล้ว ไม่หลบหนีแถมเงย หน้าประชันสายตากับหลันนั้น
เมื่อเห็นชัดแล้วหลันนั้นกลับเผลอหายใจสะดุด มองเชีย ซิงเฉินก่อนจะหันมองหลันถึงแวบหนึ่งด้วยสายตาที่มีหลาก หลายความรู้สึก
แม้ยนเสียงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็สังเกตเห็นอารมณ์ที่ แปลกไปของสามีได้แถมดูท่าจะดุดันมากเหลือเกิน
ยวนเสี่ยงรีบดึงเขาไว้ที่พลางกดเสียงเบา “เขาเพิ่งมาครั้ง แรกคุณก็ทำแบบนี้ อยากให้หลานสาวกลัวจนไม่กล้าเข้าบ้านใช่ไหม?”
“พี่ พี่บอกมาว่ายัยนี่” หลันนั้นมองอีกแบบหนึ่ง ไม่ จ้องเซี่ยซิงเฉินด้วยแววตาตำหนิ นิ้วมือที่เธอ “เธอเป็นลูกสาว ของพี่กับคุณท่านรองไปจริงๆ เหรอ?!
หลันถึงไม่พูดอะไรคล้ายไม่พอใจต่อกิริยาของหลันนั้นเป็น อย่างมาก ตวัดสายตาจ้องเขากลับไปด้วยสีหน้าที่เริ่มไม่ดีนัก
ยวนเสี่ยงรู้สึกถึงบรรยากาศอันตึงเครียดจึงเอ่ยตอบ “คุณ ถามอะไรเนี่ย? พี่เคยบอกตั้งนานแล้วนี่นา จะโกหกคุณได้หรือ ไง?”
“คุณจะรู้อะไร หลีกไปเลยนะ!” หลันขั้นตวาดภรรยาไปที จากนั้นก็โพล่งเสียงดัง “แล้วพี่รู้เรื่องเธอกับท่านประธา
เอ่ยถึงตรงนี้ก่อนจะถูกหลันถึงถลึงตามองจนหยุดชะงักไป
หลันถึงมองน้องชายของตน “ลูกสาวฉันก็คือลูกสาวฉัน วันนี้มาทักทายน้าชายกับน้าสะใภ้ มาครั้งแรกแกก็กะจะให้ สองแม่ลูกเรายืนอยู่ข้างนอกอย่างนี้น่ะเหรอ?”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ