สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 183 งานแถลงข่าว (2)



ตอนที่ 183 งานแถลงข่าว (2)

ไปเย่นิ่งกลับมีท่าทางสบายๆ เช่นเดิม เขากำลังจะกล่าวบาง อย่าง ทันใดนั้นประตูในงานก็ถูกเปิดออกจากข้างนอกช้าๆ

หญิงสาวคนหนึ่ง ค่อยๆ เดินเข้ามาท่ามกลางสายตาผู้คน

ภายในงานไม่มีผู้ใดห้ามเธอ ไปเยถึงยังคงนั่งอยู่ตำแหน่ง หลัก ไม่เคลื่อนไหวแต่อย่างใด สายตาจับจ้องเธอด้วยสีหน้าที่ ยากจะคาดเดา ดูไม่ออกว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไรอยู่

“คุณซึ่งเหวยอีนี่!” เหล่าผู้คนเห็นปุ๊บก็รู้ทันที เกิดความ วุ่นวายขึ้นภายในงาน

“สวัสดีค่ะทุกคน” ซึ่งเหวย ทักทาย ยิ้มบางเบาไปที ค่อยๆ ก้าวเท้าเดินไปทางชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตำแหน่งหลัก “คำถามที่เมื่อกี้พวกคุณถามท่านประธานาธิบดี ให้ฉันที่เป็น คนในเหตุการณ์ตอบเถอะค่ะ!!

หลังซ่งเหวยอีเอ่ยปาก ภายในงานก็บ้าคลั่งขึ้นทันใด กล้องทั้งหลายล้วนเพ่งเล็งไปทางเธอ เหลิงเฟยรู้สึกระแวงอยู่ ในใจ หากแต่สีหน้าไปเยถึงกลับไม่แปรเปลี่ยน

“คนในรูปที่พวกคุณให้ความสนใจอยู่ตลอด คือฉันเอง ค่ะ” ซึ่งเหวยอีเอ่ยจบก็ยิ้มให้ไปเย่นิ่งเบาๆ ด้วยใบหน้ายิ้ม หวาน สีหน้าชายหนุ่มยังคงยากจะคาดเดาเช่นเดิม ไม่ได้ ปฏิเสธ หากแต่ก็ไม่ได้ยอมรับ
เธอเดาใจชายผู้นี้ไม่ถูก ในใจก็อดเต้นรัวไม่ได้ จากนั้น เธอทำใจดีสู้เสือ ก้มตัวลงประทับจูบที่แก้มเขาไปที กวาด สายตามองนักข่าวรอบด้าน กล่าว “สามวันจากนี้คืองาน แต่งงานของฉันกับท่านประธานาธิบดี ถึงตอนนั้นก็หวังว่าทุก ท่านจะมาเป็นพยานให้กับเราได้นะคะ”

ภาพจบแน่นิ่งที่ชายหญิงคู่หนึ่ง งานแถลงข่าวถือเป็นการ เสร็จสิ้น ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่น

เซี่ยซิงเฉินมองด้วยใจสั่นรัว พักใหญ่ก็ยังไม่ละสายตา จน กระทั่งมีเสียงเด็กผู้หญิงสองคนข้างหน้าดังแว่วมา เธอถึงได้ หลุดจากภวังค์

“ดีจัง! ฉันว่าแล้วท่านประธานาธิบดีไม่ทำให้เราผิดหวัง แน่! ฉันเป็นผู้ปกป้องที่ซื่อสัตย์ของเขาเลย!” น้ำเสียงของเด็กผู้ หญิงหนึ่งในนั้นเต็มไปด้วยความชื่นชมและภูมิใจ

“ก็ได้ ฉันยอมรับว่าสายตาเธอดีไม่หยอก-ตอนนี้ดูแล้ว เขาคือผู้นำที่ฉลาดและคู่ควรกับการได้รับความเชื่อมั่นจริงๆ

“เดิมทีก็ใช่อยู่แล้วแหละ ท่านประธานาธิบดีก็คนธรรมดา ต่อให้เขามีปัญหาเรื่องความรักก็ลบผลงานที่น่าภูมิใจของเขา ไปไม่ได้หรอก แต่ว่า…เสียดายจริงๆ นะ เขาจะแต่งงานกับซึ่ง เหวยซะแล้ว” น้ำเสียงเด็กผู้หญิงล้วนเต็มไปด้วยความ เสียดาย

“เธอเสียดายอะไรเนี่ย คนอื่นเขาชมว่าชายหล่อหญิงงามเหมาะสมกันสุดๆ แล้ว เธอคิดว่าในชีวิตจริงจะมีนิทานเจ้าชาย กับซินเดอเรลล่าอย่างนั้นหรอ?”

“ก็เมื่อก่อนเคยจินตนาการไว้นี่นา เธอยังชอบรอง ประธานาธิบดีหยขนาดนั้น หรือว่าเธอไม่เคยจินตนาการว่าสัก วันเธอจะได้แต่งงานกับเขาล่ะ? เชอะ! ความฝันมันต้องมี ถ้าวัน ไหนเจอเทวดาเข้าล่ะ? ต่อให้ไม่แต่งงานแต่ขอให้ท่าน ประธานาธิบดีมองฉันแวบเดียว ฉันก็ตายตาหลับแล้ว!”

“เธอทำใจเถอะ วันนี้เขาประกาศจะแต่งงานแล้ว

เด็กผู้หญิงสองคนพูดคนละประโยคสลับกันไปมา เชียง เฉินไม่ได้ฟังต่อ และไม่อยากจะฟังอีกต่อไป เซียต้าไปเหมือนจะ ถูกทำให้ตื่น แพขนตาขยับไปมา แล้วตื่นด้วยท่าทีตัวเงีย

“หม่ามี้ ดูอะไรอยู่เหรอ?”

สายตาของเขามองไปที่ไอแพดในมือของเซียซิงเฉินอย่าง ไม่ได้ตั้งใจ ใจเธอวบโหวงไปที รีบกดปิดคลิปเงียบๆ ทันที ใบหน้าแย้มยิ้ม สายศีรษะ “เมื่อกี้กำลังดูเอกสารแปลนะ ทำไม ลูกตื่นแล้วล่ะ?”

ศีรษะกลมเล็กของเซี่ยต้าไปเข้าที่ขาเธอไปมา สองมือ เล็ก โอบเอวเธอไว้ “เมื่อกี้ผมฝันถึงเสี่ยวไป แล้วก็แม่…ฝันว่าพ่อ แม่มีน้องสาวให้ผมล่ะ~”

เห็นได้ชัดว่านี่เป็นฝันที่ดีสำหรับเด็กน้อย ใบหน้าเขาแต้มไปด้วยรอยยิ้มแสนสุข ดูแล้วดีใจมากๆ ปากเล็กเจื้อยแจ้ว หลับตาแล้วก็หลับไปอีกหน เหมือนอยากทบทวนความฝันเมื่อ ครู

เขายิ่งดีใจ หัวใจเซียซิงเฉินก็ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดทรมาน ยิ่ง ไม่รู้ว่าควรเอ่ยปากกับเขาอย่างไรดี เธอควรบอกเขาอย่างไร เรื่องทั้งหมดนี้ อาจเป็นไปได้เพียงแค่ในฝันจริงๆ…

งานแถลงข่าวเสร็จสิ้นอย่างราบรื่น พวกไปเย่นิ่งกลับมาที่ ห้องทำงานประธานาธิบดี

ไปเย่รอเขาอยู่ที่ระเบียงราชวังไปยว พอเขามาถึง เธอก็ วางแก้วกาแฟในมือลง ลุกขึ้นยืนเดินไปหาเขา

“เอกสารข้อมูลของหยูซึ่งที่แกขอ ฉันส่งไปที่อีเมลแกแล้ว

แกก็ตรวจรับดีๆ รหัสนั่นฉันจะส่งให้อีกที” ไปเยกดเสียงต่ำ

อย่างระมัดระวัง

ไปเย่นิ่งหยักศีรษะ “เหนื่อยหน่อยนะ”

“งานแถลงครั้งนี้สำเร็จดีนี่” ไปเย่รู้สึกพึงพอใจ “กระแส บนอินเทอร์เน็ตดีไม่เลวเลย

“ตอนนี้พายุผ่านไปแล้ว ไม่มีอะไรค้างคาใจอีก

“อืม ฉันเชื่ออยู่แล้วว่าแกจะจัดการเรื่องนี้ได้ดี

ไปเย่นิ่งนึกถึงบางอย่าง เอ่ยเสียงเย็น “แต่ดันมีบางคนไม่ เชื่อมั่นในตัวผม
“แกหมายถึง…ชิงเฉิน”

ไปเฉิงยักคิ้วอย่างไม่ปฏิเสธ เหมือนไม่อยากพูดต่อใน หัวข้อนี้อีก ไปเก็ไม่ถามอะไรไปมากกว่านี้ กล่าวเพียง “ครั้ง นี้ในงานแต่งงาน แกคิดจะ..”

“วันนั้นอย่าลืมมาให้ตรงเวลา” ไปเย่นิ่งเอ่ยขัดเธอ

กำแพงมีหู ประตูมีช่อง ไปเย่รู้ดี พยักหน้าไม่เอ่ยอะไรอีก ดูเวลาแวบหนึ่งแล้วกล่าว “ฉันยังมีธุระ ขอตัวก่อนล่ะ

“ไปไหน?”

“นิทรรศการศิลปะตอนสามโมงสิบห้านาที” ไปเยกล่าว “ผลงานของอาจารย์ Tina ได้ข่าวว่าครั้งนี้เจ้าตัวก็มา ฉันอยาก ไปดูหน่อย”

ไปเย่นิ่งรู้ดีถึงงานอดิเรกของเธอ กล่าวเพียง “ผมจะให้คน

ไปส่ง”

“ไม่ต้องหรอก รถฉันก็จอดอยู่ข้างนอกแค่นี้ อีกอย่างเรื่อง ชมภาพวาดแบบนี้ ฉันอยากอยู่ตัวคนเดียวเงียบๆ นะ”

ไปเย่ไปแล้ว ไป๋เฉิงนั่งลงบนโซฟา ในตอนนี้ถึงได้ผ่อน คลายลงเล็กน้อย

เขานึกบางอย่างได้ก็เลิกแขนเสื้อขึ้น มองตรงไหล่ขวาแวบ หนึ่ง บนไหล่ขวามือมีรอยฟันจางๆ ปรากฏอยู่
หญิงสาวตัวน้อยกัดไว้เมื่อคืน

ทนเขารังแกไม่ไหว แต่ก็จนปัญญาจะต่อกรเขา ฉะนั้นเวลา ที่เธอโกรธก็จะกัด

ไปเย่นิ่งนึกถึงภาพเมื่อคืนที่เธออยู่ใต้ร่างตนแล้วคราง เสียงแผ่วเบา มุมปากยกยิ้มอย่างไม่รู้ตัว ใจว้าวุ่นไม่สงบ แต่ เมื่อนึกได้ว่าตอนนี้เธอคงขึ้นรถไฟความเร็วสูงไปอย่างมีมาต แล้ว กลับมีไฟนิรนามสมอยู่ในอก สีหน้าพลันเรียบตึงทันที

ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้สองแม่ลูกไปถึงไหนแล้ว

รถไฟความเร็วสูงเดินทางไปสี่ชั่วโมงแล้ว เมื่อเซี่ยซิงเฉิ นพาต้าไปมาถึงเมืองเล็กๆ อย่างเมืองเหลียงก็เป็นเวลาใกล้จะ หกโมงกว่าแล้ว ท้องฟ้าของฤดูนี้ในเวลานี้มืดลงไปมาก

เซี่ยซิงเฉินถือกระเป๋าเดินทางเดินออกจากสถานีรถไฟ มองเส้นตรอกซอยที่เงียบเหงาและแปลกตา รู้สึกถึงความว่าง เปล่าในจิตใจ หากไม่มีเซียต้าไปคอยอยู่เคียงข้างตน เธออาจ จะทรมานยิ่งกว่านี้

“หม่า ตอนนี้เราจะไปบ้านคุณยายกันเหรอ?” เสี่ยต้าไป จับกางเกงเธอไว้

“อืม” เชียซิงเฉินยืนอยู่ข้างถนน โบกรถจนแท็กซี่จอด เทียบอยู่ตรงหน้าพวกเขา เธอเก็บของขวัญไว้หลังรถ เมื่อบอก ที่อยู่แล้ว เธอนิ่งครู่หนึ่งสุดท้ายก็กดเบอร์หนึ่งโทรออกไป


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ