สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 234 เซียต้าไปหายตัวไป (4)



ตอนที่ 234 เซียต้าไปหายตัวไป (4)

ขณะที่เซี่ยซิงเฉินใกล้หมดสติ ผู้ชายที่เธอคิดถึงมาทั้งคืน ปรากฏขึ้นในสายตาเธอด้วยใบหน้าเรียบตึง

เหมือนพระเจ้าเห็นใจ ยามที่เธอแทบจะสิ้นหวังก็เกิด ความหวังใหม่ขึ้นมา

“เซียซิงเฉิน คุณไม่ห่วงชีวิตเลยหรือไง?!” ชายหนุ่มเร่ง เท้าลงจากรถ ตะโกนเสียงดุดัน ประตูรถถูกปิดอย่างแรงจน สะท้านฟ้า เมื่อเห็นเธอที่อยู่ท่ามกลางฝนพรำก็โกรธจน เส้นเลือดขมับบวมปูดพร้อมเต้นตุบๆ

อย่าว่าแต่สภาพของเธอจะทำให้เขาตกใจเลย แม้แต่เห ลิ่งเฟยที่อยู่ด้านหลังยังตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่าง

“เร็ว! โทรหาคุณหมอฟู ให้ทีมพยาบาลของเขารีบไปที่ ทำเนียบประธานาธิบดี” เหลิงเฟยหันหลังไปสั่ง คนด้านข้างไม่ กล้ารีรออะไรจึงรีบกดโทรออก

คนเฝ้าป้อมสิบกว่าคนเห็นว่าท่านประธานาธิบดีปรากฏตัว ก็รีบฝ่าฝนออกมา แต่ละคนยืนเรียงตรงเป็นแถว เอ่ยทักอย่าง พร้อมเพรียง “สวัสดีครับ ท่านประธานาธิบดี

“แผลของเธอได้มายังไง?!” ไปเฉิงซ้อนตัวเซียซิงเฉิน

จากพื้น อาศัยไฟหน้ารถจึงมองเห็นแผลบนใบหน้าที่ทำให้หัวคิ้วเขากระตุก สีหน้าถมึงทึงจนน่ากลัว ลั่นเสียงถามในยาม ค่ำคืนจนน่าหวาดหวั่น

ว่า

หลายคนมองหน้ากันและกัน ต่างตื่นตระหนก ไม่มีใครรู้ ผู้หญิงคนนี้เป็นคนของท่านประธานาธิบดีสักหน่อย

“เรานึกว่าเธอ…นึกว่าเธอมาหาเรื่อง…” คนเป็นหัวหน้า ตอบเสียงอึกอัก

เซี่ยซิงเฉินหนาวจนสั่นไปทั้งร่าง นี่ไม่ใช่เวลาจะมาหาเรื่อง ไปเยถึงรู้ดี ช้อนตัวเธอขึ้นจากพื้นด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ใช้เสื้อกัน หนาวตัวยาวบนกายห่อหุ้มเธอไว้แน่นแล้วเดินไปที่รถ เซียซึ่ง เงินลืมตาขึ้นเล็กน้อยอย่างสะลึมสะลือ ใช้เรี่ยวแรงสุดท้ายใน การดึงแขนเสื้อเขาไว้

“ต้าไป…ช่วยต้าไป…”

ไปเฉิงฉุนขึ้นเล็กน้อย “ตอนนี้คนที่ต้องช่วยคือคุณ! สนใจตัวเองให้ดีก่อนเถอะ!

เมื่อก้าวขึ้นภายในรถก็วางเธอไว้บนตัวตน จากนั้นสั่งคน

ขับรถ “เร่งฮีตเตอร์ให้สุด!

ตลอดทางเธอหนาวจนสติพร่ามัว ต่อให้เปิดฮีตเตอร์อยู่ หรือถูกเขาโอบรัดอยู่ ทั้งร่างกายก็ยังคงสั่นสะริกอย่างแรง ไป เฉิงมองท่าทางเธอที่หนาวจนหน้าซีดเซียว บังเกิดความกลัว ขึ้นในใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน หากตนมาช้ากว่านี้อีกก้าว เดียว เธอคงหนาวตายไปแล้วใช่ไหม?
มือใหญ่กำมือที่เย็นเฉียบของเธอไว้ แนบชิดริมฝีปาก พ่น ลมหายใจเป็นระยะๆ เหมือนต้องการถ่ายทอดความอุ่น ทั้งหมด ให้เธอ

ไม่มีใครกล้าชักช้า มีแต่เร่งความเร็วอย่างบ้าบินไปยัง ทิศทางของทำเนียบประธานาธิบดี

เมื่อถึงทำเนียบประธานาธิบดี รถของทีมพยาบาลก็จอด รออยู่ข้างนอกเรียบร้อยแล้ว เธอถูกไปเฉิงอุ้มขึ้นไปชั้นบน ด้วยตัวเอง ฟู่เฉินถือของเข้าห้องนอนเสร็จสรรพ

อีกฝั่งหนึ่งที่คุณหญิงพูดคุยกับหลันเย่ แต่อีกใจก็นึกถึงผู้ หญิงที่ไม่คิดถึงชีวิตตัวเองข้างนอกนั่น นั่งใจกระวนกระวายอยู่ บนโซฟา

จู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของคฤหาสน์ก็ดังขึ้น พ่อบ้านรับสาย แล้วค่อยๆ เดินเข้ามา “คุณหญิง สายจากท่านประธานาธิบดี บอกว่า ให้ท่านคุย

“ฉันไปรับสายก่อน หนูนั่งคนเดียวแป๊บหนึ่งนะ กินเค้ก นี่ฉันทำเองเลย” คุณหญิงบอกหลันเยถึงได้รวบเสื้อคลุมบนตัว ค่อยลุกขึ้น

“ลูกผมอยู่กับแม่เหรอ?” ไปเย่นิ่งไม่เอ่ยทักทายใดๆ ยิ่งคำถามตรงๆ
“อืม ลูกไม่พาเขามาหาแม่กับพ่อเลย แม่ต้องไปรับเอง คงไม่เป็นไรสินะ?”

“แม่ คราวหลังถ้าแม่จะรับเขาไปก็บอกซิงเฉินก่อน” ไป เฉิงกล่าวเสียงเข้ม ในหัวมีแต่ภาพเซียซิงเฉินนอนหายใจ รวยริน รู้สึกเจ็บที่หน้าอก “เธอเป็นแม่ของเด็ก แม่จะพาเด็กไป อย่างน้อยต้องได้รับคำอนุญาตจากเธอก่อน

“ลูกเจอเธอแล้วเหรอ?” คุณหญิงชะงักไปครูพลางขมวด คิ้ว “เธอโทรหาลูกแล้วฟ้องเรื่องแม่เหรอ? ผู้หญิงคนนี้ เรื่อง ใหญ่เรื่องเล็กบอกลูกหมด ไม่กลัวว่าจะรบกวนงานสำคัญของ ลูกเลยนะ! อีกอย่างเด็กคนนี้เรามีข้อตกลงกันแล้ว เงินสิบล้าน คงให้เปล่าไม่ได้…

ทันใดนั้นเองเสียงประตูห้องนอนของไปเปถึงก็ดังขึ้น เซีย ซิงเฉินเพิ่งอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ บนใบหน้ามีบาดแผล ยืนอยู่ตรงประตู ทานยาแก้หวัดไปแล้วแต่ยังคงไข้ขึ้นสูง พลอยดูอ่อนแรงไปทั้งตัว ใบหน้ายังไร้สีฝาดเช่นเดิม

ไปเย่นิ่งขมวดคิ้ว “ลุกขึ้นมาทำไม?

อีกฝั่ง คุณหญิงไปได้ยินก็งุนงง เขาพูดเข้าในสายอีกว่า “ไม่คุยกับแม่แล้ว ทางนี้ยังมีธุระ

“เดี๋ยวก่อน! พรุ่งนี้ตอนบ่ายลูกมานี่ เราต้องคุยเรื่องเด็ก กันดีๆ สักหน่อยแล้ว ไม่อย่างนั้นจากนี้เขาต้องอยู่กับแม่ไป ตลอด! คุณหญิงไปเสริมอีกประโยค “อย่าพาผู้หญิงคนนั้นมา แม่ปวดหัวไม่อยากมีเรื่อง
ไปเย่นิ่งไม่พูดอะไร พร้อมกดตัดสายทันที

เซี่ยซิงเฉินยืนมองเขาจากตรงนั้น “ฉันได้ยินคุณหมอฟ

บอกว่า ลูก….ไม่ได้ถูกลักพาตัว แต่พ่อแม่คุณรับไป?” เขาไม่ได้พยักหน้า พลางเก็บโทรศัพท์มือถือ “ตอนนี้คุณ ยังอ่อนแอ ไปนอนบนเตียงไป

จู่ๆ เซี่ยซิงเฉินก็รู้สึกเจ็บปวด แววตาเลื่อนลอย น้ำเสียง ราบเรียบ “พวกเขาพาลูกของฉันไปทำไมไม่ถามฉัน อย่างน้อย ก็ขอให้บอกฉันสักคำไม่ได้เหรอ?

ไปพบผู้อาวุโสเธอไม่มีข้อกังขาใดๆ แต่จำเป็นต้องพาไป กะทันหันเช่นนี้จนไม่บอกกล่าวสักคำเลยไหม?

วันนี้เธออยู่นอกบานประตูแห่งความใจร้าย เหลือเพียง คุกเข่าอ้อนวอนพวกเขาแล้ว แต่พวกเขาไม่ปริปากบอกถึง สถานะตนแม้แต่น้อย หากมีคนบอกเธอสักนิดว่าข้างในนั้นเป็น

ดนตระกูลไป เธอคงไม่ต้องใจสลายแถมหวาดกลัวขนาดนั้น

“” ไปเย่นิ่งมองท่าทางแบบนั้นของเธอแล้วก็ปวดใจ เท้าเดินเข้าใกล้แล้วช้อนตัวเธอขึ้น เซี่ยซิงเฉินขัดขืนเล็กน้อย ไปเย่นิ่งเอ่ยเสียงทุ้ม “อย่าดิ้น! ตอนนี้ร่างกายคุณเต็มไป ด้วยแผลนะ!”

น้ำตาของเธอไหลลงจากตาทันที ไม่ใช่ความโกรธแต่รู้สึก เจ็บปวด

“ไม่มีใครสนใจความรู้สึกของฉันเลย พ่อแม่ของคุณยิ่งไม่สนใจว่าฉันเป็นแม่แท้ๆ ของเขา

เธอหนาวจนสติเลอะเลือน บวกกับความตกใจเกินเหตุที่ ได้รับในคืนนี้ ตอนนี้ทั้งตัวเริ่มผ่อนคลายลง คำพูดยิ่งไม่ประ ติดประต่อกัน นิ้วเรียวปกเสื้อเชิ้ตของเขาแน่น “คุณรู้ว่าฉัน คลอดต้าไปมาไม่ใช่เพราะเงินสิบล้านนั่น…ฉันจะให้พวกคุณพา ลูกฉันไปง่ายๆ ไม่ได้…ไม่ว่าใครในพวกคุณก็บังคับ…..

ครั้งเมื่อเธอมีต้าไป ไม่มีผู้ใดสนใจความรู้สึกของเธอ เขา บอกว่าห้ามทำแท้งก็ไม่มีใครผ่าตัดให้เธอ จนเธอจำต้องตัดสิน ใจคลอดเด็กออกมา หลังจากนั้นเธอก็ถูกคนในครอบครัวดูถูก ถูกคนนอกดูถูก คำนินทาครหาเหล่านั้นได้สร้างบาดแผลให้ เธอไปทั่วทั้งกาย หลายปีมานี้ลูกจึงกลายเป็นทุกสิ่งอย่างของ เธอ! ครั้งนี้ครอบครัวของเขาพาเด็กน้อยไป ใจเธอรู้ดีถึงความ คิดที่เปิดเผยชัดเจนนั่น

“เมื่อกี้ผมโทรคุยแล้ว จะไม่มีครั้งต่อไป!” ไปเฉิงพูดเสียง

ความจริงเซี่ยซิงเฉินยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่ลึกๆ ในใจ ซบ หน้าลงบนอกเขาโดยไม่เอ่ยกล่าวอะไร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ