สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 262 ความรักที่แท้จริง (12)



ตอนที่ 262 ความรักที่แท้จริง (12)

เซี่ยซิงเฉินทำราวกับไม่ได้ยินคำปฏิเสธของเขา เทน้ำบะหมี่ สำเร็จรูปใส่ถังขยะทันทีตามด้วยเส้นบะหมี่ หันกลับมาเห็น สีหน้าไม่พอใจของเขามองตนอยู่ เธอพูดตามตรง “ปกติคุณ ห้ามตาไปกินอาหารขยะไม่ใช่เหรอ? อันนี้ก็คืออาหารขยะแบบ คลาสสิคเลย คุณสอนต้าไป อย่างน้อยก็ต้องเป็นตัวอย่างให้ ได้ด้วย”

อีกอย่างหญิงสาวคนนั้นคอยจ้องเขาอยู่ตลอด หากตอนนี้ เขาถอดผ้าปิดปากลงเพื่อทานบะหมี่ก็ต้องถูกเธอเห็นเข้าแน่ๆ

หากให้เธอเห็นเข้าคงกลายเป็นเรื่องใหญ่

เซี่ยซิงเฉินผลักประตูเตรียมเดินนำออกไปก่อน เพิ่งขึ้น ศีรษะออกไปก็เห็นว่าฝนกำลังตก บวกกับลมหนาวที่ทำให้เธอ หนาวจนสั่นไปทั้งตัว จนเกือบจะถอยกลับเข้าไป

แต่ยังไม่ทันถอยเข้าไป จู่ๆ ร่างอุ่นก็ขยับเข้าใกล้ ศีรษะ ถูกกำบังด้วยเสื้อกันหนาวตัวใหญ่ของชายหนุ่ม เขาสูงใหญ่ เกินไปถึงขนาดทำให้ตัวเธอดูเล็กลงยิ่งกว่าเดิม เขาจับเสื้อกัน หนาวไว้ พลางกางแล้วยกขึ้นเหนือศีรษะ ตัวของเธอแทบจะถูก กลบไว้ใต้แขนเขาทั้งหมด

กลิ่นกายของชายหนุ่มลอยเข้าจมูก
ร่างกายที่เดิมทีหนาวเหน็บ ถูกความอุ่นของเขาปกคลุมไว้

ในพริบตา

เชียซิงเฉิน ใจสั่นอย่างรุนแรง เผลอนิ่งค้างไปชั่วครู่ จน กระทั่งเสียงเร่งจากเขาดังขึ้นเหนือศีรษะ “ยังไม่ไปอีก อยาก กลายเป็นน้ำแข็งอยู่ตรงนี้หรือไง?

เพิ่งได้สติกลับมาก็ยกเท้าก้าวเดิน ช่วงขาของเขายาวจึง

เดินเป็นก้าวยาวเช่นกัน เชียซิงเฉินจับชายเสื้อของเขาไว้โดย ไม่รู้ตัว ถึงจะก้าวทันเขาได้อย่างเฉียดฉิว

ค่ำคืนฤดูหนาวนอกจากเสียงลมที่หนาวเหน็บ ทั้งเมือง ไม่มีเสียงอื่นอีก ฟังแล้วช่างเงียบเหงาเหลือเกิน

เซี่ยซิงเฉินเดินขนาบข้างเขา ข้างหูล้วนแต่ได้ยินเสียง หัวใจเต้นสม่ำเสมอของชายหนุ่ม วันนั้นที่เขาปฏิเสธยาจากเธอ เธอคิดว่า…เขาจะตัดขาดความสัมพันธ์กับเธอไปหมดแล้วเสีย on…

เธอรู้สึกถึงขั้นที่ว่าระหว่างพวกเขาทั้งคู่จะไม่มีโอกาสที่ได้ ใกล้ชิดขนาดนี้อีกต่อไป

“ไปเฉิง” จู่ๆ เธอก็พูดเสียงเบา เสียงนั้นถูกลมหนาว พัดจนแตกกระท่อนกระแท่น

“หม?”

“คุณ…บอกให้ฉันออกห่างจากคุณยิ่งไกลยิ่งดีไม่ใช่เหรอ? ทำไมคืนนี้ถึงมาที่นี่ล่ะ?”
ไปเยถึงก้มหน้า ภายใต้แสงไฟสามารถเห็นแพขนตาที่ กะพริบของเธอ เธอหลุบตามองต่ำ ไม่กล้ามองเขา บนขนตา ยังเคลือบด้วยไอความหนาวบางๆ เขาไม่ตอบ ย้อนถามกลับ “คุณคิดว่าทำไมผมถึงมาที่นี่ล่ะ?”

“เซี่ยซิงเฉินไม่ตอบโต้

ไปเองก็ไม่บอก เพียงแค่ถามไปอีกประโยค “แล้วคุณ ล่ะ? ผมให้คุณออกห่างจากผมให้ไกล แล้วตอนนี้คุณวิ่งออกมา ทําไม?”

แถมยังมาพร้อมกับผมที่เปียกโชกอีก

เซี่ยซิงเฉินตอบไม่ถูก หากจะบอกอีกว่าตนมาซื้อของ คงไม่น่าเชื่อถือแล้ว ก็ตอนนี้สองมือว่างเปล่านี่นา

ไปเย่นิ่งคล้ายพึงพอใจมากกับท่าทางของเธอที่ตอบไม่

ออก ถามอีก “ไม่ใช่ว่าเกลียดผมมากเหรอ แล้วยังจะสนใจ

ทำไมว่าผมจะกินบะหมี่หรือกินข้าวล่ะ?”

เซียซิงเฉินรู้สึกพลาด เมื่อครู่ตนไม่น่าปากมากเลย เธอบ่นพึมพำ “เกลียดคุณจริงๆ ฉันพูดไม่ผิดเลยสักนิด!

พูดจบก็ทิ้งชายหนุ่ม พลางก้าวเดินไปอย่างไร แต่ช่วงขา ของเธอเทียบกับขายาวของไปเย่นิ่งได้ที่ไหนกัน? แค่เขาก้าว สองก้าวก็ตามเธอทันแล้ว ฉุดดึงเธอเข้ามาใต้เสื้อกันหนาวอีก ครั้ง สีหน้าดูไม่ดี “คุณอยากจะหนาวตายเหรอ?”

ครั้งก่อนไม่สบายขนาดนั้น ไม่ได้ทำให้เธอจำเลยแม้แต่นิดเดียว!

เซียซิงเฉินถูกเขาดไปทีก็ไม่กล้าเดินออกไปอีก

ทั้งคู่ก้าวเดินพร้อมกันไม่ช้าไม่เร็ว ขามาระยะทางสี่ร้อย เมตรกลับดูไกลเหลือเกิน เหมือนเดินมาตั้งนาน แต่ตอนนี้เดิน กลับไปอีกครั้งเธอกลับรู้สึกว่าพวกเธอเดินไวจนเหลือเชื่อ

เมื่อทั้งคู่เดินมาถึงที่พัก ลิฟต์อยู่ค้างไว้ชั้นหนึ่งพอดี เซีย ซิงเฉินชิงเข้าไปก่อน เมื่อกี้ข้างนอกฝนตกเล็กน้อย เพราะมีเขา คอยปกป้อง ฉะนั้นนอกจากผมที่เปียกของเธอ เนื้อตัวกลับ อยู่ดีเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่เสื้อกันหนาวตัวใหญ่ของเขากลับ เปียกไปทั้งตัว

เดินเข้าลิฟต์ เธอกดไปยังชั้นแปด เขาถอดเสื้อกันหนาว ตัวใหญ่ออกแล้วพาดไว้ที่แขน เซี่ยซิงเฉินยืนอยู่ข้างเขาที่ห่าง กันเพียงก้าวเดียว

ในลิฟต์สว่างโร่ ไม่มืดครึ้มอย่างเมื่อครู่ เมื่อกี้ที่ข้างนอก ทั้งคู่แอบเขยิบเข้าใกล้กัน ยามนี้ภายใต้แสงไฟกลับไม่มีที่ให้ หลบหนี เซียซิงเฉินแหงนหน้าทิ้งสายตาไว้ตรงเลขชั้นที่เปลี่ยน ไปเรื่อยๆ แต่ละครั้งก็เหมือนเสียงหัวใจเต้นของเธอ เพียงแต่…

หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น เร็วขึ้น….

ไปเยฉิงทิ้งสายตาไว้ใบหน้าหันข้างของเธอ แววตาล้ำลึก เธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ดวงหน้าใสสะอาด พอแสงไฟสาดส่องมาขับให้แพขนตางอนที่กะพริบเบาๆ เป็นครั้งคราวเหมือนขนนก ที่ปลิวว่อนอยู่ท่ามกลางสายลม

เขามองจนแววตาลึกซึ้งกว่าเดิม หัวใจเกิดความรู้สึก

แปลกๆ ขึ้นมาทันใด เพียงรู้สึกว่าขนนกนั่นปัดให้หัวใจของ เขายุ่งเหยิงอีกแล้ว…

เขาขมวดคิ้วแล้วเบนหน้าหนี

ทันใดนั้นเอง พรึบ” สิ้นเสียง ไฟในลิฟต์ดับลง ไม่รอให้ ทั้งคู่ได้สติ จู่ๆ ลิฟต์ก็ตกอย่างรวดเร็ว

เซียซิงเฉินตกใจ เผลอกดเบาๆ ไปที แทบจะดึงแขนเสื้อ ของเขาไว้โดยอัตโนมัติ ไปเย่นิ่งกลับเปลี่ยนเป็นกุมมือของเธอ ไว้แน่น อีกมือก็โอบรั้งตัวเธอเข้ามาในอ้อมกอดไว้แล้ว

“เกิดอะไรขึ้น?” เธอถามอย่างตื่นตระหนก

“จับราวไว้แน่นๆ!” ไปเฉิงจับมือของเธอไปวางไว้บนราว ในลิฟต์ มือของเขาวางทับมือเธออีกที

ฝ่ามืออันอบอุ่น

ฝ่ามืออันแข็งแรง

ลิฟต์ยังคงตกอย่างรวดเร็ว หัวใจเต้นเธออย่างตื่นกลัว แต่เพราะมีเขาอยู่ ใจเธอก็สงบขึ้นมาก นิ้วมือถูกเขากำไว้ ปลายนิ้วสั่นระริก

หัวใจก็เช่นกัน…เต้นระส่ำเล็กน้อย…
โชคดีที่ลิฟต์ไม่ได้ตกจากชั้นแปดจนถึงชั้นหนึ่ง แต่หยุด นิ่งอยู่ที่ชั้นหก

เพียงแต่ยังไม่ทันได้สติ หลังลิฟต์หยุดค้างไปชั่วครู่ เชีย

ซิงเฉินยังนิ่งแข็งอยู่ในอ้อมกอดของเขา อย่าว่าแต่จะขยับตัว เลย แม้แต่หายใจเธอก็ไม่กล้าหายใจแรง ราวกับว่าแค่ขยับตัว เล็กน้อยลิฟต์ก็จะตกลงไปอีกที

ไปเย่งก้มหน้ามองเธอ แสงไฟในลิฟต์ไม่เหลือแม้แต่ น้อย มองสีหน้าของเขาไม่ชัด มีเพียงดวงตาที่สะท้อนความ กังวลอย่างชัดเจน

“หยุดแล้ว” เขาพูดปลอบ

“คงไม่ตกอีกใช่ไหม?

ไปเย่นิ่งรู้สึกว่าอ้อมแขนที่มีเธอมันดีมาก หัวใจที่เปล่า เปลี่ยวในช่วงเวลานี้ถูกเติมเต็มทันที ปากบางขยับเล็กน้อย พูด “ไม่แน่อาจตกอีก

เซียซิงเฉินเดิมทีจะเลื่อนมือลงจากเอวของเขา เมื่อได้ยิน

คำพูดของเขาก็หยุดนิ่ง ออกแรงอีกทีพร้อมเสื้อบนตัวเขาไว้

แน่น

เงยหน้ามองเขา “ตอนนี้ไฟดับ ประตูลิฟต์เปิดไม่ได้แล้ว

“อืม งั้นก็รอ” ท่าทางเขากลับดูนิ่งเฉย

“แล้วต้องรอนานเท่าไรคะ?”
“ไม่รู้”

คําตอบนี้มันช่าง…..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ