สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 230 การกลับมาของประธานาธิบดี (4)



ตอนที่ 230 การกลับมาของประธานาธิบดี (4)

“คุณคิดว่าผมให้คุณมาที่นี่เพื่อต้มบะหมี่ให้ผมจริงๆ เหรอ?” ไปเย่นิ่งไม่สบอารมณ์เล็กน้อย ความจริงก็แค่อยากเจอเธอ แต่ ตนก็ปลีกตัวออกไปไม่ได้เท่านั้นเอง

“คุณก็พูดเองไม่ใช่เหรอคะ ที่ฉันเข้าใจก็คืออย่างนี้แหละ เซี่ยซิงเฉินไม่รู้ว่าเขาโกรธอะไร ทั้งที่ในสายเขาบอกเองว่า อยากทานบะหมี่ที่เธอทำ “แต่ถ้าไม่ใช่ให้ต้มบะหมี่ แล้วคุณให้ ฉันมาทำอะไรล่ะคะ?

สายตาไปเฉิงจดจ้องใบหน้าเธอครู่หนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเธอ อาบน้ำมาก่อนแล้ว ผิวกายหอมลื่น ไม่ได้แต่งหน้า ยิ่งขับให้ ใบหน้าเล็กดูสะอาดสวยงาม ปากเล็กแดงระเรื่อ

ต่อให้ไม่มีลิปสติกแต่งแต้ม ก็ทำให้เขารู้สึกว่ายั่วยวน เหลือเกิน ขณะที่เธอพูดก็ขยับอ้าเล็กน้อย ทุกครั้งที่ขยับคล้าย เป็นการยั่วยวนและเชิญชวน ทำให้เขาร้อนรุ่มไปทั้งร่างกาย

แววตาของเขาแพรวพราว กว่าเซี่ยซิงเฉินจะรู้ตัวอีกที่ริมฝี ปากเล็กๆ ก็ถูกเขาครอบครองไว้แล้ว เธอหายใจหอบเล็กน้อย เขาจึงแทรกลิ้นเข้ามาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นของเธอ

ไม่เจอกันห้าวัน คล้ายมีบางอย่างที่แปลกๆ แผ่ขยายเต็มอกของกันและกัน นั่นคงเป็นความคิดถึง

ในเวลานี้ทั้งสองได้ใส่อารมณ์ที่ไม่แน่นอนแต่ก็รู้สึกได้นั้น ลงในจูบครั้งนี้ ฉะนั้นยิ่งจูบยิ่งล้ำลึก ยิ่งจูบยิ่งเกี่ยวพัน

จูบจนสุดท้ายเซี่ยซิงเฉินหายใจติดขัด อารมณ์พุ่งสูงขึ้น มือเล็กกำปกเสื้อเชิ้ตของเขาไว้ นิ้วเรียวสั่นระริก

ไปเย่งผละออกเล็กน้อย จ้องมองท่าทางมัวเมาของเธอ เพราะตนอย่างพึงพอใจ เชยคางเธอขึ้น เอ่ยเสียงเบา “นี่คือ เหตุผลที่ผมให้คุณมา ตอนนี้เข้าใจรึยัง?”

แพขนตาของเธอสั่นไหว ดวงตาขึ้นด้วยหยาดน้ำใส คล้ายจะมีน้ำซึมออกมา ความจริงในหัวถูกเขาปั่นป่วนจนขาว โพลนไปหมดแล้ว ตอนนี้ได้ยินคำพูดของเขาก็ทำได้เพียงพยัก หน้าอย่างมึนงง

นอกประตู เสียงเคาะประตูดังขึ้น ตามด้วยเสียงของเหลิงเฟย “ท่าน ประชุมจะเริ่มแล้ว

ครับ”

เขามองเธออย่างล้ำลึกแวบหนึ่ง เสียงยังคงแหบแห้ง พร้อมตอบกลับเสียงต่ำ “ผมรู้แล้ว

เหลิงเฟยเป็นคนฉลาด ย่อมรู้ดีว่าข้างในเกิดอะไรขึ้น เพราะฉะนั้นจึงไม่เอ่ยอะไรอีก ทำเพียงแค่ละถอยไปเงียบๆ ไป เย่นิ่งมองเชียซิงเฉิน นิ้วเรียวเกลี่ยไปมาตรงคางของเธอ ริม ฝีปากห่างจากของเธอไม่ถึงหนึ่งนิ้ว “ผมต้องไปแล้ว…
ทุกคำพูดที่กล่าวออกมาแหบแห้งจนน่าหวั่นใจ

ทำให้ใจสั่นไหว

แพขนตาของเซียซิงเฉินสั่นระริก พักใหญ่ถึงได้ตอบกลับ ด้วยเสียง “อืม เบาๆ เขาแค่นเสียงไปที่คล้ายว่าไม่พอ จึงต้น ท้ายทอยเธอไว้แล้วประทับรอยจูบลงไปหนักๆ อีกหน

จูบเสร็จจู่ๆ เขาก็จับมือเธอไว้แล้วกดเข้าตรงบางจุดที่พอง

โต “รอน้าเงินหายป่วยก็มาอยู่กับผม

เซี่ยซิงเฉินหน้าแดงเลือก ฝ่ามือร้อนระอุดั่งไฟเพลิง ใบหน้าแดงรีบชักมือกลับมา ผลักเขา “คุณรีบไปประชุม เถอะค่ะ ทุกคนรอคุณอยู่…

หมดเวลาสําหรับการหยอกเย้ากันของคู่รัก อย่างไรเสีย เขามีเรื่องสำคัญกว่านั้นที่ต้องทำ ไปเย่นิ่งไม่รีรอไปมากกว่านั้น ปล่อยเธอแล้วลุกขึ้น

“เฉิง” ขณะที่ใกล้เดินถึงประตู เซียซิงเฉินก็เรียกเขาไว้ สองคำที่ออกจากปากนั่นเรียกให้หัวใจทั้งสองคนสั่นไหวไปชั่ว ครู่ เขารู้สึกว่าชื่อเขายามเธอเรียกยิ่งนุ่มนวลน่าฟัง

เขาหันกลับมา เธอจัดเนกไทให้เขา “คืนนี้คุณต้องอยู่ถึง ค่ำอีกแล้วเหรอ?”

“อย่างน้อยที่สอง

“ไม่ว่ายังไงคุณก็ต้องนอนดีๆ สักหน่อยนะคะ
“ผมรู้”

“ถ้าอย่างนั้น…เดี๋ยวฉันจะให้รุ่ยยังไปส่ง

เขาขมวดคิ้ว “ไม่อยู่กับผมที่นี่เหรอ?”

เธอสายศีรษะ “ฉันกลัวว่าดึกดื่นคุณแม่ฉันจะตื่นมาเข้า ห้องน้ำ แต่ฉันกลับไม่อยู่ อีกอย่างพวกเขาสองคนเข้านอนแล้ว ไม่รู้ว่าฉันออกมา ถ้าต้าไปถ้าตื่นแล้วไม่เห็นว่าฉันอยู่บ้าน เกรง ว่าจะตกใจ”

เธอพูดมีเหตุผล ไปเย่นิ่งจึงไม่ได้พูดอะไรอีก กล่าวเพียง “ผมจะให้รุ่ยยังไปส่งคุณ

“ค่ะ”

“แล้วก็…” เขาเขม่นมองเธอด้วยสีหน้าเรียบตึง “ห้ามทำ เหมือนวันนี้อีก ทำกับข้าวให้คนมากขนาดนั้น! ที่นี่มีผมอยู่ ไม่มีใครที่มีสิทธิ์สั่งให้คุณรับใช้

เซียซิงเฉินอึ้งไปครู่หนึ่ง เมื่อได้สติอีกครั้งเขาก็เปิดประตู ออกไปแล้ว มองแผ่นหลังของเขา เธอค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมา ผู้ชายคนนี้…

เอาแต่ใจจนทำให้หัวใจของเธอรู้สึก..หวานอย่างบอกไม่

ถูก

สักพักรุ่ยกังก็พาเธอออกจากพระราชวังไปยว หันไปมอง ดวงไฟระยิบระยับด้านใน เธอยิ้มบางเบา หัวใจที่วูบโหวงมาหลายวัน ในที่สุดก็ถูกเติมเต็มแล้ว

ความรู้สึกอิ่มเอมอย่างง่ายดายเช่นนี้ ไม่เคยมีมาก่อนใน หลายปีที่ผ่านมา

กลับถึงบ้าน ภายในบ้านเงียบสงัด เธอเปลี่ยนชุดนอน ไม่ วางใจจึงไปที่ห้องมารดา เธอเปิดประตูเข้าไปพานได้ยินเสียง ของเงินหมิ่น “ซิงเฉิน ลูกเหรอ?

“แม่ ลูกปลุกแม่หรือเปล่า?” เซียซิงเฉินเข้าไปเปิดโคมไฟ ดวงเล็กที่ไม่แยงตา

“เปล่า ตื่นตั้งนานแล้ว ตื่นแล้วก็นอนไม่หลับ ลูกพยุงแม่ ลุกหน่อย

เชียซิงเฉินพยุงเธอให้ลุกนั่งอย่างระมัดระวัง พร้อมหยิบ หมอนรองไว้ด้านหลังของเธอ

เธอนั่งลงตรงข้างเตียง เห็นท่าทางหนักใจของเงินหมิ่นจึง

ถาม “ยังคิดเรื่องเมื่อครั้งก่อนอยู่ใช่ไหม?”

เงินหมิ่นถอนหายใจ สายศีรษะ “มันผ่านไปแล้ว…..

“พูดตรงๆ ลูกรู้สึกว่าพ่อยัง…ไม่ลืมแม่” เซี่ยซิงเฉินกล่าว “วันก่อนคุณย่าโทรหาลูก บอกว่าให้ลูกเกลี้ยกล่อมคุณพ่อ

“เกลี้ยกล่อมอะไร?”

“เกลี้ยกล่อมให้เขาอย่าหุนหันหย่า ลูกได้ยินคุณย่าบอก

ว่าครั้งก่อนที่กลับไป หลี่หลิง แค่อยากเรียกร้องความสนใจว่าหย่า ไม่คิดว่าพ่อใจแข็งจนยกตาตัวเอง ปัญญาทำได้แค่โทรไปร้องไห้ใส่ คุณทุกวัน ตอน

เงินหมิ่นยิ้มๆ ไปที่ แค่ไหนไม่เกี่ยวกับสักนิด

เดียวแล้ว”

เซี่ยซิงเฉินถอนหายใจไม่ตอบอะไรเหมือนเดิมเสมอ

เงินหมิ่นว่า อยากบอกว่าแม่กลับเมืองเหลียง แล้วก็กลับไป ทำงาน ไม่

แม่ ตอนการลูกดูแลแม่เป็นสำคัญที่สุด

“แม่จะหาดูแล คอยงานที่กระทรวงการประเทศ เป็นงานต้องรักษา ดีไม่ใช่ว่าเอะอะก็ลา ใครกล้าจ้างลูกอีก

คำของมารดาความจริง ช่วงนี้หัวหน้าหลายกระทรวงงานยุ่งเหลือเกิน ไม่สามารถปลีกตัวได้ สายล่าสุด หัวหน้าสั่งเธอมาว่าว่าอย่างไรก็ต้องกลับทำงานแล้ว

เซี่ยซิงเฉินครุ่นคิดอย่างละเถอะหาวิธีแก้เป็นกลางลูกทำงาน แต่ ร่างกายของแม่ยังไม่พร้อมเมืองเหลียง จะคนดูแลมาอยู่เป็นเพื่อนแม่


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ