สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 75 พาลูกไปพบญาติผู้ใหญ่



ตอนที่ 75 พาลูกไปพบญาติผู้ใหญ่

“คุณไม่ต้องพูดอะไรแล้ว พักผ่อนเถอะค่ะ หมอบอกว่าโครง คุณหักหลาย พรุ่งนี้จะต้องผ่าตัด” เซียซิงเฉินพูดเสียงเบาๆ พลางเอาคอตตอนบัดชุบน้ำแตะบนริมฝีปากเขาอย่าง ระมัดระวัง

พอริมฝีปากชุ่มชื้นเขาก็รู้สึกสบายขึ้นมาก ได้เห็นเธอ กำลังดูแลตัวเองอย่างอ่อนโยนสงบเงียบภายใต้แสงสลัว แค่นี้ เขาก็รู้สึกพอใจแล้ว

นี่…อาจเป็นเรื่องร้ายที่กลายเป็นเรื่องดีก็ได้

คุณท่านกับคุณนายอายุมากแล้วจึงชอบความสงบ บ้าน หลังใหญ่ตั้งอยู่ในเขตชานเมือง การระวังรักษาความปลอดภัย ประตูทางเข้าออกที่เข้มงวดจึงมีหลายด่าน

รถของไปเฉิงขับเข้าไป คนในป้อมยามออกมาทำความ

เคารพอย่างคนถูกฝึกมา

ขณะที่รถมาจอดเทียบที่หน้าบ้าน คนที่อยู่ข้างในทั้งหมด ออกมายืนตั้งแถวรอต้อนรับอยู่หน้าประตู

ไปเย่นิ่งรู้ทันทีว่าพวกเขามาเพื่อต้อนรับใคร เขาจึงลงจาก

รถ คุณนายชะเง้อจนคอยาว
“หลานชายตัวน้อยของฉันล่ะ! เร็วเข้า พาหลานชายตัว น้อยออกมาให้ฉันเห็นหน่อย”

ไปเยฉิงหันไปด้านหลังแล้วโบกมือ เซียต้าไปก็โผล่ออก มาจากในรถ ไม่ทันรอให้ไปเยถึงแนะนำเขาก็เรียกด้วยน้ำเสียง ทั้งไพเราะและหวานละมุน “คุณปู่ คุณย่า

“โอ้ หลายชายตัวน้อยสุดที่รักของฉัน” คุณนายดีใจจน น้ำตาไหล ร่างกายที่แก่ชรายามนี้กลับมีพลังขึ้นมา เธอโน้มตัว ลงแล้วยื่นมือทั้งสองออกมารับขวัญ หน่อย” มาๆๆ รีบมาให้ยาอุ้ม

เซี่ยต้าไปขยับเข้าไปทีละน้อยพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเด็กๆ “คุณย่า ผมอ้วนมาก คุณย่าต้องระวังหน่อยนะครับ

“อ้วนที่ไหนกัน? กำลังดีต่างหาก! ใครว่าหลานตัวน้อย ของฉันอ้วน ฉันจะไปจัดการคนนั้น! เด็กเล็กๆ ก็ต้องมา หน่อยถึงจะน่ารัก” คุณย่าอุ้มเซียต้าไปไว้ในอ้อมแขน มองดู ใบหน้าเล็กขาวๆ นุ่มๆ จะมองยังไงก็ชอบไปหมด

คุณย่ายื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ ร้องขอให้หอม “เร็วเข้า หอม ย่านิ่ง”

เซี่ยต้าไปเฉลียวฉลาดมาก จึงหอมแรงๆ เสียงดัง

พอคุณปู่ที่อยู่ทางนี้เห็นเข้า ในใจก็รู้สึกอิจฉา ทว่าที่ผ่าน มาตัวเองเป็นคนวางมาดขรึมอยู่เป็นนิตย์ จะไปขอหอมตรงๆ แบบนั้นเหมือนหญิงชราได้ที่ไหนกัน?
เขากระแอมไปหนหนึ่ง “ยายแก่ อย่าไปอุ้มหลานบ่อยนัก เลย เป็นชายอกสามศอกให้คนอุ้มอยู่บนตักทั้งวัน ดูไม่เข้าท่า เลย!”

“พูดอะไรน่ะ หลานเราเพิ่งจะอายุเท่าไรเอง ชายอกสาม ศอกอะไรที่ไหนกัน?”

“คุณย่า ตอนนี้ผมก็เป็นชายอกสามศอกนะครับ เป็นชาย อกสามศอกตัวเล็กๆ เซียต้าไปยิ้มหวานเห็นฟันซี่เล็กๆ เรียง กันอย่างสวยงาม

พอเด็กน้อยเอ่ยเช่นนี้ คุณนายก็รีบเปลี่ยนคำพูดพลาง

พยักหน้า “จ้ะๆๆ เป็นชายอกสามศอกจะ

“ชายอกสามศอกก็ต้องอยู่กับชายอกสามศอกถึงจะถูก คุณปู่ส่งไม้เท้าในมือให้คนข้างๆ ถือแล้วยื่นมือไปทางเด็กน้อย ใบหน้ายังคงดูเคร่งขรึมแต่ปากกลับพูดว่า “มา ลงมาให้อุ้ม”

“อยากอุ้มก็อุ้มสิ ทำเป็นวางท่า” คุณย่ารู้สึกเสียดายจึง แกล้งแฉคุณปู่อย่างไม่สบอารมณ์แล้วกลับมาพูดกับเด็กน้อย “ปู่ของหลานท่าทางน่ากลัวแบบนี้แหละ ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ ที่จริง แล้วเขาเฝ้ารอหลานกลับมามากกว่าใครๆ

“ไม่กลัวครับ ปู่เป็นคนดี”

“ใช่ ปูเป็นคนดี” คุณปู่ยิ้มจนหุบไม่ลง

” ไปเย่นิ่งมองดูเหตุการณ์อยู่ข้างๆ อย่างจนปัญญาและ หมดคำพูด ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปเด็กคนนี้ไม่ถูกคนแก่ทั้งสองตามใจจนเสียเด็กก็แปลกแล้ว!

ทุกคนเข้าไปในบ้าน ทางห้องครัวได้ตั้งโต๊ะไว้แล้ว

“ซูเปล่ะ?” ไปเย่นิ่งมองไปยังที่นั่งฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ อาหารที่ว่างอยู่ หลายปีมานี้ ไปเยีพี่สาวฝาแฝดของเขาเป็น หัวหน้าทหารฝ่ายรักษาความสงบมาโดยตลอด

“บอกว่าคืนนี้มีภารกิจสำคัญต้องจัดการเลยจะกลับมาอีก หน่อย” คุณย่าตอบ

ไปเฉิงพยักหน้า ภารกิจสำคัญในคืนนี้ เขาพอจะเดาออก ว่าเป็นเรื่องอะไรแล้วก็เกี่ยวข้องกับใคร

“มานี่ หลานรักของพวกเราชอบทานอะไร? น่องไก่ดีไหม? ย่าหยิบน่องไก่ให้หลานหนึ่งชิ้นนะ” หญิงชราเอาใจหลานเต็มที่

เซี่ยต้าไปได้มาก็ไม่ปฏิเสธ กรุบกรอบดีทั้งนั้น

ถ้าเทียบกับคุณย่าที่ดูร่าเริง คุณปู่กลับไม่ค่อยพูดซักเท่าไร ทำเพียงแค่ตักอาหารที่ตัวเองชอบที่สุดใส่ในชามของเด็กน้อย อย่างเงียบๆ ขณะที่เซี่ยต้าไปเงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยเสียงหวานว่า ขอบคุณครับคุณปู่” นั้น แม้แต่คุณปู่ที่ท่าทางขรึมก็ยังปั้นหน้า ขรึมต่อไปไม่ไหว ได้แต่ยิ้มจนตาหยี

ดีจริง

มีหลานรักอยู่ด้วย บ้านนี้ช่างแสนสุขนัก
ทานอาหารเสร็จแล้ว ไปเย่นิ่งดูมือถือเป็นครั้งที่สาม

ดีมาก สุดท้ายก็ไม่มีข่าวคราวเลยแม้แต่น้อย ดูท่าป่านนี้ เธอก็ยังไม่กลับทำเนียบฯ

“ดูอะไรน่ะ เอาแต่ดูมือถืออยู่ตั้งแต่ตอนเย็น ใจไม่อยู่กับ เนื้อกับตัวเลยนะ” คุณนายหันหน้ามาพูดกับลูกชาย

“ดูเวลาครับ”

“เวลามีอะไรน่าดูนักเหรอ?” คุณนายทำหน้าไม่พอใจ “ฉัน ไม่สนใจว่าตอนนี้จะกี่โมงแล้ว วันนี้ลูกกับหลานฉันต้องอยู่ ต้อง นอนที่นี่! ปู่ คุณว่าใช่ไหม?”

“อืม กว่าแม่ของลูกจะรอพวกลูกกลับมาไม่ง่ายเลย ห้อง เตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

“ใช่แล้ว หลานรักของฉันก็นอนห้องเด็ก” หญิงชรายิ้ม ตาหยีพลางป้อนผลไม้ให้ตาไป “แล้วห้องของคุณย่า ก็อยู่ติด กับห้องเด็ก คืนนี้น่าจะเล่านิทานให้ฟังกล่อมหลานนอน ดีไหม จ๊ะ?”

“ดีครับ ผมอาบน้ำเสร็จแล้วจะรอคุณย่า”

แม่สวี่เหยียนร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง อยู่ที่ห้องคนผู้ป่วย ได้พักหนึ่งพ่อสวี่เหยียนก็ส่งเธอกลับไป
เซี่ยซิงเฉินอยู่เป็นเพื่อนสวีเหยียน ป้อนโจ๊กต้มของโรง พยาบาลให้เขา เขายังไม่ค่อยอยากอาหารจึงกินน้อยมาก แต่ พอได้กินแล้วก็มีแรงขึ้นมาบ้าง

จากนั้นก็หลับไปอีก

เซียซิงเฉินขอยืมที่ชาร์จแบตมือถือจากเคาน์เตอร์ พยาบาลมาเสียบไว้ที่หัวเตียง กว่าจะเปิดมือถือได้ไม่ใช่เรื่อง ง่าย พอดูเวลาก็ไม่นึกว่าจะห้าทุ่มกว่าแล้ว

ด้วยนิสัยของไปเฉิง จะต้องโกรธจนแทบบ้าแล้วแน่ๆ

เธอหมุนตัวไปด้านข้างเล็กน้อยแล้วรีบต่อสายไปหาเขา เสียงโทรศัพท์ดังอยู่หลายครั้งก็ไม่มีคนได้ยิน เธอใจคอไม่ดี บางทีเขาอาจโกรธจนไม่อยากจะสนใจเธออีกแล้ว?

ในตอนที่กำลังคิดอยู่นั้นเอง มือถือก็มีคนรับสาย “ฮัลโหล จากไหนคะ?”

เป็นเสียงผู้หญิงพูด

ในสมองของเซี่ยซิงเฉินมึนงงไปชั่วขณะ ยังเรียกสติกลับ มาไม่ได้ เธอรู้ว่าเสียงนี้ไม่ใช่ซ่งเหวย ทว่าดึกขนาดนี้แล้ว…. หญิงคนหนึ่งมารับโทรศัพท์ของเขา เธอเป็นอะไรกับเขากัน?

มือถือของเขาเป็นแบบส่วนตัว ป้องกันการดักฟังไว้ค่อน

ข้างดี ถึงจะรับสายก็ต้องใส่พาสเวิร์ด ถ้าไม่ใช่เพราะสนิทกัน มากก็ไม่น่าจะมารับโทรศัพท์นี้ได้

“ฮัลโหล” ไม่ได้ยินเสียงทางนี้ ฝั่งตรงข้ามก็พูดขึ้นอีก
ในที่สุดเซียซิงเฉินก็เปิดปาก “ฉันขอพูดกับ…

“พูดกับเฉิง? ตอนนี้เขาอาบน้ำอยู่พอดี อีกสิบนาทีคุณ ค่อยโทรมาใหม่นะ

เซียซิงเฉินวางสายอย่างเชื่องช้า นานทีเดียวที่ยังไม่ค่อย ได้สติเท่าไรนัก รู้สึกอึดอัดจนหายใจแทบไม่ออกราวกับมีสำลี มาอุดไว้ที่หน้าอก

และในตอนนี้เองเธอเพิ่งจะรู้สึกตัวขึ้นอย่างฉับพลัน ที่แท้ ตัวเธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยสักนิด ชีวิตส่วนตัวของเขา เขา มีผู้หญิงอยู่กี่คน สำหรับเธอแล้วมันดูว่างเปล่าไปหมด ทว่าวันที่ จริงพอลองคิดอย่างถี่ถ้วน ฐานะอย่างเขา ยืนอยู่ในตำแหน่งที่ สูงที่สุดขนาดนี้ นอกจากซ่งเหวย แล้วยังมีผู้หญิงคนอื่นอีก หรือถึงขั้นเป็นผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์อย่างว่ากับเขาก็ไม่น่า แปลกเลยสักนิดจริงๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ