สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 43 เสี่ยวไปที่น่าสงสาร



ตอนที่ 43 เสี่ยวไปที่น่าสงสาร

เซี่ยซิงเฉินยืมใช้ครัวของฉือเว่ยยัง พอรู้ว่าเธอจะมา ฉือเว่ยยัง รีบลงมารับอย่างรวดเร็ว เจอกับหนูเจอหนุนที่มาพร้อมเธอ สาย ตาฉือเว่ยยังก็เต็มไปความสงสัยใคร่รู้

“พวกเธอสองคนเป็นอะไรกัน?” ขณะกำลังช่วยเธอในห้อง ครัว ในที่สุดคือเว่ยยังกอดถามออกมาไม่ได้

“เป็นเพื่อนกัน” เซี่ยซิงเฉินตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน

“เป็นแค่เพื่อนกันเธอยังวิ่งแจ้นมาหาฉันถึงที่นี่เพื่อจะทำ อาหารให้เขาทาน โดยเฉพาะ ฉันดูเหมือนเชื่อคนง่ายขนาดนั้น เลยเหรอ?”

“เรื่องงานของฉันโชคดีที่ได้เขาช่วยไว้

“เขา?” ฉือเว่ยยังมองไปนอกครัวเล็กน้อย หยูเจ๋อหนัน โทรทัศน์อยู่ในห้องโถงด้านนอก ตอนนี้ไม่ได้ยืนเอียงไปมาหรือ วางท่าสบายๆ เหมือนเวลาปกติที่อยู่ต่อหน้าเซียซิงเฉิน เขา กลับนั่งตัวตรง เต็มไปด้วยความสง่างาม ดูน่าประทับใจมาก ในสายตาของฉือเว่ยยัง

“คนที่ช่วยเธอให้เข้าไปในกระทรวงการต่างประเทศไม่ใช่ ท่านประธานาธิบดีหรอกเหรอ?”

พอเอ่ยถึงเขา เซี่ยซิงเฉินก็พานนึกถึงเรื่องในสนามกอล์ฟเมื่อครู นัยน์ตาฉายแววยุ่งยากใจ เธอสายศีรษะ เอ่ยด้วยน้ำ เสียงเรียบเฉย ไม่เกี่ยวกับเขา

ตอนเย็นเวลาหกโมงกว่า

ไป๋เย่ฉิง ให้เหลิ่งเฟยบอกปัดกิจกรรมของกระทรวงการ คลังในตอนค่ำ กลับถึงทำเนียบตั้งแต่หัววัน

“ท่านประธานาธิบดี จะให้ตั้งโต๊ะตอนนี้เลยไหมครับ? ใน ครัวเตรียมอาหารเสร็จแล้ว

พ่อบ้านก้าวออกมาถาม

ไปเย่ฉิงถลกแขนเสื้อเชิ้ตขึ้น เหลือบมองนาฬิกาข้อมือ ถามขึ้นอย่างเย็นชา “เซี่ยซิงเฉินล่ะ?”

“ตอนนี้คุณเซียยังไม่กลับมาครับ

เขาขมวดคิ้ว “งั้นรออีกหน่อย

“ครับ” พ่อบ้านพยักหน้า

ตอนนี้เองเซี่ยต้าไปที่สวมชุดอยู่บ้านและรองเท้าแตะขน ปุยคู่น้อยเดินลงมาจากชั้นบน เขามองพ่อที่นั่งอ่าน

เอกสารอยู่บนโซฟา เพียงแวบเดียวก็รู้สึกได้ว่าตอนนี้ท่าน ประธานาธิบดีกำลังอารมณ์เสียสุดๆ

“พ่อครับ” เขาเข้าไปใกล้อย่างระมัดระวัง สองขาเล็กนั่ง ขัดสมาธิบนโซฟา
“นั่งดีๆ” เขาปรายตามองไปที่เขี่ยต้าไป

เขาส่งเสียง โต๊ะ ตกใจจนรีบหย่อนสองขาเล็กขาวนุ่มลง มาจากโซฟา สอดเท้าเล็กกลับเข้าไปในรองเท้าแตะอีกครั้ง “เสี่ยวไป กำลังรอหม่ามกลับมาทำอาหารให้ทานอยู่เห

รอ?”

“ไม่ใช่!” เขาปฏิเสธด้วยใบหน้าเยือกเย็น

“ไม่ใช่จริงเหรอ?”

“ลูกนี่พูดมากจริงๆ ใครบางคนทำเมินเฉย

เซียต้าไปหัวคิ้วขมวดมุ่น “ถ้าพ่อรอหม่ามีอยู่ ก็ไม่ต้องรอ แล้ว ดึกขนาดนี้ หม่ามีคงลืมแล้วล่ะว่าต้องทำอาหารเย็นให้

พ่อ”

สีหน้าไปเย่นิ่งบูดบึงยิ่งกว่าเก่าทันที สายตาที่มองเอกสาร

อยู่ชะงักไป

“เสี่ยวไป พวกเราไปกินข้าวกันเถอะได้ไหม? ได้ไหม?”

ไป๋เย่นิ่งเพิ่งรู้สึกตัวได้ตอนนี้เองว่าเจ้าหนูนี่หิวแล้ว จึงได้ พยักหน้าพร้อมออกคำสั่ง “พ่อบ้าน เตรียมตั้งโต๊ะ

สุดท้าย ในห้องอาหารก็เหลือเพียงเซี่ยต้าไปคนเดียวที่ แทะน่องไก่อยู่ ไปเย่นิ่งนั่งอยู่ที่โซฟา มองนาฬิกาข้อมือเป็นครั้ง

ที่สาม

พ่อบ้านเข้ามาเชิญเขา “ท่านประธานาธิบดี ทานก่อนสักนิดเถอะครับ”

“ไม่ต้องห่วงผม”

“ผมให้พ่อครัวตุ่นซุปให้ท่าน ยังไงยกมาให้ท่านลองชิมดู

ไหมครับ”

“ไม่ต้อง ไม่อยากกิน

เขายืนยันเช่นนี้ พ่อบ้านไม่ได้พูดอะไรอีก ได้แต่ถอยออก

ไปเงียบๆ

ผ่านไปครู่หนึ่ง

โทรศัพท์บ้านดังขึ้น คนรับใช้รีบไปรับสาย ครู่หนึ่งก็ก้าว เข้ามาในห้องอาหาร “คุณชายน้อย คุณเชียโทรมาค่ะ บอกว่า

ให้คุณรับสาย”

เซี่ยซิงเฉิน โทรมา?

ไปเย่นิ่งมองปราดไปที่โทรศัพท์บ้าน คิดไปคิดมาก็ยก โทรศัพท์ขึ้นเตรียมแนบข้างหู

“พ่อครับ หม่าให้ผมรับสาย!” เซียต้าไปออกมาพอดี วิ่ง ซึ่งทั้งสองสามก้าวเข้าไป

ไปเฉิงตีหน้าขรึม ยื่นโทรศัพท์ให้อย่างไม่สบอารมณ์ “พ่อหยิบมาให้ลูกนั่นแหละ

“เหรอครับ?” เซี่ยต้าไปทำหน้าระแวง
ไปเย่นิ่งไม่ได้มองเขา ขึ้นไปชั้นบนด้วยใบหน้าอึมครึม

“หม่า”

“อาบน้ำตัวหอมฉุยแล้วยัง?” เซียซิงเฉินถามมาจากทาง

“ครับ อาบแล้ว ตอนนี้หอมมากเลย” ขณะที่เซี่ยต้าไปพูด ก้มศีรษะเล็กๆ ลงดมแขนตัวเอง “หม่า ทำไมยังไม่กลับอีก?”

“คืนนี้แม่ไม่กลับบ้านนะ

“หา? แม่จะอยู่กับคุณลุงคนที่นัดเดทเมื่อเช้าทั้งคืนเหรอ

ครับ?”

“ไม่ใช่แน่นอนจ้ะ” เซียซิงเฉินเผลอยิ้มออกมา “คืนนี้หม่า จะค้างคืนที่บ้านแม่บุญธรรม

“อย่างนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นแม่ก็อยู่เป็นเพื่อนแม่บุญธรรม เถอะครับ แต่ว่า…” เซียต้าไปนึกอะไรบางอย่างออก วัด สายตามองขึ้นไปชั้นบน “หม่า ถ้าคืนนี้ไม่กลับมา นัดทานมื้อ เย็นของพ่อก็จะล่มใช่ไหม?”

“มื้อเย็นอะไร?” เซี่ยซิงเฉินสงสัย

“วันนี้ไม่ใช่ว่าแม่ตื่นตั้งแต่เช้ามาเตรียมอาหารเย็นให้พ่อ เหรอครับ? พ่อกำลังรออยู่ จนป่านนี้ยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลย!” ตอนนี้ทุ่มกว่าแล้ว!
เซียซิงเฉินยิ่งงงหนัก “แม่ไม่ได้เตรียมอาหารเย็นให้เขา

“ไม่ได้เตรียม? แต่พ่อบอกว่า…”

“ของพวกนั้นที่แม่เตรียมไว้เมื่อเช้า ทำไว้ให้คุณลุงที่แม่

นัดวันนี้”

อ้าว ท่าทางจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่เสียแล้ว

พ่อที่น่าสงสาร

รอทั้งวัน สุดท้าย…ก็คิดไปเองทั้งนั้น

ขณะที่เซี่ยต้าไปรู้สึกสงสารเสี่ยวไปจับใจอยู่นั้น ก็ได้ยิน เพียงเสียง กริ๊ก’ หนักๆ ดังขึ้นในสาย

เซี่ยซิงเฉินตกใจ

นี่เป็นเสียงใครบางวางหูโทรศัพท์ชัดๆ และตอนนี้โทรศัพท์ก็ไม่ได้ถูกตัดสาย

แสดงว่า…

“หม่ามี้ ดูเหมือนว่า…เมื่อพ่อแอบฟังพวกเราคุยโทรศัพท์

จากชั้นบน”

เซียต้าไปยิ่งสงสารพ่อ พอวางสายเสร็จก็เรียกพ่อบ้าน “คุณลุงพ่อบ้าน คุณลุงพ่อบ้าน
“คุณชายน้อย รีบร้อนขนาดนี้ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?

“ลุงรีบให้พ่อครัวเตรียมอาหารสองสามอย่างยกขึ้นไปให้ พอกินชั้นบนเถอะ เขาคงไม่ลงมาแล้ว”

คิดเข้าข้างตัวเองถือเป็นเรื่องน่าอับอายมาก คนที่รัก หน้าตาอย่างพ่อจะต้องรู้สึกขายหน้า ไม่กล้าลงมาแน่นอน

พ่อบ้านไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง เพียงแต่พยักหน้า “ครับ ตกลง ผมจะไปเตรียมเดี๋ยวนี้

วางสายเรียบร้อยก็มาขดตัวอยู่ที่หัวเตียงกับฉือเว่ยยัง เซี่ยซิงเฉินนึกอย่างไรก็นึกไม่ออกว่าทำไมเขาต้องแอบฟังเธอ กับลูกคุยโทรศัพท์กัน

“ทำเนียบประธานาธิบดีสบายๆ เธอไม่อยู่ ดันมาหมกตัว อยู่กับฉันที่นี่ คิดยังไงของเธอกันแน่” ฉือเว่ยยังหยิบมือถือมา เล่นเกม พลางพูดกับเธอฉอดๆ

“รังเกียจฉัน?”

“ใครจะกล้าล่ะ อย่าว่าแต่เธอจะอยู่ที่นี่คืนเดียวเลย จะอยู่ สักสองสามเดือนหรือเกือบปีฉันก็ไม่กล้าว่าอะไรหรอก เธอเป็น ถึงแม่แท้ๆ ของลูกชายท่านประธานาธิบดีเชียวนะ ไม่เห็นแก่ หน้าภิกษุสงฆ์ ฉันก็ต้องเห็นแก่หน้าพระพุทธรูปบ้าง จริงไหม?

“ใครว่าฉันจะอยู่แค่คืนเดียว?

ฉือเว่ยยังยืดตัวขึ้นนั่งหลังตรงพลางมองเธอ “จะอยู่จนเกือบปีจริงเหรอ?”

เซียซิงเฉินไม่พูดอะไร เพียงแต่กอดเข่าอย่างเหม่อลอย

เกิดเรื่องนั้นขึ้นวันนี้ ก็ต้องมีบ้างที่ไม่รู้จะกลับไปเผชิญหน้า กับเขาอย่างไร

ไป๋เย่นิ่งไม่ได้ทานมื้อเย็น โกรธจัดขนาดนี้ จะไปมีอารมณ์ กินที่ไหนกัน?

เพราะงั้น ไม่ว่าพ่อบ้านจะยกขึ้นไปอย่างไร ผ่านไปครู่

เดียวก็ต้องยกลงมาอย่างนั้น

เซียต้าไปซึ่งอยู่ในห้องนอนเด็กข้างๆ ยื่นหน้าเข้าไปมอง ในห้องหนังสือ รู้สึกสงสารพ่อมาก คิดแล้วคิดอีกก็วางแผนจะ ลองเสี่ยงไป ปลอบใจ เขาสักหน่อย

ว่าแต่ จะปลอบใจจริงๆ ใช่ไหม?

มือน้อยเคาะประตูห้องหนังสือสองครั้ง คนข้างในก็ไม่ สนใจเขา เขาจึงไม่เกรงใจ พูดขึ้นมาประโยคนึงว่า “เสี่ยวไป ลูกเข้าไปล่ะนะ” แล้วก็ผลักประตูให้เปิดออก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ