สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 252 ความรักที่แท้จริง (2)



ตอนที่ 252 ความรักที่แท้จริง (2)

เซียซึ่งเป็นเงยหน้าอย่างสงสัย “มีเรื่องอะไรเหรอคะ?”

“ไปแล้วเดี๋ยวคุณก็รู้เอง อย่ามัวแต่เสียเวลา รีบไปเถอะ หัวหน้าฝ่ายหูพูดจบประโยคก็รีบก้าวเท้าเดินไปทันที ทุกคน ท่าทางยุ่งน่าดู

อยู่ในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบนี้ เซี่ยซิงเฉินย่อมไม่ กล้าชักช้า จัดชุดให้เข้าที่เล็กน้อย เท้าเดินไปทางลิฟต์อย่าง เร่งรีบ กดเลขชั้นบนสุด

ยังดีที่เคยมาที่นี่ก่อน ฉะนั้นเซียซิงเฉินก็หาทางเจอได้ไม่

ยาก

เธอเดินไปทางห้องทำงานของเหลิงเฟย รอบข้างต่างก็มี พนักงานคนอื่นเดินกันขวักไขว่ แม้จะไม่รู้จักกันแต่ทุกคนต่าง ก้มหัวทักทายกันเล็กน้อย ทั้งง่ายและไม่เสียมารยาท

เซี่ยซิงเฉินเดินมาถึงด้านนอกห้องทำงานของเหลิงเฟย

ยกมือกำลังจะเคาะประตู ก็ได้ยินเสียงคนเอ่ยทักอย่าง นอบน้อม “ท่านประธานาธิบดี

ตัวเธอเกร็งขึ้นเล็กน้อย

เผลอเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นไปเย่งกำลังออกจากห้อง ประชุม พวกเหลิงเฟยก็ตามอยู่ด้านหลัง พนักงานทุกคนวางงานในมือลงพร้อมกับโค้งตัวทำความเคารพ

เขาปลดกระดุมชุดสูทไปพลางพูดเสียงเบากับคนข้างๆ ไปพลาง คล้ายรู้สึกถึงบางอย่างจึงเงยหน้าขึ้น จู่ๆ สายตาก มองมาทางเซียซิงเฉิน

แววตาเย็นยะเยือกปนสงสัย

เธอเผลอหายใจติดขัด มือที่วางข้างล่าตัวก็เริ่มวางตัวไม่ ถูก รีบโค้งตัวตามคนอื่นทันที

สายตาของเขาคล้ายไม่ได้สั่นไหวอะไร ไม่ได้จดจ่อที่ตัว

เธอนานเท่าใดนัก จากนั้นก็เดินเข้าห้องทำงาน

เชียซิงเฉินไม่ได้เงยหน้ามองเขา จนกระทั่งเสียงฝีเท้าของ เขาเลือนหายไป ถึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้น

“คุณเซีย” เหลิงเฟยยืนอยู่ตรงหน้าเธอ

“หัวหน้าฝ่ายหูบอกว่าคุณให้ฉันขึ้นมา มีเรื่องอะไรหรือ เปล่าคะ?”

“เข้าไปคุยข้างในเถอะ” เหลิงเฟยเปิดประตู สั่งให้เลขา ชงชาเข้ามา เซียซิงเฉินเดินตามเหลิงเฟยเข้าไป ทั้งสองนั่งลง ตรงข้ามกันบนโซฟา

เหลิ่งเฟยส่งการ์ดเชิญหนึ่งให้เธอ เซี่ยซิงเฉินเปิดมาดูแวบ หนึ่ง “นี่คือ?”

“คืนนี้ท่านประธานาธิบดีต้องการล่าม ฉะนั้นคืนนี้ให้คุณไปกับท่านนะครับ

เซี่ยซิงเฉินคิดไม่ถึงเลยสักนิด ก่อนหน้านี้ยังคิดว่าตัวเอง อยู่ในช่วงฝึกงานคงไม่ได้ทำงานร่วมกับเขา เหลิงเฟยเห็นว่า เธอไม่ตอบโต้ จึงถาม “คุณเซีย มีข้อขัดข้องอะไรหรือเปล่า คะ?”

“ไม่มีอยู่แล้วค่ะ” ได้สติ เธอก็สายศีรษะ มาที่นี่เพื่อเป็น ล่ามประจำของเขา เธอจะมีข้อขัดข้องอะไรได้ล่ะ? ต่อให้มีก ห้ามแสดงออกมาในเวลางาน

“จะผ่านช่วงฝึกงานไปได้หรือไม่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับท่าน ฉะนั้นหวังว่าคุณเซียจะพยายามทำให้ท่านเก็บคุณไว้” เห ลิ่งเฟยพูดเป็นกำลังใจให้เธอ ในที่สุดตอนนี้เขาก็คิดได้ว่าทั้งที่ สามารถปฏิเสธกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมตามคำขอของ สถานทูตประเทศ Y ได้แท้ๆ ท่านประธานาธิบดีกลับเปลี่ยนใจ กะทันหันเสียอย่างนั้น เห็นทีทางสถานทูตก็ต้องขอบคุณคุณ ล่ามเชี่ยคนนี้ดีๆ แล้วล่ะ

เซี่ยซิงเฉินย่อมไม่รู้เรื่องเหล่านี้ ทำเพียงแค่ยิ้มบางเบา “ขอบคุณค่ะ ฉันจะพยายามให้เต็มที่

กลับมายังชั้นหกอีกครั้ง เซี่ยซิงเฉินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง เปิดโน้ตบุ๊คเพื่อเตรียมข้อมูล รู้สึกกดดันอยู่ไม่น้อย

กิจกรรมแปลกเปลี่ยนวัฒนธรรมตอนหนึ่งทุ่ม เธอเลิกงานยังไม่ทันกลับสำนักงานก่อน สวี่เหยียนมาเพื่อนเธอ “คุณยังไม่ห้องอาหารไปยังไงนะ? ผมจะคุณไปเอง

ความเธอคุ้นเคยกับห้องอาหารนั่นอย่าห้อง อาหารห้ามไม่ได้

นึกตอนอยู่ในห้องอาหาร เขาแอบฉุดของเธอ นึกจูบแสนร้อนแรงของทั้ง

ตอนนั้นในใจเต็มไปความสุขใจ เธอคิดตนแค่ กับปัจจุบันก็พอ ไม่คิดถึงอนาคตอันเลือนรางของคู่ นัก แต่สุดท้าย…ใจกว้างเช่นนั้นได้…

ยิ่งร่วมก็ยิ่งความสนใจเรื่องของฝ่ายมากขึ้น

เมื่อเวลาหกโมงครึ่ง กระเป๋าจากอย่างเร่งรีบ

เมื่อเซี่ยซิงเฉินหน้าประตูพระโล่งอก

รีบไปข้างยืนรอพร้อมพวกรุ่ยกัง ได้ บนกระโปรงทรงเรียวทั้งคู่ให้เห็นนอกร่มผ้า ลมข้างนอกพัดโบกอย่างรุนแรง หนาวจนเธอขา แข็งไปแล้ว

“คุณเซีย มานั่งบนรถสักครู่ไหมครับ?” รุ่ยกังถามเธอ

“ไม่ดีกว่าค่ะ” เซี่ยซิงเฉินเท้ากับที่ไปมา “ไม่เป็นไร ฉัน ทนได้”

รุ่ยยังมองเธอแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไรอีก ยังดีที่อีกสักพัก พวกไปเฉิงก็เดินออกมาแล้ว ทุกคนล้วนยืนตรงโดยทันที เซีย ซิงเฉินก็เช่นกัน

ขณะที่เขาเดินเข้าใกล้ รุ่ยยังก็เปิดประตูรถไว้เรียบร้อย ไปเย่นิ่งไม่แม้แต่จะหันมองเซียซิงเฉินเพียงสักนิด โน้มตัว เข้าไปในรถทันที

เซียซิงเฉินนั่งรถเก๋งคันหลังของเขา

ไม่นานก็มาถึงงาน ลงจากรถ เซียซิงเฉินก็คอยติดตามอยู่ ข้างๆ ไปเยถึงเสมอ คนอื่นพูดอะไร เธอจะโน้มตัวไปด้านข้าง เล็กน้อยเพื่อแปล เธอตั้งใจรักษาระยะห่างกับเขาอยู่ตลอด แต่ ว่า…ก็ยังได้กลิ่นมินต์สดชื่นอันเป็นเอกลักษณ์จากกายเขาได้ ชัดเจน เธอพยายามควบคุมหัวใจให้อยู่นิ่งๆ

ผู้เข้าร่วมงานนั่งลงประจำที่

ภายในงานมีเจ้าหน้าที่นับสิบคน นั่งเป็นแถวยาว ตำแหน่งของไปเย่นิ่งอยู่แถวหน้าสุดตรงกลาง เซี่ยซิงเฉินถือ ปากกาและกระดาษ นั่งอยู่ฝั่งขวาของเขาอย่างเรียบร้อย
ไม่นานการแสดงจากประเทศY ก็เริ่มขึ้น แสงไฟทั้งงาน ดับลง ภายในงานฮือฮาขึ้นมา ทุกคนชมดูอย่างเพลิดเพลิน บางครั้งเอกอัครราชทูตของทางสถานทูตก็เลี้ยวตัวมากระซิบ กับเขาเล็กน้อย ภาษาอังกฤษของไปเย่นิ่งอยู่ในขั้นยอดเยี่ยม ความจริงไม่จำเป็นต้องมีล่ามอย่างเธออยู่ข้างๆ เลยสักนิด เซียซิงเฉินก็อดเบนสายตาไปทางกลางเวทีไม่ได้ จดจ่อกับการ แสดง

“คุณเซีย!”

ทันใดนั้นเองเสียงทุ่มต่ำของชายหนุ่มดังแว่วมาเข้าหู เซีย ชิงเฉินถึงได้สติ สบสายตากับชายหนุ่มที่เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจ ยิ้มแหยเล็กน้อยแล้วทำหน้าจริงจัง “ท่านประธานาธิบดี

รอยยิ้มนั่น ปฏิกิริยานั่น จริงจังมากเหลือเกิน!

ไปเย่นิ่งรู้สึกไม่สบอารมณ์ ส่งสายตาเขม่นมองเธอแวบ หนึ่ง เชียซิงเฉินกลับยังคงรอยยิ้มบางๆ นั่นไว้ “ท่านมีคำสั่ง อะไรคะ?”

รอยยิ้มนั่นเจิดจ้าเป็นอย่างมาก

“ผมไม่ได้ให้คุณมาดูการแสดงนะ!” เสียงของเขามาก เซี่ยซิงเฉินทำตัวไม่ถูกไปชั่วครู่ “ขออภัย ดิฉันจะตั้งใจ ทํางานค่ะ”

เขาเอียงตัวไปด้านหลังเล็กน้อย ออกคำสั่ง “แปล”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ