สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 83 พลอดรักกันดีๆนะ (3)



ตอนที่ 83 พลอดรักกันดีๆนะ (3)

“เมื่อกี้คุณพูดถึงผู้หญิงที่ไหน บอกมาให้ชัดๆ!” ไปเฉิงจับเธอ กดแนบไปกับเสาไฟฟ้าริมถนนตรงป้ายรถประจําทาง

แสงสลัวจากเสาไฟฟ้าริมถนนส่องไปที่เขาทั้งสองคน เงา จากร่างที่สูงใหญ่ของเขาทอดยาวปกคลุมเธอเอาไว้

การต้องสบดวงตาที่แสนลุ่มลึกราวกับจะมองทะลุผ่านตัว เธอไปนั้น ทำให้เธอรู้สึกสับสนอยู่บ้าง และด้วยความที่เธออัด อันมานาน เมื่อเขาถามเธอแบบนี้ เธอจึงพูดโพล่งออกไป “คุณ ไม่พอใจที่ฉันผิดนัดในวันเกิดคุณครั้งที่แล้ว แต่คืนนั้นคุณเองก็ นัดผู้หญิงคนอื่นไว้ไม่ใช่เหรอ? ฉันไม่ได้มา มันก็สมใจคุณแล้ว

ดวงตาที่ร้อนรุ่มของชายหนุ่มทำให้เธอไม่พูดอะไรต่อ

เธอถูกมองจนรู้สึกประหม่าและขาดความมั่นใจ เธอ หายใจติดขัดพลางผลักเขาออก แต่ชายหนุ่มจับปลายคางของ เธอเงยขึ้น “ใครบอกคุณว่าคืนนั้นผมมีนัดกับผู้หญิง?”

เขารู้สึกแปลกใจ! คืนนั้นก็อยู่ในบ้าน แล้วจะไปมีนัด

ที่ไหน?

“นี่คุณไม่รู้ตัวเลย?” เธอน้ำตาคลอ

ไป๋เย่นิ่งขมวดคิ้วพลางมองหน้าเธอ “คืนนั้นเห็นพี่บอกผมว่าคุณโทรมา และเดี๋ยวคุณจะโทรเข้ามาในอีกสิบนาที แต่หลัง จากนั้นก็หายเงียบไปเลย เซียซิงเฉิน คุณมีนัดกับผู้ชายคนอื่น จนลืมวันเกิดของผม แล้วยังจะมาโป๊ยความผิดให้ผมอีก คุณ นี่มันสุดยอดจริงๆ!”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ไปเฉิงยังคงรู้สึกเหมือนมีไฟสุมอยู่ข้าง

“…เอ๋?” เซียซิงเฉินกะพริบตาปริบๆ ด้วยความตกใจ

ถ้าอย่างนั้น…คนที่รับโทรศัพท์ในคืนนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็น…รัฐมนตรีไป?

ไม่รู้เป็นเพราะอะไร พอได้ฟังคำพูดของเขา ม่านหมอก ขมุกขมัวที่ก่อตัวอยู่ในใจมานานก็พลันสลายไปในพริบตา

“ใครมีนัดกับคนอื่นกัน? คุณคิดเองเออเองทั้งนั้น

ไปเย่นิ่งมองเธอด้วยสายตาลุ่มลึก “จะคิดเองเออเองหรือ เปล่า คุณเองนั่นแหละที่รู้ดีที่สุด”

เซี่ยซิงเฉินรู้ดีว่าเขากำลังกังขากับเรื่องที่เธอผิดนัดในวัน นั้น เธอเองก็ไม่อยากให้เขาเข้าใจผิดและดูถูกเธอแบบนั้นเช่น กัน ถึงแม้วันนั้นเธอจะโกรธแบบไม่มีสาเหตุ ซึ่งเธอตั้งใจจะ

อธิบายแต่เขาไม่ให้โอกาสเธออธิบายเลย

ประกอบกับคำพูดที่เขาพูดมาหลังจากนั้น…

เธอถอนหายใจ “ฉันผิดนัดในวันนั้นเพราะฉันเกิด อุบัติเหตุค่ะ และต้องอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งคืน
ไปเย่นิ่งไม่ได้พูดอะไร ดวงตาที่เก็บซ่อนบางอย่างเอาไว้ นั้นมองสํารวจเธอ ราวกับกำลังค้นหาความจริงในคำพูดของ เธอ

“วันนั้นสวี่เหยียนเขาจะพาฉันไปหาพ่อค่ะ แต่ระหว่างทาง เราถูกรถบรรทุกคันหนึ่งชนเข้า จริงๆ ต้องเป็นฝั่งของฉันที่ถูก ชน แต่เขาหักพวงมาลัยหลบ ฉันก็เลยรอดมาได้ ส่วนเขาก็บาด เจ็บ คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่นะคะ”

คำพูดสุดท้ายของเซี่ยซิงเฉินดูน้อยใจอยู่บ้าง เธอรู้สึกอุ่น เคืองใจกับสายตาจ้องจับผิดของเขา แต่ยิ่งพูด สีหน้าของเขาก็ ยิ่งหม่นขรึม เขาดูน่ากลัวภายใต้แสงสลัวจากไฟถนน ในยาม ค่ำคืน

เขากวาดสายตาไปจนทั่วตัวของเธอและถามด้วยเสียงที่ ทุ้มต่ำว่า “บาดเจ็บตรงไหนบ้าง?

“สวี่เหยียนเหรอคะ? กระดูกซี่โครงหักหลายค่ะ ช่องอกก็ มีเลือดออก แต่ตอนนี้เขาพ้นขีดอันตรายและออกจากโรง พยาบาลแล้วค่ะ….

“ผมถามคุณ!” ไปเฉิงขมวดคิ้วพลางพูดขัดขึ้นมา ใคร อยากสนใจเขามทราบ? เขาจะเป็นอย่างไรก็ปล่อยเขาไปก็แค่ ผู้ชายที่กระดูกซี่โครงหักไม่กี่ที่จะเป็นอะไรนักหนาเชียว

เซี่ยซิงเฉินเพิ่งจะรู้ตัว ดูเหมือนเขาจะเชื่อในสิ่งที่เธอพูด

“ฉันไม่เป็นไรค่ะ แค่โดนถากนิดหน่อยตรงข้อเท้าเอง และ แผลก็ดีขึ้นมากแล้ว สวี่เหยียนต่างหากที่เจ็บหนักค่ะ”
“เก็บประโยคสุดท้ายเอาไว้เถอะ!” เขาเหลือบมองเธอ ด้วยสายตาที่เย็นเยือก แต่เซียซิงเฉินก็ยังคงไม่เข้าใจความ หมาย เขาย่อตัวลง ฝ่ามือของชายหนุ่มพลันจับไปที่ข้อเท้าข้าง ขวาของเธอ ความร้อนที่แผ่ซ่านทำให้หัวใจของเซียซิงเฉินเต้น แรงจนแทบทรงตัวไว้ไม่อยู่

มือของเธอกดไปบนบ่ากว้างของเขาเพื่อพยุงตัว เธอได้ยิน เขาพูดเพียงว่า “เหลือแค่รอยแผลเป็นเล็กๆ

ชั่วขณะนั้นหัวใจของเซี่ยซิงเฉินเต้นระรัวอย่างรุนแรง เธอ ก้มหน้าลงมองร่างของชายหนุ่มที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่ จิตใจของ เธอล่องลอย เขาเป็นถึงประธานาธิบดีของประเทศ มีแต่คน ยอมก้มหัวศิโรราบให้กับเขา แต่นี่….

ตอนนี้เขานั่งคุกเข่าต่อหน้าเธอโดยไม่สนใจว่าพวกเห ลิ่งเฟยจะคิดอย่างไรแม้แต่น้อย

เซี่ยชิงเฉินบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร เธอรู้แต่ว่าบริเวณข้อ เท้าร้อนขึ้นกว่าเดิม เธอสลัดข้อเท้าออกโดยไม่รู้ตัวและพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะ แค่แผลเป็นนิดเดียว”

ไปเฉิงลุกขึ้นยืน เซี่ยซิงเฉินยกมือออกไปจากบ่าของเขา เธอรู้สึกประหม่าจนต้องหลบสายตาที่เขามองมา เธอได้ยินเขา ถามว่า “ทำไมเพิ่งมาบอกตอนนี้?

“ก็คุณนั่นแหละที่ไม่ให้โอกาสฉันอธิบายเลย..” เธอเถียง เขากลับไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา วันนั้นเธอพยายามจะอธิบาย แต่กลับถูกเขาที่กำลังฉุนจัดขัดจังหวะเอาไว้ และสุดท้ายเธอยังถูกเขาไล่ตะเพิดออกมาอีก

ไปเยฉิงกลับไม่รู้สึกผิดแม้แต่น้อย เขาเอาแต่มองเธอ ตั้งแต่หัวจรดเท้า “ก็แปลว่าคุณกับเขาไม่ได้ทำเรื่องที่ผมเพิ่งทำ กับคุณเมื่อกี้ใช่ไหม?”

เขาสนใจประเด็นนี้เอามาก

เซียซิงเฉินถึงกับพูดไม่ออก พวกเหลิงเฟยก็ยืนโทนโทอยู่ ตรงนั้น ถ้าเขาจะถามก็ถามเบาๆ ไม่ได้หรือไง? เธอโกรธจัดจน ไม่ตอบคำถามเขา เธอแค่แบมือออก “เอามือถือฉันคืนมา

“พวกคุณเคยนอนด้วยกันไหม?” เขายังคงดึงดันและจ้อง มองเธอราวกับว่าวันนี้เขาต้องได้คำตอบจากเธอ ไม่อย่างนั้น เขาไม่ปล่อยเธอไปแน่

เซี่ยซิงเฉินจนปัญญาจะคุยกับคนหน้าไม่อายแบบนี้ เธอจึง ยื่นมือไปแย่งมือถือของตัวเองมา แต่ไปเย่นิ่งกลับคว้ามือของ เธอเอาไว้ เขาออกแรงกดไปด้านหลัง สุดท้ายเธอจึงถูกผนึกติด ไปกับเสาไฟฟ้าอีกครั้ง

เธอรู้สึกฉุน “เขาถูกชนถึงขนาดนั้นแล้วยังทำอะไรได้อีก ฉันก็บอกคูณไปแล้ว ว่าฉันแค่อยู่ดูแลเขาที่โรงพยาบาล ไม่ได้ ทำเรื่องสกปรกอย่างที่คุณคิดเลย…

เธอสังเกตเห็นว่าเขาดูพอใจกับคำพูดที่เธอพูดออกไป ความอึมครึมบนใบหน้าของเขาหายไป มือที่เขาจับมือของเธอ เอาไว้ก็คลายลงเช่นกัน
เธอรู้สึกโล่งใจเมื่อได้เห็นสีหน้าที่อบอุ่นของเขา และตัว เธอเองก็อารมณ์ดีขึ้นตามไปด้วย เธอเดินตามหลังเขาต้อยๆ พลางถามว่า “ตอนนี้คืนมือถือให้ฉันได้แล้วยัง?”

“ในมือถือคุณมีสมบัติอยู่เหรอ?” เขามองหน้าเธอ

เธอรีบส่ายหน้า

ผู้หญิงคนนี้จะไร้เดียงสาไปถึงไหนกัน!

“ขึ้นรถ ขึ้นรถแล้วเดี๋ยวคืนให้

สุดท้ายไปเฉิงก็สั่งให้พวกเหลิงเฟยกลับไป ส่วนตัวเขาก็ ขับรถพาเซียซิงเฉินไปยังที่พักปัจจุบันของเธอ

ไม่บ่อยนักที่เซี่ยซิงเฉินจะได้นั่งรถที่เขาขับเอง การที่เธอ

ต้องมานั่งข้างๆ เขาอีกครั้งในตอนนี้ทำให้เธอรู้สึกเลื่อนลอย

ทั้งสองคนนั่งเงียบไปตลอดทาง ถึงแม้จะปรับความเข้าใจ เรื่องผิดนัดกันได้แล้ว แต่ก็ยังเหลืออีกปัญหาหนึ่งที่ยังค้างคาใจ นั่นก็คือเรื่องที่เขาพูดจารุนแรงใส่เธอและไล่ตะเพิดเธอออกไป ในวันนั้น

เซี่ยซิงเฉินคิดว่าเธอตัดสินใจถูกแล้วที่ย้ายออกมา เธอจึง ไม่มีทางเอ่ยปากขอกลับไปอีก ส่วนไปเฉิงเองก็เป็นคนพูดจา คำไหนคำนั้น การจะให้เขายอมเสียหน้าและกลับคำพูด เขาคง ทำไม่ได้ด้วยเช่นกัน

ทั้งสองคนนิ่งเงียบไปตลอดทาง ไม่นานรถก็เข้ามาในเขตคอนโดที่เธอเช่าอยู่

“ถึงแล้วค่ะ” เธอปลดเข็มขัดนิรภัยออก ตอนนี้เป็นเวลาดึก มากแล้ว บริเวณคอนโดจึงเงียบสงัดไร้สุ่มเสียงใดๆ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ