สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 261 ความรักที่แท้จริง (11)



ตอนที่ 261 ความรักที่แท้จริง (11)

ท้องไส้เด็กน้อยไม่ดีนัก เธอจึงไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย

ผมที่ยังเปียกโชก ไม่ทันเป่าให้แห้งก็อุ้มเด็กน้อยขึ้นมา ไปหากล่องยา “ปวดมากไหม? ถ้ามากแม่ต้องพาลูกไปโรง พยาบาลนะ”

“ไม่ใช่ผมสักหน่อย เสี่ยวไปต่างหาก…” เจ้าตัวเล็กชี้นิ้วไป อีกทาง เบาเสียงลง “เสี่ยวไปไม่ให้ผมบอกแม่

เซี่ยซิงเฉินใจบีบรัด “ทำไมเขาถึงปวดท้องล่ะ?”

“เสี่ยวไปไม่ได้กินข้าวเย็น แต่ตอนนี้เขาอาจจะไปซื้อมาม่า ข้างนอกแล้วก็ได้

เซี่ยซิงเฉินวางเด็กน้อยลง เปิดประตูแล้วเดินไปห้องข้างๆ ดวงไฟบนกำแพงยังไม่ปิด แต่ข้างในกลับไม่มีคนอยู่ เธอยืน อยู่ตรงนั้นมองดูนิ่ง อดรู้สึกผิดหวังไม่ได้

เธอนึกถึงค่ำคืนก่อนหน้า เขายังให้รุ่ยสั่งมารับตนไปที่ สำนักงานเพื่อต้มบะหมี่ให้เขา

ตอนนี้เขายอมทานบะหมี่สำเร็จรูปที่รสชาติแย่ๆ โดยไม่ มาหาเธอแล้ว ทั้งที่ไม่เป็นการเพิ่มภาระให้ตน แต่ไม่รู้เพราะ เหตุใดหัวใจของเธอถึงรู้สึกหนักอึ้ง และเศร้าขนาดนี้
“หม่า?” เซียตาไปเหมือนจะดูออกว่าเธอเศร้าเล็กน้อย กระตุกชายเสื้อของเธอ “เป็นอะไร? ไม่พอใจเหรอ?”

“เปล่า” เซียซิงเฉินสายศีรษะ หันหลังเดินเข้าไปในห้อง “ลูกอยู่ที่บ้านคนเดียวแป๊บหนึ่งนะ แม่ออกไปหาพ่อของลูกก่อน ได้ไหม?”

“ได้”

“ถ้าอย่างนั้นลูกสัญญากับแม่นะว่าจะไม่ออกไปเพ่นพ่าน “วางใจเลย ผมไม่ออกไปแน่ๆ ข้างนอกหนาวขนาดนี้!

มันก็ใช่ ถ้าไปเป็นเด็กดีมาก ในเมื่อสัญญากับเธอแล้วก็ ไม่มีทางออกไปข้างนอกอยู่แล้ว เซี่ยซิงเฉินวางใจลงไปบ้าง เพียงแค่เช็ดผมที่เปียกปอนหมาดๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกมา ทันที เปิดโทรทัศน์ให้เด็กน้อยดูไปพลางๆ แล้วรีบออกไปอย่าง เร่งรีบ

ข้างนอกหนาวเป็นพิเศษ

โดยเฉพาะกลางคืน ลมแรงกว่าตอนกลางวันอยู่มาก ผม

ที่เปียกของเธอ เมื่อลมพัดพาความหนาวมาก็พลางทำให้เธอ

ปวดจี๊ดที่ขมับ แต่เธอไม่ได้สนใจอะไรมาก กระชับเสื้อให้แน่น

กว่าเดิมแล้วรีบเดินเข้าไปในลิฟต์ ลิฟต์สั่นไหวอยู่เล็กน้อยหาก

แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ

ถึงชั้นล่างสุด ลมข้างนอกพัดกระหน่ำอย่างแรง เธอ กัดฟันแน่นแล้วเดินหายไปในความมืด
ข้างนอกมีมินิมาร์ทเล็กๆ อยู่ และเป็นมินิมาร์ทที่ใกล้ที่สุด ราวสร้อยเมตร ปกติแค่สี่ร้อยเมตรนี้ไม่ถือว่าเยอะเลย แต่พอ อยู่ท่ามกลางฤดูหนาว ทุกย่างก้าวช่างทรมาน ระยะทางสี่ร้อย เมตรเหมือน ใช้เวลานานแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

เซี่ยซิงเฉินเดินต้านลมด้วยก้าวยาวๆ สักพักก็เห็นแสงสี เหลืองอร่ามบางๆ ออกมาจากมินิมาร์ท

เธอยืนอยู่นั่น คอยมองอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล แค่แวบเดียวก็ เห็นเขาที่อยู่ในมินิมาร์ท ฤดูแบบนี้และเวลานี้ ทั้งมินิมาร์ทนอก จากแคชเชียร์สาวตรงหน้าเคาน์เตอร์แล้วก็มีเพียงเขาคนเดียว เขาสวมเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ แต่ก็ไม่สามารถกลบหุ่นที่ดีกว่า นายแบบของเขาไว้ได้ ราวกับว่าไม่ชินกับสิ่งจำพวกบะหมี่ สำเร็จรูป ดวงตากวาดมองที่ชั้นวางไปมา เลือกไม่ถูก

เธอรู้ว่าเมื่อก่อนเขาไม่เคยทานบะหมี่สำเร็จรูปมาก่อน และไม่คิดทานอาหารประเภทที่เขาเคยบอกว่าเป็น “อาหาร ขยะ

เซี่ยซิงเฉินดูอีกแวบหนึ่ง ก็เห็นแคชเชียร์สาวตรงหน้า เคาน์เตอร์เดินไปทางเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เขาสวมผ้า ปิดปาก เผยให้เห็นแค่ดวงตาทั้งคู่ ก็ยังทำให้สาวน้อยหลงจน ได้

เธอครุ่นคิดสักพัก สุดท้ายก็เดินไปเปิดประตูมินิมาร์ทแล้ว เข้าไปทันที

ทั้งสองได้ยินเสียงประตูก็ไม่ได้หันกลับมองแม้แต่แอบเดียว ไปเยถึงเย็นชาอย่างเคย ส่วนแคชเชียร์สาวก็มุ่งความ สนใจไปทีคนบางคนหมดแล้ว เธอกล่าวเสียงหวาน “ดูเหมือน คุณจะทำไม่ค่อยเป็นนะ ฉันต้มให้คุณเองค่ะ

“ได้ ขอบคุณ” เขาไม่ได้ปฏิเสธ เพราะเขาทำไม่เป็นจริงๆ

สาวน้อยฉีกฝาถ้วยบะหมี่สำเร็จรูปออก ใส่เครื่องปรุง เสร็จก็เติมน้ำ ขณะเดียวกันก็ไม่วายเหลือบมองที่เขาเป็นระยะๆ เซียซิงเฉินที่ยืนมองอยู่ข้างๆ พลางรู้สึกหวั่นใจ กลัวว่ามือของ เด็กสาวคนนั้นจะถูกน้ำร้อนลวกเข้าให้

“ดูตาของคุณก็รู้สึกคุ้นๆ จัง คุณเป็นดาราเหรอ?”

“…ไม่ใช่”

เชียซิงเฉินคิด เขาไม่ใช่ดาราจริงๆ แต่กลับเป็นจุดสนใจ มากกว่าดารามาก ต้องการความระมัดระวังและคนคอย ปกป้องมากกว่านี้

“อ่า คุณอาศัยอยู่นี่เหรอ?”

“อืม” เขายังคงกระชับคำพูดเหมือนกลัวดอกพิกุลร่วง จากปาก

“เมื่อก่อนไม่เคยเจอคุณมาก่อนเลย

“…” เขาไม่ตอบอีกต่อไป เพียงแค่มองบะหมี่นั่น “ได้หรือ

“อ้า อีกแป๊บเดียว สาวน้อยยิ้มฝืดๆ ไปที ถามอีก “ดึกยัง?”ขนาดนี้ทำไมคุณยังกินมาม่าล่ะ ไม่มีคนทำอาหารเย็นให้เห รอ?*

เด็กสาวเกือบหลุดประโยคที่ว่า “ฉันยอมทำให้คุณ” ไป เสียแล้ว ผู้ชายคนนี้ ช่าง…มีเสน่ห์กับผู้หญิงเหลือเกิน

“ไม่มี” ไปเฉิงตอบกลับสั้นๆ อีกครั้ง

ใบหน้าสาวน้อยยิ้มกว้างกว่าเดิม เมื่อต้มบะหมี่สำเร็จรูป เสร็จก็ยื่นให้เขา มองเขาอย่างขัดเขินแวบหนึ่งก็ถามอีกว่า “ถ้า อย่างนั้นก็แปลว่า….ตอนนี้คุณยังไม่มีแฟนเหรอคะ?

“ขอบคุณ” ไปเฉิงคงระดับเสียงเรียบนิ่งไว้เช่นเดิม หลัง รับถ้วยบะหมี่มาไว้ในมือก็มองสาวน้อยตรงหน้าจังๆ แวบหนึ่ง ไม่ได้ตอบกลับคำถามของเธอไปตรงๆ กลับกล่าวว่า “ลูกชาย ผมอายุสี่ขวบแล้ว”

* ท่าทางสาวน้อยดูตกใจมาก ยืนอ้าปากค้างไว้ตรงนั้น ไม่มีปฏิกิริยาไปพักหนึ่ง เซี่ยซิงเฉินรู้สึกเหมือนได้ยินเสียง สายฟ้าฟาด ตอนที่เขาปฏิเสธคนกลับเด็ดขาดและเย็นชามาก จริงๆ

ไปเย่งถือถ้วยบะหมี่สำเร็จรูป เตรียมเดินไปนั่งที่โต๊ะตรง ริมหน้าต่าง เมื่อหมุนตัวถึงเห็นเธอ

จ้องมองเธอพร้อมดวงตาที่ฉายแววแปลกใจ เมื่อเห็นผมที่ เปียกปอนของเธออีกทีก็ขมวดคิ้วแน่นเป็นปม ผู้หญิงคนนี้ รู้ว่า ตอนนี้ข้างนอกมันกองศาบ้างไหม? ทำไมถึงกล้าเดินปล่อยผมออกมาแบบนี้!

“คุณมาทำไม?” เขาถาม

“อ่า…ฉัน…ฉันก็แค่มาซื้อของเฉยๆ” เซียซิงเฉินหยิบของ มาถือไว้มั่วๆ เป็นเชิงให้เห็นว่าตนเป็นลูกค้าที่มาซื้อของที่แท้ จริง

ไปเย่งเหลือบมองมือของเธอแวบหนึ่ง “คุณแน่ใจว่าคุณ มาซื้ออันนี้?”

“หม?” เซียซิงเฉินมองเขา จากนั้นก็เลื่อนสายตาขึ้นมาที่ มือของตนตามสายตาของเขา จากนั้นใบหน้าเธอก็เปลี่ยนเป็น สีแดงอย่างรวดเร็ว เมื่อเธอคิดว่าของที่ตนหยิบเป็นกล่อง ช็อกโกแลตเสียอีก แต่กลับเป็นกล่องถุงยางอนามัยไปได้

เธอไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมตอนนี้ร้านขายของต่างๆ ถึงชอบ เก็บจำพวกลูกอมและถุงยางอนามัยหลากสีไว้บนชั้นเดียวกัน

“ฉันไม่ได้จะซื้ออันนี้” เซี่ยซิงเฉินวางกล่องถุงยาง อนามัยไว้ที่เดิม เผลอฉุกนึกถึงค่ำคืนแรกที่อยู่กับเขา ก็ยิ่งไม่ กล้าสบสายตาเขา เธอเดินไปตามชั้นวางของ แสร้งหยิบของ ไปเรื่อยๆ แต่สายตากลับเหลือบมองเขาเป็นระยะๆ สุดท้ายก็ ถอนหายใจ ยกถ้วยบะหมี่สำเร็จรูปของเขาไป

ปวดท้องแล้วยังจะทานบะหมี่สำเร็จรูปอีก?

ไปเยฉงชะงักมือที่ดึงผ้าปิดปาก มองเธอ เงียบไปครู่ เธอก็พูดออกมาตามความจริง “ฉันยังมีกับข้าวเหลืออยู่ เดี๋ยวฉันอุ่นให้คุณเองค่ะ

“ไม่ต้องหรอก

เซียซิงเฉินทำราวกับไม่ได้ยินคำปฏิเสธของเขา เทน้ำ บะหมี่สำเร็จรูปใส่ถังขยะทันทีตามด้วยเส้นบะหมี่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ