สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 250 ท่านประธานาธิบดีหึง (4)



ตอนที่ 250 ท่านประธานาธิบดีหึง (4)

พอท่านประธานาธิบดีเดินจากไป รองประธานาธิบดีที่ถูกพูด แทงใจดำก็อยู่ต่อไม่ได้ พาลเดินออกไปด้วยความคุกรุ่น หลันเย่เป็นคนสุดท้ายที่เดินออกไป ก่อนจะจากไปหันมามอง เซียซิงเฉินแวบหนึ่ง สายตานั่นเต็มไปด้วยความปรปักษ์ เชีย ซิงเฉินดูออก แต่หลันเต่ก็ไม่ได้พูดเจาะจงอะไรกับเธอ

ครู่เดียวเท่านั้น ภายในห้องพักผ่อนก็โล่งเปล่า เหลือ

เพียงเธอกับฉือเว่ยยัง และหยูเจ๋อหนัน

“ไม่เป็นไรใช่ไหม?” ฉือเว่ยยังถามด้วยความเป็นห่วง

หยูเจ๋อหนันก็มองเธอครู่หนึ่ง มือกอดอกพูดด้วยท่าที สบายๆ “คนเมื่อกี้ก็คือหลันเย่ ถือว่าคุณได้เจอตัวจริงแล้ว ถ้า พูดตามตรงสวยกว่าในรูปไม่น้อย

ฉือเว่ยยังรู้สึกว่าคนคนนี้กำลังเทน้ำเกลือลงบนแผลชัดๆ “อย่าพูดอีกเลย ทุกคนไปหมดแล้ว เราก็ไปเถอะ

เซี่ยซิงเฉินพยักหน้าเบาๆ ไม่ได้พูดอะไร

ทั้งสามคนเดินออกไปพร้อมกัน ข้างนอกหนาวจนที่ม กระดูก หนูเจอหนุนให้พวกเธอรออยู่ข้างถนนเพื่อจะไปส่งพวก

เธอ

อากาศวันนี้ยังถือว่าดี แต่อุณหภูมิทั้งเมืองลดลงอย่างมาก ผู้คนตามท้องถนนต่างก็สวมเสื้อกันหนาวขนเป็ดกันหมด

แล้ว

เซี่ยซิงเฉินเหม่อมองกิ่งไม้ที่แห้งกรังอยู่ตรงข้ามถนน ใน ใจวบโหวง อีกไม่นานเมืองนี้ก็น่าจะหิมะตกแล้วล่ะ…

ขณะที่กำลังเหม่อลอยถือเว่ยยังกระตุกเธอที เธอถึงหลุด จากภวังค์ ก็เห็นขบวนรถเคลื่อนผ่านตรงหน้าตนไปช้าๆ เห็น มุมข้างใบหน้าแสนเย็นชานั่นแวบๆ ผ่านบานหน้าต่างรถได้ แล้วก็…หลันเยู่ที่นั่งอยู่ข้างเขา…

ฉือเว่ยยังถอนหายใจ “ดูเหมือนว่าเขากับหลันเย่ จะ…

เซี่ยซิงเฉินไม่ตอบ แต่ในหัวกลับคิดอยู่ตลอด จดหมายที่ ตนได้รับที่ประเทศ Y นั่นเป็นไปได้ไหมที่คนส่งคือหลันเย? แต่ ว่าจะใครก็แล้วแต่สำคัญตรงไหนกันล่ะ? จุดสำคัญอยู่ที่รูป เหล่านั้นไม่ได้ผ่านการติดต่อเลยแม้แต่ใบเดียว…

เหม่อมองขบวนรถที่เคลื่อนตัวห่างไกลไปเรื่อยๆ หัวใจ ปวดแปลบขึ้นมา…

พยายามจะเพิกเฉย แต่ความเจ็บปวดนั่นมันชัดเจนเหลือ

เกิน

สัปดาห์นี้ไม่มีข่าวคราวใดๆ จากคุณหญิงไป เซียซิงเฉิน ไม่มีทางไปหาก่อน เพียงแค่เด็กน้อยยังอยู่ข้างๆ เธอ เธอหวัง ว่าทุกอย่างจะเป็นเช่นนั้น ถึงขั้นแอบคิดตื้นๆ ว่าหากตลอดชีวิตนี้คุณหญิงไปไม่มาหาเธออีกคงดีไม่น้อย

เซี่ยซิงเฉินเพิ่งไปถึงกระทรวงการต่างประเทศ ก็ถูกเรียก ไปออฟฟิศทันที

“ล่ามแปลภาษาอังกฤษของท่านประธานาธิบดีลาออกไป เพราะเหตุผลต่างๆ ฉันรู้ว่าคุณมีความสัมพันธ์อันดีกับทาง สำนักงานของประธานาธิบดี ท่านประธานาธิบดีอยากให้ฉัน เลือกคนหนึ่งที่เชื่อถือได้ไป คนที่ฉันนึกถึงตอนนี้ก็มีเพียงคุณ

คำพูดของรัฐมนตรีกระทรวงทำให้เธอนิ่งอึ้ง “ฉัน?”

“คุณนั่นแหละ มีปัญหาอะไรไหม?

เซียซิงเฉินสายศีรษะ หากเป็นเพราะความต้องการ เกี่ยวกับงาน เธอย่อมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เธอแบ่งแยกเรื่องงาน เรื่องส่วนตัวได้ เพียงแต่

“ความจริงทางกระทรวงต่างประเทศนี้ก็มีคนเก่งเยอะ แยะ…” ที่จริงเธอก็เพิ่งมาทำงานได้ไม่กี่เดือนเท่านั้นเอง

“เทียบกับประสบการณ์ของคุณแล้วยังไม่ค่อยพอสำหรับ การทำงานที่สำนักงานของประธานาธิบดี แต่ว่ามันยากที่จะหา คนที่ทางนั้นเชื่อถือได้ แน่นอนว่าตอนนี้ฉันแค่แนะนำคุณไป ที่ นุ่นก็มีช่วงฝึกงานเหมือนกัน ถ้าถึงเวลาแล้วจะเข้าทำงานได้ หรือไม่ได้ ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของท่าน ประธานาธิบดีแล้วล่ะ

เซี่ยซิงเฉินหยักหน้ารับ “ฉันทราบแล้ว แล้วต้องไปรายงานตัวเมื่อไรคะ?”

“พรุ่งนี้เช้า”

เซียซิงเฉินรับเอกสารรายงานตัวก็เดินออกจากออฟฟิศ

เพราะฉะนั้น….

เวลาต่อจากนี้ตนต้องทำงานตึกเดียวกับเขา แล้ว…โอกาส ที่จะเจอเขาคงมีมากเลยสินะ? แต่ว่าเธอจะทำได้เหมือนกับเขา ที่เฉยชาทุกสิ่ง ทำเหมือนว่าระหว่างกันไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ไม่มีข้อบาดหมางอะไร และตั้งใจจดจ่อกับการทำงานได้เหรอ? ความจริงเธอไม่มีความมั่นใจเลยแม้แต่น้อย…

ตอนนี้แค่นึกถึงเขา เกลียวคลื่นในหัวใจก็ไม่สามารถเพิก เฉยได้อีก แล้วยิ่งไปกว่านั้นว่าต้องเจอเขา ทำงานร่วมกับเขา…

วันรุ่งขึ้น

เช้าตรู่

เซี่ยซิงเฉินไม่กล้าชักช้าแม้แต่น้อย แต่งหน้าบางเบา สวม ชุดกระโปรงสีดำคลุมด้วยเสื้อกันหนาวตัวยาว ถือโน้ตบุ๊คเดิน ไปยังสำนักงานของประธานาธิบดีทันที วันแรกที่มาทำงานที่ ทำงานใหม่ แถมยังเป็นที่ทำงานของเขา หัวใจเธอตื่นเต้นจน เต้นรัว

ไปรายงานตัวที่ฝ่ายบุคคล เธอถูกจัดให้อยู่ฝ่ายแปลภาษา โดยมีหัวหน้าฝ่ายพาไปที่ห้องทำงาน

ความรู้สึกที่นี่ต่างจากกระทรวงการต่างประเทศลิบลับ แม้ กระทรวงการต่างประเทศจะเป็นกระทรวงที่เกี่ยวกับการเมือง เหมือนกัน แต่หากเทียบกันแล้วทางนั้นจะผ่อนคลายมากกว่า ส่วนคนทางนี้ล้วนเข้มงวดสุขุม ไม่พูดเล่นไปเรื่อย จังหวะการ ทำงานก็เร็วกว่ามาก

แม้เชี่ยซิงเฉินเพิ่งเข้ามาแต่ก็ไม่กล้าชะล่าใจแต่อย่างใด

เปิดโน้ตบุ๊คพยายามปรับตัวให้ชินกับงานใหม่ ยังไม่ทัน เริ่มก็เห็นหัวหน้าที่จัดการเสื้อผ้าตัวเองไปพลางเดินไปข้างนอก ไปพลาง ตะโกนเสียงดัง “ท่านประธานาธิบดีใกล้ถึงแล้ว!”

สิ้นเสียงทุกคนล้วนลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปข้างนอก

เซียซิงเฉินรู้มารยาท ตามกฎที่สำนักงานประธานาธิบดี ต้องออกไปต้อนรับ เธอเดินตามทุกคนไปยังชั้นล่าง ตรงสนาม หญ้าของสำนักงานประธานาธิบดี คนของทุกฝ่ายได้รอรับ อย่างพร้อมเพรียงแล้ว

ประตูสีทองโอ่อ่า ค่อยๆ เปิดออกในเช้าของวันที่อยู่ใน ช่วงต้นฤดูหนาว ขบวนรถของประธานาธิบดีเคลื่อนตัวเข้ามา อย่างไม่เร่งรีบ ภายใต้เสียงเพลงชาติที่ฮึกเหิม ธงชาติค่อยๆ ถูกดึงขึ้นสู่ยอดเสา เสียงระฆังใหญ่ที่ลานกว้างของพระราชวัง ไปยส่งเสียงดังกระหึ่ม ทำให้สถานการณ์ตรงหน้าดูยิ่งใหญ่ กว่าเดิม
ภาพเช่นนี้เซี่ยซิงเฉินเคยเห็นในโทรทัศน์เป็นบางครั้ง เป็นครั้งแรกที่ได้สัมผัสด้วยตัวเองท่ามกลางฝูงคน กลับรู้สึก คล้ายว่าเลือดสูบฉีดอย่างแรง

ส่วนผู้ชายที่พวกเขากำลังยืนต้อนรับอย่างเป็นทางการนั้น เป็นบิดาของลูกเธอ เคยมีความสัมพันธ์ แต่ตอนนี้ไม่ เกี่ยวข้องกันอีกแล้ว

เวลานี้ตำแหน่งที่เธอยืนอยู่ท้ายสุดของผู้คน ไม่รู้ว่าตน ควรดีใจหรือเสียใจดี

อรุณสวัสดิ์ท่านประธานาธิบดี

ขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่ ชายหนุ่มก็ก้าวลงจากรถเดินมา

ทิศทางพวกเขาช้าๆ

เขาพยักหน้ารับเล็กน้อย แล้วกล่าวทักทายทุกคน “สวัสดี

ไปทํางานเถอะ”

“รับทราบ ท่านประธานาธิบดี

ทุกคนล้วนตอบกลับเป็นเสียงเดียว ไม่ขยับตัวใดๆ รอให้ ท่านประธานาธิบดีเดินเข้าสำนักงานก่อน สายตาของเซียซิงเฉิ นทิ้งไว้ที่ตัวเขา เขาในวันนี้ยังคงมีเสน่ห์ล้นเหลือ ไม่ว่าเสื้อผ้า การแต่งกาย หรือท่วงท่าทุกอย่าง…

ขณะที่กำลังจมอยู่ในความคิด ท่านประธานาธิบดีที่เดิมที ค่อยๆ เดินผ่านหน้าพวกเขา จู่ๆ ชะงักฝีเท้านิ่ง

เซี่ยซิงเฉินใจเต้นแรง และเผลอหยุดเต้นไปจังหวะหนึ่งสายตาของเขาฝ่าฟันผู้คนแล้วทิ้งไว้ที่ตัวเธอตรงๆ ไม่คิดหลัก เลี่ยงใดๆ

เธอหายใจติดขัดเล็กน้อย วินาทีนั้น….สายตาของทุกคนก็ จ้องมองมาที่ตัวเธอ

สงสัย แปลกใจ และงงงวย…

“มาใหม่เหรอ?” เขาปริปากพูดคำง่ายๆ ออกมา ช่างห่าง คล้ายว่านี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเจอกัน…

คล้ายว่าเมื่อก่อนพวกเขาไม่เคยรู้จักกัน…

เซียซิงเฉินนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ หัวหน้าฝ่ายที่อยู่ข้างๆ กระตุก แขนเสื้อเธอที เธอถึงหลุดจากภวังค์ ค่อยๆ เดินฝ่าฝูงชนออก มา พลางพูดเสียงเบา “สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นล่ามภาษาอังกฤษ คนใหม่ ชื่อเชียซิงเฉิน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ