สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 106 รักมากมาตั้งนานแล้ว (3)



ตอนที่ 106 รักมากมาตั้งนานแล้ว (3)

“คุณเซีย ช้าหน่อยค่ะ เมื่อคืนตอนที่อาบน้ำให้คุณ เห็นว่าแผล บนตัวหนักไม่เบาเลยนะคะ” คนรับใช้ก้มตัวลง พยุงเธอขึ้นมา หยิบหมอนสอดไว้ที่หลังของเธอ “ระวังหน่อยนะคะ ฉันจะ เตรียมอาหารเช้าให้ หลังอาหารเช้าก็ต้องทายาด้วยนะคะ”

“ขอบคุณค่ะ” เซียซิงเฉินเอ่ยขอบคุณเสียงแผ่ว ความทรง จําของเธอค่อยๆ ชัดขึ้น เรื่องเมื่อคืนผุดขึ้นในหัวอย่างไม่อาจ ห้ามให้นึกถึงได้ ผู้ชายพวกนั้นจะทำเรื่องสัปดนกับเธอ แม้แต่ เสื้อเชิ้ตบนตัวเธอยังถูกพวกมันฉีกกระชากจนขาดรุ่ย เธอยังคง จําได้รางๆ ว่ามีคนลูบคลำหน้าอกเธออย่างน่าขยะแขยง

ตัวเอง ในขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นแรงกายหรือแรงใจ ก็เกือบ ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไปแม้จะแค่วินาที เดียวจริงๆ …

โชคดีที่เขามา

ร่างเธอสั่นระริก หยิบผ้าห่มคลุมตัวไว้ ตัวยังคงสั่นเล็ก น้อย เธอเอ่ยถาม “เขาอยู่ไหม”

“คุณถามถึงท่านประธานาธิบดีใช่ไหมคะ”

เธอพยักหน้า

“ท่านประธานาธิบดีไปสำนักงานแล้วค่ะ แต่ว่าท่านก็เป็นห่วงคุณตลอด เมื่อคืนท่านแทบไม่ได้นอนแน่ะ!” คนรับใช้พูด พิมพ์ “จะว่าไป ฉันรับใช้อยู่ที่นี่ก็นานหลายปี ยังไม่เคยเห็น ท่านประธานาธิบดีน่ากลัวอย่างเมื่อคืนมาก่อนเลย ตอนที่อุ้ม คุณกลับมา สีหน้าท่านน่ากลัวมากจริงๆ แม้แต่คุณพ่อบ้านยัง ไม่กล้าพูดด้วยเลยค่ะ

เซียซิงเฉินนึกถึงภาพเหตุการณ์เมื่อคืน รวมไปถึงเสียงปืน อันน่ากลัวเมื่อคืนด้วย…

เธอจำได้ว่าไปเย่นิ่งปิดตาเธอ แต่ว่าเธอยังรู้สึกได้ถึง ความโหด** ยมและดุดันจากกายเขาได้อย่างชัดเจน เขาถือ ปืนราวกับของเล่นอย่างหน้าตาเฉย ไปเย่นิ่งที่เป็นแบบนั้น เป็น แบบที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่เข้าใจเลยสักนิด หรือ กระทั่งไม่เคยนึกไม่เคยฝันเลย

เป็นอย่างที่หนูเจอหนุนและไปเยบอกไว้ มือของเขาเปื้อน เลือดคนมานับไม่ถ้วน เท้าเหยียบย่ำชีวิตของคนมานับไม่ถ้วน ถึงก้าวมาสู่ตำแหน่งนี้ได้

เซียซิงเฉินไม่กลัวเขาที่เป็นแบบนั้น แต่ว่าในใจกลับเป็น ห่วงมากขึ้นอย่างน่าประหลาด

ในโลกของพวกเขา ทุกชีวิตช่างอ่อนแอนัก ทั้งคนอื่นรวม ถึงตัวเองด้วยเช่นกัน…

คนรับใช้เดินลงไปชั้นล่างเพื่อไปเตรียมอาหารเช้า เขี่ยต้า ไปได้ยินว่าเธอฟื้นแล้ว ก็วิ่งมาหาด้วยความเร็วปานพายุ

“หม่ามี้” พอเสียงเล็กของเด็กน้อยขานชื่อเธอ ก็เริ่มสะอื้นร้องให้ทันที

เซี่ยซิงเฉินตบเตียงเป็นเชิงให้เขานั่งลง

ทำไมวันไม่ไปเรียนม้าล่ะ

“เสี่ยวไปอนุญาตเพื่อนให้แม่คิดฟุ้งซ่าน

เชียซิงเฉินยิ้ม แม่

“แล้วแม่ยังเจ็บไหม” เซียต้าไปมืออย่างสงสาร อยากลูบใบหน้าเธอ แต่มือยังทันสัมผัสหดกลับไป กลัวเธอเจ็บ

“แม่ไม่เจ็บแล้ว รู้สึกถึงความเป็นห่วงของเด็กน้อย เชีย รู้สึกอิ่มเอมใจมาก

สักพัก มือถือเธอวางอยู่เตียงแผดเสียงดังขึ้น เธอยัง ไม่ทันไหวตัวต้าเห็นบนจอบอกว่า เสี่ยวไป”

เซี่ยซิงเฉินรับมือถือ

“ตื่นแล้วเหรอเสียงของเขาอีกด้านดังขึ้นก่อน ท่า คน

เธอตอบรับเสียง “อืมเพิ่งตื่นน่ะ เมื่อวาน….ขอบคุณนะถ้าเพราะคุณ ฉันอาจจะ..”
เธอเหลือบตามองเด็กน้อย ไม่กล้าพูดต่อ ตัวเองก็ไม่กล้า จะคิดต่ออีก

“มันผ่านไปแล้ว” ไปเฉิงพูดแค่สี่คำนี้กับเธอ เป็นคำพูด ปลอบใจ ที่เดิมที่เขาทำเรื่องแบบนี้ไม่ค่อยเป็นเท่าไร

“วันหยุดสองวันนี้ก็พักผ่อนที่บ้านให้มากๆ ช่วงนี้ก็อย่าไป

ไหน”

ตอนนี้เซียซิงเฉินไม่กล้าออกไปข้างนอกจริงๆ นั่นแหละ อย่างน้อยจนกว่าจะรู้ว่าคนที่จัดการเธอใช่ซ่งเหวยหรือไม่ เธอ ไม่อยากออกไปเป็นเหยื่อให้คนอื่นอีก

“คุณเซี่ย อาหารเช้าได้แล้วค่ะ” ตอนนั้นเอง คนรับใช้เป็น รถอาหารเข้ามา ทางฝั่งไปเฉิงก็เริ่มงานยุ่งแล้วเหมือนกัน พูด อะไรต่อมากไม่ได้ เขาจึงพูดแค่ว่า “ไปทานอาหารเช้าเถอะ ตอนเย็นผมจะพยายามกลับไปให้เร็วขึ้น

ประโยคสุดท้าย ทำให้เซี่ยซิงเฉินใจลอยเล็กน้อย เขา รับปากได้ธรรมชาติขนาดนั้น เธอเกิดภาพลวงตาที่ว่าพวกเขา เหมือนครอบครัวเฉกเช่นเป็นคู่รักหรือสามีภรรยา

สามีภรรยาเหรอ

เธออดยิ้มเจื่อนๆ ไม่ได้ ส่ายหัวไปมา สลัดความคิดบ้าๆ นั่นออกไป แล้วตอบกลับเสียงเบา “ค่ะ แต่ว่างานคุณสำคัญ กว่า”

ไปเย่นิ่งไม่ได้พูดอะไรอีก ในสายมีความเงียบอยู่ครู่หนึ่งสุดท้ายก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนวางสายก่อน

คนรับใช้พยุงเซี่ยซิงเฉินลงจากเตียงไปนั่งบนโซฟา ถ้าไป ที่อยู่ข้างๆ ช่วยอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงร้อนรนอยู่คนเดียว เขา กินอาหารเช้าแล้ว แต่กลัวเสียซิงเฉินจะเบื่อเลยกินเป็นเพื่อน เธออีก

หลังมื้ออาหาร ฟู่เฉินก็มาหา พาผู้ช่วยมาทำแผลให้เธอ เซี่ยซิงเฉินก็เพิ่งรู้ตอนนี้เองว่ากระดูกข้อมือของเธอเคลื่อน อาจ มีสาเหตุมาจากการต่อสู้ที่ใช้แรงมากเกินไป

อีกด้าน ขณะที่เฉินกำลังเก็บกล่องพยาบาลอยู่ คนรับ ใช้ก็เปิดประตูเข้ามา “คุณเซีย มีแขกมาหาที่ชั้นล่างค่ะ เป็นคุณ คือเมื่อคราวก่อน ให้เธอขึ้นมาเลยไหมคะ”

เซี่ยซิงเฉินสังเกตเห็นว่าร่างสูงใหญ่ของฟู่เฉินชะงักไป อย่างชัดเจน ท่าทีของเขาเคลื่อนช้าลงเล็กน้อย เหมือนกำลังรอ ให้ฉือเว่ยยังขึ้นมา เซียซิงเฉินเข้าใจทันที ทีนี้ก็ยิ่งมั่นใจว่าสอง คนนี้ไม่ได้รู้จักกันธรรมดาๆ แล้วล่ะ

“ให้เธอขึ้นมาเถอะ

วันนี้ถือเว่ยยังสวมเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์ ข้างนอก อากาศเย็น เธอจึงสวมเสื้อสเวตเตอร์สีเหลืองทับเสื้อเชิ้ตอีกที แล้วสวยงามน่าประทับใจ เธอเปิดประตูเข้ามา เห็นเฉินอยู่ ข้างในห้องก่อนใคร แต่ก็ไม่ได้ตกใจอะไร
ความจริงเมื่อกี้ก็เห็นรถยนต์ของเขาตรงชั้นล่างแล้ว

ตอนแรกใจก็เต้นรัวไม่หยุด แต่ว่าเมื่อสักครู่ตอนอยู่ชั้น ล่างก็เตรียมใจไว้พร้อมแล้ว คราวนี้เธอจึงไม่สะทกสะท้านใด ได

“เกิดอะไรขึ้น ฉันได้ยินมาว่าเธอเกิดเรื่อง ฉันตกใจแทบ แย่” ถือเว่ยยังมองข้ามฟูเฉิน แล้วนั่งลงข้างเตียง ให้ฉันดู แผลของเธอหน่อย”

“ไม่เป็นอะไรมากน่า อย่ากระต่ายตื่นตูมสิ

“รู้ไหมว่าใครเป็นคนลักพาตัวเธอ

เซียซิงเฉินส่ายหัว ไม่แน่ใจ

“เธอไม่ได้มีความแค้นอะไรกับใครนี่นา! ถ้าจะบอกว่า ใคร ที่มีความแค้นกับเธอ ก็คงมีแค่เซี่ยงคงแล้วล่ะ เอ้อ เธอว่า หล่อนจะร้ายจนทำร้ายพี่สาวแท้ๆ อย่างเธอได้ขนาดนี้เลยเหรอ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ หล่อนก็ไม่ใช่คนแล้ว!” ฉือเว่ยยังยิ่งพูดก็ ยิ่งอารมณ์คุกรุ่น

“ฉันว่าไม่น่าใช่เธอ” เซี่ยซิงเฉินตอบ “ถ้าเป็นเธอจริงๆ ฉัน คิดว่าฉันคงไม่อยู่มาถึงทุกวันนี้หรอก ตอนเด็กๆ อาจจะตาย เพราะเธอไปแล้วล่ะ

“ที่เธอพูดมันก็มีเหตุผล

“ไม่พูดเรื่องนี้ดีกว่า” เซี่ยซิงเฉินกุมมือถือเว่ยยังไว้ สายตา เหลือบมองไปที่ฟู่เฉินแล้วพูด “ยังไงวันนี้ก็วันหยุด แล้วก็ไม่มีงานอะไร เธออยู่เป็นเพื่อนฉันสักวันดีกว่า ถ้าไปไม่เจอเธอนาน แล้ว คงคิดถึงเธอมากเลยล่ะ

สิ้นประโยค เซียต้าไปก็ผลักประตูเข้ามาทันที พอเห็นเธอ ก็โผเข้ากอดอย่างรุนแรง

“แม่บุญธรรม!”

“ลูกรักของแม่!” ฉือเว่ยยังอุ้มเซียต้าไปขึ้นมา พร้อมจับลง ไปหนึ่งที่ “คราวหน้าจะกินน่องไก่อีกไหม

หัวเล็กๆ ของเซียต้าไปส่ายไปมาเหมือนกำลังรัวกลอง เพียงแต่วินาทีถัดมา ก็พยักหน้าอย่างคิดไม่ตก “ก็ยังต้องกินอยู่ นะ วันนี้แม่มาทานข้าวเย็นด้วยกันดีกว่า ผมขอเลี้ยงน่องไก่ อร่อยๆ เอง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ