สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 31 ไม่ได้คิดเลยเถิด



ตอนที่ 31 ไม่ได้คิดเลยเถิด

“วันที่คุณได้รับบาดเจ็บวันนั้นก็คือวันที่ฉันต้องเข้าสอบค่ะ ตอน ที่เหลิงเฟยให้คนมารับ ฉันยังไม่ทันได้ทำอะไรเลยค่ะ

“แล้วทำไมไม่บอกก่อน?

“คือฉันคิดไว้แล้วว่าจะหางานอื่นทำค่ะ ก็เลยไม่รู้จะพูด อะไร” เซียซิงเฉินพยายามพูดให้ดูผ่อนคลาย แต่ภายในใจยัง คงรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง

ไปเฉิงจ้องไปที่เธอ เขาคิดว่าเธอคงมีเรื่องที่อยากจะพูด อีก แต่เธอกลับนิ่งเงียบ

เขาถาม “ไม่มีเรื่องอื่นจะพูดกับผมแล้วเหรอ?”

“อะไรคะ?” เซี่ยซิงเฉินค่อยๆ แหงนหน้าขึ้น จังหวะเดียว กับที่เขาก้มศีรษะลงมาพอดี อีกนิดเดียวริมฝีปากของทั้งสองคน ก็จะสัมผัสกัน

เธอหายใจถี่ ใบหน้าแดงเล็กน้อย เธอพูดด้วยน้ำเสียงนุ่ม นวลว่า “ถ้างั้นก็…ขอบคุณค่ะ เอวของฉันไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ”

พูดจบ เธอก็รีบถอยหลังไปก้าวหนึ่ง เพื่อรักษาระยะห่าง

เอาไว้

เวลาผ่านไปพักใหญ่ แต่ขนตายังคงกระพือไหว เซี่ยซิงเฉินเคยเตือนตัวเองว่าต้องมีสติ! ทำไมพอเข้าใกล้เขา ทุกอย่างถึงผิดปกติไปหมด? เธอแอบเตือนตัวเองอยู่ในใจ

ไป๋เย่นิ่งไม่ได้รับรู้เลยว่าตอนนี้จิตใจของเธอสับสนแค่ไหน

เขามองไปที่เธอ มือของเขาไปบนที่วางแขนของโซฟา

จากนั้นจึงนั่งลงและพูดขึ้นมาว่า “คุณเอ่ยปากขอให้ผมช่วยคุณ เข้าทำงานที่กระทรวงการต่างประเทศก็ได้ คุณรู้ไหมสำหรับผม มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก

เซียซิงเฉินคิด เธอจะทำเรื่องไม่เจียมตัวอย่างนั้นได้

อย่างไร?

เธอเป็นใคร มีสิทธิอะไรถึงคิดว่าตัวเองสามารถให้ ประธานาธิบดีของประเทศลดตัวลงมาช่วยเธอทำเรื่องเล็กๆ แบบนี้ได้

“ฉันไม่ชอบเป็นหนี้บุญคุณของคนอื่นค่ะ อีกอย่างฉันเองก็ เตรียมจะหางานใหม่แล้วด้วย

คนอื่น?

สองคำนี้ทำให้ไปเยถึงรู้สึกไม่สบอารมณ์นัก เขามอง ปราดไปที่เธอ นัยน์ตาเย็นชาลงกว่าเมื่อครู่ พูดต่ออีกว่า “คุณ ดูแลผมเป็นอย่างดี ต่อให้คุณต้องการให้ผมทำแบบนี้ ก็ไม่ ถือว่ามากเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นที่คุณไม่ได้เข้าสอบก็เป็นเพราะ ผม”

เซี่ยซิงเฉินยังคงส่ายหน้า
เธอมองดูเขาและไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ยังพูดว่า “ที่จริงที่ฉันดูแลประธานาธิบดีเป็นอย่างดีก็เป็นเพราะ…คุณ เป็นประธานาธิบดีที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศของเรา ดังนั้นคุณไม่ต้องเอามันมาใส่ใจหรอกค่ะ”

ไปเฉิงชำเลืองตามองจ้องไปที่ใบหน้าของเธอ แววตา เข้มขึ้น “แค่นี้เอง?”

“และยังเป็นเพราะคุณคือพ่อของต้าไปไงคะ ถ้าคุณเป็น อะไรขึ้นมา เขาคงเสียใจแย่ ฉันไม่อยากเห็นเขาเสียใจ” พูด ถึงตรงนี้ เธอก็ค่อยๆ หลบสายตาของเขา

เหตุผลนี้เป็นเหตุผลที่พูดให้เขาฟัง แต่ก็พูดตอกย้ำให้ตัว เธอเองฟังด้วยเช่นกัน

ใช่ ที่ตัวเธอเป็นห่วงเขาและดูแลเขาดีขนาดนั้น จะต้อง

เป็นเพราะเหตุผลสองอย่างนี้แน่ๆ

นอกนั้น จะเป็นความรู้สึกอย่างอื่นอีกไม่ได้ เธอพร่ำพูดเกลี้ยกล่อมตัวเองและสติของตัวเอง

“พูดจบแล้ว?” เสียงของเขาทุ่ม ดวงตาทั้งคู่มองเธอ ราวกับต้องการมองให้ทะลุถึงข้างใน “เหตุผลมีแค่เท่านี้ จริงๆ?”

ใจของเซี่ยซิงเฉินสั่นไหว

ที่เขาถามเธอแบบนี้ เขาต้องการฟังคำตอบแบบไหนกันแน่?
เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ พยายามที่จะปรับอารมณ์ จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยรอยยิ้ม “ค่ะ ยังมีเหตุผล อะไรได้อีกคะ? แต่ประธานาธิบดีคะ คุณคงไม่คิดว่าฉัน….

พอพูดถึงตรงนี้ เธอก็หยุด

แต่ไปเย่นิ่งกลับถามเสริมว่า “คิดว่าคุณทำไม?”

เซี่ยซิงเฉินมองไปที่เขา รู้สึกยากที่จะเอ่ยปาก “คิดว่า ฉัน…จริงๆ ฉันเองก็ไม่ได้คิดเลยเถิด หวังว่าคุณคงจะไม่ เข้าใจผิด”

รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอในตอนนี้เจิดจ้าจนแสบตา

ไปเฉิงสีหน้าเคร่งขรึมลง แววตาเย็นชาเล็กน้อย เขาจ้อง ไปที่เซี่ยซิงเฉินอยู่ครู่ใหญ่

หลังจากนั้น เขาก็ลุกขึ้นยืนและก้มมองต่ำลงไปที่เธอ “เป็น เรื่องดีมากที่คุณเซียนิ่งได้เหมือนสายน้ำ ผมเองก็จะได้ไม่ต้อง ล่าบากใจ”

เสียงของเขาเหมือนถูกเคลือบด้วยน้ำแข็ง แต่ละคำที่พูด ออกมาล้วนเยือกเย็นและห่างเหิน

ในใจของเซี่ยซิงเฉินเจ็บปวด

ถ้างั้นก็ปล่อยให้เป็นไปตามนั้นก็แล้วกัน…

ถ้าตัวเธอชอบผู้ชายคนนี้ขึ้นมาจริงๆ เธอคงทำให้เขารู้สึกเป็นภาระแน่ๆ
ไปเยถึงพูดต่อว่า “แต่พอดีผมเองก็ไม่ชอบเป็นหนี้บุญคุณ คนที่ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วย ดังนั้นเรื่องงานของคุณ ผมจะ พยายามชดเชยให้คุณก็แล้วกัน รอผมหายดีก่อน ผมจะให้เห ลิ่งเฟยให้เงินเดือนคุณในฐานะที่รบกวนเวลาของคุณไปในช่วง

พูดจบเขาก็ไม่มองเซี่ยซิงเฉินอีก เขาลุกขึ้นและเดินไปทาง ห้องหนังสือ

ในเวลานี้ แม้แต่เงาด้านหลังของเขาก็ดูแข็งกร้าว

เซียซิงเฉินแอบถอนหายใจ ลึกๆ ในใจเธอเองก็ไม่รู้ สาเหตุที่ทำให้เขามีท่าทีที่เปลี่ยนไป หรือจะพูดให้ถูกคือ เธอไม่ กล้าคิดไปมากกว่านี้ เธอกลัวว่าสุดท้ายแล้ว ตัวเธอจะกลาย เป็นตัวตลกที่คิดเอาเองฝ่ายเดียว

ดูเขายังเดินไม่ค่อยถนัดนัก สัญชาตญาณสั่งให้เธอเข้าไป

ประคองเขาเอาไว้

แต่ยังไม่ทันที่มือของเธอจะสัมผัสตัวเขา เขาก็เบี่ยงตัว หลบเธอ

เธอพลันตกใจ ตำแหน่งของหัวใจถูกบีบให้แคบลง จน เธอรู้สึกปวดใจ

ริมฝีปากสั่นราวกับจะพูดบางอย่างออกมา แต่สุดท้ายก็ไม่ ได้พูดออกไปที่จริง…
แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน แบบนี้สิถึงจะดี…

เธอควรนิ่งให้ได้เหมือนสายน้ำ

เธอไม่ได้สนใจเขาอีก เธอหันหลังเดินกลับไปทางห้องครัว แต่จู่ๆ ตำแหน่งที่ถูกชนตรงบั้นเอวก็ปวดขึ้นมาเฉยๆ

เธอคลึงไปตรงบริเวณบั้นเอว แต่ความเจ็บนั้นก็ไม่ยอม

หายไป

หลังจากนั้น ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนดูเหมือนจะมี สัญญาณพิเศษบางอย่าง ท่าทีที่ทั้งสองปฏิบัติต่ออีกฝ่ายล้วน เย็นชา

เขาเปิดวิดีโอคอนเฟอเรนซ์อยู่ในห้องหนังสือ เซี่ยซิงเฉินก็ ได้แต่แอบเอาน้ำและยาเข้าไปให้โดยไม่พูดอะไรที่ดูเป็นห่วง หรือกังวลมากมายเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว

และเขา…

ก็ไม่ได้เข้าใกล้เธออีกเลย ท่าทีที่อ่อนโยนระหว่างคนสอง คนเมื่อหลายวันก่อนดูคล้ายภาพลวงตา

คืนนั้น เซี่ยซิงเฉินนอนกระสับกระส่ายพลิกตัวไปมาอยู่บน

โซฟา

วันรุ่งขึ้น เหลิ่งเฟยก็มารับตัวเขาไป ภายในพระราชวังไปยมีสื่อมวลชนจำนวนมากมารอเขาชี้แจงการตรวจสอบการ วางระเบิดบริเวณจตุรัสไปย

ไปเย่ฉิงต้องการเปลี่ยนเสื้อผ้า

เซียซิงเฉินนำเสื้อผ้าที่ผ่านการฆ่าเชื้อเข้าไปในห้องนอน เขาสวมกางเกงขายาวและยืนอยู่ตรงนั้น ร่างกายท่อนบนมีแต่ ผ้าพันแผล

เหลิงเฟยถอยหลบแล้วพูดว่า “รบกวนด้วยนะครับคุณ เซีย”

เซียซิงเฉินพยักหน้า เธอวางเสื้อเชิ้ตและสูทไว้บนเตียง จากนั้นจึงหยิบเสื้อเชิ้ตมาสวมให้เขา เขามองเธอด้วยท่าที่หยิ่ง ยโส และพูดว่า “เหลิ่งเฟย มานี่”

“ผม?” เหลิ่งเฟยประหลาดใจ

“ไม่ได้?” ไปเยฉิงขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ เหลิ่งเฟยรีบตอบว่า “ได้ครับๆ!” แต่เขาไม่เคยช่วยใส่ชุดให้ผู้ชายมาก่อนเลย

เซี่ยซิงเฉินหลบออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ เธอส่งเสื้อ เชิ้ต ให้เหลิงเฟย ผลคือ เหลิงเฟย ใส่เสื้อเชิ้ตให้เขาด้วยความ ทุลักทุเล ทำให้เขาต้องเจ็บแผลอยู่หลายครั้ง

สุดท้าย เหงื่อท่วมไปทั่วศีรษะของทั้งสองคน พวกเขา กําลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก
“ท่านครับ ผมว่าเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ผมสามารถทำได้ ครับ ผมเป็นพวกไม่มีการศึกษา ท่านให้ผมไปลอบฆ่าเหมือน แบบปกติจะดีกว่า เรื่อง ใส่เสื้อผ้าให้ท่านโดยไม่ให้โดนแผล ของท่านนั้น ผมไม่เคยทำจริงๆ ครับ

“พอๆ งั้นแกก็หลบไปเลยไป” ไปเยฉิงเองก็ไม่อยากถูกคน ไร้การศึกษาคนนี้ทรมานอีกเหมือนกัน เขาขยับแขนเพื่อจะใส่ ด้วยตัวเอง

ในตอนนี้เอง แขนเสื้ออีกครึ่งหนึ่งก็ถูกมือที่แสนอ่อนนุ่ม จับเอาไว้

“ยกขึ้นมานิดเดียวก็พอค่ะ” เซียซิงเฉินไม่ได้มองเขา เธอ เอาแต่ก้มหน้าราวกับกำลังจดจ่อกับการช่วยเขาใส่เสื้อผ้า “ยิ้ม แบบนี้แหละค่ะ….เรียบร้อยแล้ว เอามือลงเถอะค่ะ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ