สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 210 ช่วงลองรัก (6)



ตอนที่ 210 ช่วงลองรัก (6)

วางลงบนเตียงแล้วพรมจูบอีกยกใหญ่ จูบจนกระทั่งลมหายใจ ทั้งคู่สะดุดถึงยอมระมือไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำ เขากลัวว่าถ้า ยังจูบต่อไป คืนนี้ก็อย่าได้คิดจะพักผ่อนอีกเลย ถ้าเขาคิดจะ จัดการเธอ คงจัดการไม่เสร็จภายในเวลาอันสั้น

สุดท้ายเซี่ยซิงเฉินก็กลับไปยังห้องพักผู้ป่วย เธอแอบออก ไปตอนรอให้ไปเย่งหลับสนิท อย่างไรเสียก็ไม่อาจวางใจ มารดาที่นอนอยู่ในห้องพักผู้ป่วยได้

เธอนอนอยู่บนเตียงเล็ก มองดูข้างนอกที่แสงจันทร์สาด ส่องลงมาเป็นสีขาว นึกถึงชายหนุ่มที่กำลังหลับใหลอยู่ใน โรงแรม พลันรู้สึกอุ่นใจ มีเขาอยู่ แม้แต่อาการป่วยของมารดา เธอก็ไม่ได้กังวลมากขนาดนั้นแล้ว

เพียงแต่…

ทุกวันนี้ตนผูกพัน และพึ่งพาเขามากขนาดนี้ แล้วอนาคต

ละ…

นึกถึงตรงนี้เธอก็หยุดชะงัก ไม่ได้คิดต่ออีก เธอกับไป เย่นิ่งไม่ใช่คนในโลกเดียวกันอย่างสิ้นเชิง จะมีอนาคตร่วมกัน ได้จริงๆ เหรอ?
เงินหมิ่นยอมตกลงย้ายโรงพยาบาล ไม่ว่าต่อให้เกลียด

เมืองหลวงนั่นเท่าไร ก็ไม่ควรล้อเล่นกับชีวิต

งานวันเกิดห้าสิบปี สุดท้ายก็ล่ม ไปเย่งบอกแล้วว่ารอ

ให้เธอแข็งแรงก่อนค่อยกลับมากินฉลอง เหล่าเพื่อนบ้านก็เห็น ด้วย ไปเย่นิ่งเกรงว่าร่างกายของเธอจะนั่งรถไม่ไหว จึงบินกลับ เมืองหลวงจากกองบินอย่างลับๆ

คุณยายกลับมาด้วยกัน เดิมทีเซียต้าไปดีใจเป็นอย่าง มาก แต่คุณยายกลับมาด้วยอาการป่วย เขาก็เป็นห่วงเหลือ

เกิน

ลงจากเครื่องบินก็มีขบวนรถรออยู่แล้ว คนกลุ่มหนึ่งส่ง เงินหมุนไปยังโรงพยาบาล เฉินได้หาทีมผู้เชี่ยวชาญรออยู่ที่ โรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว

จัดห้องให้อยู่ในโรงพยาบาลระดับ VVIP เสร็จเรียบร้อย ก็ส่งมารดาไปตรวจอย่างละเอียด เชียซิงเฉินถึงเบา ใจลงเล็ก น้อย ไปเยถึงยังมีธุระอื่น ให้จัดการจึงไม่สามารถอยู่ได้นานกว่า

เซียซิงเฉินส่งเขาถึงหน้าประตูห้องพักผู้ป่วย “คุณรีบไป เถอะ ทางนี้ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ

“มีเรื่องอะไรโทรหาผมได้เสมอ หรือโทรหาอี้เฉินได้เลย

เขาเอ่ยสั่ง

“เข้าใจแล้วค่ะ” เซี่ยซิงเฉินพยักหน้า มองดูไปเย่นิ่งและกลุ่มคนจากไป เธอถึงย้อนกลับเข้าไปในโรงพยาบาล

ฟู่เฉินเดินมาพร้อมคุณหมอยังสาวคนหนึ่งแล้วเอ่ย แนะนำกับเซียซิงเฉิน “นี่คือคุณหมอจึงอ ถึงจะยังอายุน้อยแต่ เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ เธอคือคนที่จะ ทำการผ่าตัดในวันพรุ่งนี้ครับ

คุณหมอจัดการ เซี่ยซิงเฉินจึงย่อมเชื่อถือ

“คุณหมอจึง เรื่องคุณแม่ฉันคงต้องรบกวนคุณด้วยนะคะ

เธอทักทาย

“เป็นสิ่งที่เราควรทำอยู่แล้วค่ะ” จึงอตอบกลับสั้นๆ และ เป็นทางการ เธอเป็นหญิงสาวที่สวยคนหนึ่ง ผมยาวประบ่า สวมชุดกาวน์สีขาว สะอาดบริสุทธิ์ บนใบหน้ามีเพียงรอยยิ้ม บางเบา ลักษณะนิ่งสงบ ท่าทางเงียบขรึม

รอจนเธอเดินจากไป เฉินก็กล่าว “รุ่นน้องคนนี้ของผม แม้จะเข้าหายาก แต่ฝีมือไม่ธรรมดานะครับ

เซียซิงเฉินเอ่ยชื่นชม คนสวยที่เย็นชา คนสวยที่มีฝีมือ

ฟู่เฉินหันกลับไปมองแผ่นหลังของเธอแวบหนึ่ง เมื่อ ก่อนตอนที่รู้จักเธอตอนเรียน เธอไม่ได้เป็นแบบนี้ ได้ยินว่า ภายหลังที่บ้านเกิดเรื่องนิดหน่อย จนเธอเปลี่ยนไปจากเดิม

พอฟังเขาเอ่ยเช่นนี้ เซียซึ่งเป็นอดหันไปมองแผ่นหลังงาม นั่นแวบหนึ่ง ไม่รู้ทำไม ถึงรู้สึกว่า…เธอก็เป็นคนที่มีเรื่องราว เยอะเหมือนกัน
ไปเฉิงออกมาจากโรงพยาบาล รับสายจากบิดาให้เขา

กลับไปบ้านในคืนนี้

ตารางงานในช่วงบ่ายคือต้อนรับแขกจากที่อื่น รอไปเย่นิ่ง เสร็จงานแล้วกลับไปถึงบ้านนั้นก็เป็นเวลาหนึ่งทุ่มกว่าแล้ว

เวลานี้ไปเยก็อยู่ กำลังช่วยเตรียมกับข้าวพร้อมเหล่าคน รับใช้และคุณนาย ขณะที่ไปเย่นิ่งเดินผ่านห้องโถงแล้วเห็นเธอ เหมือนนึกอะไรบางอย่างออกจึงส่งสายตาไป ไปเย่เห็น สายตาจากเขา จึงวางของในมือลงแล้วเดินมาหา

“มีเรื่องจะคุยกับพี่เหรอ?” ไปเยถาม

ไปเยฉิงยกมือสางผมที่แผ่กระจายของเธอออก มือลูบผ้า ก๊อซเล็กๆ บนคอเธอ เธอปัดมือเขาออก แสร้งเอ่ยเสียงคุกรุ่น “จับไปเรื่อย”

“ได้มายังไง?”

“ถูกกัดมา” ไปเย่ชะงักไปครู่แล้วเอ่ยความจริง ไม่มี ความคิดจะปิดบังเขา

“วันแต่งงานผมก็สังเกตเห็นแล้ว

เธอจัดผมให้เรียบร้อยใหม่ การกระทำเล็กน้อยล้วนเป็น เสน่ห์เย้ายวนของหญิงสาว “ยังไงก็ปิดบังแกไม่ได้อยู่แล้ว”

ไปเย่งชะงัก แววตาล้ำลึกขึ้น “กัดตรงนี้ของพี่ได้นอกจากคนคนนั้นแล้วผมก็นึกถึงคนอื่นไม่ออก

เธอก็นึกถึงผู้ชายคนนั้น นิ้วมือลูบไล้ผ้าก๊อซเบาๆ จน กระทั่งตอนนี้ยังคงจําแววตาชิงชังของเยเชียวขณะที่กัดลงมา ได้ดี เธอถอนหายใจ ไม่รู้จะทำอย่างไร “ฉันติดค้างเขาเอง ก็ ปล่อยให้เขาเล่นเถอะ”

“พี่ติดค้างเขา?” ไปเย่นิ่งมองเธอแวบหนึ่ง “ทำไมพี่ไม่คุย เรื่องตอนนั้นกับเขาให้รู้เรื่องเลยล่ะ?”

แววตาไปเย่หม่นลงเล็กน้อย เผยยิ้มอย่างอื่นๆ ไปที่ “จะ คุยกันรู้เรื่องได้เหรอ? พี่โกหกเขาเป็นเรื่องจริง ส่วนพี่น้องของ เขาที่ตายแทนกันได้ ตายเพราะพี่ก็เป็นเรื่องจริง เราเป็นศัตรู กันก็เป็นเรื่องจริง ต่อให้พูดกันอีกแค่ไหน หลายเรื่องก็ชดใช้ ไม่ได้แล้ว”

เขาขมวดคิ้วแน่น สีหน้าเคร่งขรึม “ผมไม่อยากให้พี่มีเรื่อง อีก เพราะฉะนั้นถ้าต้องการอะไรให้บอกผมทันที

“ฉันนึกว่าตอนนี้ในหัวแกจะเหลือแค่ผู้หญิงคนเดียวแล้ว ซะอีก” ไปเย่เอ่ยหยอก

เอ่ยถึงเธอ ไปเปถึงก็ไม่พูดอะไรอีก แต่สีหน้ากลับอ่อน โยนขึ้นเยอะ

ท่าที่เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนั่นอยู่ในสายตาของไป๋ซูเย่ เธอรู้สึกว่าเขาหลงเธอคนนั้นเข้าแล้วจริงๆ แต่การมีความรู้สึก ที่ทำให้ตนทุ่มเทสุดกำลังขนาดนี้ก็เป็นเรื่องดีอย่างหนึ่งจริงๆการได้เจอคนที่ตัวเองรักไม่ใช่เรื่องง่ายในโลกนี้ และคนที่รัก คนนั้นก็รักคุณเช่นเดียวกัน ย่อมเป็นเรื่องดีงามที่สุดในโลก

ความดีงามของเธอก็เป็นเพียงอดีต ที่ปัจจุบันไม่มีทาง ย้อนกลับไปอีกแล้ว…

เธอกล่าวเพียง “หาเวลาพาเธอกับหลานชายพี่กลับมา เถอะ ยังไงแกกับซึ่งเหวยอีก็ไม่มีทางเป็นไปได้แม้แต่นิดแล้ว รีบพาเธอมาหาพ่อแม่สักหน่อย พูดคุยเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง ของแกก็ดีเหมือนกัน”

ไปเย่นิ่งรู้สึกว่าความคิดของเธอดีไม่หยอก พยักหน้ารับ “รอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อน รอคุณลุงออกจากคุก ผมจะจัดการ แน่นอน”

ดูท่าทางเธอที่ไม่เอ่ยอะไร เขาคิดไว้ในใจแล้ว ไปเยอ จฉาพวกเขามาก ขนาดลูกก็มีแล้ว ทุกอย่างเหมือนจบลงด้วยดี เธอพยักหน้าแล้วกล่าว “ขึ้นไปเถอะ คุณพ่อมีเรื่องสำคัญจะคุย กับแก

“ผมขึ้นไปก่อนล่ะ” ไปเย่นิ่งถอดเสื้อกันหนาวตัวยาวลง

แล้วส่งให้ไปเย่อย่างในมือ ไปเยีพลันนึกถึงบางอย่าง จึง

เอ่ยตามหลังไป “ช่วงนี้ฉันจะจับตามองเย่เซียวไว้ เขาค่อนข้าง

ใกล้ชิดกับซุงถั่วเหยา ตอนนี้ซึ่งถั่วเหยากำลังลำบาก ฉันกลัว

ว่าเขาจะหมดหนทางแล้วไปยุ่งกับเข่เซียว หาทางทำร้ายแก

ทําร้ายความมั่นคงของประเทศเรา

ไปเย่นิ่งหันกลับมามองเธอแวบหนึ่ง “ระวังให้มากนะ อย่าให้ตัวเองบาดเจ็บ” ซะงักไปเพียงครู่ เขาเอ่ยเพิ่มไปอีกประโยค “พี่รู้ดีว่าที่ผมหมายถึงไม่ใช่แค่ร่างกาย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ