สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 139 หาพ่อเลี้ยงสักคน (2)



ตอนที่ 139 หาพ่อเลี้ยงสักคน (2)

เป็นค่ำคืนที่หลับสบายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน สำหรับเขาเป็น เช่นนั้น สำหรับเธอก็เช่นเดียวกัน หลายวันที่ผ่านมา ไม่ว่าจะ ว้าวุ่นใจจนยากจะสงบ หรือกินไม่ได้นอนไม่หลับ ใจทั้งคู่ต่างรู้ดี ที่สุด

วันรุ่งขึ้น เมื่อแสงอาทิตย์แรกสาดส่องทะลุกลุ่มเมฆที่ ปกคลุมประเทศ S นั้น เซี่ยซิงเฉินก็ตื่นพอดี สิ่งแรกที่ปรากฏสู่ สายตาคืออกแกร่งของชายหนุ่ม แม้เขาจะสวมชุดนอนอยู่ แต่ ผ่านไปหนึ่งคืน เชือกผูกชุดนอนก็หลุดลุ่ยจนเผยให้เห็นภาพอัน แสนเซ็กซี่ เธอก็ไม่รู้ว่าเมื่อคืนตนหลับไปอย่างไร ร่างกายครึ่ง ล่างถึงได้นอนอยู่บนเตียง ส่วนครึ่งบนฟุบอยู่บนอกของเขา กลุ่มผมนุ่มแผ่กระจายเต็มอกเขา มีส่วนหนึ่งถูกเขาจับไว้ ปลาย ผมสอดแทรกอยู่ระหว่างนิ้ว คล้ายกับถูกคลึงเล่น

เซี่ยซิงเฉินมองใบหน้ายามหลับใหลอย่างเหม่อลอย

ความเจ็บปวดที่อัดอั้นอยู่ในใจ ทะลักออกมาจนยากจะหักห้าม

เดิมทีคิดว่าตนจะต้องไม่สนใจเขาเช่นนี้อีก ต้องลืมเขาให้ได้

ตามที่ใจคิด ทว่า เพราะเหตุการณ์เมื่อคืน ชั่วขณะที่ได้พบเขา

อีกครั้ง เธอรู้ว่ากำแพงป้องกันที่สร้างขึ้นในก้นบึงหัวใจมานาน

นั้นพังทลายลงในชั่วพริบตา

เขาไม่ต้องทำอะไร เพียงแค่ในยามที่เธอลำบากที่สุด เขา ก็มาปรากฏตัวต่อหน้าเธอ…
เท่านี้เอง…

ขณะกำลังตกอยู่ในภวังค์ เขาก็พลันลืมตาขึ้นมา เซียซิงเฉิ นที่ยังคงตกอยู่ในวังวนความคิดของตนนั้นไม่ทันเบนสายตา หนี จนสบสายตาเข้ากับเขาอย่างเหมาะเจาะ เงียบไปชั่วครู่ พอ นึกได้ว่าท่านอนของตนตอนนี้ไม่เรียบร้อยจึงคิดจะลุกขึ้นทันที ไปเย่นิ่งเหมือนจะรู้ทันว่าเธอจะลุกไป มือใหญ่รั้งท้ายทอยของ เธอไว้แล้วกดร่างเธอไม่ให้ขยับ

นัยน์ตาลึกซึ้งปนสับสน เต็มไปด้วยความรู้สึกล้ำลึกที่ยาก จะคาดเดา เซี่ยซิงเฉินเจ็บแปลบในอกเป็นร้อยเป็นพันรอบ โดยเฉพาะแววตาที่จ้องมองมาเช่นนี้ ทำให้เธอยากจะรับมือ

“นี่ก็สายแล้ว คุณรีบตื่นเถอะ” เธอเอ่ยปากก่อน น้ำเสียง เบาหวิว พยายามหลีกเลี่ยงสายตาอย่างแนบเนียนที่สุด “ฉันก็ ควรไปแล้ว”

ไปเยถึงเม้มปากแน่น ไม่เอ่ยอะไร จู่ๆ ก็เอาแขนข้างหนึ่ง โอบไหล่เธอไว้ ออกแรงฉุดรั้งตัวเธอขึ้นไป ให้สายตาทั้งสองอยู่ ในระนาบเดียวกัน

เซี่ยซิงเฉินนิ่งอึ้งไปยังไม่ทันได้สติ นิ้วเรียวยาวของชาย หนุ่มแทรกเข้ากลุ่มผมของเธอ ประคองท้ายทอยเธอไว้ พลาง กดใบหน้าเธอลงทันที

จูบ ช่างกะทันหัน จูบที่รีบร้อนล้ำลึกและเอาแต่ใจ เซี่ยง เฉินเศร้าใจจนแทบทนไม่ไหว ทั้งที่ทั้งคู่ได้พูดไว้ชัดเจนตั้งแต่ คราวก่อนแล้ว แต่ตอนนี้กลับไม่ยอมตัดขาด เธอกลัวว่าตัวเองจะมัวเมาหลงทิศทาง จนผิดกฎที่ตั้งไว้ สองมือกำหมัดแน่น พลางทุบลงบนไหล่กว้างของเขา เขาไม่ยอมปล่อยกลับกอดเธอ แนบแน่นกว่าเดิม หยดน้ำตาของเซียซิงเฉินกลิ้งออกจาก ดวงตาทันที อุ่นร้อนและขมขื่น หยดลงบนใบหน้าของไปแย่ง

เขาพลิกตัวคร่อมร่างเธอไว้ด้านใต้ เซี่ยซิงเฉินร้องไห้หนัก

กว่าเดิม กลีบปากของเขาผละออกห่างเพียงชั่วครู่ สายตา

กวาดมองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าอย่างลึกซึ้ง ตามด้วยจูบ

ครั้งใหม่ที่ประทับลงมาอีกครั้ง คราวนี้ ไม่ได้เอาแต่ใจเช่นเมื่อ

ครู แต่ทั้งอ่อนโยนและเปี่ยมไปด้วยความรักใคร่ เหมือนกำลัง

จุมพิตสิ่งล้ำค่าที่เขารักมากที่สุด แน่นอนว่าเป็นจุมพิตที่เกิด

เฉพาะกับคนรักเท่านั้น จุมพิตลึกซึ้งบดเบียดเช่นนั้น ทุกสัมผัส

และการรุกล้ำ ล้วนเป็นความต้องการที่มีต่อเธอ

ผู้ชายคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว…

ทุกอย่างช่างน่าหลงใหล ดูดกลืนจิตใจทั้งหมดของเธอ ทำให้ความอดทนทั้งหมดของเธอมลายหายไปดุจหมอกควัน

จุมพิตยาวนานจนใจเธอแทบละลาย ร่างกายนั้นยิ่งกว่า ราวกับละลายไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น จะยังมีเรี่ยวแรง เหลือเฟือจากไหนมาต่อต้านกัน

สุดท้ายไม่เพียงแค่ปล่อยให้เขาจุมพิต สองมือนั้นวางบน ไหล่เขาอย่างไม่อาจห้ามใจ ความรู้สึกในก้นบึงหัวใจที่ยากจะ เข้าใจนั้นเหมือนเพราะจูบนี้ถึงได้เลือนหายไปบ้าง ทว่าทันใด นั้นกลับรวมกลุ่มใหม่มากกว่าเดิม ความหวานหยดในความขื่นขม ในความหวานเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ร้อยความ รู้สึกปะปนรวมกัน และกำลังกัดหัวใจเธอ

ทั้งคนจูบลึกล้ำและยาวนาน เหมือนกับว่าเขาจูบมาก เท่าไรไม่ยอมออกห่างกลีบปากพักอุ้ย…เสียงนุ่มของเด็กน้อยดังขึ้น เซียต้าไปมือปิดตา

ตัวเอง

เซี่ยซิงเฉินก็พลันได้สติ อับอายจนใบหน้าแดงก่ำ ลืมตา มองเขาแวบหนึ่ง ในดวงยังรื้นไปด้วยความต้องการบางมือโอบรอบคอเขาไว้คลายลง เป็นผลักแทน ตอนนี้เอง ไปเย่นิ่งยอมปล่อยเสียที มองค้อนเจ้าตัวเล็กทำให้เสีย เรื่อง แล้วหันมามอบอย่างลึกซึ้งอีกครั้ง เธอลำบากใจ เขาลุกออกจากบน

จากเตียงทันที

เซียงเฉินที่ยังเคอะเขินอยู่นอนอยู่บนเตียง ไม่ต้องอย่างไรไม่รู้หลังจากครั้งตนจะวางตัว อย่างไร

ไปเย่งเชือกชุดของมือเผลอกผ้าแน่น ไม่กล้าสายเขา ไปเยฉงนั่ง อยู่ริมเตียง ก้มมอง คืนนี้รอผมอยู่ที่ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ ให้เรื่อง

” เซี่ยซิงเฉินถึงยอมเงยมองเขา เรื่องอะไรคะ
ไป๋เย่งเหลือบมองเซี่ยต้าไปที่กำลังนั่งฟังอยู่ข้างๆ แวบ หนึ่ง เขาดึงผ้าห่มคลุมศีรษะเล็กของเด็กน้อยไว้ แล้วเอ่ยกับเซีย ซิงเฉินว่า “ผมต้องรู้ใจตัวเองให้ได้

“รู้ใจอะไรคะ”

“คืนนั้นที่คุณเคยพูดกับผมอย่างจริงจังว่า…” พูดถึงตรงนี้ เขาก็ไม่เอ่ยต่อ เซียซิงเฉินซะงักไปชั่วครู่ แล้วก็เข้าใจขึ้นมา คืน นั้นที่เธอบอกไว้ว่าความรู้สึกดีๆ ไม่ได้เท่ากับรัก เขาอยากรู้ใจ เรื่องนี้อย่างนั้นเหรอ

“ถ้าคุณหาคำตอบได้แล้ว หลังจากนั้นล่ะคะ” เธอไล่ถาม ไปเย่นิ่งมองเธอแวบหนึ่ง แววตาลึกซึ้ง จากนั้นก็ลุกขึ้น แล้วตอบกลับเพียง “ค่อยว่ากัน

ผู้ชายคนนี้เอาแต่ใจ เขาชินกับการกุมสิทธิ์ผู้ลงมือก่อนมา ตลอด เพราะฉะนั้นเมื่ออยู่ในโลกของเรื่องรัก เขาย่อมชินกับ การที่ให้เขาเป็นใหญ่ คือรักหรือรู้สึกดี เธอไม่สามารถไปตัดสิน ได้เอง แต่ต้องรอให้เขาทำความเข้าใจจนรู้ใจเสียก่อน เซี่ยง เฉินพยายามไม่ให้ตัวเองคาดหวังกับความคิดของเขาว่าจะเป็น อย่างไร มีบางเรื่องไม่ใช่พึ่งปากว่าแต่ใช้ใจในการสัมผัส ไป เฉิงดีต่อตน ใจเธอรู้ดีนัก ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางลุ่มหลงเขาถึง ขั้นยากจะตัดขาดอย่างทุกวันนี้ได้หรอก เพียงแต่เขากำลังจะ กลายเป็นของผู้หญิงคนอื่น นี่เป็นความจริงที่ไม่จำเป็นต้องแย้ง อะไร ต่อหน้าชีวิตสมรส ความรู้สึกรักทั้งหมดที่ลึกซึ้งหรือตื่นเขิน เป็นเพียงสิ่งที่ว่างเปล่า ไร้ความหมาย

เธอมีเรื่องหนักใจเต็มไปหมด

เซี่ยตาไปผุดหัวทุยออกจากกองผ้าห่ม หัวเราะคิกคักแล้ว มองเธอ “หม่ามี คืนนี้จะรอเดี๋ยวไปอยู่ที่นี่ไหม”

เซียซิงเฉินพยักหน้า “รอ” ต้องรออยู่แล้ว ต่อให้คืนนี้ตน ไม่อยู่ที่นี่ แต่ถ้าดูจากความเอาแต่ใจของไปเฉิง เขาก็คงออก ตามหาเธออยู่ดี ในเมื่อผลสุดท้ายเหมือนกัน ระหว่างทางเธอก็ ไม่อยากเสียแรงอีก อยู่ดีๆ ทำไมต้องไปทั่วโทสะเขาด้วยล่ะ

ครึ่งตัวของเซี่ยต้าไป์ฟุบอยู่บนตัวเธอ หยัดศีรษะขึ้นมอง เธอ “หม่า จากนี้ก็อยู่ที่นี่เลยไหม เสี่ยวไปไม่ไล่แม่ไปหรอก เขาเป็นเจ้าของที่นี่ ต่อให้เขาหาแม่เลี้ยงมาให้ผม แม่เลี้ยงก็ไม่ กล้าไล่แม่ไปแน่ๆ”

เซี่ยซิงเฉินปวดแปลบในใจจนยากจะเอ่ยปาก มือลูบหัว ทุยของเด็กน้อย ไม่ตอบคำถามนี้ เอ่ยเพียง “ตอนนี้ยังเช้า ขนาดนี้ ลูกจะนอนอีกหน่อยไหม


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ