สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 117 การโต้กลับของเซี่ยซิงเฉิน(1)



ตอนที่ 117 การโต้กลับของเซี่ยซิงเฉิน(1)

เธอพยักหน้าอย่างหนักแน่นอีกครั้ง “ถ้ามีอะไรจริงๆ ฉันจะบอก ความจริงกับเธอแน่นอน”

“ดูไม่ออกเลยนะเนี่ยว่าท่านประธานาธิบดีของเราจะยัง เป็นสุภาพบุรุษแบบนี้ เธออยู่ที่ทำเนียบประธานาธิบดีก็ตั้งนาน แล้ว แต่เขาก็ยังไม่ทำอะไรเธอเลย เมื่อคืนค้างในห้องเล็กๆ แบบนั้น ถ้าพูดตามปกติคือมีโอกาสก็ต้องจัดการเธอแล้วสิ

“เธอน้อยๆ หน่อยเถอะ อย่างเขาใช้สุภาพบุรุษที่ไหนกัน เซี่ยซิงเฉินไม่เห็นด้วยกับคำพูดของฉือเว่ยยังเป็นอย่างมาก ตั้งแต่เช้าเขาป้อนความคิดอะไรให้ลูกชายตัวเองก็ไม่รู้

ฉือเว่ยยังหันหน้ามองไปที่เธอด้วยสายตาจับผิด “มีเรื่อง อะไรแน่ๆ!”

เซียซิงเฉินทำหน้าเอือม เธอไม่น่าหาเรื่องให้ตัวเองเลย

จริงๆ

และในตอนนี้เอง จู่ๆ เสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้น เมื่อหยิบ มือถือขึ้นดูก็เอ่ยกับฉือเว่ยยังว่า “สายของหัวหน้า

“น่าจะมีงานเข้าแล้วล่ะ รีบรับสายก่อนเถอะ”

เซี่ยซิงเฉินให้ถือเว่ยยังช่วยดูเซียต้าไป จากนั้นตัวเองก็หามุมที่ค่อนข้างเงียบแล้วรับสายทันที สักพักเธอก็กลับมา

“มีอะไรเหรอ”

“คืนนี้มีงานเลี้ยงการกุศลที่ค่อนข้างสำคัญนะ นอกจาก เหล่าผู้นำกับนักธุรกิจระดับต้นๆ แล้ว ยังมีนักธุรกิจชาวต่าง ชาติกับคนของสถานทูตด้วย บอกว่ารองประธานาธิบดีซึ่ง เจาะจง ให้ฉันไปเป็นล่ามด้วย

ฉือเว่ยยังขมวดคิ้ว “ไม่ใช่ว่าเป็นงานเลี้ยงที่มีแผนการ อะไรอีกนะ คราวก่อนซ่งเหวยทำอะไรเธอไม่ได้ คราวนี้เลย อยากแก้แค้นเหรอ”

เซี่ยซิงเฉินพลันนึกถึงเหตุการณ์นี้ขึ้นมา สีหน้าขรึมลง เล็กน้อย “ถ้าอย่างนั้นฉันยิ่งต้องไปแล้ว ฉันอยากถามเรื่องครั้ง ก่อนต่อหน้าเธอสักหน่อย

“ถ้าถูกเธอแกล้งอีกจะทำยังไง

“เธอคงไม่กล้าจับตัวฉันไปต่อหน้าสายตาสาธารณชน หรอก”

ฉือเว่ยยังพยักหน้า แต่ยังคงไม่วางใจ “ไม่ว่ายังไง ตัวเธอ เองก็ต้องระวังหน่อยนะ งานเลี้ยงการกุศลนี่ฉันเคยได้ยินมาว่า จัดยิ่งใหญ่มาก สื่อมวลชนใหญ่ๆ ในประเทศก็มาด้วย

“อย่างนั้นเหรอ”

“อืม”

เที่ยงวัน หลังจากทั้งสามคนทานข้าวเที่ยงเรียบร้อย เซี่ยซิงเฉินที่ไม่สามารถอยู่เป็นเพื่อนลูกได้อีก ทำได้เพียงโทรให้คน ขับรถมารับเซียต้าไปกลับทำเนียบประธานาธิบดี

เธออาบน้ำแต่งตัวอยู่สักพัก

เปิดคอมอ่านอีเมล์ ดูตารางเวลาของงานเลี้ยงก่อนหนึ่ง รอบ จากนั้นก็ทำความรู้จักกับบุคคลที่จะมาในงานเลี้ยงแบบ คร่าวๆ คืนนี้เธอต้องคอยเป็นล่ามให้รองรัฐมนตรีกระทรวง กลาโหม เมื่อก่อนเคยทำงานร่วมกันมาก่อนเลยถือว่ายังพอ รู้จัก เธอจึงรู้สึกสบายใจเล็กน้อย

เมื่อเซี่ยซิงเฉินอ่านเมล์เสร็จนั่นก็เป็นเวลาอีกสองชั่วโมง ให้หลัง เธอดูบัตรเชิญงานเลี้ยงอีกครั้ง บนนั้นกำชับไว้ว่าทุกคน ต้องสวมชุดราตรี

เธอรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย

ถึงเธอจะมีชุดราตรีอยู่ แต่ว่าก็เป็นชุดที่เหมาะกับใส่ใน งานปาร์ตี้เล็กๆ ทั้งนั้น คงไม่เหมาะสำหรับงานยิ่งใหญ่แบบนั้น สักเท่าไร ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลยด้วยซ้ำ

ตอนที่เซี่ยซิงเฉินกำลังคิดหนัก เสียงมือถือก็ดังขึ้น บนจอ ที่แสดงตัวอักษรสี่ตัวทำให้เธอตกใจไปชั่วขณะ มือวางจาก เมาส์แล้วกดรับสาย

“ลูกยังอยู่กับคุณไหม”

“เปล่าค่ะ ฉันเพิ่งให้คนขับรถมารับกลับไป จู่ๆ ก็มีงานเข้า มาเลยอยู่เป็นเพื่อนลูกไม่ได้แล้ว”
“งานอะไร”

“งานเลี้ยงการกุศลคืนนี้ ฉันรับผิดชอบเป็นล่ามให้รอง

รัฐมนตรีท่านหนึ่งน่ะค่ะ”

ฝั่งไปเย่นิ่งไม่ได้พูดอะไร เหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่าง อยู่ เมื่อเขาไม่พูด เซียซิงเฉินก็เงียบไม่พูดด้วยเช่นกัน สักพัก เขาถึงเอ่ยปากว่า “เดี๋ยวรออยู่ที่บ้านนั่นแหละ ไม่ต้องไปไหนทั้ง

เซี่ยซิงเฉินไม่เข้าใจความหมายคำพูดของเขา แต่ว่าเขาก็ ไม่คิดที่จะอธิบาย ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรอีก ฝั่งนั้นจึงกดวาง สาย เขาก็งานยุ่งตลอดแบบนี้แหละ

หลังจากวางสาย เธอก็รีบค้นชุดราตรีในตู้เสื้อผ้าออกมาที ละชุดๆ แล้วลองเทียบทีละตัวๆ ดูแล้ว ก็ยังคิดว่าไม่เหมาะเสียที เห็นเธอคงต้องไปหาเช่าชุดราตรีสักชุด แต่ว่าไปเย่นิ่งกลับ บอกให้เธออย่าออกไปไหน ในตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าเขามีแผนจะทำ อะไรอีก

เธอดูเวลา งานเลี้ยงเริ่มตอนหนึ่งทุ่ม ถ้าอย่างนั้นเธอคงรอ อยู่ในบ้านได้จนถึงห้าโมงเย็น อีกทั้งเธอยังมีข้อมูลที่ต้องดูอีก สักหน่อยอยู่พอดี

เซี่ยซิงเฉินจ้องมองที่หน้าจอคอมไปสักพัก ทันใดนั้นก็มี เสียงกริ่งดังขึ้น

เธอสงสัย แล้วรีบลุกขึ้นไปเปิดประตู
ข้างนอกนั้น มีผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งยืนอยู่ ทั้งตัวสวม ชุดกระโปรงยาวสีดำขาว ดูสง่าผ่าเผย

“คุณเซีย” อีกฝ่ายยิ้มเอ่ยทักทายเธอด้วยท่าทีนอบน้อม เซียซิงเฉินไม่เคยเห็นเธอมาก่อน เมื่อกำลังจะเอ่ยถามอีกฝ่ายก็ แนะนำตัวเองเสียก่อน “คุณไปให้ดิฉันมาโดยเฉพาะค่ะ คุณ เรียกดิฉันว่าเมย์ก็พอ”

คุณไปที่ว่าก็คือไปเย่นิ่งอย่างไม่ต้องสงสัย เซี่ยซิงเฉินมอง ไปที่ด้านหลังเธอเล็กน้อย ข้างหลังเธอมีคนติดตามอยู่ไม่น้อยที่ เดียว เห็นทีคงไม่อยากเอ่ยถึงคำว่า “ประธานาธิบดี ต่อหน้า คนอื่นแบบนี้

เธอยิ้มบางๆ แล้วขยับตัวออก “เข้ามาก่อนเถอะค่ะ

เมย์พยักหน้าแล้วเดินเข้าไป มีหลายคนที่เดินตามหลังเธอ เข้ามา ในมือแต่ละคนก็ล้วนถือของบางอย่างอยู่

เซี่ยซิงเฉินมึนงงไปชั่วขณะ ไม่รู้ว่าไปเย่นิ่งให้เธอมาทำ อะไร เมย์เอ่ยปากสั่งทันที “เอาของออกมาให้คุณเซียดูหน่อย จากนั้น…

ชุดราตรีสามชุดที่ต่างกันแต่กลับสวยงามหรูหราเช่น เดียวกันเผยอยู่ตรงหน้าเธอ ชั่วขณะนั้น ภายในห้องเล็กๆ นี้ก็ เหมือนจะสว่างไสวกว่าเดิม

เมย์ยิ้มแล้วมองที่เธอ “คุณเซีย คุณเลือกสิคะ ทั้งสามชุด ล้วนมาจากฝีมือของคุณ ES ผู้โด่งดัง ถึงจะมีเงินก็หาซื้อไม่ได้ง่ายๆ ด้วยนะคะ”

“พวกนี้ไปเ…คุณไปเป็นคนเตรียมให้เหรอคะ” เสี่ยชิง เฉินหันมองคนข้างๆ เธอรีบเปลี่ยนคำเรียก

“ใช่ค่ะ มีนี่ด้วยค่ะ” เมย์ขยับมือเล็กน้อย จากนั้นก็มีกล่อง หลายต่อหลายกล่องเปิดอยู่ตรงหน้าเธอ เพชรพลอยสะท้อน แสงแยงตาจนเธอแทบจะลืมตาไม่ขึ้น “เครื่องประดับพวกนี้ล้วน แต่เคยวางอยู่ในพิพิธภัณฑ์ คุณไปใจดีมากๆ เลยนะคะ”

เซี่ยซิงเฉินรู้สึกตกใจเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกซาบซึ้ง เธอไม่คิด ว่าไปเฉิงจะคิดเผื่อเธอได้มากขนาดนี้ เมื่อตอนที่คุยกัน เธอ ไม่ได้พูดถึงปัญหาของเธอเลยสักนิด

เพียงแต่ว่า…

ยามที่ของเหล่านี้เผยอยู่ตรงหน้าเธอ เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าพวก เขาไม่ใช่คนในโลกเดียวกัน เขาอยู่จุดในสูงสุดของห่วงโซ่ อาหาร คอยก้มมองดูผู้คนอยู่ แล้วเธอล่ะ

เซี่ยซิงเฉินลูบไปที่เพชรพลอยอันแสนงามล้ำค่าพวกนั้น แล้วก็รู้สึกปวดใจเล็กน้อย กิ่งทองใบหยก ความจริงเป็นหลักที่ สืบทอดมาแต่บรรพบุรุษ แต่พอมาใช้กับตอนนี้ก็ยังมีเหตุผลอยู่ คนบางพวกก็เกิดมาเพื่อให้คนอื่นแหงนมอง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ