สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 293 ความรู้สึกรัก (1)



ตอนที่ 293 ความรู้สึกรัก (1)

เธอมองเขาอย่างเอาใจ “คุณอย่าโกรธสิคะ เมื่อก่อนตอนที่ฉัน ท้องผ้าไป เลี้ยงต้าไปคนเดียวก็มีเว่ยยังอยู่เป็นเพื่อนตลอด ถ้า ไม่มีเธอ ก็ไม่รู้ว่าชีวิตฉันจะลำบากมากแค่ไหน

“ผมรู้” ไปเย่นิ่งสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่เพื่อปรับจังหวะ การหายใจของตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง เมื่ออารมณ์เริ่มคงที่ก็พูดต่อ “ทางอี้เฉินผมจะถามอีกที ถ้าเขาแต่งงานแล้วจริงๆ ก็ให้เพื่อน คุณตัด ใจเถอะ”

เซี่ยซิงเฉินเอือมระอา หากจะให้ตัดใจได้อย่างใจนึก ความสัมพันธ์นี้คงไม่มีทางยืดยาวมาถึงสิบปีได้หรอก

รถยนต์ขับเคลื่อนมาจนถึงเขตบ้านเช่า

ยังดีที่ในวันอากาศหนาวเย็นแบบนี้ไม่มีคนเดินพลุกพล่าน มากนัก ต่อให้ขบวนรถแบบนี้ปรากฏในชุมชนก็ไม่ค่อยมีคน เห็น

เซี่ยซิงเฉินไม่กล้าชักช้า หลังเอ่ยลาเธอก็รีบวิ่งลงจากรถ

ทันที

ไปเย่นิ่งมองไปยังกระจกหลัง คอยดูเธอวิ่งเข้าไปในที่พัก

เห็นเธอหันกลับมาโบกมือให้เขาท่ามกลางลมหนาว หมุนตัววิ่งเข้าไปจนลับสายตา เขาถึงค่อยๆ ถอนสายตาจากกระจกแล้ว ให้คนขับรถขับต่อไป เห็นได้ชัดว่าคืนนี้เธอมีคนอยู่เป็นเพื่อนแต่เขากลับต้อง

หลับใหลไปอย่างโดดเดี่ยว

เซี่ยซิงเฉินเคาะประตูอยู่พักหนึ่งฉือเว่ยยังถึงเปิดประตู พอ เข้าไปด้านในเธอก็ตกใจจากสภาพและเกลื่อนกลาดตรงหน้า

ของบนพื้นกระจายไม่เป็นที่เป็นทาง

ทั้งรูปภาพ หนังสือ กระดาษตกอยู่เต็มพื้น มุมห้องยังมี ขวดเหล้าเปล่า

“เธอทำอะไรเนี่ย? พังบ้านเหรอ?”

ฉือเว่ยยังสวมชุดนอนตัวหนา นั่งลงบนพื้นด้วยสภาพดูไม่ ดี ราวกับไม่รู้จักความหนาวเย็น

“เธออย่านั่งบนพื้นสิ มันไม่ดีต่อร่างกายนะ” เซียซิงเฉิน เสียแรงไปมากกว่าจะฉุดเธอให้ลุกขึ้นจากพื้นได้

เธอดื่มไปไม่น้อยเลยเพราะกลิ่นแอลกอฮอล์ลอยคลุ้งอยู่ เต็มตัว เธออ้าแขนออกกว้างกอดเซียซิงเฉินไว้ ราวกับเจออ้อม กอดที่สามารถระบายได้เสียที ไม่ปริปากพูดอะไรน้ำตาก็ไหล พรั่งพรูลงมา ของเหลวเย็นเฉียบนั่นไหลอาบใบหน้าเธอ เซีย ซิงเฉินเห็นก็ปวดใจไม่น้อย
“เมื่อเขาโทรหาฉัน…

ฉือเว่ยยังพูดเสียง น้ำเสียงแหบแห้งและสั่นเครือ แค่ ฟังเสียงก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดปานใจจะขาดนั้นได้

“พูดอะไร?” เซียซิงเฉินซึ่งถามก่อนด้วยเสียงที่เบาหวิว และระมัดระวัง คล้ายว่าดังไปนิดก็จะทำให้เธอยิ่งเสียใจ

บางเรื่องพูดออกมาคงจะสบายใจกว่า

“เขาขอโทษฉัน…บอกขอโทษฉัน…” ริมฝีปากฉือเว่ยยัง สั่นระริก “ซิงเฉิน รักแรกของฉัน…จบลงแล้ว….จบแล้วจริงๆ…

เธอยิ่งพูดเสียงก็ยิ่งเบา โดยเฉพาะตอนท้ายที่เสียงเบา ราวกับแค่มีลมพัดก็จะสลายหายไป ความรักที่มีต่อคนคนหนึ่งมากและรักมาตลอดสิบกว่าปี

แล้วทั้งชีวิตของคนคนหนึ่งจะมีอีกสักกี่สิบปี

เวลาเช่นนี้หากให้ถอนตัว เกรงว่าจะทำให้เธอเจ็บปวดยิ่ง กว่าควักหัวใจเธอเสียอีก

เซี่ยซิงเฉินอ้าปากกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่พอขยับ ปากแล้วกลับเห็นว่าทุกคำปลอบโยนติดอยู่ตรงปาก ในยาม เจ็บปวดที่สุด คำพูดที่มากไปมักจะเป็นการสูญเปล่า

ฉือเว่ยยังอาจเมามากไป หรือเพราะเธอเหนื่อยล้าเกินไป จนไม่สามารถเปล่งคำพูดประโยคสุดท้ายออกมาได้ เซี่ยซิงเฉินวางเธอไว้บนเตียง เธอนอนอยู่ตรงนั้นแล้วขอตัว กอดหมอนให้แน่นขึ้นเหมือนกำลังจับฟางช่วยชีวิตเส้น สุดท้ายไว้

ดวงตาปิดแน่นแต่น้ำตาตรงหางตากลับไม่เคยเหือดแห้ง

เซี่ยซิงเฉินถอนหายใจ ปิดประตูเบาๆ

เก็บขวดเหล้าบนพื้นขึ้นทีละขวดๆ แล้วโยนลงถังขยะ ภาพถ่ายบนพื้นถูกเธอใช้กรรไกรตัดแยกเป็นชิ้นๆ ยังพอดูออก ว่าเป็นภาพถ่ายตอนเด็กของเธอกับเฉิน

บนพื้นยังมีสมุดไดอารี่ที่ถูกเธอทำลายทิ้ง

เซี่ยซิงเฉินรู้ว่าสมุดเล่มนี้สำคัญต่อเธอมากเพียงใด นั่น เป็นสมุดไดอารี่ของฟูอี้เฉิน

พวกเขา ในตอนนั้นแอบแลกเปลี่ยนไดอารี่กัน เหมือน

กำลังสารภาพกันและกันแต่ก็อ้อมค้อมกว่าจดหมายบอกรักอยู่

มากโข

หลังจากนั้นจู่ๆ เฉินก็หายไป ไดอารี่ของทั้งคู่จึงไม่ได้ แลกกลับ คือเว่ยยังคอยเก็บไดอารี่ของเขาไว้อย่างดี รักษา เหมือนของรักของหวงไว้มาหลายปี บางเวลาก็มักหยิบขึ้นมา อ่าน ทุกประโยคในนั้นสงสัยเธอคงท่องจำได้หมดแล้ว ส่วนตอนนี้…

ก็ถูกฉีกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเหมือนหัวใจของเธอ เซี่ยซิงเฉินถอนหายใจ ค่อยๆ เก็บให้เธอทีละนิดๆ ไม่กล้าโยนทิ้งถังขยะ สิ่งเหล่านี้ต่อให้แตกละเอียดแต่ก็เป็นของ รักของหวงของเธอ เธอเก็บขึ้นมาไม่ละเว้นแม้แต่ชิ้นเดียวพลาง เก็บไว้ที่เดิมให้เธอ

หลังทำความสะอาดเสร็จ เซี่ยซิงเฉินคลานขึ้นเตียงของ ฉือเว่ยยัง นอนซิดหลังเธอแล้ว โอบกอดเธอไว้แน่น

ฉือเว่ยยังไม่ได้หลับ พร้อมยื่นมือวางซ้อนมือของเธอไว้

เย็นยะเยือกไร้ความอบอุ่น

“ซิงเฉิน…” จู่ๆ เธอก็เอ่ยปากเรียก เสียงเบาหวิวราวกับ พร้อมจะเหือดหายไปได้เสมอ

“อืม ว่าไง” เธอแทบตอบกลับในทันที

มือของฉือเว่ยยังกระชับมือเธอแน่นขึ้น “รักที่ไม่สมหวัง มันเจ็บมากจริงๆ ฉะนั้น เธอกับท่านประธานาธิบดีต้องรักกัน มากๆ นะ…”

เธอเจ็บปวดมากถึงเพียงนี้ ก็เลยไม่อยากเห็นคนรอบข้าง เธอเป็นเหมือนกับเธอ

เซี่ยซิงเฉินเข้าใจดี แนบหน้าติดแผ่นหลังเธอ “ได้ ฉันจะ รักษามันให้ดี…”

เพราะฉะนั้นแล้ว….

ต่อให้ระหว่างพวกเธอจะมีสถานะที่แตกต่างกันและคอย สร้างระยะห่างให้พวกเขาไว้มาก เธอก็จะพยายามเข้าใกล้เขา ครั้งนี้ได้จับมือเขาแล้วก็จะไม่มีวันปล่อยมันอีก นอกจากเขาเอ่ยปากเองว่าไม่ต้องการเธออีกต่อไป…

คืนนั้นเซียซิงเฉินกอดฉือเว่ยยังหลับไปตลอดคืน และเธอ ฝัน

ในฝันฟูเฉินบอกเลิกเว่ยยัง เวยยังนั่งร้องไห้โฮบนพื้น

แต่ไม่รู้เหตุใดคนที่ร้องไห้กลับกลายเป็นตัวเอง

เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ผู้ชายที่บอกเลิกตัวเองอย่างเลือดเย็น เมื่อครู่กลับกลายเป็นไปเย่นิ่ง

เขายืนอยู่ท่ามกลางลมหนาว และมองเธออย่างเจ็บปวด ปนเด็ดขาด “ซิงเฉิน เราอยู่ด้วยกันไม่ได้ เราอยู่ด้วยกันไม่ได้ ฉะนั้นเราเลิกกันเถอะ…

เสียงนั้นเหมือนความจริงจนคล้ายกำลังดังขึ้นข้างหูตัวเอง ไร้ความปรานีดุจปลายมีดดาบอันแหลมคมที่ค่อยๆ ทุ่มแทง หัวใจเธอทีละนิดๆ

“ไม่! ไม่นะ!”

เซี่ยซิงเฉินละเมอเสียงเบา เพียงรู้สึกว่าหน้าอกบีบรัด อย่างรุนแรง เธอกุมหน้าอกไว้แล้วผุดลุกขึ้นนั่งในทันที

สายตามองเห็นภาพอันแสนคุ้นเคยตรงหน้าก็เริ่มมีสติ

ฝัน…

เป็นแค่ฝัน…

แต่ทุกคำพูดในฝันนั้นดูสมจริงเหลือเกิน…
สมจริงจนเหมือนจะเกิดขึ้นจริงๆ

เธอกุมหน้าผากไว้แล้วหัวเราะอย่างขมขื่น คงจะตกใจจาก สภาพของเว่ยยังตั้งแต่เมื่อคืน อีกทั้ง เพราะเธอเริ่มสนใจเขา มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วสินะ

ยิ่งสนใจก็ยิ่งกลัวว่าจะเสียไป…

เซี่ยซิงเฉินสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อระงับ อารมณ์ให้คงที่ ค่อยชำเลืองมองหญิงสาวข้างกายแวบหนึ่ง เมื่อคืนเธอนอนดึกมาก ในที่สุดตอนนี้ก็เริ่มสงบแล้วเซียซิงเฉิน จึงไม่อยากรบกวนเธอ

หยิบโทรศัพท์มือถือดูเวลา เพิ่งเจ็ดโมงเช้า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ