สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 18 อย่าคิดเข้าข้างตัวเอง



ตอนที่ 18 อย่าคิดเข้าข้างตัวเอง

ซึ่งเหวย ที่อยู่ข้างๆ มองท่านประธานาธิบดีและมองมาที่เธอ ด้วยความรู้สึกเรียบเฉย มือพลางตัวหมากรุกแน่น

ผู้หญิงมักจะความรู้สึกไวมาก

“ไม่เป็นไรจริงๆ เหรอ?” ซึ่งเหวยอีถามเซียซิงเฉิน

“ค่ะ ไม่เป็นไร”

“งั้นเธอก็ทำต่อเลยแล้วกัน ส่วนเราก็เล่นกันต่อเถอะค่ะ ท่านประธานาธิบดี” ตอนที่ซึ่งเหวยอีเอ่ยประโยคนั้นกับไปเย่นิ่ง น้ำเสียงของเธอหวานใสเอามากๆ

เซี่ยซิงเฉินมองไปที่ไปเย่นิ่งอย่างเงียบๆ สายตาของเขา เก็บง่าบางอย่างเอาไว้ ร่องรอยบนใบหน้าตึงแน่นราวกับไม่ พอใจอะไรบางอย่างเป็นอย่างมาก

ดูเหมือนความซุ่มซ่ามของตัวเธอจะทำให้เขาโกรธ! แต่นี่ ก็โทษเธอไม่ได้ไม่ใช่เหรอ? นอกจากต้าไปแล้ว เธอก็คงไม่ช่วย ใครแกะปง่ายๆ หรอก! ถ้าไม่ใช่เพราะอยากอยู่กับต้าไป เธอก็ ไม่สนหรอกว่าคุณซึ่งจะเป็นใคร

นิ้วเจ็บ

การจัดการกับกระดองปูสำหรับเธอกลายเป็นเรื่องที่

ลำบากมากขึ้นไปอีก
ไปเย่นิ่งมองเห็นท่าทีที่เจ็บปวดและไม่พอใจของเธอ

นัยน์ตามีสีเข้มขึ้น เขาวางตัวหมากรุก ในมือลงและเดินไป

ที่เซี่ยซิงเฉิน เซี่ยซิงเฉินกำลังจดจ่ออยู่กับการแกะกระดองปู เมื่อรู้สึก เหมือนมีเงาค่าเข้ามาบัง เธอก็เงยหน้าขึ้น รูปร่างที่สูงใหญ่ของ ไปเย่งหยุดยืนอยู่ตรงหน้าตัวเธอ เขาดูคล้ายกับภูเขาที่สูง ใหญ่

“ผมขอดูมือหน่อย”

เซียซิงเฉินนิ่งงันอยู่ตรงนั้น ดูเหมือนเขาจะหมดความ

อดทน เขามองเธอและดึงมือเธอไปด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

เมื่อนิ้วมือสัมผัสโดนปลายนิ้วของเขา เซี่ยซิงเฉินจึงได้สติ การสั่นไหวของปลายนิ้วทำให้จิตใจหวั่นไหวตาม

“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอกังวลเล็กน้อย ขนตาของเธอกระพือ ไหวราวกับปีกของผีเสื้อ เสียงของเธอเบาลง “ก็แค่ถลอกนิด หน่อยเองค่ะ…”

“ซุ่มซ่าม” เมื่อเทียบกับความกังวลของเธอแล้ว ไปเย่นิ่งดู

ใจเย็นมาก

ถึงแม้น้ำเสียงจะดูตำหนิ แต่สายตาที่มองเธอนั้นกลับไม่

ได้ตำหนิอะไรเธอเลย

นิ้วมือของเธอซีดขาว เลือดยังคงไหลอยู่ตรงบริเวณแผล เขาทนดูไม่ได้จึงสั่งว่า “ไปให้หมอจัดการแผลดูหน่อย คุณซึ่งชอบปู ให้พ่อบ้านส่งคนอื่นเข้ามาแล้วกัน

แปลว่า…เธอไม่ต้องแกะแล้ว?

ความคับแค้นในใจเมื่อครู่ของเซียซิงเฉินพลันมลายหาย ไป เธอพูด “อืม” เบาๆ พลางดึงมือเธอออกมาจากมือของเขา เวลาผ่านไปนาน แต่ดูเหมือนความร้อนจากตัวเขายังคงหลง เหลืออยู่ที่ปลายนิ้ว ไม่ยอมหายไปไหน

ความร้อนนั้นยังคงส่งผ่านจากปลายนิ้วไปยังหน้าอกและ แผดเผาใจของเธอ…

เธอค่อยๆ พยักหน้า เมื่อกล่าวลาซึ่งเหวย แล้วเธอก็เดิน

ออกไป

ซึ่งเหวย ยังคงจ้องมองเซี่ยซิงเฉินไม่วางตา

ผู้หญิงคนนี้เป็นแค่คนรับใช้จริงๆ เหรอ? ทำไมเธอถึงรู้สึก ว่าท่านประธานาธิบดีดูจะเป็นห่วงเป็นใยผู้หญิงคนนี้เป็น

พิเศษ?

เซี่ยซิงเฉินเดินออกมาจากห้องรับรองแขก ใจเต้น

‘ตูมตาม’ สับสน

เธอจ้องมองแผลบนมืออยู่พักใหญ่ พลันรู้สึกแผลนั้นหาย

เจ็บไปโดยทราบสาเหตุ

แต่…
การที่ท่านประธานาธิบดีดูแผลของเธอต่อหน้าว่าที่ภรรยา เมื่อครู่นั้นคือความห่วงใยเหรอ?

ครูต่อมา เธอก็เบะปากด้วยความเคอะเขินพลางรู้สึกคิด

เข้าข้างตัวเอง

เขาจะมาห่วงใยตัวเธอทำไมกัน? คงเป็นเพราะความรัก สะอาดของเขามากกว่า! นิ้วมือของเธอเปื้อนเลือด ขึ้นให้แกะ กระดองปูต่อไป เขาคงทานไม่ลงแน่ๆ

เซี่ยซิงเฉินรู้สึกว่าเหตุผลนี้ถึงจะฟังดูพอไปวัดไปวาได้

“คุณเซีย มือเป็นแผลเหรอครับ?” เหลิงเฟยตาไว เขามอง เห็นแผลที่นิ้วมือของเธอ

“อ้อ ไม่เป็นไร” เธอยิ้มพลางส่ายหน้า

พ่อบ้านผายมือและพูดอย่างสุภาพว่า “ตามผมมาทางนี้ ครับคุณเซีย ให้คุณหมอช่วยจัดการแผลของคุณ”

เซียซิงเฉินพยักหน้าและเดินไป พลางพูดกับพ่อบ้านว่า

“คุณส่งคนอื่นเข้าไปคอยรับใช้เถอะ ฉันซุ่มซ่ามเลยทำได้ไม่ ค่อยดีนัก”

“ทำให้คุณลำบากจริงๆ”

“ลำบากอะไรกัน! คนหนึ่งเป็นประธานาธิบดีของพวกเรา อีกคนก็เป็นว่าที่ภรรยาของประธานาธิบดี ขอแค่ได้ช่วย ฉันว่า ก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว

พ่อบ้านยิ้มและมองเธออยู่พักใหญ่ เขาพูดด้วยความปลื้มใจว่า “ถ้าคุณคิดได้แบบนี้ก็ดีแล้วครับ เป็นการพิสูจน์ได้ว่าท่าน ตาแหลมมาก ท่านเลือกคนไม่ผิดจริงๆ

เธอเข้าใจความหมายของพ่อบ้าน เธอยิ้มอ่อนๆ “วางใจ เถอะ ฉันคงไม่อ้างเรื่องลูกมาทำเรื่องไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง คิดว่าตัว เองจะเป็นอะไรกับเขาได้ ฉันรู้ดีว่าเราสองคนแตกต่างกันมาก

“ขอโทษด้วยครับคุณเซีย อย่าถือสาที่ผมพูดมากไปเลย

ผมเองก็ทําเพื่อคุณ”

เซียซิงเฉินไม่พูดอะไรต่อ เธอรู้ว่าพ่อบ้านพูดถูก เธอควร สงบจิตสงบใจ ไม่ควรไปหวังอะไรลมๆ แล้งๆ

ตลอดบ่าย เซียซิงเฉินเอาแต่อยู่ข้างบนและไม่ได้ลงมา ข้างล่างอีก เธอยืนอยู่ที่หน้าต่างชั้นบนซึ่งสามารถมองเห็นไป แย่งคอยอยู่เป็นเพื่อนซึ่งเหวยอีตลอดเวลา

เขาพาเธอไปชมสวนรอบๆ ทำเนียบก่อน แล้วค่อยพาเธอ ไปที่ไร่ไวน์ จากนั้นจึงพาเธอไปตีกอล์ฟที่สนามกอล์ฟ

ทั้งสองคนดูเข้ากันได้ดีมาก ถึงแม้จะทำได้แค่มองจาก ไกลๆ แต่เธอก็รู้สึกว่านั่นเป็นภาพที่สวยงามมาก

เซี่ยซิงเฉินมองดูแล้วมองดูอีก ในใจพลันรู้สึกเศร้าขึ้นมา เล็กน้อย ต่อไปบ้านหลังนี้ก็จะมีแม่เลี้ยงแล้ว ถ้าไปจะรู้สึก น้อยใจไหม? ส่วนตัวเธอ…ก็ต้องย้ายออกไป

พอไปเย่นิ่งส่งคุณส่งกลับไปหลังทานอาหารเย็น ไม่นานคนขับรถพาต้าไปกลับมา

เซี่ยต้าเดินผ่านประตูเข้ามาด้วยอะไรไม่เขาแต่ตัวเองในห้องนอน ไม่ยอม ออกมา

เซียซิงเฉินเองก็จนปัญญา เธอแต่ปล่อยเขาอย่างกำลังเป่าผมหลังจากอาบเสร็จได้ไม่นาน ก็คนมาเคาะ ประตูห้องสองครั้ง

เงยหน้าเธอก็เห็นไปเยฉิงยืนที่ประตู เธอรีบ ปิดไดร์เป่าและยืนขึ้น ท่านประธานาธิบดี

แล้วค่ะ ค่อนข้างดื้อ ใครปลอบอย่างไรไม่ได้

ไปเฉิงขมวดคิ้วพลางมองไปเธอ เซี่ยซิงเฉินน้อยใจ เธอเบะปาก ฉันได้เท่าเขานะ เซี่ยซิงเฉินอึ้งไปชั่วขณะ เห็นว่าคน

ไป๋เฉิงจ้องมองเธอ “ดื้อไม่ไว้รออีกที แต่นี่แน่นอน

เขาได้

ออกมาไปเขาด้วยกันเย่นิ่งพูด

“ไปเดี๋ยวแหละค่ะ” ของเธอยังคงเวลาคงทำอะไรมากได้ เธอทำได้นั่งผมให้เข้าเข้าทางอยู่ตรงหน้ากระจกเท่านั้น

ไปเย่งยืนรออยู่ที่ประตู สายตาหยุดนิ่งจับจ้องไปที่เรือน ร่างของเธอโดยไม่รู้ตัว

ชุดนอนที่เธอใส่ค่อนข้างมิดชิด กระโปรงทำจากไหมแท้ ลายดอกไม้ยาวคลุมเข่า ดูเป็นผู้หญิงสมถะเรียบง่าย

ขาที่โผล่ออกมาทั้งสองข้างขาวผุดผาดราวหิมะชวนให้อ้า ปากค้าง ปลายผมที่เปียกชุ่มเล็กน้อยสยายไปบนไหล่ ทำให้ เธอดูสดใสแต่เร้าอารมณ์

ไปเฉิงจ้องมองลึกลงไป ดวงตาร้อนผ่าวขึ้น

เซี่ยซิงเฉินลุกขึ้นและหันหน้ามาพอดี

ยังไม่ทันที่เขาจะได้ละสายตา ดวงตาของทั้งคู่ประสานกัน ความร้อนที่แผ่ปกคลุมในดวงตาของเขายังคงไม่หายไป เธอ ตกใจจนหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ใบหน้าพลันแดง

“ฉัน…มีอะไรแปลกเหรอคะ?” เธอถามด้วยความกังวล

“ไม่มี” เขาส่ายหน้า ถึงตอนนี้สายตาของเขาก็ค่อยๆ กลับ ไปสงบเสงี่ยมเหมือนเดิม เขาพูดขึ้นมาว่า “มือเป็นไงบ้าง?

“จัดการเรียบร้อยแล้วค่ะ หายเจ็บตั้งนานแล้ว

“อั้ม” เขาพยักหน้า

เซี่ยซิงเฉินก้าวออกมาจากห้องและเดินอยู่ทางขวามือของเขา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ