สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 66 เจอกับรักครั้งแรก



ตอนที่ 66 เจอกับรักครั้งแรก

“คุณว่าอะไรนะ?” เซียซิงคงไม่อยากเชื่อคำพูดของอีกฝ่าย “จะ มาบอกว่าไม่ให้ฉันไปแบบนี้ก็ได้เหรอ? ฉันอุตส่าห์วางแผนเอา ไว้แล้ว ตั๋วเครื่องบินก็จองไว้แล้วด้วย คุณเข้าใจอะไรผิดหรือ เปล่า? ฮัลโหล? ฮัลโหล!”

อีกฝ่ายไม่เปิดโอกาสให้เธอพูดอะไรอีกก็ตัดสายไปเลย อย่างไร้ความปรานี

เซี่ยงคงรู้สึกว่าต้องมีใครเล่นตลกกับเธอ ก็เลยโทรกลับ ไปอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้ อีกฝ่ายได้แต่ถอนหายใจพลางเอ่ย ว่า “ชิงคง เธออย่าโมโหไปเลย เรื่องนี้รัฐมนตรีก็ให้คำตอบเธอ ไม่ได้ แค่บอกว่าเป็นคำสั่งจากเบื้องบนเท่านั้น ช่วงนี้เธอไป ทําให้ใครไม่พอใจหรือเปล่า?”

อีกฝ่ายพูดมาถึงขั้นนี้ทำให้เซี่ยงคงนิ่งอึ้งอยู่นาน หาก พูดถึงคนที่ควบคุมงานเธอได้อย่างสบาย และเป็นคนที่ตัวเอง อาจเคยทำให้ไม่พอใจ ถ้างั้นก็คงมีแต่…

ท่านประธานาธิบดีงั้นเหรอ?

หรือว่า เขาจะยื่นมือมาจัดการเรื่องนี้แทนเซียซิงเฉิน

เซี่ยซิงคงยิ่งคิดยิ่งรู้สึกเหลือเชื่อ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเซีย ซิงเฉินจะมีเสน่ห์ถึงขนาดนี้ เธอไม่ยอมเลิกล้มความตั้งใจจึง โทรไปหาสวี่เหยียน
กระทั่งสวี่เหยียนบอกเธอว่าเรื่องขอโทษนั้นท่าน ประธานาธิบดีเป็นคนกำชับมาจริงๆ เธอถึงได้เชื่อสนิทใจและ โกรธจนเกือบทุบโทรศัพท์ทิ้ง

เธอเปิดประตูออกอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยงแล้วถลาออกไป ข้างนอก หลี่หลิงเข้ามาอย่างตื่นเต้นดีใจ “ซิงคง ลูกรีบมาดูสิ รองเท้าเต้นรำที่แม่เพิ่งซื้อมาให้ลองดูว่าเหมาะไหม?”

“ยังจะลองอะไรอีกล่ะ! จะไปก็ไปไม่ได้แล้ว!”

เธอร้อง ห้ะ?’ ออกมาคำหนึ่ง “เกิดอะไรขึ้น? ตั๋วเครื่องบิน ก็ซื้อแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมจู่ๆ จะมาบอกว่าไม่ไป?”

“จะอะไรถ้าไม่ใช่เพราะบารมีของนังสำส่อนเชี่ยซิงเฉิน นั่น?”

“เกี่ยวอะไรกับเาด้วย?” หลี่หลิงอียิ่งไม่เข้าใจ

เซี่ยงคงนึกถึงเรื่องราวต่างๆ เมื่อสองวันก่อนขึ้นมา ขอบ ตาก็แดงไปหมด

“มันไต่เต้าไปหาประธานาธิบดี ตอนนี้ทำให้งานหนูฟัง

หมดแล้ว! สวี่เหยียนบอกว่า ประธานาธิบดีบอกด้วยตัวเองว่า

ถ้าหนูไม่ไปขอโทษมันก็ให้รับผลที่ตามมาเอง! ตอนนี้เสียไปแค่

งานเดียว ถ้าหนูไม่ไปขอโทษมันถึงที่ด้วยตัวเอง แม้แต่อาชีพนี้

ก็อาจไม่ได้ทำ ที่ร้ายแรงยิ่งกว่านั้นก็คือ ต่อไปแม้แต่การเต้นรำ

ก็อย่าได้นึกถึงอีก!”

หลี่หลิงอีช็อก “เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง?ประธานาธิบดี…ปกป้องเธอขนาดนี้เลย? ลูกไปทำอะไรเธอเข้า ล่ะ?”

“หนูไม่คุยกับแม่แล้ว ตอนนี้หนูจะไปคุยกับมันให้รู้เรื่อง! เซี่ยซิงคงทิ้งหลี่หลิงไว้ เดินออกไปอย่างเดือดดาล “ลูกรู้เหรอว่าจะไปหามันได้ที่ไหน?” หลี่หลิงอีตามไป

ซักไซ้

“ทำเนียบประธานาธิบดี

ทําเนียบประธานาธิบดี

หลี่หลิงอีตะลึงไปอีกรอบ เซี่ยซิงเฉิน…อยู่ที่ทำเนียบ ประธานาธิบดี?! พระเจ้าช่วย! ไม่ใช่ว่าวันหนึ่งข้างหน้าผู้หญิง คนนี้จะกลายเป็นภรรยาประธานาธิบดีหรอกนะ?

“หมอฟ เขาเป็นไงบ้าง?” รอจนตรวจเสร็จ เซี่ยซิงเฉินจึง ได้ถามหมอฟู

“คุณเซีย คุณอย่าเพิ่งเจอหน้าท่านประธานาธิบดีสักระยะ นะครับ พวกคุณอยู่ห่างกันก่อนดีกว่า กว่าคุณจะฟื้นไข้ได้ไม่ ง่าย อย่าปล่อยให้แพร่เชื้อใส่กันอีก” ฟู่เฉินตอบ

เซี่ยซิงเฉินมองไปเย่นิ่งแวบหนึ่งแล้วพยักหน้า “อ่อ ได้ค่ะ งั้นฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้แหละ

ใบหน้าไปเย่นิ่งมืดครึ้มลง ผู้หญิงคนนี้ว่าง่ายขนาดนี้ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?!
“แล้วก็…” เฉินซะงักเล็กน้อย ทำเสียงกระแอมไอก่อน เอ่ยว่า “ในเมื่อห้ามสัมผัสกันก็แปลว่าจูบกันไม่ได้ เรื่องพวกนี้ ถึงผมไม่บอก พวกคุณสองคนก็น่าจะรู้ใช่ไหม?”

“ เชียซิงเฉินหน้าแดงขึ้นมาทันที

ไปเย่นิ่งหยิบหมอนขว้างออกไป “หมอฟู คุณนี่พูดมาก จริงๆ!

ฟู่เฉินรับหมอนไว้ได้อย่างแม่นยำ “ท่านประธานาธิบดี ครับ ผมแค่เตือนไปตามหน้าที่เท่านั้นเอง”

“ฉันออกไปก่อนนะ พวกคุณคุยกันไปเถอะ” เซียซิงเฉินดึง ประตูเปิดออกแล้ววิ่งหนีไป เดินอย่างรีบร้อนจนเร็วกว่าใคร ทั้งหมด

เซี่ยซิงเฉินกลับมาที่ห้องตัวเอง เธอเตรียมทานมื้อเช้า มือ ถือดังขึ้น ฉือเว่ยยังเอ่ยขึ้นจากอีกฝั่ง “ซิงเฉิน เธอรีบให้พวกเขา ปล่อยฉันเข้าไปเถอะ ค้นตัวก็แล้ว ตรวจบัตรประชาชนก็แล้ว แต่ยังไม่ให้ฉันเข้าไปสักที!

“เธออยู่ไหนเนี่ย?”

“หน้าทำเนียบประธานาธิบดี

“เธอมาจริงๆ เหรอ?” เซี่ยซิงเฉินคิดว่าโชคดีที่หมอฟเอา ชุดป้องกันมาเยอะ “เธอรอแป๊บนึงนะ ฉันจะให้คนออกไปรับ เธอ”

ผ่านไปครู่หนึ่ง คนรับใช้ก็ไปรับถือเว่ยยังเข้ามาถึงตึกเล็กภายในทําเนียบ

ฉือเว่ยยังบ่นกับคนรับใช้ตลอดทาง “จะเข้ามายุ่งยาก ชะมัด มีคนเฝ้าประตูตั้งหลายชั้น แถมยังต้องแสกนลายนิ้วมือ วัดอุณหภูมิร่างกายอีก

“ช่วยไม่ได้ ยังไงที่นี่ก็พิเศษกว่าที่อื่น

นึกๆ แล้วก็ใช่จริงๆ เคหะสถานของท่านประธานาธิบดีจะ ให้ธรรมดาได้ไง?

ฉือเว่ยยังเดินพลางเที่ยวชุมพลาง รู้สึกเหมือนเข้ามาในร้า กวนหยวน พอเดินมาถึงตึกเล็ก จู่ๆ ประตูใหญ่ที่แสนโอ่อ่าก็ถูก เปิดออก

ร่างสูงโปร่งก้าวออกมาจากข้างในพอดี เธอมองตรงไป แวบหนึ่ง ฝีเท้าพลันชะงักลง ทั้งร่างสะท้านอยู่ตรงนั้น

นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเขา

ฟอี๋เฉิน…

ฟู่อี้เฉิน…

ไม่ได้เจอกันนานแค่ไหนแล้ว?

นานจนกระทั่ง…ชื่อนี้ เธอรู้สึกว่าตัวเองเกือบลืมไปแล้ว…

นานจนกระทั่ง แม้แต่คนคนนี้ ใบหน้านี้ก็เกือบเลือนหาย ไปจากสมองของเธอแล้ว ไม่เหลือร่องรอยไว้แม้แต่น้อย…

แต่ก่อนตอนที่ยังคลั่งอยู่ ตอนกินก็คิดถึงเขา ตอนเดินคิดถึงเขา ตอนเรียนก็คิดถึงเขา แม้แต่ตอนนอนในสมองก็มีแต่ เขาเท่านั้น

แต่ว่า ต่อมา…ก็ไม่เคยนึกถึงอีกเลยจริงๆ…

เธอลืมเขาแล้ว

ลืมคนคนนั้นที่เคยสำคัญที่สุดในชีวิตเธอ….

ฟู่เฉินนึกไม่ถึงว่าจะได้เจอฉือเว่ยยังที่นี่ เขาเองก็ตกใจ เช่นกัน

เรียวปากขยับเล็กน้อยราวกับจะพูดอะไร ทว่าฉือเว่ยยัง กลับเบี่ยงตัวหลบไปด้านข้างและเตรียมเดินเข้าข้างใน

“หยุดนะ!” ไม่รู้ว่ามีอะไรดลใจ ในชั่ววูบนั้นฟูเฉินก็รั้ง ข้อศอกเธอไว้ด้วยความขู่วาม

เรี่ยวแรงและความร้อนจากฝ่ามือนั้นถาโถมเข้ามา ฉือเว่ย ยังรู้สึกเพียงว่าหัวใจดวงหนึ่งเจ็บปวดจนแทบแตกสลาย ทว่า กลับมองเขาอย่างเย็นชาพร้อมเอ่ยถามคนรับใช้ว่า “คนนี้ใคร เหรอ? ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย!”

“หมอคะ คุณถือเป็นแขกของคุณเซีย” คนรับใช้รีบ

อธิบาย

“ไม่ว่าจะเป็นแขกใคร จะผ่านประตูเข้าไปก็ต้องฆ่าเชื้อ โรคทั้งนั้น!” เฉินลากเธอเดินไปอีกห้องโดยไม่ปล่อยให้ แก้ตัว ฉือเว่ยยังขัดขืนแต่ไม่สำเร็จ

ผู้ชายคนนี้แรงเยอะจนน่ากลัว!
เธอถูกผลักเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว ภายในห้องมีเจ้า หน้าที่แพทย์พยาบาลอยู่สองสามคน พวกเขาเจอกับฟู่เฉินที่ เดินเข้ามาด้วยใบหน้าเย็นชาก็รีบทักทาย

“หมอฟู”

ทักทายเสร็จจึงได้ส่งสายตาประหลาดใจไปยังร่างหญิง สาวแรกรุ่นที่ถูกเขาลากเข้ามา

เธอเป็นใคร? น้อยครั้งที่จะเห็นหมอฟูใกล้ชิดกับผู้หญิง ขนาดนี้

“ช่วยฆ่าเชื้อให้เธอให้หมดทั้งตัว แล้วก็เตรียมชุดป้องกัน ไว้ชุดหนึ่ง ให้เธอสวมซะ!” เฉินกำชับด้วยใบหน้าปราศจาก อารมณ์

“ครับ/ค่ะ”

เฉินเดินออกไป พอถึงประตูก็หยุดกึกแล้วหันกลับมา กำชับอีกประโยค “สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย อย่าให้เชื้อโรคเล็ด รอดเข้าไปเด็ดขาด!

ท่าทางแข็งกระด้างเย็นชาเช่นเคย

“ครับ/ค่ะ คุณวางใจเถอะ” เจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลตอบ รับทันทีโดยไม่ขาดปาก

เขาไม่ได้รีรออะไรอีก เหวี่ยงประตูปิดแล้วจากไป เหลือไว้ เพียงแผ่นหลังที่เย็นชา

จนกระทั่งประตูปิดสนิท ฉือเว่ยยังถึงได้เหลือบตามองไปที่ประตู ทั้งๆ ที่มองไม่เห็นอะไรแล้วแต่เธอกลับละสายตาไปไหน ไม่ได้อยู่เป็นเวลานาน

ขอบตาค่อยๆ แดงก่ำ

เกินกว่าจะควบคุมได้

ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป ราวกับตกอยู่ใน

ความฝัน

ดูช่าง ห่างไกลเกินจริง…

ทว่าคนคนนั้นกลับเพิ่งปรากฏตัวขึ้นจริงๆ

“คุณเป็นเพื่อนกับหมอเหรอคะ?” เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาลฆ่าเชื้อให้เธอไปพลาง ชวนเธอคุยเล่นไปพลาง “ดู ท่าทางหมอจะประหม่ามากตอนอยู่ต่อหน้าคุณ

“เอ๊ะ เขาประหม่าตอนอยู่ต่อหน้าผู้หญิงทุกคนล่ะมั้งคะ?” ฉือเว่ยยังพยายามยิ้ม รู้สึกอัดอั้นในอก

“ไม่ใช่หรอกค่ะ”

ฉือเว่ยยังเหลือบมองอีกฝ่ายแวบหนึ่ง “พวกคุณสนิทกับ เขามากไหมคะ? เคยเจอภรรยาเขาไหม? สวยไหมคะ?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ