สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 104 รักมากมาตั้งนานแล้ว (1)



ตอนที่ 104 รักมากมาตั้งนานแล้ว (1)

หนาว

อากาศเย็นยะเยือก

เหมือนว่าตอนนี้ความเหน็บหนาว ได้เสียดแทงทะลุกระดูก ซึมเข้าทุกตารางนิ้วในร่างกายของเธอ เธอที่ยังมีนงงไม่รู้ว่าตัว เองอยู่ที่ไหนนั้นได้สติเพราะความหนาว เปลือกตาบางพื้นลืม ขึ้น จึงเห็นว่าตรงหน้ามีแต่ความมืด ไม่เห็นแสงไฟแม้แต่น้อย เธอลองขยับตัว ยังดีที่นอกจากความหนาว ร่างกายยังขยับได้ ตามปกติ

เธอพยายามนึกย้อนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนที่ยังมีสติ คู่ สายตาดุร้ายฉายเข้ามาในหัว ทันใดนั้นเธอก็ฉุกคิดได้ สองมือ ควานไปรอบตัว ได้แต่หวังว่าจะหาอะไรสักอย่างช่วยให้เธอลุก ขึ้นยืนได้

แน่ชัดแล้วว่า…

ตอนนี้เธอถูกลักพาตัว!

แต่ว่า ใครจะลักพาตัวเธอกัน เธอไม่ได้ร่ำรวย และก็คิดว่า ปกติเธอไม่ได้มีเรื่องกับใคร

นอกจาก…

เธอพลันนึกถึงคำพูดสุดท้ายที่เซี่ยชิงคงพูดกับเธอเมื่อไม่กี่วันก่อน ความคิดหนึ่งที่ผุดขึ้นในหัว

ซ่งเหวย …

เป็นไปได้ไหมว่าคือซ่งเหวย

แค่นึกถึงเธอ ใจของเซียซิงเฉินก็ลนลานขึ้นทันที หากส่ง เหวยจ้องจะเล่นงานเธอจริงๆ วันนี้เธอจะยังมีโอกาสรอดชีวิต กลับไปไหม พวกเขามีอำนาจล้นมือขนาดนี้ หากคิดจะบีบฆ่า ชาวบ้านธรรมดาอย่างเธอแล้วล่ะก็ คงง่ายเหมือนปั้มดให้ตาย

“มีคนอยู่ไหม” เซี่ยซิงเฉินเหมือนแมลงวันที่ไร้หัว เมื่อ สัมผัสเจอกับกำแพงหลายที่เข้าก็ตะโกนเสียงดังขึ้นทันที สอง มือทุบรัวที่กำแพง “มีคนอยู่ไหม ปล่อยฉันออกไปนะ!”

เหมือนมีคนได้ยินเสียงร้องของเธออย่างไรอย่างนั้น ไม่ทัน ไร เสียง ครืด” ก็ดังขึ้น ประตูเหล็กบานใหญ่ค่อยๆ เลื่อนขึ้น ภายในห้องที่เงียบสงัดจนได้ยินเพียงเสียงหายใจของเธอ เสียงนั่นก็ดังขึ้นสะท้อนไปทั่วโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว

ประตูเลื่อนขึ้นช้าๆ แสงไฟหลายกระบอกถูกสาดเข้ามา จากด้านนอกอย่างไม่คาดฝัน เซี่ยซิงเฉินที่ชินกับความมืด เมื่อ เจอกับแสงสว่างจ้า ดวงตาทั้งคู่แสบจนเกือบลืมตาไม่ขึ้น เธอ ยกแขนขึ้นบังหน้าผากอย่างไม่รู้ตัว สักพักถึงได้หรี่ตา แล้วมอง ไปทางประตู

เสียง บนๆ ดังขึ้นไม่หยุดหย่อน มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ หกคนกำลังพุ่งตรงมาทางนี้ ที่นั่งอยู่บนรถนั่นล้วนแต่เป็นชาย ตัวใหญ่ร่างบึกบึน
ผู้ชายเหล่านั้นจอดรถอยู่ข้างๆ เธอเสียงดังเอี๊ยด รีบล้อม เธอให้อยู่ในพื้นที่วงกลมเล็กๆ คนเหล่านี้ใช้สายตากวาดมอง เธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างมีเจตนาร้าย ค่อยๆ เผยท่าทางใน กามออกมา

“นี่เอามาให้ฉันง่ายๆ อย่างนี้จริงเหรอ หน้าตาไม่เลว ชายหนึ่งในนั้นที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นจากใบมีด กระโดดลงจากรถ เข้าใกล้เชี่ยซิงเฉินด้วยสีหน้าหุ่นกระหาย

เซียซิงเฉินกลั้นหายใจ เผลอก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว สักพัก ก็จนมุมตัวชิดกับกำแพง

“รูปร่างก็ดี ผิวพรรณเปล่งปลั่ง เป็นคนสวยจริงๆ เลย น้า แต่ว่าตัวเล็กแค่นี้ จะให้พวกเราจัดการพร้อมกันคงมีชีวิต อยู่ได้ไม่นานหรอกมั้ง” ชายร่างอ้วนอีกคนก็ค่อยๆ เข้าใกล้ มือ ลูบเข้าที่คอของเธออย่างหน้าไม่อาย

“ไสหัวไป!” เซี่ยซิงเฉินตัวกระตุก รู้สึกขยะแขยง

ขยะแขยงที่สุด!

“กล้าพูดกับฉันอย่างนี้เรอะ เห็นเธอคงอยากรนหาที่ ตาย!” ชายร่างใหญ่สีหน้าเปลี่ยนไป แล้วตบหน้าเธอฉาดใหญ่ อย่างอ้ามหิต

อีกฝ่ายไม่คิดปรานีเลยจริงๆ พอถูกตบเข้าฉาดใหญ่ เชีย ซิงเฉินรู้สึกเพียงว่ามึนหัวไปหมด เลือดกบมุมปาก ในใจเธอ กำลังหวาดกลัว กลัวจนตัวสั่น นิ้วมือก็จิกเข้ากำแพงข้างหลัง ต่อหน้าพวกผู้ชายที่โหดร้ายเหล่านี้ เธอเกือบจะร้องขอชีวิตอย่างคนขี้ขลาด แต่ว่า…สุดท้ายเธอก็ไม่ทำ…

เธอถ่มเลือดลงพื้น น้องชายหลายคนตรงหน้าด้วยแวว ตาแข็งกร้าว ใบหน้าเต็มไปด้วยความดื้อรั้นและความกล้าหาญ ที่หยามไม่ได้ “พวกแก…ถ้ากล้าแตะต้องฉันแม้แต่คนเดียว ต่อ ให้ฉันตายเป็นผี อยู่ยมโลกก็ไม่มีทางปล่อยให้พวกแกอยู่ดี แน่!”

เหล่าชายฉกรรจ์ตกใจแววตาดุดันของเธอจึงนิ่งอึ้งกันไป ชั่วครู่ โดยปกติแล้ว หากอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ คนเป็นผู้ หญิงก็น่าจะตกใจกลัวจนแข้งขาสั้น ร้องไห้อ้อนวอนขอชีวิตกับ พื้นแล้ว พวกเขาไม่คิดเลยว่าผู้หญิงที่ดูอ่อนแอคนนี้ นอกจาก จะไม่ร้องไห้แล้วยังกล้าพวกเขาอีก

“แม่ง! นั่งคนนี้กล้าพวกเราเรอะ วันนี้จะให้นอนอยู่ข้าง ล่างจนร้องไม่ออกเลย!” ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดประโยคนี้ คนทั้ง กลุ่มลงจากรถแล้วรุมเข้าหาเธอทันที เซี่ยซิงเฉินตกใจกรีดร้อง “ออกไปนะ! อย่าแตะต้องฉัน!”

ตอนที่ขบวนรถของไปเย่นิ่งพุ่งเข้าโรงจอดรถร้างนั่น ราวกับสัตว์ร้าย เสื้อผ้าของเซี่ยซิงเฉินก็ขาดรุ่ยแล้ว ผมเผ้าของ เธอยุ่งเหยิง บนใบหน้ามอมแมมนั้นมีแต่รอยแผลกับคราบ เลือด แต่ว่าเธอไม่ได้ล้มลงไป

เธอเหมือนนักสู้หญิงที่กำลังต่อสู้อย่างไรอย่างนั้น มือหนึ่ง กรองเท้าส้นสูงซึ่งเป็นอาวุธของเธอ เธอคอยกันคนเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง ท่าทางไม่ยอมใคร เผชิญหน้ากับพวกเขา อย่างอาจหาญ

ผู้ชายที่ล้อมเธออยู่นั้นก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน ร่างกายบาดเจ็บ อีกทั้งบนใบหน้าต่างก็มีบาดแผล

ให้ตายสิ! เขาอยากฆ่าคน

คนทั้งหมดได้ยินเสียงจึงหันกลับไปมองทันที

เห็นเพียงประธานาธิบดีแห่งประเทศ S ปรากฏตัวอยู่ตรง นั้น ในแววตาที่เฉียวคมดุจเหยี่ยวของเขา เหมือนมีเมฆครึ้ม ก่อตัวอยู่ ใบหน้าดั้งเดิมที่แสนหล่อเหลา พอดุร้ายขึ้นมาก็ ราวกับซาตานจากนรก ทำให้รู้สึกน่ากลัวเหลือเกิน

“นะ…นั่นประธานาธิบดีไป!”

“หนีเร็ว!”

มีคนดูเขาออกแล้ว เหล่าชายฉกรรจ์ไม่สนร่างกายที่บาด เจ็บแล้ว รีบคร่อมมอเตอร์ไซค์คันใหญ่เพื่อหนี แต่ว่าคนของไป เฉิงจับกุมพวกเขาไว้อย่างรวดเร็ว

“ยืนอยู่นิ่งๆ ให้หมด อย่าขยับแม้แต่คนเดียว!” ไปเย งกัดฟันกรอด พูดสั่ง ย่างนิ่งขรึม สองเท้าเดินไปทางเซียซิงเฉิน

ร่างของเธอเกร็งแน่น สั่นสะริกไปทั้งตัว พอเขาเข้ามาใกล้ ขาของเธอก็หมดเรี่ยวแรง ไปเยฉิงเผลอกลั้นหายใจ แขนยาว รีบรั้งเอวของเธอไว้ พลางโอบกอดเธออย่างทะนุถนอม ยังรู้สึก ถึงตัวเธอที่สั่นอย่างรุนแรง
“เป็นยังไงบ้าง” เสียงของเขาแทบต่ำ เสื้อกันหนาวบนตัว ถูกถอดคลุมให้เธอ และห่อหุ้มร่างอันมอมแมมของเธอไว้

ถ้าเขามาช้าเพียงก้าวเดียว….

ไม่อยากจะคิด! ต่อให้มาช้าแค่นาทีเดียว หญิงสาวตัวเล็ก ที่น่าสงสารนี้ ก็ไม่คิดว่าจะทนไหวได้

เธอพูดอะไรไม่ออก คงตกใจเกินไป พลันน้ำตาก็ ไหลออกมาราวกับท่านบเพื่อนที่พังทลาย เธอในตอนนี้ กับเธอ ที่เหมือนนักรบสาวเมื่อครู่ ช่างแตกต่างกันเหลือเกิน

ไปเฉิงปืนในมือแน่น จนเส้นเลือดหลังมือปูดขึ้นอย่าง เห็นได้ชัด

“หลับตาซะ!” เขาพูดสั่งเสียงต่ำ มืออีกข้างปล่อยไหล่ของ

เธอแล้วอ้อมมาปิดตาเธอไว้ ใบหน้าที่เต็มไปหยาดน้ำตาของ

เธอ ซุกเข้าอกของชายหนุ่ม

“ปัง” เสียงปืนดังขึ้น…

“อ๊าก!” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของชายหนึ่งในนั้นดังขึ้น สองมือกุมเป้า ล้มกลิ้งไปกับพื้น หยดเลือดที่เห็นแล้วน่า สะอิดสะเอียนไหลออกจากตรงเป้า จากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น ติดต่อกันหลายที ชายหนุ่มมือสั่นไปหลายครั้ง นัดกระสุนที่ยิ่ง ตรงเป้าไปหลายต่อหลายนัด เสียงโหยหวนดังขึ้นเรื่อยๆ จน ทำให้กลัวจนตัวสั่น

คนที่เหลืออยู่เห็นแบบนั้นก็กลัวจนรีบคุกเข่าร้องขอชีวิตไปเยฉิงโยนปืนให้เหลิงเฟย ไร้อารมณ์ใดใด “เหลือไว้หนึ่งคน ที่เหลือก็จัดการตามนั้นซะ!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ