สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 276 คุณไปและคุณนายไป (5)



ตอนที่ 276 คุณไปและคุณนายไป (5)

หันกลับไปเห็นเขายืนอยู่หน้าประตูด้วยชุดลำลอง เสื้อฮู้ดสีเทา กางเกงขายาวสีน้ำตาลเข้ม บวกกับรองเท้าแตะฟองน้ำหนึ่งคู่ สองมือล้วงกระเป๋ากางเกง

การแต่งกายที่ง่ายดายแต่พออยู่บนร่างเขากลับดูแตกต่าง เซี่ยซิงเฉินใจเต้นแรงอย่างรู้สึกได้ สงครามเย็นในหลายวันที่ ผ่านมาของทั้งคู่ทำให้เธอแทบไม่มีโอกาสจ้องมองเขาตรงๆ

“หนังเก็บไว้ดูคราวหลังเถอะ ออกมาเดินเล่นที่สวนกับผม หน่อย” เขาพูด สิ้นเสียงก็เงยหน้ามองเธอแวบหนึ่ง ไม่คิดขอ ความคิดเห็นจากเธอหนังก็ถูกเขากดปิด เมื่อเห็นว่าไม่มีทาง เลือก เซียซิงเฉินก็ลุกขึ้น

ข้างนอกหนาวเป็นพิเศษ อากาศในค่ำคืนนี้ไม่ดีนัก ลม หนาวพัดกระโชกอย่างรุนแรง เซี่ยซิงเฉินมีเสื้อคลุมไว้บนตัวแต่ ก็หนาวจนกายสั่นเล็กน้อย

ไป๋เย่นิ่งเดินขนาบข้างเธอ พอเทียบกันแล้วบนตัวเขามี เพียงเสื้อเชิ้ตตัวบาง แต่เขาทนหนาวได้มากกว่าเธอ เห็นเธอ เริ่มหดตัวเป็นก้อนและเผลอขยับตัวเข้าใกล้เขามากกว่าเดิม หัวคิ้วเขาก็ผ่อนคลายลงมากขึ้น
ยื่นมือกุมมือเธอไว้เงียบๆ มือเธอเย็นเฉียบอย่างที่คิด เขา งไปซุกกระเป๋า

เดิมทีเซียซิงเฉินอยากถามเขาว่าทําไมถึงออกมาเดินเล่น ในคืนที่หนาวเหน็บแบบนี้ แต่เมื่อรู้สึกถึงความอุ่นจากฝ่ามือนั่น ก็เงียบปากไม่ถามอะไรอีก

เธอรู้สึกว่าแบบนี้มันดีมาก

ไป๋เย่นิ่งไม่ได้อยากเดินเล่นพร้อมเธอในสวนที่อากาศ หนาวเย็นจริงๆ พาเธอเดินไปยังสวนไวน์แดงตรงหัวมุมขวา ของสวนดอกไม้ เมื่อก่อนที่อาศัยอยู่ที่นี่เซียซิงเฉินรู้ว่าใน ทำเนียบประธานาธิบดีแบ่งออกเป็นหลายส่วน แต่ตรงนี้เธอยัง ไม่เคยมา

“ท่านประธานาธิบดี

พวกเขาทั้งคู่เพิ่งถึง คนงานในสวนไวน์แดงก็ออกมา ต้อนรับทันที เวลานี้เหมือนยังหมักไวน์กันอยู่เพราะบนตัวมีผ้า กันเปื้อนสวมไว้อยู่ แถมผ้ากันเปื้อนก็มีรอยแดงของไวน์เปื้อน ติด

“เหนื่อยหน่อยนะ” ไปเย่นิ่งพยักหน้ารับอีกฝ่ายเล็กน้อย พร้อมเดินเข้าไปด้านใน เซียซิงเฉินรีบเดินตาม ไปเยจึงมาที่นี่ เพราะงาน ภายหลังเซี่ยซิงเฉินก็เพิ่งรู้ว่าไวน์ที่หมักในตอนนี้เขา จะนำไปมอบให้ประเทศพันธมิตรในอีกไม่กี่วันข้างหน้าฉะนั้น…
ไม่กี่วันข้างหน้าเขาจะไปต่างประเทศอีกแล้ว?

ภายในโรงเก็บไวน์ไว้ที่อุณหภูมิห้อง เขากำลังพูดคุยกับ คนหมักไวน์อยู่ เธอจึงยืนลิ้มรสไวน์อยู่ข้างๆ ขบคิดไปด้วย สายตาก็จ้องมองเขาอย่างไม่รู้ตัวไปด้วย

เขายุ่งมากจริงๆ บินไปบินมา

ไปครั้งนี้ก็ไม่รู้ว่าไปนานเท่าไร เธอมีบางอย่างที่อยากคุย กับเขาให้รู้เรื่องก่อนที่เขาจะไป

ขณะกำลังครุ่นคิด คนหมักไวน์พยักหน้าเสร็จก็ถอยออก ไป สายตาเขาตวัดมองมาประสานกับสายตาเธอที่ต้องอยู่ก่อน หน้า เซียซิงเฉินนิ่งไปชั่วครู่ เมื่อไร้หนทางหลบหนีก็ไม่คิดจะหนี ทำเพียงแค่แสร้งยืนชิมรสไวน์นิ่งๆ

“คุณมาทำงานยังพาฉันมาด้วยเหรอคะ?” เซียซิงเฉินเห็น ว่าเขายังยืนอยู่ที่เดิมตลอด พร้อมจดจ้องตนไม่วางตา เธอเริ่ม กระชับเสื้อคลุมบนกายอย่างขวยเขิน และพูดบ่นเบาๆ

เพียงแต่ยังดีที่โรงเก็บไวน์คอยรักษาอุณหภูมิไว้เสมอเลย ไม่หนาว

อีกทั้ง…

แม้จะคอยดูเขาทํางานแต่กลับไม่รู้สึกเบื่อหน่าย เชียง เฉินไม่รู้ว่าตนเป็นอะไรเพราะความรู้สึกเช่นนั้นมันแปลก ประหลาดจนยากจะเอื้อนเอ่ย

“วันนี้ผมไปหาคุณแม่มา”
จู่ๆ ไปเปถึงก็เอ่ยปาก เซียซิงเฉินมองเขาแวบหนึ่งอย่าง ฉงน เขาไม่ได้เดินเข้าใกล้ ทั้งคู่ยืนห่างกันราวห้าเมตรได้

“เรื่องที่คุณแม่หาเรื่องคุณ ทำไมไม่รีบบอกผม?” เขาถาม

อีกประโยค

เซี่ยซิงเฉินหลุบตามองเล็กน้อย ก้มมองไวน์ในมือตัว เองแวบหนึ่งถึงเปิดปากพูด “ตอนนั้นฉันอยู่บนเครื่อง เพิ่งรับ สายท่านเสร็จก็ปิดเครื่องเลย”

“นั่นก็แค่ข้ออ้าง”

ไป๋เย่ฉิงจ้องเธอเขม็ง

“คุณหญิงบอกว่า…คืนนั้นเป็นงานเลี้ยงครอบครัวของพวก คุณ หลันเย่ก็จะไปด้วย ถ้าฉันรู้กาลเทศะก็ไม่ควรโทรรบกวน พวกคุณ

“คุณเป็นคนรู้กาลเทศะจริงๆ” ไปเฉิงพูดวิจารณ์เธอ แต่ น้ำเสียงกลับแฝงความไม่พอใจ

จนตอนนี้เซี่ยซิงเฉินยังคงจำทุกคำพูดอันแหลมคมของ คุณหญิงได้แม่นยำ

“คุณหญิงก็พูดขนาดนั้นแล้ว ฉันก็รู้สึกเป็นเหมือนกัน อีก อย่าง…”

พูดถึงตรงนี้เธอก็หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ไปเฉิงถึงเดิน ประชิดเธอ เงากายสูงใหญ่ซ้อนทับลงมา เซียซิงเฉินเริ่ม หายใจติดขัดเมื่อได้ยินเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มถาม “อีกอย่างอะไร?”

“พวกเรา…ถ้าพูดตามตรง นอกจากลูกแล้วก็ไม่มีอะไร เกี่ยวข้องกันเลย…คุณแม่ของคุณพูดแบบนี้ ฉันจะยังกล้า รบกวนได้ยังไง? แล้วรบกวนในฐานะอะไร?”

ไปเยฉิงขมวดคิ้วแน่น

ใช้มือเชยหน้าเธอขึ้น ภายในโรงเก็บไวน์ที่แสงไฟสลัว สายตาทั้งคู่สอดประสาน แววตาเขาเรียบนิ่ง “ผมกับคุณไม่มี อะไรเกี่ยวข้องกัน แล้วในสายตาคุณใครถือว่าเกี่ยวข้องกับคุณ ล่ะ?”

เขากดเสียงต่ำจนสุด แฝงความอันตรายไว้เล็กน้อย “ห เจอหนันเหรอ?”

พูดถึงเขา ปลายนิ้วของเขาก็กดแรงมากกว่าเดิม เชียง เฉันรู้สึกเจ็บจนคิ้วกระตุก ใช้มือตะครุบมือเขาไว้ “คุณพูดถึง เขาอีกแล้ว ในข่าวไม่ใช่ความจริงสักหน่อย ฉันไปทำงานกับ เขา เรื่องงานทั้งนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับไปเที่ยวเลย ยิ่งอย่าพูดว่า คบกันเถอะ”

ได้ยินเธอว่าเช่นนี้ หัวคิ้วที่หมั่นตึงของเขาก็ผ่อนคลายลง เล็กน้อย มือที่บีบคางเธอก็ผ่อนแรงลง แต่ไม่ปล่อยมือ “พวก คุณไม่ได้คบกัน?”

“…ก็ใช่น่ะสิ”

เขาขยับชิดเธออีกนิด แต่ระหว่างผมกับเขา คุณเลือกเขา!”

เรื่องวันนั้นเขายังจดจำได้ถึงวันนี้

เขาเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เธอแค่หายใจเบาๆ ล้วนเต็มไป ด้วยกลิ่นกายที่หอมเบาบางของเขา รวมถึงกลิ่นหอมของไวน์ที่ ตลบอบอวลไปทั่วโรงเก็บไวน์ เธอใจสั่นไหวอย่างรุนแรง เผลอ ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวจนชนเข้ากับถังไวน์ ไร้ซึ่งทางให้ถอย หนีอีก ถึงยอมเปิดปากพูดแย้งเบาๆ “ฉันเลือกเขาเมื่อไรคะ? ฉันไม่ได้เลือกใครแท้ๆ

“แต่คุณบอกเกลียดผม เขาบันสองมือไว้ข้างกายเธอ

“คุณไม่ควรถูกเกลียดเหรอ?”

“ทําไมถึงเกลียด?”

เซี่ยซิงเฉินถลึงตามองเขาแวบหนึ่ง “วันนั้นคุณ…

พูดถึงตรงนี้ก็หยุดชะงัก ใบหน้ากลับขึ้นสีระเรื่อบางๆ เธอ นึกถึงวันที่เขารังแกตนตรงทางขึ้นบันไดที่มืดสนิท…

“ผมทำไม?” ไปเย่นิ่งมองเธอแวบหนึ่ง เมื่อเห็นใบหน้าที่ ขึ้นสีของเธอก็เข้าใจทันที ยิ่งไม่อยากปล่อยเธอทั้งอย่างนั้น โน้มใบหน้ามองเธอ ใบหน้าใกล้ชิดมากเป็นพิเศษจนเธอเริ่ม หายใจถี่ขึ้นเรื่อยๆ เธอรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเต้นเร็วจนเขารับ รู้ได้

เซี่ยซิงเฉินรู้ว่าเขารู้ ผลักเขาไปที่ “คุณเสร็จธุระแล้วเราก็ กลับกันเถอะ”
ไปเฉิงฉุดแขนเธอไว้ข้างหนึ่งแล้ววางทับไว้บนไหล่ตน มืออีกข้างของเขาโอบรัดเอวเธอ “คุณนายไป พูดให้รู้เรื่องก่อน ว่าทำไมคุณถึงเกลียดผม?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ