สวัสดีประธานาธิบดีที่รักของฉัน

ตอนที่ 70 เขาดูน่าสงสารเหลือเกิน



ตอนที่ 70 เขาดูน่าสงสารเหลือเกิน

ถึงจะบอกว่าเป็นงานเลี้ยงวันเกิด แต่ที่จริงคืองานที่ผู้นำ ประเทศต่างๆ มาเยือนเพื่อกระชับไมตรีและแลกเปลี่ยนกัน บรรยากาศงานวันเกิดครั้งนี้ไม่เพียงแค่ไร้ความผ่อนคลาย ยังเหมือนกับกำลังทำสงคราม ต้องระวังทุกตารางนิ้ว ทุกคน ต่างก็ปั้นหน้ากันหมด

เซี่ยซิงเฉินเป็นล่ามก็เลยต้องเข้าร่วมงานด้วย เธอทำ หน้าที่ล่ามแปลสดติดตามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หญิงสาวสวมชุดเดรส รองเท้าส้นสูง ตลอดคืนทั้งร่างปวด เมื่อยจนแทบไม่เป็นตัวเองแล้ว แต่ความเป็นมืออาชีพทำให้ เธอพยายามทำตัวแอคทีฟไว้ได้ตลอด

บางครั้ง…

เมื่อมีช่วงว่างเล็กน้อย สายตาก็จับอยู่ที่ร่างของบางคน โดยไม่รู้ตัว ผู้ที่เป็นตัวเอกในค่ำคืนนี้ เขานั่งตรงตำแหน่ง ประธาน ข้างกายล้วนเป็นทูตหรือไม่ก็ผู้นำจากประเทศอื่นๆ สองสามคนนั่งหันข้างเจรจากันอยู่

เธอกำลังมองจากที่ไกลๆ ได้เห็นเพียงเสี้ยวหน้าของเขา เท่านั้น

ภายใต้แสงไฟแวววาว ทั้งร่างเขา บุคลิกหยิ่งผยองโดด เด่น วูบวาบจนไม่อาจละสายตา
ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เซี่ยซิงเฉินก็ยังค่อนข้างเป็นห่วงเขา โรคหวัดของเขายังไม่หายดี อาจเป็นไข้ได้อีก อีกอย่างยิ่ง ขนาดนี้เขาเลยไม่ได้กินอะไรตลอดทั้งคืน

ในที่สุดก็ถึงช่วงพักเบรคงานเลี้ยง เขาเข้าไปในห้องพัก ผ่อนชั่วคราว ในที่สุดทางห้องจัดเลี้ยงนี้ก็เริ่มรับประทานอาหาร เช่นกัน

ซึ่งกั่วเหยากับหยูเจ๋อเหยารองประธานาธิบดีสองท่าน กำลังดูแลภาพรวมของงาน แขกเหรือสนุกกันเต็มที่ เซียซิงเฉิน ถือจานเดินอยู่กลางงาน จริงๆ ไม่มีความรู้สึกอยากอาหารสัก

เธอเดินวนในงานหนึ่งรอบแล้วเลือกอาหารที่ทำอย่าง ประณีตมาสองสามอย่าง คือเว่ยยังเดินเข้ามาจ้องเธอพลางยิ้ม “นี่ไม่ได้ให้ตัวเองกินล่ะสิ? ดูก็รู้ว่าไม่ใช่รสชาติที่เธอถูกปาก

“รีบไปกินของเธอเถอะ

เซียซิงเฉินไล่เธอไป ร่างบางบ่นพึมพำเล็กน้อยแล้วอาศัย จังหวะที่ไม่มีใครสนใจตัวเองถือถาดอาหารเดินไปที่ห้องพัก ผ่อน

ห้องพักผ่อนตั้งอยู่ที่ชั้นสาม เมื่อเทียบกับชั้นหนึ่งที่คึกคัก แล้วชั้นสามเงียบสงบมาก เพียงแต่คนจากฝ่ายรักษาความสงบ คนแล้วคนเล่าที่กำลังปั้นหน้าเย็นชาเคร่งขรึมถือปืนยืนอยู่ที่นั่น ชวนให้รู้สึกหวาดกลัว
ภายในห้องพักผ่อนไม่ได้เปิดไฟ

ไปเย่นิ่งพิงอยู่ที่โซฟาอย่างเหนื่อยล้า หว่างคิ้วเกร็งจน ปวด เขากลืนยาสองเม็ดลงไปพร้อมน้ำเปล่าแล้ว แต่ความเจ็บ ปวดเหล่านั้นก็ไม่ลดลงสักเท่าไร ในตอนนี้เองประตูถูกผลัก ออกเป็นช่องเล็กๆ เขาลืมตาขึ้นอย่างระมัดระวัง อาศัยแสงจาก ภายนอกมองเห็นใบหน้าเรียวเล็กงดงามอย่างเลือนราง สีหน้า เครียดเขม็งพลันผ่อนคลายและอ่อนโยนลงมากทีเดียว

“เข้ามาได้ยังไง?” คืนนี้ที่นี่ป้องกันอย่างเข้มงวด อย่าว่า แต่คนเลย แม้แต่แมลงวันสักตัวจะบินเข้ามาก็เป็นไปไม่ได้

“ฉันเจอเหลิงเฟยข้างนอกพอดี ตอนแรกก็ไม่อยากรบกวน คุณ แต่เขาให้ฉันเอามาให้คุณด้วยตัวเองให้ได้” เธอพูดเสียง แผ่วพลางปิดประตูตามหลัง ห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความมืด

“เอาอะไรมา?” ไปเย่นิ่งยึดตัวตรง มือยื่นออกไปหมุนเปิด โคมไฟผนังแนววินเทจด้านหนึ่ง แสงไฟสลัวนวลตาสาดส่องลง มาที่บริเวณเล็กๆ ตรงโซฟาพอดิบพอดี ทำให้ต่างฝ่ายต่างมอง เห็นกันได้ชัดเจน เธอในค่ำคืนนี้แต่งกายเป็นทางการมาก ชุด สูทสีดำ ผมเกล้าขึ้นสูง ดูเป็นผู้ใหญ่และสุขุม ให้ความรู้สึก เซ็กซี่ไปอีกแบบ

“ฉันเห็นคุณไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เย็น คุณรีบทานเถอะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะเย็นหมด”

เซี่ยซิงเฉินวางจานต่ำลงเล็กน้อยตรงหน้าเขา

เขามองแวบหนึ่งแล้วก็มองเธอแวบหนึ่ง มุมปากยกขึ้นก่อนจะรับตะเกียบจากเธอ เขาชิมไปหนึ่งคำแล้วเอ่ยถาม “ทำไมจู่ๆ ก็เอาใจใส่ผมขนาดนี้?”

“คือว่า…รู้สึกว่าคุณดูลำบากลำบนมาก” เธอเลื่อนสายตา

ไปมองยาที่อยู่ข้างๆ ในใจราวกับถูกเข็มทิ่มแทงจนเจ็บปวดขึ้น มานิดๆ ไป๋เย่นิ่งรู้สึกไม่สบายใจกับค่าตอบของเธออย่างมาก เลย

หน้ามองปราดไปที่เธอ ผมดูน่าสงสารมาก?”

เซี่ยซิงเฉินส่ายหน้าแล้วก็พยักหน้า อารมณ์สบายใจเมื่อ ครูดิ่งลงอีกครั้ง เซี่ยซิงเฉินจึงได้เอ่ยว่า “เดิมที่วันนี้เป็นวันเกิด คุณ วันเกิดคนอื่นเขาฉลองกันเงียบๆ กับครอบครัวอย่างมี ความสุข วันเกิดคุณตัวเองกลับต้องมาเหนื่อยแบบนี้

เธอนั่งลงข้างตัวเขาแล้ววัดอุณหภูมิบนหน้าผากเขาอีก ครั้ง “ไม่มีไข้แล้วใช่ไหม?

ในน้ำเสียงแฝงความนุ่มนวลโดยที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่ทัน รู้ตัว

ความคิดไปเฉิงสั่นไหวรุนแรง ขณะมองใบหน้าเรียวเล็ก ที่เต็มไปด้วยอ่อนโยน แววตาเขาเข้มขึ้นเล็กน้อย ผ่านไปครู่ หนึ่งจึงได้เอ่ยเสียงต่ำ “มีหน่วยรักษาพยาบาลคอยติดตาม ไม่ เป็นอะไรหรอก”

“งั้นก็ดีแล้วค่ะ คุณทานเถอะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ ออกมา นานเกินไปไม่ได้” เซี่ยซิงเฉินเอ่ยพลางลุกขึ้นเตรียมออกไป จู่ๆ ไปเย่นิ่งกลับยื่นมือมาดึงเธอไว้
เธอชะงักฝีเท้าลง ก้มหน้ามองเขา

“อยู่ก่อน อยู่เป็นเพื่อนผมสักครู่” เสียงเขามาก ชาย หนุ่มบีบมือเธอแน่นขึ้นเล็กน้อย ไม่ได้ใช้น้ำเสียงออกคำสั่งดัง เช่นปกติ แต่กลับแฝงแววขอร้อง ความเหนื่อยล้าและจนปัญญา ปนเปกันอยู่บนหน้าผากชวนให้รู้สึกสงสาร

ผู้ชายคนนี้แต่ก่อนยืนอยู่บนที่สูง คอยมองผู้คนจากข้าง บนมาตลอด ตอนนี้กลับมาอ้อนวอนเช่นนี้ เธอยิ่งรู้สึกว่าปฏิเสธ ไม่ลง

“งั้นฉันนั่งสักครู่นึงแล้วกัน คุณทานก่อนเถอะ” เซียซิงเฉิน นั่งลงข้างกายเขา

สีหน้าเขาผ่อนคลายลงเล็กน้อย ก่อนจะถามเธอว่า “คุณ กินแล้วยัง?”

“ยัง เหนื่อยเกินก็เลยไม่รู้สึกอยากอาหาร

ไป๋เย่งเรียกเหลิงเฟยให้นำตะเกียบคู่หนึ่งเข้ามาให้เธอ อีกครั้ง สุดท้ายทั้งสองคนก็ถือจานใบหนึ่งกินอย่างไม่รีบร้อน

เธอนึกอะไรขึ้นมาก็อดยิ้มไม่ได้ เขาลืมตาขึ้นมองรอยยิ้ม เธอ ความเหนื่อยล้าบนใบหน้าจางลงไปไม่น้อย “ยิ้มอะไร?”

“คุณเป็นโรคกลัวเชื้อโรคไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ไม่รังเกียจฉัน แล้ว?”

“ผมเคยตอบคุณแล้วไม่ใช่เหรอ?” ทั้งสองคนอยู่ใกล้กัน มาก ยามที่เขาชำเลืองมองเธอ หน้าผากทั้งสองฝ่ายต่างก็เกือบจะแนบชิดกัน แววตาเขาเข้มลึกราวมหาสมุทรทอประกายสว หยุดอยู่ที่เรียวปากเธอ ถูกเขามองเช่นนี้ เซียซึ่งเป็นรู้สึกแค่ว่า หัวใจกำลังจะกระเด็นออกจากอก เธอกัดริมฝีปากเล็กน้อย ได้ยินเพียงเสียงแหบของเขาเอ่ยถาม “น้ำลายคุณ ผมเคย กินมากี่ครั้งแล้ว?”

ใบหน้าเซียซิงเฉินขึ้นสีระเรื่อ เธอถลึงตาใส่เขาแล้ว ถอยออกห่าง คนคนนี้หน้าหนาเสียจริง

ริมฝีปากไปเฉิงยกยิ้มบางๆ “กินเสร็จหรือยัง?”

เซี่ยซิงเฉินไม่สนใจเขา เพียงแค่วางตะเกียบลง เขากวาง ตามเช่นกัน เขาเอียงตัวเล็กน้อยแล้วนอนลงบนตักเธอ เซี่ยง เฉินนิ่งอึ้ง ก้มศีรษะลงมองเขาด้วยหัวใจเต้นระรัว เขากลับ หลับตาลงอย่างสงบเยือกเย็น สองมือกอดอกพลางเอ่ยอย่าง เกียจคร้าน “ผมจะหลับสักสิบนาที ครบสิบนาทีแล้วปลุกผม ด้วย”

“” เพราะงั้นอีตานี่เลยใช้ตักเธอต่างหมอน? อีกอย่าง เมื่อครู่ยังรู้จักขอร้องคนอื่น ตอนนี้กลับใช้น้ำเสียงออกคำสั่ง แบบนี้อีกแล้ว น่ารังเกียจที่สุด

ขณะกำลังต่อว่าอยู่นั้น ชายหนุ่มก็จับมือเธอวางไว้บนหน้า

ผากเขา

“ปวดหัวจัง”

เขามเสียงแผ่ว หว่างคิ้วขมวดมุ่น มือยังคงจับมือเธอ ไว้ราวกับทำเช่นนี้จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดลงได้บ้าง มีเธออยู่ความเจ็บปวด บรรเทาลงมากจริงๆ เขาไม่พูดอะไรอีกได้ แต่ยอมรับไปโดยปริยาย

เธอดึงมือออกจากฝ่ามือเขาแล้วนวดไปมาตรงขมับของ ชายหนุ่ม ทุกอย่างกำลังพอดีและสบายสุดๆ ไปเยถึงรู้สึกเพียง ว่าความเจ็บปวดทุเลาลง หว่างคิ้วก็ค่อยๆ คลายออก ขณะนี้ทั้ง ร่างก็ผ่อนคลายลงในที่สุด รู้สึกแค่ว่าบรรยากาศเช่นนี้ช่าง แสนสุขสบาย ชวนให้ใจสงบและรู้สึกอาลัยอาวรณ์

เขาหลับไปจริงๆ ตั้งแต่ยังไม่ครบนาทีด้วยซ้ำ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ