สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 44 ประธานาธิบดีไปรับเธอด้วยตัวเอง



ตอนที่ 44 ประธานาธิบดีไปรับเธอด้วยตัวเอง

มือน้อยเคาะประตูห้องหนังสือสองครั้ง คนข้างในก็ไม่สนใจเขา เขาจึงไม่เกรงใจ พูดขึ้นมาประโยคนึงว่า “เสี่ยวไป ลูกเข้าไปล่ะ นะ” แล้วก็ผลักประตูให้เปิดออก

แทรกศีรษะเล็กเข้าไปทางช่องแคบๆ ภายในห้องหนังสือ รูปวงรีขนาดใหญ่ มีไฟเปิดอยู่

ชั้นหนังสือเรียงรายเป็นแถว เขาต้องแหงนหน้าขึ้นจึงจะ มองเห็นชั้นบนสุด เมื่อไม่เห็นพ่อ เขาจึงสวมรองเท้าแตะคู่เล็ก เดินวนเข้าไปจากชั้นหนังสือแถวแรก

พอเดินไปถึงแถวที่ห้า เขาอยู่ที่นั่นตามคาด

ท่าทางอารมณ์เสียสุดๆ อย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าบูดบึง หลังพิงชั้นวางขณะที่มือกำลังพลิกหนังสือ

หน้ากระดาษในมือถูกพลิกอย่างแรงจนเสียงดัง พับๆ

เซียต้าไปเข้ามาหา เขาเพียงแต่เหลือบตามองแวบหนึ่งอย่าง เย็นชา เม้มปากแน่น โดยไม่เอ่ยอะไร

เซี่ยต้าไปเลียนแบบท่าทางเขา หยิบหนังสือภาษาต่าง ประเทศที่ไม่รู้จักเลยสักนิดออกมาเล่มหนึ่งอย่างขึงขัง วางท่า พลิกหนังสือ พอพลิกไปถึงหน้าสิบก็รู้สึกเบื่อแทบแย่ “เสี่ยวไปทำไมต้องแอบฟังผมกับหม่ามีคุยโทรศัพท์กันล่ะ หม่ามีบอก ว่าการแอบฟังเป็นพฤติกรรมที่ไม่มีมารยาทมากนะครับ

“ใครว่าพ่อแอบฟัง? นั่นเป็นโทรศัพท์ที่บ้านพ่อ อยากจะ

ฟังยังไงก็ได้” ฟังแบบเปิดเผยบริสุทธิ์ใจ

เขียตาไปหมด พูด พอต้องแถแบบข้างๆ ดูๆ ขึ้นมา เด็กสี่ขวบแบบเขาก็แถพ่อไม่ได้

“เสี่ยวไป อย่าเสียใจไปเลย” ร่างเล็กๆ ของเซียต้าไป เคลื่อนเข้าไปใกล้เขา ยกมือน้อยขึ้นมาอยากจะตบบ่าเขา แต่ สูงพอเสียที่ไหน? ในที่สุดก็ทำได้เพียงตบต้นขาใหญ่ของไป เฉิง “ผมรู้ว่าพ่อเสียใจที่หม่ามีเซียของเราออกไปนัดเดท แต่ ว่าเสียใจก็ไม่ควรลงโทษตัวเอง ถูกไหม? อย่างมากก็แค่พรุ่งนี้ รอให้หม่ามกลับมา ผมจะบอกความรู้สึกกับหม่ามี้แทนพ่อเอง ให้หม่าลองพิจารณาพ่อดู แล้วก็ไปออกเดทกับพ่อด้วย!”

เจ้าเด็กนี่!

“ใครอยากจะออกเดทกับผู้หญิงคนนั้นกัน? ไม่ต้องกลับ มาอีกเลยดีที่สุด!” ไป๋เฉิงเอยอย่างเยือกเย็น วางหนังสือกลับ ไปบนชั้นด้วยใบหน้าบึ้งตึงแล้วหมุนตัวจากไป ภายในใจยิ่งร้อนรน

เซียตาไปมองตามแผ่นหลังนั้น ไม่เข้าใจเลยสักนิด ตัวเอง กำลังปลอบใจพ่ออยู่แท้ๆ ทำไมพ่อกลับอารมณ์เสียยิ่งกว่า เดิม?
ไปเยจึงเป็นไปได้สองก้าวก็เหมือนจะนึกอะไรบางอย่าง ออก หันหน้ากลับมาจ้องลูกชายเขม็งอย่างอึมครึมทันที

“อย่าไปพูดอะไรไร้สาระต่อหน้าเซียซิงเฉินนะ ไม่อย่างนั้น

อาวุธชนิดอื่นๆ ก็อย่าหวังเลย! เซียต้าไปตัวสั่น เอามือเล็กปิดปากไว้ ร่างเล็กยืนตัวตรงแด่ว

ผ่านไปครู่ใหญ่ ก็อดพูดเสียงอ่อยขึ้นมาไม่ได้ “พ่อนี่เหลือ เชื่อมาก!”

“?”

“นึกไม่ถึงว่าจะขู่เด็กสี่ขวบคนนึงลง…

ไปเย่งส่งเสียงดี ไม่ใจอ่อนเลยสักนิดเดียว

เวลาปกติฉลาดอย่างกับผู้ใหญ่ย่อส่วน ตอนนี้กลับมานึก ได้ว่าตัวเองเพิ่งจะสี่ขวบ

ไปเย่งไปเยือนต่างประเทศ หลังจากนั้นห้าวันจึงกลับมา ตกเย็น เมื่อลงจากเครื่องบินก็ให้เหลิงเฟยขับรถตรงไปยัง ทำเนียบประธานาธิบดีทันที

คนรับใช้ทั้งหมด ในทำเนียบประธานาธิบดีออกมาต้อนรับ เซี่ยต้าไปก็ยังไม่นอน รีบโผเข้าไปหาเขาทันที “พ่อ ผมเห็นพ่อ ในโทรทัศน์แล้ว”
ไปเยถึงรู้สึกพอใจที่ถูกลูกกอดเข้าเต็มอก ออกมาอุ้มเขาเอาไว้

จากนั้นก็มองไปรอบๆ โดยอัตโนมัติ

“คุณเชี่ยล่ะ?” เขาถาม

“หลังจากที่คุณเซียออกไปวันนั้น จนตอนนี้ก็ยังไม่เคยกลับ มาเลย!”

ไปเฉิงสีหน้าอึมครึม

เธอแน่นักนะ! เล่นหนีเขาออกจากบ้าน

สองแขนเซียต้าไปโอบรอบคอไปเยถึง ถามพลางขมวด คิ้ว “พ่อ พ่อแม่ทะเลาะกันใช่ไหม หม่ามโกรธพ่ออยู่ใช่ไหม ล่ะ?”

“พวกเรามีเรื่องอะไรต้องทะเลาะกัน?”

“งั้นทำไมหม่ามีไม่กลับมา

ไปเย่นิ่งลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วออกคำสั่ง “เตรียมรถ

หญิงสาวสองคนกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนโซฟา กินผลไม้

ไปพลาง ดูข่าวไปพลาง

ตอนแรกเซี่ยซิงเฉินกำลังถือรีโมทเปลี่ยนช่องอย่างเพื่อ หน่าย สุดท้ายก็หยุดอยู่ที่รายการข่าว

ร่างของไปเฉิงปรากฏขึ้นตรงหน้า หัวคิ้วเธอขมวดเล็กน้อย แล้วก็เปลี่ยนไปสถานีอื่น ฉือเว่ยยังแย่งรีโมทไป “เปลี่ยนทำไม ช่องนี้ดีจะตาย เธอดูสิ โคตรหล่อเลย! ซึ่ง

เฉิน เธอว่าไหม หลังจากเขากลายเป็นประธานาธิบดีของ ประเทศเรา รายการข่าวนี้ก็เหมือนดูซีรีส์ไอดอลเลย “เธอดูเถอะ ฉันจะอาบน้ำนอนแล้ว มาสก์หน้าเธอก็ได้

เวลาดึงออกแล้ว” เซี่ยซิงเฉินวางหมอนอิงในมือลงแล้วลุกขึ้น

ในตอนนี้เอง…

จู่ๆ เสียงออดประตูก็ดังขึ้น

“เอ๊ะ ดึกป่านนี้แล้วทำไมยังมีแขกอีก?” คือเว่ยยังลงมา จากโซฟาอย่างสงสัย

เซียซิงเฉินเองก็ชะงักฝีเท้า เอ่ยเดือนขึ้น “ดูก่อนว่าเป็น ใครค่อยเปิดประตู

“ฉันรู้แล้วน่า” ฉือเว่ยยังหรี่ดวงตาคู่งามลงอย่าง ระมัดระวัง มองลอดตาแมวออกไปภายนอก มองออกไปครั้ง แรกนึกว่าตัวเองตาฝาด เลยขยี้ตาแล้วมองอีกรอบ

“เฮ้ย..” เธอร้องอย่างตกใจ มาส์กบนใบหน้าหล่นลงไป เซียซิงเฉินตกใจไม่น้อย เป็นอะไร? ใครมา? ต้องแจ้ง

ตำรวจไหม?”

ดึกป่านนี้ก็กลัวพวกโรคจิตเหมือนกัน

“ซิงเฉิน…หน้าประตู ที่อยู่หน้าประตูคือ… ฉือเว่ยยังชี้มือไปที่ประตู พูดตะกุกตะกักอยู่เป็นเวลานาน

“คืออะไร?” เธอเลยมองลอดผ่านตาแมว

ฉือเว่ยยังเอ่ยขึ้น “คือท่านประธานาธิบดี

เซี่ยซิงเฉินตกใจ ขณะนี้เธอเองก็เห็นผู้ชายคนนั้นผ่านตา แมวแล้วเช่นกัน ไม่ใช่ท่าทางเฉียบเคร่งขรึมจริงจังแบบที่เห็น ในโทรทัศน์ ตอนนี้เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ชั้นนอกเป็นเสื้อคลุมสี น้ำตาลอ่อน แต่งกายเรียบง่าย แต่ออร่าความโดดเด่นเย็นชา สูงส่งไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย

อีกอย่าง…

เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขารออยู่ข้างนอกด้วยความหงุดหงิด ไม่น้อย สีหน้าก็ไม่ได้ดูดีนัก

เซี่ยซิงเฉินรู้สึกแปลกใจ บ่นพึมพำว่า “เขามาที่นี่ได้ยังไง?”

“จะอะไรล่ะ ก็ต้องมารับเธอน่ะสิ! เธอไม่กลับหลายวัน ขนาดนี้!

รับเธอ?

เซี่ยซิงเฉินคิด “ฉันไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น

“ยังอึ้งอะไรอยู่อีก รีบเปิดประตูสิ!” ฉือเว่ยยังรู้สึกประหม่า มาก ผลักเซียซิงเฉินอย่างตื่นเต้น แบบนั้นก็เหมือนกับว่าท่าน ประธานาธิบดีจะมารับเธอจริงๆ เซียซึ่งเป็นค่อยๆ เดินไปเปิด ประตูด้วยความงุนงง ทว่ามือเพิ่งจะสัมผัสที่จับประตู ฉือเว่ยยังก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงรีบดึงเธอไว้ “อย่าๆๆ อย่าเพิ่งขยับ รอฉัน แป๊บนึง!”

“เป็นอะไร?”

“มาส์กหน้าฉันยังไม่ได้ล้างออกเลย! แล้วก็ชิงเฉิน เธอรีบ ช่วยฉันเก็บกวาดห้องรับแขกหน่อย รักขนาดนี้ เดี๋ยวท่าน ประธานาธิบดีจะไม่มีที่นั่ง” ฉือเว่ยยังพูดพลางวิ่งไปห้องน้ำ

เซียซิงเฉินรู้สึกว่าเธอเวอร์เกินไป “ห้องนี้ไม่ใช่ว่าสะอาดดี อยู่แล้วเหรอ?”

“สะอาดตรงไหน เธอรีบเก็บกวาดเข้าสิ

เธอทำได้เพียงแต่รีบเก็บกวาดตามที่ฉือเว่ยยังบอก จะว่า เก็บกวาด ที่จริงก็แค่หยิบหมอนอิงที่เกะกะมาจัดวางเสียใหม่ เท่านั้นเอง

ผ่านไปครู่หนึ่ง คือเว่ยยังออกมาจากห้องน้ำ เซียซิงเฉิน

เห็นเข้าก็อึ้งจนพูดไม่ออก

ผู้หญิงคนนี้ อะไรจะไวปานนี้ ไม่ใช่แค่เปลี่ยนเสื้อผ้า ยัง เติมแป้งบางๆ หนึ่งชั้นบนหน้าอีกด้วย ไม่ต้องถึงขนาดนี้หรอ กมั้ง!!

“มองอะไร ไม่เคยเห็นฉันแต่งหน้าเหรอ? รีบเปิดประตู เดี๋ยวประธานาธิบดีที่อยู่ข้างนอกจะรอแย่

เขารอแย่แล้วจริงๆ

ตอนที่เปิดประตู สีหน้าเขาอึมครึมอย่างมาก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ