สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 362 ผู้ชายหน้าไม่อาย (3)



ตอนที่ 362 ผู้ชายหน้าไม่อาย (3)

เซียซิงเฉินคอยดูแลไปชิงรั่งตลอดจนทานอาหารเช้าเสร็จถึงขึ้น มา รถยนต์ของพวกเหลิงเฟยจอดอยู่ด้านนอกรอคอยพร้อมกับ ลมแรง เหลิงเฟยหนาวจนหน้าแดงหมดแล้ว

เห็นเธอเดินมาก็รีบทักทาย “คุณเซีย

เซี่ยซิงเฉินดูเวลาแวบหนึ่งด้วยความแปลกใจ “เวลานี้แล้ว ยังไม่ไปอีกเหรอคะ?”

เหลิงเฟยก็แปลกใจเช่นกัน “ท่านอาจจะมีธุระอยู่ข้างใน ถ้าไม่เป็นการรบกวนเกินไป คุณเซียช่วยเร่งให้ผมที

“ได้ค่ะ” เซียซิงเฉินพยักหน้ารับ แล้วกล่าวต่อเพราะด้าน

นอกหนาวมากจริงๆ “พวกคุณเข้าไปรอในรถเถอะค่ะ ยืนนาน

ไปกว่านี้ต้องเป็นหวัดแน่ๆ

“ครับ”

เซี่ยซิงเฉินพูดกับเหลิงเฟยอีกนิดก่อนจะเข้าไป

ที่ห้องโถงมีคุณท่านและคุณหญิงไปอยู่ น้าหลินพูดขึ้นมา “คุณเซียมาแล้ว”

คุณท่านรีบวางหนังสือพิมพ์ลง เซียซิงเฉินรีบรุดหน้าไป ทักทายอย่างมีมารยาท “คุณท่าน คุณหญิง
“ในเมื่อเรียกขิงดั่งว่าพ่อแล้วก็คือคนของตระกูลไป จากนี้ ไปคงต้องเรียกคุณลุง คุณป้า คุณท่านทำที่พูดลอยๆ แต่ ความหมายนั้นเซียซิงเฉินเข้าใจมันทั้งหมด

เธอยืนอยู่ตรงนั้นไม่พูดอะไร

รู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก

คุณหญิงไปเองก็ไม่สบายใจ โดยเฉพาะก่อนหน้านี้เธอ ค่อนข้างชอบซิงเฉิน คงดีไม่หยอกหากได้เป็นลูกสะใภ้ของตน แต่ตอนนี้…

“ช่างเถอะ เรื่องแก้คำเรียกไม่ต้องรีบมาก เธอยังเรียก คุณพ่อ ไม่ทันคล่องปากเลย รอสนิทแล้วค่อยๆ เปลี่ยนก็ได้ คุณหญิงไปส่งสายตาให้ซิงเฉิน “รีบขึ้นไปเถอะ ถ้าไปร้องหาทั้ง เช้าแล้ว”

เซี่ยซิงเฉินส่งยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยลาแล้วขึ้นไปชั้นบน ขณะที่หมุนตัวก็ผ่อนลมหายใจ แต่ในใจกลับหนักอึ้งดั่งเดิมจน น่ารําคาญ

หากตนดื้อดึงจะอยู่กับไปเยถึง ความสัมพันธ์ต้องยุ่งเหยิง

มากแน่

เธอพับเก็บความคิดนั้นไป เมื่อเธอเดินมาถึงหน้าประตู ห้องของเด็กน้อย

ได้ยินเสียงของต้าไปตั้งแต่ด้านนอก “เสี่ยวไป พ่อนั่งอยู่ในห้องผมมาสิบนาทีแล้วนะ มีเรื่องอะไรรึเปล่า?

“มีอะไรก็พูดสิ”

“…” ชายหนุ่มไม่เอ่ยปาก ผ่านไปพักใหญ่ถึงพูดขึ้น “หนังสือนิทานนี้ดีนะ

ขณะนั้นเองเซี่ยซิงเฉินผลักประตูเข้าไป เห็นเซียต้าไปใช้ สายตาแปลกๆ จ้องมองพ่อตัวเองอยู่ “หนังสือนิทานเล่มนี้สนุก ตรงไหน?”

หนังสือที่แม้แต่เขายังไม่ชอบ เด็กน้อยเกินไป เด็กน้อยจน เขาที่อายุสี่ขวบยังรับไม่ได้

ไปเย่นิ่งไม่ตอบกลับเด็กน้อย ส่งสายตาไปทางประตู เห็น เซียซิงเฉินจึงเก็บหนังสือลงพร้อมขมวดคิ้ว “ทำไมเพิ่งมา

ถูกคนเร่งเร้าอยู่ตลอดเวลาจน ให้ความรู้สึกขับไล่นั้นน่ารำ คาญมากๆ แต่เธอกลับชักช้าจนถึงตอนนี้

“ทำไมคุณยังไม่ไป สายขนาดนี้แล้วไม่ใช่เหรอ?” เซียซึ่ง

เฉินดูเวลาแวบหนึ่ง “เหลิงเฟยบอกให้ฉันมาเร่งคุณหน่อย

ไปเยฉิงตีหน้าเคร่งขรึมก่อนจะนั่งจ้องเธอบนโซฟา ไม่

ตอบเธอ

เซี่ยซิงเฉินไม่รู้ว่าตนไปทำอะไรให้เขาโกรธกันแน่ เมื่อ เห็นสีหน้าเขาไม่ค่อยดีจึงคิดว่าอาจเป็นเพราะมีเรื่องให้วุ่นวายใจมากเกินไป จึงไม่พูดอะไรกับเขาอีก เพียงหันไปคุยกับตาไป สองประโยคก่อนจะหมุนตัวเข้าไปในห้องน้ำเพื่อหยิบผ้าชุบน้ำ อุ่นมาให้เขา

ขณะที่กำลังวุ่นวายกับเรื่องตรงหน้าก็ได้ยินเสียงฝีเท้า หัน กลับไปเห็นไปเฉิงเดินเข้ามา เธอกำลังจะถามเขาว่ามีอะไร สุดท้ายได้เพียงเสียง แกรัก เขากดล็อกกลอนประตูทันที

“ทำอะไรคะ?”

เซี่ยซิงเฉินหันกลับไปมองเขา เพิ่งเอ่ยถามก็พานนึกถึง เรื่องที่เกือบจะเกินเลยของพวกเขาทั้งสอง ในคืนก่อน ทำหน้า ไม่ถูกเมื่อชายหนุ่มโน้มร่างสูงใหญ่เข้าใกล้จนกักตัวเธอให้อยู่ ในอ้อมแขน เธอถอยหลังจนชนเข้ากับเคาน์เตอร์กระจกด้าน หลัง

ใกล้ชิดขนาดนี้ เธอหายใจติดขัดจนเผลอกผ้าขนหนูใน มือแน่น อีกมือยกขึ้นดันตัวเขาไว้พลางกดเสียงเบา “คุณอย่า ทําบ้าอะไรนะ…ถ้าไปอยู่ข้างนอก

“เมื่อคืนผมแทบไม่ได้นอน…” ชายหนุ่มปริปากพูดในเวลา เดียวกันก็สูดดมกลิ่นหอมจากกายเธอ

ปลายจมูกแนบติดพวงแก้มเธอ ปากบางแสนเซ็กซี่นั่นได้

ผ่านลำคอของเธอ

ผ้าขนหนูหลุดจากมือเซี่ยซิงเฉินจนตกลงบนเคาน์เตอร์ กระจก หายใจติดขัด “ทำไมไม่นอนล่ะคะ?
น้ำเสียงที่พูดสั่นระริกไม่มั่นคง

ไปเฉิงหายใจหอบหนัก ขบกัดปลายหูเธอทั้งกล่าวด้วย เสียงแหบแห้ง “วันนี้ผมจะบินไปหลันต

หลันตูเป็นเมืองหลวงของประเทศเพื่อนบ้าน

เซียซิงเฉินได้ยินว่าเขาจะไปต่างประเทศก็เริ่มรู้สึกอาลัย ขึ้นมา ท่าที่ปฏิเสธชะงักลง เพียงแค่เชยตามองเขา “เมื่อคืน ทำไมคุณไม่บอก?”

“บอกวันนี้ก็เหมือนกัน

เธอพยักหน้าไม่พูดอะไร สอดประสานสายตากับเขา เกิด

ความรู้สึกผูกพันในใจ ไปเฉิงถูกสายตาจ้องมองจนแววตา ล้ำลึก มือกุมมือเธอไว้พลางลูบไล้นิ้วยาวตรงนิ้วนางด้วยสีหน้า เรียบนิ่งเล็กน้อย “แหวนล่ะ?” “ฉันใช้เชือกคล้องไว้ที่คอค่ะ” เซียซิงเฉินซื้อกตัวเองที

“ฉันกลัวว่าคุณท่านเห็นจะโกรธเข้า เมื่อคืนเลยถอดเก็บไว้

ไปเย่นิ่งไม่ตอบอะไร เพียงโน้มตัวจูบเธอ ครั้งนี้เธอไม่ ถอยหนีและไม่ปฏิเสธ

มือผอมบางกลับยกคล้องคอเขาเองจนร่างนุ่มนิ่มแนบ ชิดกายเขา

ไปเย่นิ่งครางฮีมในลำคอ ยกตัวเธอขึ้นวางบนเคาน์เตอร์ กระจก แยกเรียวขาออกเพื่อแทรกตัวเองอยู่ระหว่างขาเพื่อให้ เธอเกี่ยวเอวตัวเองไว้
จากนั้นภายในห้องน้ำลมหายใจของทั้งคู่ก็ปะปนกันไป อุณหภูมิห้องเริ่มพุ่งทะยานสูงขึ้นเรื่อยๆ

กระทั่งนอกประตูเกิดเสียงของคุณหญิงไปขึ้นมา

“ทีม เขาสองคนล่ะ? ไม่อยู่ห้องของเราเหรอ?” คุณหญิง

ไปถามเซียต้าไป

“หม่าเข้าไปในห้องน้ำ เสี่ยวไปก็ตามเข้าไปแล้ว เซี่ยต้าไปตอบไปตามตรงด้วยน้ำเสียงแฝงความสงสัย “แปลก จังเลย พวกเขาเข้าไปตั้งนานแล้วยังไม่ออกมาอีก

เซี่ยซิงเฉินถูกจูบจนสติเริ่มพร่ามัว เมื่อได้ยินเสียงของคุณ หญิงไป๋เจ้าตัวก็สะดุ้งและได้สติ

เสียงฝีเท้าของคุณหญิงไปใกล้เข้ามาทางนี้เรื่อยๆ ประตู ถูกบิดเล็กน้อยสุดท้ายเมื่อเปิดไม่ได้ คุณหญิงไปจะไม่รู้หรือว่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

กระแอมเสียงไอเป็นเชิงเตือนก่อนจะเคาะประตูกล่าว “รีบ ออกมา! เดี๋ยวพ่อของลูกขึ้นมาแล้วรู้เข้าจะต้องโมโหอีกแน่ๆ เขาไม่ได้พูดง่ายเหมือนแม่นะ

เซียซิงเฉินหน้าแดงก่ำพลางลงจากเคาน์เตอร์กระจกอย่าง ไว ก่อนจะจัดเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยออกเพราะเขา

เขากลับดูไม่ร้อนรนใดๆ แถมยังสอดมือเข้าทางปกเสื้อ ของเธอ เซียซิงเฉินเริ่มคุกรุ่นแถมทำท่าจะกัดเขา “ทำไมคุณ หน้าไม่อายขนาดนี้? เพราะคุณนั่นแหละทำให้ฉันขายหน้าแบบ
เธอไม่มีหน้าไปเจอคุณหญิงไปแล้วล่ะ

“ใครที่หน้าไม่อายกันแน่ เมื่อกี้ยังตอบรับผมอยู่เลย?” ไป เฉิงหลุบตามองเธอแวบหนึ่งด้วยท่าทางได้ใจ กลับยิ่งทำให้ เธออับอายจนแทบขุดหลุมฝังตัวเองเสีย

เขาดึงมือออกจากเสื้อของเธอ ขณะที่เซี่ยซิงเฉินคิดจะ ตบมือเขาให้ออกห่างแต่เขาเกี่ยวนิ้วเข้าที่เชือกเส้นบางบนลำ คอ

แน่ใจว่าแหวนวงนั้นแขวนอยู่บนลำคอเธอ เขาถึงมีสีหน้า ที่ดีขึ้นเล็กน้อย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ