สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 303 ความจริงที่น่าตกใจ (3)



ตอนที่ 303 ความจริงที่น่าตกใจ (3)

นี่มันเหมือนสวรรค์กำลังกลั่นแกล้งชัดๆ! ถ้าเป็นอย่างนี้จริง แล้วคุณชายเล็กล่ะ?

ลูกพี่ลูกน้องเริงรักกันจนมีลูกนอกสมรสด้วยกัน

ยามที่คำว่า “เริงรัก กับคำว่า “ลูกนอกสมรส ผุดออกมา ในหัวของเหลิงเฟย ทำให้เขาเองก็ตกใจไปด้วย ถ้าเป็นเช่นนี้ จริงคุณชายเล็กก็น่าสงสารเกินไปแล้ว! แล้วถ้าหากความจริง ถูกเปิดโปง เด็กน้อยที่บริสุทธิ์จะต้องได้รับคำวิจารณ์และถูก ทําร้ายมากแค่ไหน?

แทบไม่อยากคาดคิด

สถานะของท่านประธานาธิบดีกับคุณเซียเดิมทีก็ถึงจน ยากจะคบกันอยู่แล้ว แต่ถ้ากลายเป็นสถานะแบบนี้อีกก็ไม่ใช่ แค่ยากที่จะคบกัน แต่ไม่มีทางคบกันได้ต่างหาก!

ญาติที่ใกล้ชิดสนิทกันไม่สามารถแต่งงานกันได้ รวมทั้ง สถานะที่แสนพิเศษของท่านประธานาธิบดี

เหลิงเฟยทำท่าหนักใจ สุดท้ายก็โทรกลับไปยังประเทศ บ้านเกิดเพื่อให้ทางภายในตรวจสอบใหม่อีกครั้ง
เดิมทีไปเย่งบอกว่าจะกลับมาหลังหมดสัปดาห์ แต่จนถึง วันศุกร์ของสัปดาห์ที่สองแล้วเขาก็ยังไม่กลับมา

บินไปยังประเทศเพื่อนบ้านของประเทศ M โดยตรง

ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ของเซียซิงเฉินในตอนนี้จะพาลูก กลับเมืองเหลียง กลางดึกเธอนอนไม่หลับก็นั่งอยู่ตรงลานบ้าน หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจ้องมอง ไร้ปฏิกิริยาใดๆ จากนั้น ค่อยเก็บใส่กระเป๋าอย่างเดิม

เขาไปสิบวันถ้วนแล้ว

แต่ว่าหลายวันนี้เขาแทบไม่ได้ติดต่อกลับมาเลย เพราะ เวลาที่ต่างกันรวมถึงเธอรู้ดีว่าเขาคงยุ่งมาก ฉะนั้นจึงได้แต่รอ ให้ฝังเขาตกดึกแล้วค่อยโทรหาเขา

แต่ทั้งคู่มักจะคุยได้ไม่ถึงสองประโยค ท่าทีของเขาแปลก ไป คล้ายเย็นชาแต่ก็ไม่ใช่ หลายครั้งที่เธอโทรไปแต่เขากลับ ไม่รับสาย

ไม่ว่าอย่างไรหลายวันนี้เขาหายเงียบไปไม่โทรหาตน

แม้แต่สายเดียว เซี่ยซิงเฉินกำลังคิดว่าเป็นเพราะวันนั้นที่ตนบอกว่าไม่

คิดถึงเขาในสายหรือเปล่า เขาเลยโกรธเข้าจริงๆ เขาเป็นคนชอบงอนจริงๆ แต่ก็ไม่ควรโกรธนานขนาดนี้

เพียงเพราะเรื่องเล็กน้อย โกรธจนไม่ยอมรับสายของเธอ เธอถอนหายใจ พลางเงยหน้ามองดวงดาวบนท้องฟ้าด้วยอารมณ์ที่มัวหมอง เธอคิดว่าตนอาจคิดมากเกินไปแล้ว!

แต่ว่า…

เขาจะกลับมาเมื่อไรกันแน่?

“ทำไมยังไม่นอนล่ะ?” เงินหมื่นเดินออกมาจากห้องพร้อม ผ้าคลุม “รีบไปนอนเถอะ เที่ยงคืนแล้ว นั่งอยู่ข้างนอกระวังเป็น

เธอหลุดจากภวังค์แล้วลุกขึ้นยืน “ลูกจะไปนอนเดี๋ยวนี้ แหละ แม่ก็รีบนอนเถอะ

เงินหมิ่นหยักหน้ารับ คอยมองเธอเดินเข้าไปในห้อง เงิน หมิ่นถึงย้อนกลับไปปิดไฟ

เซียต้าไปนอนหลับสนิทอยู่บนฟูกนอนเรียบร้อย มีผ้านวม ผืนหนาห่มตัวอยู่ อาจเป็นเพราะอากาศที่ร้อนเล็กน้อยเลย ทำให้บนหน้าผากเขาขึ้นด้วยเหงื่อบางๆ ใบหน้าเล็กที่ขาวนิ่ม นั้นก็เริ่มแดงระเรื่อ

เชียซิงเฉินไปหยิบผ้าขนหนูแห้งในห้องอาบน้ำออกมาแล้ว อุ้มเขาออกจากกองผ้านวม เซียต้าไปครางเสียงงัวเงียแต่ก็ไม่ ตื่น เธอช่วยเขาถอดเสื้อไหมพรมออก แล้วใช้ผ้าขนหนูนั้นเช็ด เหงื่อบนแผ่นหลังของเขาจากนั้นจึงค่อยปล่อยให้เขากลับไปซุก นอนในผ้านวมเช่นเดิม

เธอจ้องเจ้าตัวเล็กที่น่ารักจนเผลอเหม่อลอย ในใจเต็ม

ไปด้วยความรักใคร่ นิ้วมือลูบไล้ใบหน้าเล็กของเขาโดยไม่รู้ตัว เจ้าตัวเล็ก ยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนพ่อของเขา

องค์ประกอบบนใบหน้าสามารถเห็นความคล้ายคลึงอยู่ บางส่วนได้

นึกถึงผู้ชายคนนั้นเซียซิงเฉินก็ใจห่อเหี่ยวขึ้นมา ความ รู้สึกแบบนี้ไม่ดีเลย สุดท้ายเธอก็สายศีรษะหักห้ามตัวเองไม่ให้ คิดต่อ ปิดไฟแล้วกอดเซียต้าไปเพื่อข่มตาให้หลับ

ไม่รู้นอนไปนานเท่าไร ขณะที่เธอกำลังเคลิ้มใกล้หลับ โทรศัพท์ที่วางไว้ข้างๆ จู่ๆ ก็สั่นขึ้นมา

เธอสะดุ้งตกใจด้วยท่าทีสะลึมสะลือแถมยังกึ่งหลับกึ่งตื่น มือลูบคลำไปข้างๆ เมื่อจับโดนโทรศัพท์มือถือเห็นบนหน้าจอที่ แสดงชื่อว่า ‘เสี่ยวไป์’ ก็ตื่นทันที จนนิ่งค้างไปชั่วครู่

ไม่รู้เพราะเหตุใดจึงเกิดความรู้สึกน้อยใจ ท้ายที่สุดตนก็ ไม่อาจใจกว้างขนาดนั้น และยังโกรธอยู่

เธอสูดจมูกเปลี่ยนโทรศัพท์เป็นระบบสั่นแล้วโยนไว้ข้างๆ กะจะไม่สนใจเพื่อพยายามบังคับให้ตัวเองหลับ แต่ไม่ว่า อย่างไรก็หลับไม่ลง

หลังห้านาทีก็คว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาใหม่ กลายเป็นว่า มีสายที่ไม่รับสามสาย เธอแอบตกใจอยู่เล็กน้อย

นิสัยเขาเป็นอย่างไรเธอรู้ดี เย่อหยิ่งขนาดนั้นแถมยังปาก

แข็ง เรื่องตามซื้อแบบนี้เขาไม่มีทางทำแน่ๆ ฉะนั้นแล้ว โดยสถานการณ์ปกติไม่มีทางเกิดเรื่องที่ว่าโทรตามติดๆ กันหลาย สายแบบนี้แน่นอน

เริ่มตื่นเต้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เธอกำลังจะโทรกลับแต่ สุดท้ายก็เกิดเสียงเรียกเข้า ครั้งนี้เธอไม่รีรออะไร กดรับสาย แล้วแนบโทรศัพท์ไว้ข้างหู

“นอนแล้วเหรอ?” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังออกว่าเหนื่อย ล้าอยู่บ้าง

“อืม” เซียซิงเฉินได้แต่แสร้งทำเสียงเหมือนเพิ่งตื่น พร้อมกับหาวหวอดอย่างเกียจคร้านไปที หากให้เขารู้ว่าตน จงใจไม่รับสายของเขา เกรงว่าจะถูกโกรธเข้าอีกครั้ง

“ออกมาเปิดประตูให้ผม

“อะไรนะคะ?” เซี่ยซิงเฉินรู้สึกว่าตนคงฟังผิดไป

“เปิดประตู

เขาพูดสั้นๆ สามพยางค์ ไม่รอให้เซียซิงเฉินได้พูดอะไรก็

ชิงตัดสายเสียก่อน

เธอถือ โทรศัพท์นอนอยู่ในผ้านวม พักใหญ่กว่าจะเรียก สติกลับมาได้ คำพูดของเขา…หมายความว่าอย่างไร? เปิด ประตู? เขากลับมาแล้ว?

แต่ตอนนี้เธออยู่เมืองเหลียงนะ! ไม่ใช่เขาคิดว่าเธออยู่ที่ห้องเช่าเล็กๆ นั่นหรอกนะ?
มีคำถามมากมายผุดขึ้นในหัวเซียซิงเฉิน แต่ร่างกายไม่ ได้ชักช้าใดๆ รีบยันตัวออกจากกองผ้านวมแล้วเดินย่องออก ไปด้วยชุดนอนลายโดราเอม่อน

ความจริงเธอกำลังคิดว่าเขาคงเข้าใจผิดไป วิ่งไปเปิด ประตูเหล็ก ค่ำคืนท่ามกลางฤดูหนาวที่หนาวจนแทงเข้ากระดูก

ไม่ได้ตั้งความหวังใดๆ สุดท้ายเมื่อประตูสำรองเล็กๆ ถูก เปิดออก เธอก็ยืนนิ่งค้างไว้ตรงนั้น

นอกประตูมีรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่ ภายในรถไม่ได้เปิด ไฟ มีเพียงแสงจันทร์แสนอ้างว้างที่สาดส่องลงมา

เขานั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับแล้วสูบบุหรี่ ไฟตรงปลายบุหรี่ที่ กะพริบถี่อยู่ท่ามกลางความมืดภายในรถ เผยให้เห็นใบหน้า คมของเขา

ไม่รู้ว่าเพราะรอนานเกินไปหรือเปล่าถึงทำให้เขาดูอารมณ์ ไม่ดีเท่าไร เขาขบกรามไว้แน่นยิ่งขับให้ใบหน้าดูคมมากขึ้น

สายตาของเขาประสานเข้ากับเธอ ขณะที่เซี่ยซิงเฉินยืน เหม่อก็เห็นเขาดับไฟบุหรี่ไปเสียแล้ว โบกมืออยู่ภายในรถเป็น เชิงเรียกให้เธอเปิดประตูใหญ่

เธอได้สติกลับมาก็รีบไปเปิดประตู เขาจึงขับรถเข้าไปจอด ที่ลานบ้านทันที

เซี่ยซิงเฉินยังคิดอยู่ว่าคนคนนี้กลับมาตั้งแต่เมื่อไร แล้ว ทำไมถึงขับรถมาที่เมืองเหลียงเพียงลำพัง แล้วก็ไม่ใช่ไม่รับสายเธอเหรอ ทำไมตอนนี้ถึงได้มาหาตนถึงที่นี่?

เมื่อนึกถึงท่าที่เย็นชาของเขาหลายวันที่ผ่านมา เซียซิงเฉิ

นก็อดรู้สึกน้อยใจไม่ได้จนเริ่มปวดใจ หลังเธอเปิดประตูก็ยืน รอเขาลงมาจากรถเงียบๆ

ไปเฉิงที่อยู่ในรถหันมาเขม่นมองเธอแวบหนึ่ง ค่อยๆ ลงจากรถ

กวาดตามองเธอจากบนลงล่างที่หนึ่ง แล้วถาม “ทำไมแต่งตัวแบบนี้?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ