สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 134 กลับทำเนียบประธานาธิบดีอีกครั้ง (3)



ตอนที่ 134 กลับทำเนียบประธานาธิบดีอีกครั้ง (3)

“ลูกบอกว่าเขารักเซียซิงเฉินงั้นเหรอ?!” หลี่หลิงอีกโมโหไม่แพ้ กัน เธอลุกขึ้นยืนทันที กระแทกเสียงไปทางเซียซิงเฉิน “เซียซิง เฉิน เธอนี่หน้าไม่อายเลยนะ มีลูกโตขนาดนี้แล้ว เธอยังไปอ่อย แฟนของน้องสาวตัวเองอีกเหรอ เพราะท่านประธานาธิบดีไม่ เอาเธอแล้ว ตอนนี้เธอเลยจ้องคว้าหาตัวช่วยจนไม่อายฟ้าดิน แล้วสินะ”

“คุณน้า นี่ไม่เกี่ยวกับซิงเฉินเลยนะครับ!” สวี่เหยียนรีบลุก ขึ้นปกป้องเซียซิงเฉิน

“เธอหุบปาก!” หลี่หลิงอีตวาดใส่ สายตาที่ต้องเสี่ยซิงเฉิน

เหมือนจะฉีกกระชากเนื้อเธออย่างไรอย่างนั้น

เซี่ยซิงเฉินมึนเมาเล็กน้อย แต่สายตาของหลี่หลิง ทำให้ เธอสร้างขึ้นเล็กน้อย แค่นหัวเราะ “ใครกันแน่ที่หน้าไม่อาย ถ้า จะบอกว่าอ่อย หลายปีก่อนตอนที่ฉันคบกับสเหยียน เซี่ยง คงก็ไม่ได้อ่อยสวี่เหยียนไปน้อยกว่าสักเท่าไรหรอก

“เธอ…อย่างซิงคงเรียกว่าตามจีบ! พวกเธอสองคนก็แค่ คบกันยังไม่ได้แต่งงานกัน ซึ่งคงตามจีบเขา ไม่ได้ผิดกฎหมาย หรือศีลธรรม แล้วมันทำไมล่ะ แต่ตอนนี้เธอกับสวี่เหยียนหมั้น กันแล้ว เธอมาแทรกแบบนี้มันใช่เรื่องที่ไหน
เซียงเฉินเหมือนถูกทิ่มเข้าจุดจนเจ็บ ลุกขึ้นยืนมองหลี่หลิ งอย่างประชด “ทำไมคุณถึงได้กล้าพูดอย่างหน้าไม่อายแบบ นี้ล่ะ ตอนนั้นแม่กับพ่อฉันไม่ใช่แค่หมั้น แต่แต่งงานแล้ว ทำไม ตอนนั้นคุณถึงไม่มียางอายบ้างล่ะ

“เธอ…” หลี่หลิงที่ไม่คิดว่าเซียซิงเฉินจะปากกล้าได้เช่นนี้ พอถูกเธอย้อนกลับ ใบหน้าโกรธเคืองถึงขีดสุดฉายแวว อับอาย เธอชี้นิ้วใส่อีกฝ่ายอย่างสุดแสนจะอดกลั้น ปลายนิ้วสั่น เพิ่ม “เธอ…นี่เธอพูดอย่างนี้กับผู้ใหญ่เหรอ! ลูกชายเธอ ลูกชาย เธอกำลังดูอยู่นะ เธอระวังไว้เถอะอนาคตลูกชายเธอก็จะทำ อย่างนี้กับเธอ!”

“หม่า คุณครูผมเคยบอกว่าไม่ใช่ว่าใครก็เป็นผู้ใหญ่กัน

ได้หมด” เซี่ยต้าไปยังคงฉีกกินน่องไก่ของเขาอยู่ ปากพูดก็เงย

หน้าขึ้นส่งยิ้มให้หลี่หลิง ยิ้มได้น่ารักและไร้เดียงสา “คุณครู

บอกว่า เป็นคนต้องรู้จักให้เกียรติคนอื่น และก็เป็นที่เคารพของ

คนอื่นถึงจะเป็นผู้ใหญ่ได้ได้ล่ะ! คนอายุมากที่ไม่รู้จักความถูก

ต้อง ความยุติธรรม ศีลธรรมและเกียรติยศ จะเรียกว่าเป็น

ผู้ใหญ่ไม่ได้ล่ะ!”

“เธอ… คราวนี้หลี่หลิงอีสั่นไปทั้งปาก คำพูดที่จะเอ่ยก็ยิ่ง เอ่ยไม่ออก “อย่างว่า ลูกไม่มีพ่อคลอดมาแล้วไม่มีคนสนใจ ไร้ การสั่งสอน!”

สิ้นเสียงหลี่หลิงอี ในหัวของเซี่ยซิงเฉินเหมือนเกิดเสียงดัง วิ่ง รู้สึกเพียงว่าเลือดในกายผสมไปด้วยเหล้าดีกรีแรง กำลัง ทะยานพุ่งสู่ศีรษะ ทันใดนั้นสติก็ขาดสะบั้น มือหนึ่งหยิบจานตรงหน้าเขวี้ยงไปทางหลี่หลิง สติเธออยู่เหนือการควบคุมแล้ว ด่าว่าเธอยังพอทนได้ แต่มาว่าเซียต้าไป เธอรู้สึกว่าเจ็บปวดยิ่ง กว่าเอาชีวิตเธอไปเสียอีก ยิ่งไปกว่านั้น ลูกไม่มีพ่อ ไร้การสั่ง สอน คำพูดพวกนี้ แหลมคมยิ่งกว่าเข็มมากนัก

หลี่หลิง นึกไม่ถึงว่าเซียซิงเฉินจะรุนแรงได้ขนาดนี้ เมื่อถูก ถ้วยจานเขวี้ยงใส่ตน สติเธอก็หลุดไปเรียบร้อยแล้ว เธอยืน ค้างอยู่ตรงนั้นไม่ขยับแม้แต่น้อย จึงโดนเข้าอย่างจังสองที เลือดสดก็ไหลออกจากหน้าผากทันที เกิดรอยแผลเป็นทางยาว

เธอใช้นิ้วลูบ ตกใจจนหน้าซีด ร้องไห้เสียงโฮพลางดึงเชื่ ยกั่วเผิงมา “คุณดูสิ คุณดูลูกสาวที่ดีของคุณสิ เธอกล้าลงไม้ ลงมือกับฉันแล้ว!”

เซี่ยกั่วเผิงดื่มเยอะไปจนรู้สึกปวดหัวรุนแรง แถมยังมีเรื่อง ประเดประดังเข้ามาพร้อมกัน ในใจยุ่งเหยิงไปหมด หลี่หลิง ร้องไห้ก็ยิ่งรำคาญ จึงตวาดกลับด้วยอารมณ์คุกรุ่น “เสียงดัง เอะอะอะไร! เรื่องของเด็กๆ เธอไปยุ่งอะไรด้วย มีคนที่ไหนด่า เด็กอย่างเธอบ้าง!?

“คุณ…คุณเอาแต่ช่วยเซี่ยซิงเฉินที่ไม่มีคนสั่งสอนอย่างนี้ หลี่หลิงไม่ยอมโยนตะเกียบในมือลงโต๊ะ มือกุมหน้าผากไว้ แล้วเดินจากไป แต่เดินไปได้เพียงก้าวเดียวก็หันกลับมา จ้อง เซี่ยซิงเฉินอย่างเคียดแค้น “เธออธิษฐานให้ฉันไม่เสียโฉมเถอะ ถ้าฉันเสียโฉม ฉันไม่จบกับเธอง่ายๆ แน่!”

เซียซึ่งเป็นไม่สนใจเธอ ท่าแค่อุ้มเซียตาไปจากพื้นขึ้นมา
ในมือเซียต้าไปยังถือน่องไก่อยู่ เซียซึ่งเป็นดึงออก ไม่ ต้องกินแล้ว กลับไปไว้แม่ทำให้ใหม่

สิ้นเสียงก็รู้สึกจุกที่ลำคอ เธอไม่เอ่ยลาแต่อย่างใด อุ้ม เซียต้าไปหุนหันเดินออกไปทันที เพราะดื่มไปไม่น้อยเลยก้าว ไม่ค่อยมั่นคงนัก พอเดินออกจากบ้าน น้ำตาก็พรั่งพรูตามมา เซี่ยต้าไปโอบสองแขนเข้าที่คอเธอ เอ่ยปลอบเสียงเบา “หม่ามี เป็นเด็กดีนะ อย่าร้องไห้…

เซี่ยซิงเฉินน้ำตาไหลหนักกว่าเดิม ริมฝีปากสั่นเทา ก้มจูบ หน้าผากของเด็กน้อย “แม่ทำให้ลูกลำบากแล้ว….

“ผมไม่ลำบากอะไรเลย เขาด่าผม ผมก็ไม่เสียใจ แต่ เพราะแม่ร้องไห้ต่างหากล่ะผมถึงเสียใจ” มือเล็กๆ ที่ขาวนิ่ม ของเซี่ยต้าไปยกขึ้นเช็ดน้ำตาให้เธอ

เมื่อเดินถึงข้างทาง เหล้าที่เชี่ยซิงเฉินดื่มไปก็เริ่มออกฤทธิ์ เจ้าตัวสะลึมสะลือเต็มที่ ทางข้างหน้าพร่ามัวเหมือนถูกกลบ ด้วยชั้นหมอก แม้แต่เดินยังไม่มั่นคงพอ เธอกลัวว่าจะทำเด็ก น้อยล้มจึงวางเขาลง หยิบมือถือออกมา “ลูกรอแม่แป๊บหนึ่งนะ แม่โทรเรียกรถแท็กซี่ก่อน…”

บ้านของตระกูลเซียอยู่แถบชานเมือง ฝั่งนี้โดยปกติแล้ว ไม่มีรถแท็กซี่ เซี่ยต้าไปผงกหัวรับ พลางยืนชิดติดเซียซิงเฉินอ ย่างเชื่อฟัง เหมือนกลัวว่าเธอจะเสียใจอีก สองมือดึงกางเกง เธอไว้ ศีรษะเล็กถูไปมาบนขาเธอ

เซี่ยซิงเฉินมองตัวอักษรตรงหน้าไม่ชัดเท่าไร นิ้วมือจิ้มกดบนจอไปพักใหญ่ ในที่สุดก็หาตัวอักษรที่ว่า บริษัทแท็กซี่” ได้ จึงกดโทรไปทันที

โทรไปสักพักถึงรับสาย อีกฝั่งไม่ได้ส่งเสียงทันที เธอหา ต้นไม้เพื่อยืนพิง แล้วจึงพูด “สวัสดีค่ะ…ฉันอยากเรียกแท็กซี่

“คุณดื่มมาเหรอ” น้ำเสียงทุ้มต่ำของผู้ชายดังแว่วมาจาก อีกฝั่งของสาย เธอรู้สึกคุ้นหูทั้งที่ยังสติไม่ครบครัน ในหัวตอนนี้ เหมือนแป้งเหลว คิดอะไรไม่ออก ทำเพียงพยักหน้าอยู่ทางนี้ “อืม…

“ดื่มไปมากแค่ไหน

“ก็…ดื่มไปนิดหน่อย ไม่ใช่ว่าพวกคุณไม่รับคนเมานะ”

อีกฝั่งไม่มีเสียงตอบกลับอีก

เซี่ยชิงเฉินอดขมวดคิ้วไม่ได้ รู้สึกว่าการบริการของบริษัท นี้มีปัญหาเล็กน้อย ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงมาจากด้านหลัง ซึ่ง เฉิน คุณจะไปไหน ผมไปส่งพวกคุณเอง”

สวี่เหยียนนั่นเอง

เชี่ยชิงเฉินเผลอก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แม้จะเมาอยู่แต่ ก็รีบส่ายหัวปฏิเสธ “ไม่ต้องหรอก…ฉัน…พวกเรากลับเองได้…”

แม้จะยังไม่มีสติ เธอก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องพวกเขา และ ตอนนี้ต้องการแค่รักษาระยะห่างกับเขาไว้ให้มาก

สวี่เหยียนดูอออกว่าเธอกำลังหนี ความเจ็บปวดแล่นผ่านหัวใจ “ขอโทษ ผม…ผมไม่คิดว่าจะดึงคุณเข้ามาเกี่ยวด้วย
เขียซิงเฉินโบกมือไปมา เป็นเชิงว่าไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้

“ให้ผมไปส่งคุณ ได้ไหม ถือว่าเป็นการไถ่โทษครั้งนี้

“น้าเขยเล็ก น้าก็ดื่มเหล้า หลังดื่มห้ามขับรถนะครับ” เซียต้าไปเอ่ยเตือนอยู่ข้างๆ

อีกฝั่งของสาย ได้ยินบทสนทนาทั้งหมดเข้าก็เอ่ยปากอีก ครั้ง น้ำเสียงเย็นชาลงมากกว่าเดิม “คุณอยู่ไหน

“หึม” เซี่ยซิงเฉินยังถือมือถือแนบชิดหูไม่ออกห่าง จึง ได้ยินเสียงของเขาชัดเจน

“หมอะไร ผมถามว่าตอนนี้คุณอยู่ไหน” อีกคนแทบหมด ความอดทนไปทุกที น้ำเสียงการพูดเริ่มติดจะหงุดหงิด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ