สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 343 มีเพียงฉันที่เห็นความงามของคุณ (1)



ตอนที่ 343 มีเพียงฉันที่เห็นความงามของคุณ (1)

เหลิงเฟยคิด ร้องไห้เสียที่ไหนกันล่ะ? คุณชายเล็กอยู่สุขสบาย ดี กินอิ่มนอนหลับต่างหาก

แต่คำพูดเหล่านี้เหลิงเฟยไม่ได้พูดออกไป ตอบกลับเพียง “คุณชายเล็กดูไม่ค่อยร่าเริงเท่าไรครับ ตอนทานข้าวเช้าก็ไม่ ค่อยพูด ตาสองข้างบวมเป่งเลยครับ

เหลิงเฟยคิดในใจว่านี่ไม่ถือว่าโกหกหรอกนะ! เขาไม่ได้ ว่าเกินจริง คุณชายเล็กร้องไห้เมื่อวานจนตอนนี้ตายังไม่หาย บวมเลย! ตอนทานข้าวเช้าก็มัวแต่ก้มหน้าทานเลยไม่ค่อยได้ เงยหน้าพูดสักเท่าไร

คุณหญิงไปฟังแล้วก็ปวดใจทั้งยังรู้สึกผิดเหลือเกิน

เมื่อวางสายเหลิงเฟยก็เดินจากห้องเล็กมายังห้องโถง กลางด้วยสีหน้าไม่ดีเท่าใดนัก

คุณท่านกำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่เมื่อเห็นเธอออกมาก็ แสร้งถามด้วยท่าทีไม่ค่อยให้ความสนใจ “เป็นไงบ้าง?

คุณหญิงไปแค่นเสียงไปที่พร้อมหมุนตัวหันไปไม่สนใจเขา จากเดิมกำลังถักเสื้อไหมพรมให้หลานชายแต่เมื่อนึกถึงคำพูด ของเหลิงเฟยก็ปวดใจเหลือเกิน ไม่มีแม้แต่อารมณ์จะถักเสื้ออีกต่อไป

คุณท่านที่ไม่ได้คำตอบก็ถามอีกครั้ง “สรุปเป็นยังไงบ้าง ทำไมคุณไม่ตอบอะไรเลย?”

“อะไร อะไร ความผิดคุณทั้งนั้นเลย! “ทำไมถึงกลายเป็นความผิดผมล่ะ!”

“คุณดูสิ ต่อให้โกรธลูกชายคุณมากแค่ไหนแต่คุณควร เขาต่อหน้าตาไปเหรอ?” คุณหญิงไปปาดดวงตาที่แดงก่ำ “ถ้า ไม่ใช่เพราะคุณทำให้ตกใจ ทำไมตอนนี้เขาจะไม่ยอมมาที่นี่ ล่ะ? ถ้าไม่ใช่เพราะคุณมัวแต่อยากแยกคู่รัก ไม่ให้พ่อแม่เขา แต่งงานกัน ทำไมเขา…

คุณท่านทนฟังต่อไม่ไหวจึงโยนหนังสือพิมพ์ลงโต๊ะเตี้ย อย่างอารมณ์เสีย “คุณเริ่มบ่นอีกแล้ว! เหตุผลก็อธิบายให้คุณ ฟังละเอียดแล้ว คุณยังจะบ่นอีก!

คุณท่านกล่าวพลางลุกขึ้นยืนพร้อมลงไปหาคุณท่านรอง ไป เพราะเบื่อจะทนฟังคำบ่นไม่หยุดของคุณหญิงแล้ว

ทันใดนั้นก็มีคนรับใช้เข้ามา “คุณท่าน มีแขกมาบอกว่า ชื่อหลันถึง”

คุณท่านและคุณหญิงไปสบสายตากัน คุณท่านก็รีบพูดสั่ง “มัวยืนนิ่งเฉยทำไม รีบเชิญเธอเข้ามา!
ทั้งครอบครัวทานอาหารเช้าเสร็จเฉินก็มาถึงทันที

เห็นแผลบนหลังเขาเข้าก็หน้าตึงทันที

“ทั้งสองคน อย่าหาว่าผมว่าพวกคุณเลยนะ แม้ผมจะไม่ได้ อธิบายห้ามเล่นกีฬาดุเดือดอย่างละเอียด พวกคุณทั้งสองก็น่า จะรู้ดีไม่ใช่เหรอ? นี่แผลกลายเป็นสภาพไหนแล้วเนี่ย?

เซียซิงเฉินหน้าแดง ในพริบตา ขึ้นสีแดงไปทั้งตัวยันใบหู

เหมือนถูกต้ม

เธอถลึงตามองผู้กระทำที่นอนอยู่บนเตียงแวบหนึ่งแต่คน บางคนยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “คืนเข้าหอ ถ้าเป็นนาย นายทนได้ เหรอ?”

“นายไม่รู้สึกเจ็บเลยหรือไง?” เฉินนับถือใจ ไม่ใช่คน

ธรรมดาเลยจริงๆ

“ถ้าทนก็ยิ่งรู้สึกเจ็บ

เซี่ยซิงเฉินทนฟังไม่ได้อีกต่อไป เธอรู้สึกว่าหากอยู่ต่อไป ไม่ตายเพราะโมโหผู้ชายคนนี้ก็อับอายจนตาย เธอไม่อยู่ให้ เสียเวลา กระชากประตูหมุนตัวออกไปทันที

ไปเย่นิ่งคอยมองแผ่นหลังนั่นก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย

ครั้งนี้เป็นฟูอี้เฉินทำแผลให้ด้วยตัวเองจึงโบกมือให้คนอื่น ถอยไปแล้วถาม “นายกับเธอนยังไงกันแน่? ตอนนี้คุณท่านรอง ไปก็ออกมาแล้ว ไม่ว่ายังไงนายกับเธอก็ควรแต่งงานกันไป จบๆ ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้ล่ะ?”
ไปเปถึงเม้มปากแน่นไม่ตอบคำถามเขา

ฟู่เฉินเองก็ไม่ใช่คนโง่เขลา มองเขาแวบหนึ่งก่อนจะ กล่าว “DNA คราวก่อนที่นายให้ฉันตรวจ เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ใช่ไหม?”

“อืม” สุดท้ายเขาก็ปริปากตอบ

เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าว “เธอเป็นลูกสาวของคุณอา

ฉัน”

“อะไรนะ?” เฉินตกใจ “ท่านประธานาธิบดี นี่ไม่ตลก

เลยนะ”

ไปเยฉิงถลึงตามองเขาแวบหนึ่ง “เบาหน่อย! เพราะความตกใจเมื่อครู่จึงไม่ทันเบาแรง เฉินจัดการ ความคิดอยู่ครู่ หมายความว่าเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องนายน่ะสิ”

ไปเย่นิ่งไม่สบอารมณ์ “นายไม่จำเป็นต้องมาย้ำเตือนฉัน

“มิน่าคราวก่อนนายถึงถามเรื่องลูก ตอนนี้นายกับเธออยู่ นี่…” เฉินหยุดชะงักไปเพียงครู่พร้อมยกนิ้วโป้งขึ้นมา “ไม่ เลว ใจกล้าดีที่เล่นใหญ่ขนาดนี้ ต้องการความกล้ามากนะ

“นายทำเสร็จหรือยัง? ทำเสร็จก็รีบไปได้แล้ว พูดมาก

ไป๋เย่นิ่งเริ่มรำคาญขึ้นมา

ฟู่เฉินจึงปิดปากเงียบไม่พูดอีกเพราะไม่อยากทำให้ท่าน ประธานาธิบดีอารมณ์เสีย
ไปเฉิงขอวันหยุดมาได้สามวัน ซึ่งสำนักงานมีเหลิงเฟย คอยเฝ้าอยู่จึงถือว่ายังพอรับมือไหว เอกสารสำคัญก็จะเอา กลับมาที่โรงแรม

เขาเปิดกล้องประชุมอยู่ในห้องหนังสือ ขณะที่จัดการ เอกสาร เซี่ยซิงเฉินก็จะฟุบอยู่ขอบหน้าต่างดูหิมะที่โปรยปราย

อยู่ภายในห้อง

แต่ละวันเงียบสงบและเนื้อยเกินไป ขณะที่ตื่นอยู่เธอ พยายามไม่คิดเรื่องที่จะทำให้วุ่นวายใจ แต่ตอนนอนกลับฝัน ร้ายในบางครั้ง

ช่วงบ่ายของวันจันทร์ก็ตื่นจากฝันร้ายอีกครั้ง

ทั้งที่เป็นฤดูหนาวแต่แผ่นหลังกลับชุ่มไปด้วยเหงื่อบางๆ ในฝันเขาถูกสื่อมวลชนรุมล้อมไม่เหลือช่องให้เข้าออก สิ่งที่ ได้ยินเข้าหูก็มีแต่คำว่า “มั่วไม่เลือก สกปรก น่าอาย แต่ละค่าช่าง ใจนัก

แม้จะเป็นเพียงความฝันแต่ภาพที่เขาถูกผู้คนรุมทิ้งก็ทำให้ เธอเจ็บปวดใจอยู่ดี เธอรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คนเข้มแข็งแต่อย่างใด แต่เพราะมีเขาอยู่ถึงได้ทำตัวเป็นปกติ แต่หากไม่มีเขาอยู่บางที เธออาจไม่สามารถรับมือกับอุปสรรคเหล่านี้ได้เลย

ตื่นขึ้นมาพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทว่าในใจกลับ ยังเหมือนมีหินก้อนใหญ่วางทับอยู่ ทำให้เธอหนักอึ้ง อึ้งจนแทบหายใจไม่ออก

สวมชุดนอนลวกๆ แล้วลุกจากเตียง

ระหว่างเดินออกจากห้องนอนก็จัดผมไปด้วย ไม่คิดว่า

พวกรุ่ยกังจะอยู่ในห้องนั่งเล่นกันทั้งหมด

เซียซิงเฉินหน้าแดงระเรื่อ ตอน

เกรงว่าผมเผ้ายังยุ่งเหยิงอยู่

“คุณเซีย” รุ่ยดังกล่าวทักทาย

เซี่ยซิงเฉินรีบจัดผมใหม่อีกรอบพร้อมถาม “ท่าน ประธานาธิบดียังอยู่ในห้องหนังสือเหรอคะ?”

“มัวยุ่งอยู่ในห้องหนังสือครับ”

“ไม่ออกมาเลยตลอดบ่ายเหรอ?” เซียซิงเฉินดูเวลาแวบ

หนึ่ง นี่ตั้งห้าโมงกว่าแล้ว

รุ่ยกังพยักหน้า

เซี่ยซิงเฉินเป็นห่วงแผลของเขา

หลังทานอาหารกลางวันเขาก็เข้าไปในห้องหนังสือ ผ่าน มาตั้งกี่ชั่วโมงไม่เจ็บแผลที่หลังเลยหรืออย่างไร?

เซี่ยซิงเฉินไปเทน้ำให้เขาที่ห้องครัว ก่อนจะหยิบแผงยา แล้วเดินไปทางห้องหนังสือ

เปิดประตูถึงรู้ว่าเขากำลังเปิดกล้องประชุมอยู่ อีกทั้งพอมองดูแวบหนึ่งคนที่อยู่อีกฝั่งล้วนเป็นคนที่เธอรู้จัก เป็นคนใน พรรคของเขา แต่ละคนก็เจออยู่บ่อยครั้งที่สำนักงาน ประธานาธิบดี แม้แต่คุณพ่อของหลันเย่ หลันนั้นก็อยู่ในนั้น ด้วยเช่นกัน

เซี่ยซิงเฉินทำตัวไม่ถูกพลางยืนถือแก้วน้ำและแผงขาอยู่ ตรงหน้าประตู เห็นได้ชัดว่าผู้คนที่อยู่ในสายก็สังเกตเห็นเธอที่ จู่ๆ ก็ปรากฏตัวตรงประตูเช่นกัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ